สวัสดีค่ะ
เราเคยคิดจะเขียนกระทู้มานานแล้ว แต่อารมณ์มันไม่ได้ เพราะบางวันเราก็มีความสุขดี
พอดีวันนี้เราทะเลาะกับพ่อ ความคิดอยากตายเลยผุดขึ้นมา
แต่โชคดีที่ตอนนี้เรามีสติแล้วค่ะ
เรา search google วิธีฆ่าตัวตาย แบบไม่พลาด และได้เจอกับบทความนี้
https://med.mahidol.ac.th/ramamental/generalknowledge/general/09042014-1134
ขอบคุณอาจารย์หมอที่เขียนไว้ดีมาก ทำให้เรามีสติกลับมา
แต่ยังไงก็ตาม การที่เรามีสติขึ้นมาได้ เพราะเราคิดได้ในระดับหนึ่งมาซักพักแล้ว
ส่วนบางคน เขาอาจจะยังขึ้นมาจากตรงนั้นไม่ได้ หรือรู้สึกว่าไม่มีใครเลย เราเข้าใจค่ะ คุยกับเราได้นะ
*************** ถ้าใครขี้เกียจอ่านเรื่องชีวิตกับความคิดเรา ข้ามลงไปถึงเส้นดอกจันด้านล่างตรง How to เลยก็ได้ค่ะ ****************
บางคนอาจจะมองว่าแค่ทะเลาะกับพ่อแม่ มันเป็นเรื่องธรรมดา
แต่ต้องบอกว่า พื้นฐานการเติบโตมาของแต่ละคนนั้นต่างกันค่ะ
สำหรับบ้านเรา ตอนเด็กเราค่อนข้างเป็นทุกข์มาก 3วันดี 4วันทะเลาะ
และไม่ใช่ทะเลาะแบบธรรมดา แต่ค่อนข้างรุนแรง และเรากลายเป็นเด็กก้าวร้าว
บางทีเหมือนซึมเศร้า ทั้งที่ปกติเราเป็นเด็กร่าเริงมากๆ จนคนนอกบ้านอาจจะมองไม่ออกเลยว่า
เราเป็นเด็กที่ซึมเศร้าบางเวลา หรือก้าวร้าวเวลาโมโห ได้ขนาดนี้ หรือที่เรียกว่า ไบโพล่า
จริงๆเราเสิร์ชหาเรื่อง ไบโพล่า และรู้จักโรคนี้มาตั้งแต่มัธยม (ประมาณ10ปีที่แล้ว) ก่อนโรคนี้จะเป็นที่รู้จัก
ตั้งแต่มีข่าวคนฆ่าตัวตาย จนคนมาให้ความสำคัญกับโรคซึมเศร้าแล้วล่ะค่ะ
ดังนั้น เราไม่ได้อุปทานหรือตามกระแสนะคะ เราแค่เสิร์ชหาจากอาการที่ไม่ปกติของตัวเองตั้งแต่เด็ก
และเราอยากให้คนที่มีคนที่สนิทใกล้ชิด คนที่เป็นพ่อแม่ เข้าใจคนที่เป็นอาการทางจิตแบบเราด้วย
ไม่อยากให้มองว่าเรียกร้องความสนใจ ในบางคนเขาอาจจะไม่ได้เรียกร้องความสนใจ แต่ใช่ค่ะ คนที่เรียกร้องความสนใจก็มี
ที่เข้าใจเพราะ "บางครั้ง" เราก็มีอารมณ์อยากจะรู้สึกว่าโลกนี้มีคนสนใจเราอยู่ เพื่อที่เราจะรู้สึกว่าเราควรมีชีวิตอยู่ต่อไปบ้าง
เวลาเกิดความรุนแรง อยากให้มีคนมาปลอบ
สำหรับเรา ในช่วงวัยรุ่น เราจะมีภาพติดตาอยู่ สองแบบ
คือภาพความรุนแรงในครอบครัว ภาพแม่ถือมีดมาแบบจิตๆว่าอยากให้ตายกันให้หมดบ้าน ไม่รู้จะอยู่ไปทำไม อยากเผาให้ตายให้หมด
หรือพ่อหายออกไปจากบ้านเวลาโมโห ภาพพ่อแม่ตีกัน ขว้างของ ยกเก้าอี้จะฟาดกัน เสียงร้องไห้ เสียงตัวเองในวัยเด็กกรี๊ดและก้าวร้าว
ที่นึกถึงทีไรก็น้ำตาไหล
