ก่อนไปเที่ยวญี่ปุ่น ซึ่งเป็นครั้งที่สองของเรา (ครั้งแรกไปโตเกียว ครั้งนี้ไปแถบคันไซ) เราก็คิดไว้ว่า เออ ต้องแต่งกิโมโนนะ
เดี๋ยวจะรู้สึกว่า การมาญี่ปุ่นไม่สมบูรณ์แบบ 555 เราก็เริ่มค้นหาร้านเช่ากิโมโนในเกียวโต ซึ่งมีเยอะมาก
และด้วยความที่เป็นสงกรานต์ คนไทย จีน เกาหลี ฝรั่ง ก็จะเยอะ มันต้องวุ่นวายมากแน่ๆ
เราเลยลองหาที่เช่ากิโมโนเมืองอื่นในแพลนที่เราจะไป และก็ไปเจอร้านที่เกาะมิยาจิม่า
แต่ว่า ไม่ได้ให้เช่ากิโมโนอย่างเดียว มีคอร์สวัฒนธรรมด้วยจ้า ดีงามมาก รออะไร...จองโลด
หนึ่งคอร์สมี 3 กิจกรรม
1. ธรรมเนียมการดื่มชาเขียว 2. การเขียนตัวคันจิ 3. การทำข้าวปั้น หรือ โอนิกิริ
ก่อนอื่นก็ไปเปลี่ยนชุดกิโมโนกันก่อนนะคะ สถานที่เรียนก็เป็นบ้านแบบญี่ปุ่นอยู่บนเกาะมิยาจิม่า เมืองฮิโรชิม่า
ซึ่งเป็นเกาะที่มีสัญลักษณ์เสาโทริอิกลางน้ำที่เราคุ้นตากันนั่นเอง

วิธีไปก็ไม่ยากค่ะ ใช้ JR pass นั่งไปถึงสถานีมิยาจิม่ากูจิ แล้วก็นั่งเรือเฟอรี่ 10 นาที ถึงเกาะเลย
จากท่าเรือเดินไปที่เรียนก็ประมาณสิบนาทีค่ะ ใช้ภาษาอังกฤษในการเรียนนะคะ
ก็จะมีฝรั่งชาติต่างๆ มาเรียนเยอะ แปลกดีที่ไม่ค่อยมีคนเอเชียมาเรียน
เราคิดว่าคนเอเชียคงชอบใส่กิโมโนเดินเที่ยวในเกียวโตมากกว่า
แต่งตัวพร้อมแล้ว ไปเรียนกัน!


กิจกรรมแรก ธรรมเนียมการดื่มชาเขียว

ประณีต มีแบบแผนมากค่ะ จะมาจับถ้วย กระดกๆ เลยไม่ได้นะคะ

อาจารย์ก็จะสอนวิธีจับถ้วย วิธีตักน้ำร้อน วิธีวาง โอ๊ย เกร็งไปหมด 555

เวลาดื่มหมด ก็ต้องมีเสียงซู้ดดดด้วยค่ะ แสดงถึงความอร่อย

กิจกรรมที่สอง การเขียนตัวคันจิ

ก็จะมีอาจารย์ลุงๆ มาสอน การตวัดพู่ มีตัวหนังสือให้เราเลือกว่าจะเขียนคำว่าอะไร

แฟนเราก็เลือก ความงาม (beauty) ส่วนเราเลือก ดอกไม้ (flower)
แหะๆ ไม่มีพื้นฐานภาษาญี่ปุ่นกันเลยทั้งสองคน เลือกตัวที่เขียนง่ายๆ
เวลาวางมือ เวลานั่งเขียน ต้องทำให้ถูกวิธีด้วยค่ะ

เขียนไม่สวย เขียนใหม่ได้นะ จนกว่าเราจะพอใจ 555
เสร็จแล้ว อาจารย์ก็จะสะกดชื่อเรา ให้เขียนเป็นลายเซ็น ฮี่ๆ

