ขอเกริ่นก่อนว่า..วันที่เราเจอกันครั้งแรก คือเค้ามารายงานตัวเข้าทำงานวันแรกที่สำนักงานแต่เค้าเป็นคนต่างจังหวัดยังไม่มีที่พัก วันนั้นเรากับพี่อีกคนที่สำนักงานอาสาพาเค้าไปหาบ้านเช่า เมื่อหาอยู่นานพวกเราก็ได้พาเค้าไปกินข้าวกัน จริงๆเราเป็นคนที่เข้าใครไม่ค่อยเก่ง และสนิทกับคนยาก แต่ถ้าสนิทแล้วเราก็จะต๊องๆ รั่วๆหน่อย😜 แต่พอกินข้าวไปได้สักพัก เค้าก็แซวๆ เราว่าทำไมกินน้อย ให้กินเยอะๆจะได้โตไวไว (ความจริงคือตัวเราเป็นคนอวบขั้นสุด😆) เราก็เอ๋อใส่สิค่ะ คิดในใจว่านี่คือเรายังรู้จักกันไม่กี่ชั่วโมงเอง เล่นตรูซะแล้ว อนาคตจะโดนไรอีกว่ะ
หลังจากวันนั้นเราก็คุยกันเรื่องงานบ้าง เรื่องส่วนตัวบ้างแต่ก็จะคุยกันโดยเพื่อๆกลุ่มใหญ่ในสำนักงาน แต่ก็โดนเค้าแซวเรื่องน้ำหนักอยู่ตลอดๆ 555+
แล้วก็มีอยู่วันนึงคือเราต้องใส่ส้นสูงไปงานสำคัญ ปกติเราจะชอบใส่ผ้าใบหรือแตะมากกว่า เราเลยเดินไม่ถนัดประกอบกับต้องเดินลงเนินซึ่งทางมันค่อนข้างชัน และฝนก็กำลังจะตกด้วย คนอื่นที่มาพร้อมเราเค้าก็รีบเดินมากเราเดินตามไม่ทัน ส่วนเค้าก็เดินอยู่ข้างๆเรา แต่ตอนนั้นเราไม่ทันสังเกต เพราะมัวแต่ดูทาง จนเราเห็นว่าพี่เค้าเดินอยู่ข้างเรานี่หว่าาา เราก็เลยบอกพี่เค้าว่าขอเกาะแขนหน่อยน่ะ กลัวหน้าทิ่ม 55+ แกก็สวนกลับมาว่าถ้าล้มลงไปจะกระทืบซ้ำน่ะ ไม่ช่วยหรอก เราก็อ้าว!! ไรว่ะ แต่ก็เริ่มแอบรู้สึกดีกับพี่เค้าเข้าแล้ว เพราะไม่ค่อยมีใครทำแบบนี้กับเราเท่าไหร่ พอสนิทกันฝีปากพี่เค้านี่กัดเจ็บมากแต่เราก็กวนกลับไปมากเช่นกัน จนตอนนี้ในแก๊งเราพอเห็นเรากัดกันหัวเราะกันทุกที แถมยังบอกว่าน่าจะเข้ากันได้ดี เพราะโสดกันทั้งคู่
แต่เห็นพี่เค้าฮาๆ ชอบจิก ชอบกัด แบบนี้เค้าก็โลกส่วนตัวสูงมากน่ะ พอทักไลน์ไป กว่าจะตอบก็นานเป็นชาติ แต่ก็เข้าใจแหละ เพราะอายุเราเหมือนคนละรุ่น ห่างกันเกือบ 10 ปี แต่ลึกๆเรารู้สึกว่านี่ขนาดเรารู้จักกันไม่กี่เดือนเองทำไมเหมือนกับรู้จักกันมานานมาก สนิทกันเร็วมากเกินไปจนเราแอบกลัวใจตัวเอง เราเคยลองพิสูจน์ว่าเค้าชอบเราบ้างป่าว แต่ทำไม่ได้สักที เพราะเรามักแพ้สายตาที่เค้ามองเรา แต่มีครั้งนึงที่เราคุยกันแล้วเรามองตาเค้าก่อนพี่เค้าก็รีบหลบตาเราไปเลย คงตกใจเรามั้ง เพราะปกติเราจะเป็นคนหลบตาก่อนตลอดๆ แต่ก็นั่นแหละพี่เค้าก็บอกบ่อยๆเวลาคุยกันเป็นกลุ่ม ว่าเค้าไม่คิดอยากมีแฟน เพราะยังไม่ลืมแฟนเก่า แถมยังย้ำบอกอีกว่าเค้าเป็นคนโลกส่วนตัวสูงมาก ไม่มีคนเข้าใจเค้าหรอก นอกจากแฟนเค้าคนนั้น แต่เราก็อยากจะบอกกับเค้าเหมือนกันว่า เราก็โลกส่วนตัวสูงไม่แพ้พี่เค้าหรอกค่าา แต่ก็นั่นแหละทำได้แค่แอบปลื้มไปวันๆ เท่านั้น พอเป็นสีสันในชีวิตไป เพราะเราคิดไว้แล้วว่าถ้าไม่ใช่คนที่เราชอบมาจีบ ก็คงเป็นสาวเทื้อบนคานทองไปดีกว่า เพราะไม่ใช่แค่ใครก็ได้