กับอีกภาพที่พ่อกำลังจะเอาไม้แขวนเสื้อตีเราตอนทะเลาะกัน และเห็นเราร้องไห้แล้วสงสารเข้ามากอดปลอบเรา ภาพนี้เป็นภาพที่ชโลมใจเรามาก
เราอยากบอกกับคนที่เป็นพ่อแม่ว่า บางอารมณ์ที่คุณพูดหรือทำ เพียงเพราะอารมณ์โกรธชั่วคราว มันสามารถกำหนดชีวิตที่จะโตมาของเด็กคนหนึ่งได้
หากคุณยังไม่คิดว่าพร้อมจะมีลูกจริงๆ อยากให้ลองอ่านเหตุและผลในกระทู้นี้
https://pantip.com/topic/33029984 (ไม่ใช่กระทู้ของเรานะคะ)
แต่ถ้าคุณคิดจะมีลูกจริงๆ อยากให้เลี้ยงแบบไม่เหมือนเพจ "ลูกคุณไม่ได้น่ารักสำหรับทุกคน" ไม่เลี้ยงตามใจเกินไป
ไม่ใช่รักลูกมากเกินไปจนสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่น ซึ่งบ้านเราเลี้ยงมาค่อนข้างดีในเรื่องนี้
แต่ก็ไม่ใช่เลี้ยงแบบ บ้านแตก ไม่มีความสุข นอกบ้านเหมือนดี แต่ในบ้านไฟร้อนสุม บางวันดีใจหาย บางวันร้ายฝังใจ
อะไรที่มันมากไปด้านไหนด้านหนึ่งก็ไม่ดีทั้งนั้นเนอะ
หรือวัยรุ่นที่จะมีอะไรกันก็ป้องกันด้วย อย่าท้องตอนไม่พร้อมแล้วนอกจากสร้างภาระให้สังคม คุณยังทำลายชีวิตคนที่ขาดความรักความอบอุ่นถ้าคุณไม่สามารถเลี้ยงเค้าได้และต้องเอาเขาไปทิ้งตามบ้านเด็กกำพร้า
ที่เราเล่าชีวิตวัยเด็กมาเพราะเราต้องการจะบอกว่า เราผ่านอะไรแบบนี้มา ไม่ได้มโนว่าตัวเองเป็นโรคซึมเศร้าอะไร
แต่วันนี้เราไม่ได้ต้องการมาขอกำลังใจจากใคร
เราอยากมาให้กำลังใจคนอื่น
เราเจอเพื่อนอีก2คนที่เป็นโรคซึมเศร้า ซึ่งส่วนใหญ่ปัญหามาจากปัญหาครอบครัว ซึ่งมันแก้ได้ยากเราเข้าใจ เพราะพื้นฐานแต่ละบ้านไม่เหมือนกัน
เคยมีพี่คนนึงที่อ่านหนังสือเกี่ยวกับจิตวิทยาเด็กอยู่พูดกับเราว่า คนที่ผ่านเรื่องเลวร้ายในวัยเด็ก จะโตขึ้นมาได้เป็น 2 แบบ
หนึ่งคือแย่ไปเลย หรือสองคือเข้าใจคนอื่นไปเลย
เราโชคดีที่เรามีเพื่อนที่ดีมาตั้งแต่เด็ก เขาไม่ได้ให้กำลังใจอะไรมาก เพราะเพื่อนเราไม่ค่อยพูดมาก แต่เขารับฟังเราเสมอ เลยเหมือนเรามีคนให้เล่าให้ฟังได้โดยไม่ดูถูกความรู้สึกเรา ไม่ต้องกลัวว่าเค้าจะมองเรายังไง
สำหรับบางคน อาจจะเล่าให้คนรอบข้างฟังไม่ได้ เพราะไม่ได้โชดคีมีเพื่อนเข้าใจเหมือนเรา เลยต้องเลือกโทรไปหาที่ระบายที่ไม่รู้จัก
ลองหาดูนะ สมัยนี้มี hotline สายรับฟังน่าจะหลายที่อยู่
แต่ถ้าใครเริ่มจะคิดได้ เราอยากให้มองด้านดีๆในชีวิต
ถ้าคุณเกิดมา มีหลายอย่างที่โชคดีแล้ว เราพยายามเป็นคนที่ไปช่วยเหลือคนอื่น เพื่อลืมความทุกข์ของตัวเองกันดีไหม
