“แคร๊กๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”
ผมรัวปุ่มบนแผงอย่างเมามัน วิญญาณนักกดตู้เกมเข้าสิง
“พอออออออ เดี๋ยวพัง” อาเจ๊ห้ามเสียงสูง
เอ่อ.. นี่มันต่างจากที่ผมคิดไว้
ขึ้นชื่อว่า “พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์” แถมเป็นของรัฐบาล ทุกคนคงรู้ว่ามันจะเก่า โทรม ล้าสมัย หยากไย่เกาะ
ที่นี่มีทุกอย่างที่คิดไว้ (รวมทั้งหยากไย่) แต่ที่คาดไม่ถึงคือ มันเล่นสนุกซะอย่างนั้น
และยิ่งเหมาะมากสำหรับพาน้องๆ หนูๆ มาเที่ยว
ที่นี่แบ่งเป็นสามอาคาร คือพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา พิพิธภัณฑ์เทคโนโลยีสารสนเทศ และพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ เราจะพาไปดูทีละส่วนครับ
พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา

แสดงเรื่องราวเกี่ยวกับธรรมชาติ พืช และสัตว์
มีเจ้าหน้าที่ขายตั่วอยู่ในอาคาร ซื้อใบเดียว ราคา 100 บาท สามารถเข้าได้ทั้งสามพิพิธภัณฑ์ครับ

ก่อนเข้าข้างใน แวะดูสวนยุคก่อนประวัติศาสตร์เล็กๆ ไดโนเสาตัวโตตั้งเด่นเป็นสง่า โทรมไปหน่อย แต่เด็กๆ ก็ยังชอบ


ทางเดินช่วงแรกน่าผิดหวัง เป็นข้อมูลแปะๆ ของเล่นก็ไม่สนุกเลย


เลี้ยวมานิดนึงก็มีเรื่องยุคก่อนประวัติศาสตร์



ถัดมามีกระดูกสัตว์หลายชนิด

ผมสะดุดตากับขวดเล็กๆ ซึ่งภายในมีซากสัตว์สีสวยแปลกตา นี่คือการดองใส เพื่อศึกษาโครงสร้างของสัตว์ขนาดเล็ก
ใครสงสัยว่าทำยังไง จิ้มกระทู้นี้จ้า
https://pantip.com/topic/12972000




จู่ๆ ทางแคบๆ ก็เปิดออกเป็นห้องโถงกว้างและสว่างกว่า ทำให้รู้สึกตระการตา
มีเรื่องราวของพืช สัตว์ และเห็ดรา ให้ดูเยอะมาก น่าสนใจบ้าง ไม่น่าสนใจบ้าง ปนๆ กันไป

โถบรรจุเหล่าสัตว์ขวัญใจสาวๆ หนึ่งในโหลพวกนี้ มีคางคกตัวมหึมาอยู่ด้วย
คุณอาจไม่เคยเห็นคางคกตัวขนาดนี้มาก่อน ถ้ามีโอกาสไปเที่ยว ลองมองหาดูฮะ

มีมุมให้ถ่ายรูปก่อนจบช่วงนี้ซะด้วย

ห้องถัดมาเป็นนิทรรศการเล็กๆ เกี่ยวกับพิษ ทักทายด้วยแมงมุมตัวโต

รายละเอียดผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากพิษ
เพิ่งรู้ว่า “โบท็อก” เป็นพิษที่เกิดจากแบคทีเรีย
หรือครีมทาหน้าบางชนิดก็มี “ซินเอก (Syn-Ake)” ซึ่งเป็นพิษของงูผสมอยู่

ปลาปักเป้า อาหารญี่ปุ่นที่เรานิยม ก็มีพิษ
เชฟต้องสอบกันอย่างจริงจังกว่าจะปรุงมันขายได้ แถมก่อนขายต้องกินเองด้วย!!



ถัดมาเป็นห้องที่รวมสัตว์มีพิษต่างๆ ผีเสื้อบางชนิดก็มีพิษกะเค้าด้วย

ไหนๆ ก็เข้ามาแล้ว ขอเดินดูอีกหน่อย ที่ชั้นสองกระโหลกและเข้าของสัตว์ชนิดต่างๆ จัดแสดงไว้