ดูสวยเนอะ จริงๆ หมดกระดาษไปหลายแผ่น
กิจกรรมสุดท้าย การทำข้าวปั้น หรือ โอนิกิริ

อาจารย์ก็จะแนะนำวิธีการปั้นเล็กน้อย แล้วเราก็ลงมือเลย
ต้องเอาเกลือมาทาทั่วมือเลยนะ เพื่อข้าวปั้นจะได้มีรสค่ะ
ต้องทำรูไว้สอดไส้ด้วยนะ เลือกได้เลยว่าจะสอดไส้อะไร

แล้วก็ปั้นๆ ให้มันเป็นสามเหลี่ยม แหมตอนปั้นนี่ร้องในใจ โอนิกิริๆๆๆ อยากจะออกสเต็ปท่าเต้นของ BNK48 เลย
เสร็จแล้ว งดงาม โอนิกิริ ของเรา ชิ้นแรกแตกๆ หน่อย แต่ชิ้นที่สองเริ่มดี

เสร็จแล้ว อาจารย์ก็ให้กินค่า โอ้ย นอกจากเกลือในข้าว ก็เค็มขี้มือตัวเองนี่แหละจ้า
กลมกล่อมดี เสิร์ฟพร้อมซุปมิโสะ เกือบอิ่มไปเลยมื้อนั้น
จบคอร์สวัฒนธรรมญี่ปุ่นคร่าวๆ ก็ประทับใจค่ะ อาจารย์น่ารักทุกคน
เสียค่าเรียนไป คนละ 1500 บาท ใช้เวลา 1 ชั่วโมงครึ่ง ถ้าเลือกแค่ 2 กิจกรรมก็จะถูกกว่านี้ด้วยค่ะ
ถ้าใครแวะมาเกาะมิยาจิม่า แล้วอยากสัมผัสความญี่ปุ๊นญี่ปุ่น
ก็มาลองกันได้นะคะ ปิดท้ายด้วยรูปเสาโทริอิกลางน้ำ สัญลักษณ์ของเกาะ