ช่วงม.3 เวลาเรานั่งรถไปโรงเรียน เราชอบเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างทุกเช้า พลางคิดว่า เราอยู่ไปเพื่ออะไรกันนะ เราไม่เห็นอยากอยู่เลย
และเราก็นั่งมองหมาจรจัด บางตัวขาด้วน มองคนเก็บขยะเข็นตะกร้าข้างถนน คนเข็นรถขายของข้างทางแต่เช้าตรู่
รู้สึกสงสารเค้า เกือบทุกเช้าเย็น
แล้ววันหนึ่ง เราเลยคิดคำตอบให้ตัวเองได้ ว่าเราเกิดมาทำไมไม่รู้ อยู่ไปเพื่ออะไรก็ไม่รู้ แต่เราก็ต้องอยู่อยู่ทุกวันนี้
เพราะงั้น เราก็คิดแค่ อยู่ให้มีความสุข และจริงๆ เราก็โชคดีกว่าคนอื่นๆอีกหลายๆคนในหลายๆเรื่องแล้ว
เราก็ช่วยให้คนอื่นที่ทุกข์หรือไม่มีโอกาสเหมือนเรา มีความสุขขึ้นมาบ้างไหม เพราะใครๆก็ต่างดิ้นรนเพื่อที่จะอยู่ไปวันๆแบบมีความสุขเท่านั้น
เราจะได้รู้สึกมีค่า ว่าเราอยู่ไปทำไม เพราะเรามีอะไรดีกว่าคนอื่นอีกหลายคน
นี่เป็นอีกเหตุผลที่เราไม่อยากมีลูกของตัวเอง แต่อยากให้เวลาไปกับเด็กที่อยู่บนโลกและด้อยโอกาส
(แต่เราไม่ได้ตำหนิคนที่อยากมีลูกเป็นของตัวเองนะ)
แต่ความรู้สึกเราคือ 1ถ้าจะมีลูก เราต้องเลี้ยงเค้าให้ดีมากๆ พร้อมทั้งเรื่องเงิน ให้เค้าได้เรียนดีๆ แต่ไม่ยัดเยียดมากเกินไป ให้เค้ามีอิสระทางความคิด แต่ก็อยู่กรอบความไม่เอาเปรียบคนอื่น และมีความคิดที่ดี 2ถ้าเรามีลูก เราต้องทุ่มเทไปให้กับลูกเรา เพื่อที่จะให้เค้าได้ดีตามที่กล่าวมาในข้อ1 แล้วปฎิธานที่เราอยากจะช่วยเหลือเด็กคนอื่น มันอาจจะหายไป ดังนั้นเราเลยไม่อยากมี
เหตุผลที่ตั้งกระทู้
แค่อยาก ให้กำลังใจ คนที่เจออะไรแย่ๆ คนที่เป็นโรคซึมเศร้า แชร์ความคิดเรา และอยากให้คนเรา เข้าใจคนอื่นมากขึ้น
เท่านั้นเอง
เพราะเรื่องเหล่านี้มันวนเวียนกับเรามาอยู่ตลอด
ปล.ตอนนี้ครอบครัวเราดีขึ้นเยอะแล้วค่ะ ไม่ทะเลาะกันรุนแรงเหมือนสมัยเด็กแล้ว แค่เถียงกันเสียงดังบ้างเหมือนครอบครัวทั่วๆไป
**********************************************************************************************************
How to (เผื่อบางคนอยากช่วยฉุดตัวเองเหมือนเรา)
บางครั้งการซื้อหนังสือโลกสวยมาอ่านบ้าง หรือฟังเพลงที่ช่วยฉุดเราขึ้นมา วนๆไปมันก็ดีนะ
หนังสือที่เราซื้อมาอ่านแล้วดีขึ้น
- ยิ้มให้กับชีวิต คิดให้มีความสุขทุกองศา
- ก่อนจะถึงความสุข
(ตั้งแต่สมัยม.ปลาย/มหาลัย ไม่รู้ยังมีขายหรือเปล่า)
เพลงที่เราชอบฟังช่วงที่ไม่มีใคร
เพลงที่ชอบฟังตั้งแต่ตอนเด็กเวลาเศร้า
- ฤดูที่แตกต่าง ของ บอย โกสิยพงษ์
- ก้อนหินก้อนนั้น ของ โรส ศิรินทิพท์
- ร่มสีเทา ของ วัชราวลี
- แค่มี ของ พลพล