กระโหลกช้าง ใหญ่มากก.. แต่อาเจ๊ตัวใหญ่กว่าเห็นๆ

ก่อนไปพิพิธภัณฑ์เทคโนโลยีสารสนเทศ แวะดูกระดูกปลาวาฬซักนิด
[CR] รีวิว เที่ยว พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ ปทุมธานี จะเก่า จะพัง ก็ยังสนุก
“แคร๊กๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”
ผมรัวปุ่มบนแผงอย่างเมามัน วิญญาณนักกดตู้เกมเข้าสิง
“พอออออออ เดี๋ยวพัง” อาเจ๊ห้ามเสียงสูง
เอ่อ.. นี่มันต่างจากที่ผมคิดไว้
ขึ้นชื่อว่า “พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์” แถมเป็นของรัฐบาล ทุกคนคงรู้ว่ามันจะเก่า โทรม ล้าสมัย หยากไย่เกาะ
ที่นี่มีทุกอย่างที่คิดไว้ (รวมทั้งหยากไย่) แต่ที่คาดไม่ถึงคือ มันเล่นสนุกซะอย่างนั้น
และยิ่งเหมาะมากสำหรับพาน้องๆ หนูๆ มาเที่ยว
ที่นี่แบ่งเป็นสามอาคาร คือพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา พิพิธภัณฑ์เทคโนโลยีสารสนเทศ และพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ เราจะพาไปดูทีละส่วนครับ
พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา
แสดงเรื่องราวเกี่ยวกับธรรมชาติ พืช และสัตว์
มีเจ้าหน้าที่ขายตั่วอยู่ในอาคาร ซื้อใบเดียว ราคา 100 บาท สามารถเข้าได้ทั้งสามพิพิธภัณฑ์ครับ
ก่อนเข้าข้างใน แวะดูสวนยุคก่อนประวัติศาสตร์เล็กๆ ไดโนเสาตัวโตตั้งเด่นเป็นสง่า โทรมไปหน่อย แต่เด็กๆ ก็ยังชอบ
ทางเดินช่วงแรกน่าผิดหวัง เป็นข้อมูลแปะๆ ของเล่นก็ไม่สนุกเลย
เลี้ยวมานิดนึงก็มีเรื่องยุคก่อนประวัติศาสตร์
ถัดมามีกระดูกสัตว์หลายชนิด
ผมสะดุดตากับขวดเล็กๆ ซึ่งภายในมีซากสัตว์สีสวยแปลกตา นี่คือการดองใส เพื่อศึกษาโครงสร้างของสัตว์ขนาดเล็ก
ใครสงสัยว่าทำยังไง จิ้มกระทู้นี้จ้า https://pantip.com/topic/12972000
จู่ๆ ทางแคบๆ ก็เปิดออกเป็นห้องโถงกว้างและสว่างกว่า ทำให้รู้สึกตระการตา
มีเรื่องราวของพืช สัตว์ และเห็ดรา ให้ดูเยอะมาก น่าสนใจบ้าง ไม่น่าสนใจบ้าง ปนๆ กันไป
โถบรรจุเหล่าสัตว์ขวัญใจสาวๆ หนึ่งในโหลพวกนี้ มีคางคกตัวมหึมาอยู่ด้วย
คุณอาจไม่เคยเห็นคางคกตัวขนาดนี้มาก่อน ถ้ามีโอกาสไปเที่ยว ลองมองหาดูฮะ
มีมุมให้ถ่ายรูปก่อนจบช่วงนี้ซะด้วย
ห้องถัดมาเป็นนิทรรศการเล็กๆ เกี่ยวกับพิษ ทักทายด้วยแมงมุมตัวโต
รายละเอียดผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากพิษ
เพิ่งรู้ว่า “โบท็อก” เป็นพิษที่เกิดจากแบคทีเรีย
หรือครีมทาหน้าบางชนิดก็มี “ซินเอก (Syn-Ake)” ซึ่งเป็นพิษของงูผสมอยู่
ปลาปักเป้า อาหารญี่ปุ่นที่เรานิยม ก็มีพิษ
เชฟต้องสอบกันอย่างจริงจังกว่าจะปรุงมันขายได้ แถมก่อนขายต้องกินเองด้วย!!
ถัดมาเป็นห้องที่รวมสัตว์มีพิษต่างๆ ผีเสื้อบางชนิดก็มีพิษกะเค้าด้วย
ไหนๆ ก็เข้ามาแล้ว ขอเดินดูอีกหน่อย ที่ชั้นสองกระโหลกและเข้าของสัตว์ชนิดต่างๆ จัดแสดงไว้
กระโหลกช้าง ใหญ่มากก.. แต่อาเจ๊ตัวใหญ่กว่าเห็นๆ
ก่อนไปพิพิธภัณฑ์เทคโนโลยีสารสนเทศ แวะดูกระดูกปลาวาฬซักนิด