[CR] April in Hakodate


สวัสดีค๊า ทริปนี้เรามาเที่ยวแถบภูมิภาค Hokkaido กันดีกว่า แต่เราจะเริ่มต้นทริปกันที่ Hakodate เป็นเมืองท่าตั้งแต่ในอดีต มีธรรมชาติที่สมบูรณ์มากมาย อีกทั้งยังมีจุดชมวิวยอดฮิต อย่างเช่น ยอดเขาฮาโกดาเตะ ป้อมดาวโกเรียวกากุ ให้ได้เที่ยวชม


โดยการเดินทางในครั้งนี้เราเดินทางจากประเทศไทย โดยสายการบิน Air Asia-x มาลงยังสนามบิน New chitose ในราคา 22,000 บาท/2 คน โดยทรานสิทที่มาเลเซีย กับน้ำหนักโหลดกระเป๋าที่ 25 กิโล



และต่อไปยังสนามบิน Hakodate ด้วยสายการบิน ANA ด้วยเครื่องบินใบพัด มีความแอบเสียวเบาๆ ใช้เวลาประมาณ 40 นาทีก็ถึง


จากสนามบินเราก็ต่อรถบัสไปยังสถานี JR Hakodate  ค่ารถบัสจาก Airport - 450 Yen ก่อนออกจากสถานีเราต้องรีบเปลี่ยนเสื้อผ้า เพราะอากาศค่อนข้างหนาว น่าจะอยู่ที่ 4 องศา


เราเลือกพักที่ Smile Hotel Hakodate  เหตุผลที่เลือกที่นี่เพราะ อยู่ใกล้สถานีรถไฟ รถบัส และรถราง (Tram)  แถมราคาก็ไม่แพงเกินไป เราพักที่นี่ 2 คืนตกคืนละ 1,428 บาท


หลังจาก Check-in เก็บกระเป๋าเสร็จก็เป็นเวลาเที่ยงกว่าๆ แล้ว ท้องเริ่มร้องแล้ว เราออกไปหาไรกินกันดีกว่าที่ตลาดปลา แต่ด้วยเป็นเวลาเที่ยงกว่าแล้ว ตลาดเริ่มซา เราจึงหาร้านทานในตลาด


พอท้องอิ่มแล้ว เราก็เดินไปซื้อบัตร Tram one day pass (ค่ารถ tram 600) สำหรับใช้เดินทางกันในวันนี้


วันนี้เราจะไปดูลิงแช่ออนเซนกันที่ สวนพฤษศาสตร์เขตร้อน โดยนั่งรถรางมาลงที่ป้าย Yunokawa onsen แต่ก็เดินไปอีกไกลอยู่เหมือนกัน


ค่าเข้าจะอยู่ที่ 300 Yen / คน แต่อยู่ดูน้องลิงได้ไม่นานก็ต้องรีบวิ่งเข้าด้านในโซนสวน เพราะอากาศหนาวและลมแรงมาก


ด้านในมีสัตว์ ต้นไม้ และดอกไม้เมืองร้อนหลายพันธ์ มีมุมให้เราถ่ายรูปอยู่ไม่น้อย


จากนั้นเราก็นั่งรถแทรมมายังศาลเจ้ายูคุระ บัตร One day pass ก็ดีเหมือนกันทำให้เราไม่กลัวหลง 555+


สถานีต่อไปคือ Goryokoku Tower  เรามาลงที่ป้าย GORYOKAKU-KORN-MAE แต่ระหว่างเดินทนหนาวไม่ไหวขอแวะเข้า Muji ทานไอติมแก้หนาวกันหน่อย


มองจากมุมล่างของตึก Goryokoku Tower


ค่าตั๋วขึ้นไปคนละ 900 Yen มีพนักงานคอยกดลิฟท์ให้ค่ะ


ด้านบนก็จะสามารถเห็นวิวได้รอบๆ Hakodate และป้อมห้าแฉกที่อยู่ด้านล่าง ถ้ามาในฤดูใบไม้เปลี่ยนสี น่าจะสวยกว่านี้นะคะ 😅


จากนั้นเราจะไป Motomachi เดินเล่นรอบๆ ซึ่งแถวนั้นมีโบสถ์ วัด และสถานที่สวยๆอยู่ รวมไปถึง เนินต่างๆที่มองไปเห็นทะเล


เดินไปเรื่อยๆ จะเจอเนินที่ลาดลงทะเลไปตลอด และก็มีบ้านสวยๆตามทาง มีทั้งบ้านญี่ปุ่นและบ้านแบบยุโรป น่าอยู่มากๆ


คืนนี้ขอปิดท้ายด้วยภาพโรแมนติกกันซักนิดก่อนนอน แล้วมาเจอกันเช้าวันพุ่งนี้นะคะ


แว๊บ!! จากงานมารีวิวกันต่อ 🤫 555+ เช้านี้แหล่ะ เราจะไม่พลาดตลาดเช้า (Morning market) อันเลื่องชื่อของ Hakodate ตลาดที่นี้ไม่ใหญ่มากเท่าที่โตเกียว แต่อาหารสด และดีวามใช้ได้