เพลงอื่นๆที่เจอตอนโตแต่คิดว่าความหมายดี อยากแนะนำ
- สองหมื่น ของ แสตมป์
- ชีวิตยังคงสวยงาม ของ Bodyslam
- เปิด ของ บอย โกสิยพงษ์, เบน ชลาทิศ
- หัวใจ ของ Big Ass
- ปลายทางที่ว่างเปล่า ของ ออฟ ปองศักดิ์
- ขออยู่คนเดียว ของ Instinct
- ทางที่เลือก ของ โอม Cocktail , แอร์ The Mousses , ต้า Paradox
- เรื่องระหว่างทาง ของ ลุลา feat. ชาติ สุชาติ
- อย่าคิดมาก ของ The Others
<3
สู้ๆนะ ทุกคนมีเรื่องแย่กันคนละแบบเสมอ
สำหรับเด็กวัยรุ่น ถ้าพ่อแม่ทะเลาะกันจนคุณรำคาญ เราขอแนะนำให้ ไปอ่านหนังสือสอบแ ม่งเหอะ เป้าหมายของเราคือชีวิตตัวเอง
เกรดอาจจะไม่สำคัญกับบิลเกต หรือมาร์ก ซัคเคอร์เบิก แต่สำหรับปุถุชนอย่างเรา ในฐานะที่พี่ได้งานดีๆมาจากเกรดและมหาลัยดีๆ
พี่อยากแนะนำน้องว่า ตั้งใจไปเถอะ.. ไม่ต้องกดดันตัวเอง แต่ทำวันนี้ให้ดีที่สุด -- โปรไฟล์เป็นสิ่งที่สำคัญมาก ด้านไหนก็ได้ ไม่จำเป็นต้องวิชาการ
แต่ถ้าไม่ได้มีความสามารถพิเศษอะไร หรือชอบอะไรเป็นพิเศษ เช่น ด้านวาดรูป การแสดง การประดิษฐ์ ก็ ตั้งใจเรียนไปก่อนเถอะจ้ะ
ปล. ใครพอรู้จักโครงการสอนหนังสือเด็ก ในกรุงเทพ แนะนำเราได้นะคะ เราอยากหาที่ไปอยู่
(แต่ไม่ได้เต็มเวลานะคะ ต้องทำงาน) อาจจะไปได้เสาร์ อาทิตย์ อ่ะ
ส่วนใครสนใจงานด้านจิตอาสา ขอแนะนำ เพจนี้นะคะ ธนาคารจิตอาสา
https://www.facebook.com/JitArsaBank/
ถ้าอยากฟังคลิปเพจแบบโลกสวยหน่อย attitude ดีๆ เราชอบเพจ พี่ฌอน บูรณะหิรัญ
https://www.facebook.com/SeanBuranahiran/
ส่วนพี่พีช แฟนพี่ฌอน เป็นนักจิตวิทยาเด็กและครอบครัว ลองเปิดต่อไปหาดูจากเพจพี่ฌอนได้เลย
ปล2. เราเข้าใจว่ามันทำยาก แต่เราก็ผ่านมันมาได้
และการที่เราตั้งชื่อกระทู้ว่า How to เพราะเราตั้งใจให้คนที่อยากหลุดจากความรู้สึกแย่ๆเหล่านั้น ถ้าคุณไม่อยากขึ้นมาด้วยตัวเองด้วย มันก็อาจจะยากแหละที่คนอื่นจะช่วย ถึงเค้าจะอยากช่วยแค่ไหนก็ตาม
นอกจากพ่อแม่หรือคนที่ยังรักแล้วจะเสียใจกับการตายของเราแล้ว
การฆ่าตัวตาย ถ้ายังไม่ถึงฆาต แล้วมันไม่ได้ตายง่ายๆ ก็ซวยอีก โดดตึก พิการ ทรมาน, กินยา ดันรอด ต้องล้างท้อง ไม่สมบูรณ์ ทรมาน,
สรุปคือทุกอย่าง ไม่รอด ก็ทรมาน รอด ก็ทรมาน คิดดีๆก่อนแล้วกันนะ //อยากบอกว่า ไปทำเรื่องดีๆให้คนอื่นกันแทนเถอะ
ขอบคุณสำหรับเพจ เว็บ และ link ทุกที่ที่เรานำมาอ้างอิง
*** edit ตรงคำว่า ไปอ่านหนังสือสอบแ ม่งเหอะ ที่โดนเซนเซอร์คำว่า แ ม่ง ไป (ไม่ได้จะใช้คำหยาบคายเด้อ)
เคยอยากตายไหม? เบื่อชีวิตไหม? -- How to ปรับมุมมองชีวิต สำหรับคนไม่รู้จะอยู่ไปเพื่ออะไร