แบบนี้คือเค้ามีใจบ้างรึป่าว หรือแค่เเกล้งเล่นๆ (เนื้อหายาวเกิน 8 บรรทัด) 🐣
หลังจากวันนั้นเราก็คุยกันเรื่องงานบ้าง เรื่องส่วนตัวบ้างแต่ก็จะคุยกันโดยเพื่อๆกลุ่มใหญ่ในสำนักงาน แต่ก็โดนเค้าแซวเรื่องน้ำหนักอยู่ตลอดๆ 555+
แล้วก็มีอยู่วันนึงคือเราต้องใส่ส้นสูงไปงานสำคัญ ปกติเราจะชอบใส่ผ้าใบหรือแตะมากกว่า เราเลยเดินไม่ถนัดประกอบกับต้องเดินลงเนินซึ่งทางมันค่อนข้างชัน และฝนก็กำลังจะตกด้วย คนอื่นที่มาพร้อมเราเค้าก็รีบเดินมากเราเดินตามไม่ทัน ส่วนเค้าก็เดินอยู่ข้างๆเรา แต่ตอนนั้นเราไม่ทันสังเกต เพราะมัวแต่ดูทาง จนเราเห็นว่าพี่เค้าเดินอยู่ข้างเรานี่หว่าาา เราก็เลยบอกพี่เค้าว่าขอเกาะแขนหน่อยน่ะ กลัวหน้าทิ่ม 55+ แกก็สวนกลับมาว่าถ้าล้มลงไปจะกระทืบซ้ำน่ะ ไม่ช่วยหรอก เราก็อ้าว!! ไรว่ะ แต่ก็เริ่มแอบรู้สึกดีกับพี่เค้าเข้าแล้ว เพราะไม่ค่อยมีใครทำแบบนี้กับเราเท่าไหร่ พอสนิทกันฝีปากพี่เค้านี่กัดเจ็บมากแต่เราก็กวนกลับไปมากเช่นกัน จนตอนนี้ในแก๊งเราพอเห็นเรากัดกันหัวเราะกันทุกที แถมยังบอกว่าน่าจะเข้ากันได้ดี เพราะโสดกันทั้งคู่
แต่เห็นพี่เค้าฮาๆ ชอบจิก ชอบกัด แบบนี้เค้าก็โลกส่วนตัวสูงมากน่ะ พอทักไลน์ไป กว่าจะตอบก็นานเป็นชาติ แต่ก็เข้าใจแหละ เพราะอายุเราเหมือนคนละรุ่น ห่างกันเกือบ 10 ปี แต่ลึกๆเรารู้สึกว่านี่ขนาดเรารู้จักกันไม่กี่เดือนเองทำไมเหมือนกับรู้จักกันมานานมาก สนิทกันเร็วมากเกินไปจนเราแอบกลัวใจตัวเอง เราเคยลองพิสูจน์ว่าเค้าชอบเราบ้างป่าว แต่ทำไม่ได้สักที เพราะเรามักแพ้สายตาที่เค้ามองเรา แต่มีครั้งนึงที่เราคุยกันแล้วเรามองตาเค้าก่อนพี่เค้าก็รีบหลบตาเราไปเลย คงตกใจเรามั้ง เพราะปกติเราจะเป็นคนหลบตาก่อนตลอดๆ แต่ก็นั่นแหละพี่เค้าก็บอกบ่อยๆเวลาคุยกันเป็นกลุ่ม ว่าเค้าไม่คิดอยากมีแฟน เพราะยังไม่ลืมแฟนเก่า แถมยังย้ำบอกอีกว่าเค้าเป็นคนโลกส่วนตัวสูงมาก ไม่มีคนเข้าใจเค้าหรอก นอกจากแฟนเค้าคนนั้น แต่เราก็อยากจะบอกกับเค้าเหมือนกันว่า เราก็โลกส่วนตัวสูงไม่แพ้พี่เค้าหรอกค่าา แต่ก็นั่นแหละทำได้แค่แอบปลื้มไปวันๆ เท่านั้น พอเป็นสีสันในชีวิตไป เพราะเราคิดไว้แล้วว่าถ้าไม่ใช่คนที่เราชอบมาจีบ ก็คงเป็นสาวเทื้อบนคานทองไปดีกว่า เพราะไม่ใช่แค่ใครก็ได้