ร้านอะไรไม่รู้ เห็นคนมุงๆ ดู ก็เลยขอเบียดตัวเล็กๆ เข้าไปดูกับเค้าด้วย


สิ่งที่ได้กลับออกมา คือ Uni (ไข่หอยเม่น) สดๆ มีบริการย่างให้ด้วย แต่จ่ายเพิ่มอีกเท่าไหร่ไม่แน่ใจค่ะ


เดินไป เดินมาเห็นเค้ามีให้ตกหมึก ขึ้นมาทานได้ด้วย เลยจัดไป 1 ตัว


ตกเสร็จแล้ว เค้าจะให้ถือเข้าไปในร้าน ให้เชฟทำให้ทานสดๆ กันเลย


น่าตาที่เชฟทำออกมาให้ก็จะประมาณนี้ เนื้อปลาหมึกหวานมากๆ ค่ะ


เดินชิมกันไปเรื่อยๆ ระหว่าง ละลายกระเป๋าได้ดีมากเลยค่ะ


ปิดท้ายที่เมล่อนหวานๆ ล้างปาก ที่ตลาดกัน


อิ่มท้องแล้ว เรามุ่งหน้าสู่โกดังอิฐแดง ที่เราจองใส่ชุดกิมโมโนท้าหนาวกัน โดยที่เราจองมาจากเมืองไทย


ร้านจะอยู่ชั้น 2 ของ Teddy Bear Museum


ไปถึงร้าน เลือกชุด (ละลานตามาก) แต่งตัว ทำผม ราคาน่าจะอยู่ที่ 5,000 เยน / 3 ชั่วโมง


แต่งตัวเสร็จเรียบร้อย ออกมาซ่าส์กันแถวโกดังอิฐแดง กันเถอะ



เดินได้ยังไม่ทันไร ท้องร้องอีกแล้ว 55+ เลยแวะทานขนมที่ร้านชื่อดัง PATISSERIE


เดินไปเดินมาก็หิวอีกแล้ว เลยจัดเบอร์เกอร์ชื่อดังของที่นี้ Lucky Perriot เนื้อไก่อร่อยสมคำร่ำลือจริงๆ  ราคา Set นี้ 702  Yen ค่ะ


กินเดิน เดินกิน กันที่ ร้าน Snaffle กันอีกซักหน่อย (ก็สตอเบอรี่มันดึงดูดจิตใจ)



ถึงเวลากลับไปคืนชุด และกลับมาเดินเล่นที่ โค้ง Motomachi กันอีกรอบ (ตามรอยแฟนเดย์) เพื่อรอเวลาขึ้น Rope way  ไปดูวิวยามคำ่คืนของ Hakodate กัน เดินจนเหนื่อยก็ยังไม่มืดซักที


เลยตัดสินใจนั่งรถรางไปชม อ่าว Tachimachimisaki โดยลงที่ป้าย  Yachigashira และเดินเท้ามาอีกประมาณ 1 กิโล จะมีสัญลักษณ์บอกตามทาง โดยผ่านสุสาน แต่ไม่น่ากลัวนะคะ

                        

    
                
เดินขึ้นมาเจอวิวแบบนี้ หายเหนื่อยเลยค่ะ นั่งเล่นซักพักจึงเดินกลับ เพราะกลัวจะมืดเกินไป


กระเช้าขึ้น Rope way 1280 yen / 1 คน


บรรยากาศยามค่ำคืนของเมือง Hakodate เห็นแล้วสวยงามไม่แพ้เมืองใดจริงๆ


ขาลงขอแวะเก็บภาพกันอีกซักนิดก่อนที่จะเข้าที่พักเอาแรงไว้เดินต่อกันในวันพรุ่งนี้


วันที่ 3 ของ Hakodate วันนี้เราเริ่มตื่นสายเพราะเหนื่อยล้าจากการเดินมาถึง 2 วัน แต่ก็ยังไม่พลาดที่จะไปทานอาหารเช้าที่  (Morning market) ก็อาหารเค้าสดขนาดนั้น


มาแล้วเมนูอาหารเช้าของเรา ก็คงจะหนีไม่พ้นซูชิ และข้าวหน้าปลาดิบสดๆ


วันนี้เป็นวันที่เราไม่ได้ซื้อตั๋วรถราง เพราะเรามีไฟท์บินกลับ Hokkaido ช่วงบ่าย เราจึงเดินเล่นกันแถวๆ นั้น อ้าว!! เดินไป เดินมาถึงโกดังอิฐแดงซะงั้น 55+


รูปฝาท่อจากเมือง Hakodate ถือเป็นการอำลาวันสุดท้ายของเมืองท่าแห่งนี้ ก่อนจะนั่งรถบัสไปยังสนามบินเพื่อบินกลับไปยังสนามบิน  New chitose

ยังไงฝากติดตามกระทู้ต่อไป Sapporo Oh my God!! กันด้วยนะคะ

ชื่อสินค้า:   Smile hotel
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่