เราเคยคิดจะเขียนกระทู้มานานแล้ว แต่อารมณ์มันไม่ได้ เพราะบางวันเราก็มีความสุขดี
พอดีวันนี้เราทะเลาะกับพ่อ ความคิดอยากตายเลยผุดขึ้นมา
แต่โชคดีที่ตอนนี้เรามีสติแล้วค่ะ
เรา search google วิธีฆ่าตัวตาย แบบไม่พลาด และได้เจอกับบทความนี้
https://med.mahidol.ac.th/ramamental/generalknowledge/general/09042014-1134
ขอบคุณอาจารย์หมอที่เขียนไว้ดีมาก ทำให้เรามีสติกลับมา
แต่ยังไงก็ตาม การที่เรามีสติขึ้นมาได้ เพราะเราคิดได้ในระดับหนึ่งมาซักพักแล้ว
ส่วนบางคน เขาอาจจะยังขึ้นมาจากตรงนั้นไม่ได้ หรือรู้สึกว่าไม่มีใครเลย เราเข้าใจค่ะ คุยกับเราได้นะ
*************** ถ้าใครขี้เกียจอ่านเรื่องชีวิตกับความคิดเรา ข้ามลงไปถึงเส้นดอกจันด้านล่างตรง How to เลยก็ได้ค่ะ ****************
บางคนอาจจะมองว่าแค่ทะเลาะกับพ่อแม่ มันเป็นเรื่องธรรมดา
แต่ต้องบอกว่า พื้นฐานการเติบโตมาของแต่ละคนนั้นต่างกันค่ะ
สำหรับบ้านเรา ตอนเด็กเราค่อนข้างเป็นทุกข์มาก 3วันดี 4วันทะเลาะ
และไม่ใช่ทะเลาะแบบธรรมดา แต่ค่อนข้างรุนแรง และเรากลายเป็นเด็กก้าวร้าว
บางทีเหมือนซึมเศร้า ทั้งที่ปกติเราเป็นเด็กร่าเริงมากๆ จนคนนอกบ้านอาจจะมองไม่ออกเลยว่า
เราเป็นเด็กที่ซึมเศร้าบางเวลา หรือก้าวร้าวเวลาโมโห ได้ขนาดนี้ หรือที่เรียกว่า ไบโพล่า
จริงๆเราเสิร์ชหาเรื่อง ไบโพล่า และรู้จักโรคนี้มาตั้งแต่มัธยม (ประมาณ10ปีที่แล้ว) ก่อนโรคนี้จะเป็นที่รู้จัก
ตั้งแต่มีข่าวคนฆ่าตัวตาย จนคนมาให้ความสำคัญกับโรคซึมเศร้าแล้วล่ะค่ะ
ดังนั้น เราไม่ได้อุปทานหรือตามกระแสนะคะ เราแค่เสิร์ชหาจากอาการที่ไม่ปกติของตัวเองตั้งแต่เด็ก
และเราอยากให้คนที่มีคนที่สนิทใกล้ชิด คนที่เป็นพ่อแม่ เข้าใจคนที่เป็นอาการทางจิตแบบเราด้วย
ไม่อยากให้มองว่าเรียกร้องความสนใจ ในบางคนเขาอาจจะไม่ได้เรียกร้องความสนใจ แต่ใช่ค่ะ คนที่เรียกร้องความสนใจก็มี
ที่เข้าใจเพราะ "บางครั้ง" เราก็มีอารมณ์อยากจะรู้สึกว่าโลกนี้มีคนสนใจเราอยู่ เพื่อที่เราจะรู้สึกว่าเราควรมีชีวิตอยู่ต่อไปบ้าง
เวลาเกิดความรุนแรง อยากให้มีคนมาปลอบ
สำหรับเรา ในช่วงวัยรุ่น เราจะมีภาพติดตาอยู่ สองแบบ
คือภาพความรุนแรงในครอบครัว ภาพแม่ถือมีดมาแบบจิตๆว่าอยากให้ตายกันให้หมดบ้าน ไม่รู้จะอยู่ไปทำไม อยากเผาให้ตายให้หมด
หรือพ่อหายออกไปจากบ้านเวลาโมโห ภาพพ่อแม่ตีกัน ขว้างของ ยกเก้าอี้จะฟาดกัน เสียงร้องไห้ เสียงตัวเองในวัยเด็กกรี๊ดและก้าวร้าว