ปล. ขออภัยสติ๊กเกอร์ด้วยนะคะ อาจทำให้เสียอารมณ์ แต่ จขกท สวยเกินไป 5555 ไม่กล้าเปิดเผยหน้าตา
[CR] รีวิวเข้าคอร์สเรียนวัฒนธรรมญี่ปุ่นที่เกาะมิยาจิม่า
เดี๋ยวจะรู้สึกว่า การมาญี่ปุ่นไม่สมบูรณ์แบบ 555 เราก็เริ่มค้นหาร้านเช่ากิโมโนในเกียวโต ซึ่งมีเยอะมาก
และด้วยความที่เป็นสงกรานต์ คนไทย จีน เกาหลี ฝรั่ง ก็จะเยอะ มันต้องวุ่นวายมากแน่ๆ
เราเลยลองหาที่เช่ากิโมโนเมืองอื่นในแพลนที่เราจะไป และก็ไปเจอร้านที่เกาะมิยาจิม่า
แต่ว่า ไม่ได้ให้เช่ากิโมโนอย่างเดียว มีคอร์สวัฒนธรรมด้วยจ้า ดีงามมาก รออะไร...จองโลด
หนึ่งคอร์สมี 3 กิจกรรม
1. ธรรมเนียมการดื่มชาเขียว 2. การเขียนตัวคันจิ 3. การทำข้าวปั้น หรือ โอนิกิริ
ก่อนอื่นก็ไปเปลี่ยนชุดกิโมโนกันก่อนนะคะ สถานที่เรียนก็เป็นบ้านแบบญี่ปุ่นอยู่บนเกาะมิยาจิม่า เมืองฮิโรชิม่า
ซึ่งเป็นเกาะที่มีสัญลักษณ์เสาโทริอิกลางน้ำที่เราคุ้นตากันนั่นเอง
วิธีไปก็ไม่ยากค่ะ ใช้ JR pass นั่งไปถึงสถานีมิยาจิม่ากูจิ แล้วก็นั่งเรือเฟอรี่ 10 นาที ถึงเกาะเลย
จากท่าเรือเดินไปที่เรียนก็ประมาณสิบนาทีค่ะ ใช้ภาษาอังกฤษในการเรียนนะคะ
ก็จะมีฝรั่งชาติต่างๆ มาเรียนเยอะ แปลกดีที่ไม่ค่อยมีคนเอเชียมาเรียน
เราคิดว่าคนเอเชียคงชอบใส่กิโมโนเดินเที่ยวในเกียวโตมากกว่า
แต่งตัวพร้อมแล้ว ไปเรียนกัน!
กิจกรรมแรก ธรรมเนียมการดื่มชาเขียว
ประณีต มีแบบแผนมากค่ะ จะมาจับถ้วย กระดกๆ เลยไม่ได้นะคะ
อาจารย์ก็จะสอนวิธีจับถ้วย วิธีตักน้ำร้อน วิธีวาง โอ๊ย เกร็งไปหมด 555
เวลาดื่มหมด ก็ต้องมีเสียงซู้ดดดด้วยค่ะ แสดงถึงความอร่อย
กิจกรรมที่สอง การเขียนตัวคันจิ
ก็จะมีอาจารย์ลุงๆ มาสอน การตวัดพู่ มีตัวหนังสือให้เราเลือกว่าจะเขียนคำว่าอะไร
แฟนเราก็เลือก ความงาม (beauty) ส่วนเราเลือก ดอกไม้ (flower)
แหะๆ ไม่มีพื้นฐานภาษาญี่ปุ่นกันเลยทั้งสองคน เลือกตัวที่เขียนง่ายๆ
เวลาวางมือ เวลานั่งเขียน ต้องทำให้ถูกวิธีด้วยค่ะ
เขียนไม่สวย เขียนใหม่ได้นะ จนกว่าเราจะพอใจ 555
เสร็จแล้ว อาจารย์ก็จะสะกดชื่อเรา ให้เขียนเป็นลายเซ็น ฮี่ๆ
ดูสวยเนอะ จริงๆ หมดกระดาษไปหลายแผ่น
กิจกรรมสุดท้าย การทำข้าวปั้น หรือ โอนิกิริ
อาจารย์ก็จะแนะนำวิธีการปั้นเล็กน้อย แล้วเราก็ลงมือเลย
ต้องเอาเกลือมาทาทั่วมือเลยนะ เพื่อข้าวปั้นจะได้มีรสค่ะ
ต้องทำรูไว้สอดไส้ด้วยนะ เลือกได้เลยว่าจะสอดไส้อะไร
แล้วก็ปั้นๆ ให้มันเป็นสามเหลี่ยม แหมตอนปั้นนี่ร้องในใจ โอนิกิริๆๆๆ อยากจะออกสเต็ปท่าเต้นของ BNK48 เลย
เสร็จแล้ว งดงาม โอนิกิริ ของเรา ชิ้นแรกแตกๆ หน่อย แต่ชิ้นที่สองเริ่มดี
เสร็จแล้ว อาจารย์ก็ให้กินค่า โอ้ย นอกจากเกลือในข้าว ก็เค็มขี้มือตัวเองนี่แหละจ้า
กลมกล่อมดี เสิร์ฟพร้อมซุปมิโสะ เกือบอิ่มไปเลยมื้อนั้น
จบคอร์สวัฒนธรรมญี่ปุ่นคร่าวๆ ก็ประทับใจค่ะ อาจารย์น่ารักทุกคน
เสียค่าเรียนไป คนละ 1500 บาท ใช้เวลา 1 ชั่วโมงครึ่ง ถ้าเลือกแค่ 2 กิจกรรมก็จะถูกกว่านี้ด้วยค่ะ
ถ้าใครแวะมาเกาะมิยาจิม่า แล้วอยากสัมผัสความญี่ปุ๊นญี่ปุ่น
ก็มาลองกันได้นะคะ ปิดท้ายด้วยรูปเสาโทริอิกลางน้ำ สัญลักษณ์ของเกาะ
ปล. ขออภัยสติ๊กเกอร์ด้วยนะคะ อาจทำให้เสียอารมณ์ แต่ จขกท สวยเกินไป 5555 ไม่กล้าเปิดเผยหน้าตา