ที่นึกถึงทีไรก็น้ำตาไหล
กับอีกภาพที่พ่อกำลังจะเอาไม้แขวนเสื้อตีเราตอนทะเลาะกัน และเห็นเราร้องไห้แล้วสงสารเข้ามากอดปลอบเรา ภาพนี้เป็นภาพที่ชโลมใจเรามาก
เราอยากบอกกับคนที่เป็นพ่อแม่ว่า บางอารมณ์ที่คุณพูดหรือทำ เพียงเพราะอารมณ์โกรธชั่วคราว มันสามารถกำหนดชีวิตที่จะโตมาของเด็กคนหนึ่งได้
หากคุณยังไม่คิดว่าพร้อมจะมีลูกจริงๆ อยากให้ลองอ่านเหตุและผลในกระทู้นี้
https://pantip.com/topic/33029984 (ไม่ใช่กระทู้ของเรานะคะ)
แต่ถ้าคุณคิดจะมีลูกจริงๆ อยากให้เลี้ยงแบบไม่เหมือนเพจ "ลูกคุณไม่ได้น่ารักสำหรับทุกคน" ไม่เลี้ยงตามใจเกินไป
ไม่ใช่รักลูกมากเกินไปจนสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่น ซึ่งบ้านเราเลี้ยงมาค่อนข้างดีในเรื่องนี้
แต่ก็ไม่ใช่เลี้ยงแบบ บ้านแตก ไม่มีความสุข นอกบ้านเหมือนดี แต่ในบ้านไฟร้อนสุม บางวันดีใจหาย บางวันร้ายฝังใจ
อะไรที่มันมากไปด้านไหนด้านหนึ่งก็ไม่ดีทั้งนั้นเนอะ
หรือวัยรุ่นที่จะมีอะไรกันก็ป้องกันด้วย อย่าท้องตอนไม่พร้อมแล้วนอกจากสร้างภาระให้สังคม คุณยังทำลายชีวิตคนที่ขาดความรักความอบอุ่นถ้าคุณไม่สามารถเลี้ยงเค้าได้และต้องเอาเขาไปทิ้งตามบ้านเด็กกำพร้า
ที่เราเล่าชีวิตวัยเด็กมาเพราะเราต้องการจะบอกว่า เราผ่านอะไรแบบนี้มา ไม่ได้มโนว่าตัวเองเป็นโรคซึมเศร้าอะไร
แต่วันนี้เราไม่ได้ต้องการมาขอกำลังใจจากใคร
เราอยากมาให้กำลังใจคนอื่น
เราเจอเพื่อนอีก2คนที่เป็นโรคซึมเศร้า ซึ่งส่วนใหญ่ปัญหามาจากปัญหาครอบครัว ซึ่งมันแก้ได้ยากเราเข้าใจ เพราะพื้นฐานแต่ละบ้านไม่เหมือนกัน
เคยมีพี่คนนึงที่อ่านหนังสือเกี่ยวกับจิตวิทยาเด็กอยู่พูดกับเราว่า คนที่ผ่านเรื่องเลวร้ายในวัยเด็ก จะโตขึ้นมาได้เป็น 2 แบบ
หนึ่งคือแย่ไปเลย หรือสองคือเข้าใจคนอื่นไปเลย
เราโชคดีที่เรามีเพื่อนที่ดีมาตั้งแต่เด็ก เขาไม่ได้ให้กำลังใจอะไรมาก เพราะเพื่อนเราไม่ค่อยพูดมาก แต่เขารับฟังเราเสมอ เลยเหมือนเรามีคนให้เล่าให้ฟังได้โดยไม่ดูถูกความรู้สึกเรา ไม่ต้องกลัวว่าเค้าจะมองเรายังไง
สำหรับบางคน อาจจะเล่าให้คนรอบข้างฟังไม่ได้ เพราะไม่ได้โชดคีมีเพื่อนเข้าใจเหมือนเรา เลยต้องเลือกโทรไปหาที่ระบายที่ไม่รู้จัก
ลองหาดูนะ สมัยนี้มี hotline สายรับฟังน่าจะหลายที่อยู่
แต่ถ้าใครเริ่มจะคิดได้ เราอยากให้มองด้านดีๆในชีวิต
ถ้าคุณเกิดมา มีหลายอย่างที่โชคดีแล้ว เราพยายามเป็นคนที่ไปช่วยเหลือคนอื่น เพื่อลืมความทุกข์ของตัวเองกันดีไหม
ช่วงม.3 เวลาเรานั่งรถไปโรงเรียน เราชอบเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างทุกเช้า พลางคิดว่า เราอยู่ไปเพื่ออะไรกันนะ เราไม่เห็นอยากอยู่เลย
และเราก็นั่งมองหมาจรจัด บางตัวขาด้วน มองคนเก็บขยะเข็นตะกร้าข้างถนน คนเข็นรถขายของข้างทางแต่เช้าตรู่
รู้สึกสงสารเค้า เกือบทุกเช้าเย็น
แล้ววันหนึ่ง เราเลยคิดคำตอบให้ตัวเองได้ ว่าเราเกิดมาทำไมไม่รู้ อยู่ไปเพื่ออะไรก็ไม่รู้ แต่เราก็ต้องอยู่อยู่ทุกวันนี้
เพราะงั้น เราก็คิดแค่ อยู่ให้มีความสุข และจริงๆ เราก็โชคดีกว่าคนอื่นๆอีกหลายๆคนในหลายๆเรื่องแล้ว
เราก็ช่วยให้คนอื่นที่ทุกข์หรือไม่มีโอกาสเหมือนเรา มีความสุขขึ้นมาบ้างไหม เพราะใครๆก็ต่างดิ้นรนเพื่อที่จะอยู่ไปวันๆแบบมีความสุขเท่านั้น
เราจะได้รู้สึกมีค่า ว่าเราอยู่ไปทำไม เพราะเรามีอะไรดีกว่าคนอื่นอีกหลายคน
นี่เป็นอีกเหตุผลที่เราไม่อยากมีลูกของตัวเอง แต่อยากให้เวลาไปกับเด็กที่อยู่บนโลกและด้อยโอกาส
(แต่เราไม่ได้ตำหนิคนที่อยากมีลูกเป็นของตัวเองนะ)
แต่ความรู้สึกเราคือ 1ถ้าจะมีลูก เราต้องเลี้ยงเค้าให้ดีมากๆ พร้อมทั้งเรื่องเงิน ให้เค้าได้เรียนดีๆ แต่ไม่ยัดเยียดมากเกินไป ให้เค้ามีอิสระทางความคิด แต่ก็อยู่กรอบความไม่เอาเปรียบคนอื่น และมีความคิดที่ดี 2ถ้าเรามีลูก เราต้องทุ่มเทไปให้กับลูกเรา เพื่อที่จะให้เค้าได้ดีตามที่กล่าวมาในข้อ1 แล้วปฎิธานที่เราอยากจะช่วยเหลือเด็กคนอื่น มันอาจจะหายไป ดังนั้นเราเลยไม่อยากมี
เหตุผลที่ตั้งกระทู้
แค่อยาก ให้กำลังใจ คนที่เจออะไรแย่ๆ คนที่เป็นโรคซึมเศร้า แชร์ความคิดเรา และอยากให้คนเรา เข้าใจคนอื่นมากขึ้น
เท่านั้นเอง
เพราะเรื่องเหล่านี้มันวนเวียนกับเรามาอยู่ตลอด
ปล.ตอนนี้ครอบครัวเราดีขึ้นเยอะแล้วค่ะ ไม่ทะเลาะกันรุนแรงเหมือนสมัยเด็กแล้ว แค่เถียงกันเสียงดังบ้างเหมือนครอบครัวทั่วๆไป
**********************************************************************************************************
How to (เผื่อบางคนอยากช่วยฉุดตัวเองเหมือนเรา)
บางครั้งการซื้อหนังสือโลกสวยมาอ่านบ้าง หรือฟังเพลงที่ช่วยฉุดเราขึ้นมา วนๆไปมันก็ดีนะ
หนังสือที่เราซื้อมาอ่านแล้วดีขึ้น
- ยิ้มให้กับชีวิต คิดให้มีความสุขทุกองศา
- ก่อนจะถึงความสุข
(ตั้งแต่สมัยม.ปลาย/มหาลัย ไม่รู้ยังมีขายหรือเปล่า)
เพลงที่เราชอบฟังช่วงที่ไม่มีใคร
เพลงที่ชอบฟังตั้งแต่ตอนเด็กเวลาเศร้า
- ฤดูที่แตกต่าง ของ บอย โกสิยพงษ์
- ก้อนหินก้อนนั้น ของ โรส ศิรินทิพท์
- ร่มสีเทา ของ วัชราวลี
- แค่มี ของ พลพล
เพลงอื่นๆที่เจอตอนโตแต่คิดว่าความหมายดี อยากแนะนำ
- สองหมื่น ของ แสตมป์
- ชีวิตยังคงสวยงาม ของ Bodyslam
- เปิด ของ บอย โกสิยพงษ์, เบน ชลาทิศ
- หัวใจ ของ Big Ass
- ปลายทางที่ว่างเปล่า ของ ออฟ ปองศักดิ์
- ขออยู่คนเดียว ของ Instinct
- ทางที่เลือก ของ โอม Cocktail , แอร์ The Mousses , ต้า Paradox
- เรื่องระหว่างทาง ของ ลุลา feat. ชาติ สุชาติ
- อย่าคิดมาก ของ The Others
<3
สู้ๆนะ ทุกคนมีเรื่องแย่กันคนละแบบเสมอ
สำหรับเด็กวัยรุ่น ถ้าพ่อแม่ทะเลาะกันจนคุณรำคาญ เราขอแนะนำให้ ไปอ่านหนังสือสอบแ ม่งเหอะ เป้าหมายของเราคือชีวิตตัวเอง
เกรดอาจจะไม่สำคัญกับบิลเกต หรือมาร์ก ซัคเคอร์เบิก แต่สำหรับปุถุชนอย่างเรา ในฐานะที่พี่ได้งานดีๆมาจากเกรดและมหาลัยดีๆ
พี่อยากแนะนำน้องว่า ตั้งใจไปเถอะ.. ไม่ต้องกดดันตัวเอง แต่ทำวันนี้ให้ดีที่สุด -- โปรไฟล์เป็นสิ่งที่สำคัญมาก ด้านไหนก็ได้ ไม่จำเป็นต้องวิชาการ
แต่ถ้าไม่ได้มีความสามารถพิเศษอะไร หรือชอบอะไรเป็นพิเศษ เช่น ด้านวาดรูป การแสดง การประดิษฐ์ ก็ ตั้งใจเรียนไปก่อนเถอะจ้ะ
ปล. ใครพอรู้จักโครงการสอนหนังสือเด็ก ในกรุงเทพ แนะนำเราได้นะคะ เราอยากหาที่ไปอยู่
(แต่ไม่ได้เต็มเวลานะคะ ต้องทำงาน) อาจจะไปได้เสาร์ อาทิตย์ อ่ะ
ส่วนใครสนใจงานด้านจิตอาสา ขอแนะนำ เพจนี้นะคะ ธนาคารจิตอาสา https://www.facebook.com/JitArsaBank/
ถ้าอยากฟังคลิปเพจแบบโลกสวยหน่อย attitude ดีๆ เราชอบเพจ พี่ฌอน บูรณะหิรัญ https://www.facebook.com/SeanBuranahiran/
ส่วนพี่พีช แฟนพี่ฌอน เป็นนักจิตวิทยาเด็กและครอบครัว ลองเปิดต่อไปหาดูจากเพจพี่ฌอนได้เลย
ปล2. เราเข้าใจว่ามันทำยาก แต่เราก็ผ่านมันมาได้
และการที่เราตั้งชื่อกระทู้ว่า How to เพราะเราตั้งใจให้คนที่อยากหลุดจากความรู้สึกแย่ๆเหล่านั้น ถ้าคุณไม่อยากขึ้นมาด้วยตัวเองด้วย มันก็อาจจะยากแหละที่คนอื่นจะช่วย ถึงเค้าจะอยากช่วยแค่ไหนก็ตาม
นอกจากพ่อแม่หรือคนที่ยังรักแล้วจะเสียใจกับการตายของเราแล้ว
การฆ่าตัวตาย ถ้ายังไม่ถึงฆาต แล้วมันไม่ได้ตายง่ายๆ ก็ซวยอีก โดดตึก พิการ ทรมาน, กินยา ดันรอด ต้องล้างท้อง ไม่สมบูรณ์ ทรมาน,
สรุปคือทุกอย่าง ไม่รอด ก็ทรมาน รอด ก็ทรมาน คิดดีๆก่อนแล้วกันนะ //อยากบอกว่า ไปทำเรื่องดีๆให้คนอื่นกันแทนเถอะ
ขอบคุณสำหรับเพจ เว็บ และ link ทุกที่ที่เรานำมาอ้างอิง
*** edit ตรงคำว่า ไปอ่านหนังสือสอบแ ม่งเหอะ ที่โดนเซนเซอร์คำว่า แ ม่ง ไป (ไม่ได้จะใช้คำหยาบคายเด้อ)