ประกาศที่ ๕๐ พ.ศ. ๒๔๐๑
๑๖๕. ประกาศผู้ถือศาสนาแลผู้ถือผิด
(ปีมะเมีย สัมฤทธิศก)
ว่าธรรมเนียมผู้ครองแผ่นดินที่เป็นยุติธรรม มิได้ห้ามได้ราษฎรทั้งปวงในการถือศาสนาที่พึ่งของตัว ๆ ในที่สุดแลการเบื้องหน้า ทรงอนุญาตยอมให้คนนับถือตามอัธยาศัย
ด้วยว่าการถือศาสนา ลางสิ่งก็ต้องกัน เหมือนอย่างไม่ฆ่าสัตว์ ไม่ลักทรัพย์ ไม่ล่วงเกินในการเมถุนสังวาสทำชู้ภรรยาของผู้อื่น แลไม่เจรจาคำเท็จ แลไม่เสพสุรา แลอดความโกรธ มีเมตตากรุณาแก่กัน แลซื่อสัตว์ กตัญญูกตเวที แลให้ปันสิ่งของ เฉลี่ยความสุขแก่กัน แลทำความดีอื่น ๆ ซึ่งเป็นคุณประโยชน์แก่กัน ก็มีอีกหลายอย่าง คนทุกชาติ ทุกภาษา ทุกศาสนา ก็เห็นพร้อมกันว่า เป็นความดีความชอบ เป็นยุติธรรม ก็ลางสิ่งซึ่งเป็นการขัดต่อการแผ่นดินบ้านเมือง ถึงคนบางจำพวกที่เป็นคนใกล้จะเสียจริตนับถือว่าใครทำได้เป็นคนดีมีศรัทธาแก่กล้า จะเห็นว่าเป็นบุญกุศลมาก ด้วยได้ฟังคำเล่าลือ แลได้ฟังพระสงฆ์บางรูปที่ไม่ได้เล่าเรียนศึกษาพระไตรปิฎกธรรมให้รู้จริง มาเทศนาเลอะ ๆ ลาม ๆ ใกล้จะเสียจริต พรรณนาสรรเสริญว่าเป็นบุญกุศลมาก แล้วหลงใหลเห็นตามไป เหมือนอย่างเผาตัวบูชาพระรัตนตรัย แลเชือดคอเอาศรีษะบูชาพระ เชือดเนื้อรองเลือดใส่ตะเกียงตามบูชา แลทำการอื่นที่ขัดต่อราชการแผ่นดินก็ดี มีโดยชุกชุม เหมือนอย่างสามเณรสุกเผาตัวที่วัดหงสาราม แลนายเรือง นายนก เผาตัวบูชาพระที่หน้าพระอุโบสถวัดอรุณราชวราราม แลนางชีผู้หนึ่งเผาตัวบูชาพระพุทธบาท เป็นตัวอย่างเห็นอยู่ทั่วกันดังนี้ ผู้ครองแผ่นดินที่เป็นธรรม แลท่านเป็นคนฉลาดทั้งปวง ไม่เห็นว่าเป็นความดีความชอบด้วยเลยแต่สักศาสนาหนึ่ง ก็การเผาตัวบูชาพระก็ดี เชือดเนื้อรองโลหิตใส่ตะเกียงตามบูชาพระก็ดี ตัดศรีษะบูชาพระก็ดี เห็นว่าไม่ใช่ทางของคนฉลาด เป็นหนทางของคนเสียจริต แลคนที่ใกล้จะเสียจริต ไม่ควรที่คนทั้งปวงจะเห็นว่าเป็นการบุญการกุศลในพระพุทธศาสนา นักปราชญ์ที่ได้ค้นหาในพระคัมภีร์ที่ควรเชื่อได้ว่าเป็นพระบาลีพุทธภาษิต หรือสาวกภาษิตในศาสนาก็ไม่พบเห็นเลยแต่สักแห่งหนึ่งว่าการทำอย่างนั้นเป็นบุญเป็นกุศล ถึงจะมีในหนังสือแปล ร้อยที่พระสงฆ์ซุ่มซ่ามเทศนา ลวงสัปปุรุษที่โง่ ๆ ตื่น ๆ ให้นับถืออยู่บ้างก็ดี เมื่อพิเคราะห์ดูจริง ๆ ก็เห็นว่าไม่ใช่สำนวนในพระศาสนา ชะรอยจะเป็นสำนวนของคนที่โง่ ๆ ตื่น ๆ ใกล้จะเสียจริตแน่แล้ว อย่าให้ใครเชื่อฟังเอาเป็นตัวอย่างเลยเป็นอันขาด ถึงในพระวินัยบัญญัติก็ให้ห้ามไว้ มิให้พระสงฆ์ชักชวนคนให้ฆ่าตัว ถ้าพระสงฆ์รูปใดชักชวนมนุษย์ให้ตายด้วยวจีประโยค ก็เป็นปาราชิก เพราะฉะนั้น จึงเห็นว่าไม่ใช่การบุญการกุศล ไม่ควรอนุโมทนายอมตามเลย เป็นการขัดต่อแผ่นดิน ถึงในพระศาสนาอื่น ๆ ก็เห็นว่าจะไม่มีใครสรรเสริญ ว่าเป็นความดีมีความชอบแต่สักแห่งเลย
เพราะฉะนั้น ตั้งแต่นี้สืบไป อย่าให้ใครเผาตัวบูชาพระ ตัดศรีษะบูชาพระ เชือดเนื้อรองโลหิตตามตะเกียงบูชาพระเลยเป็นอันขาด เพราะว่าเป็นการขัดต่อราชการแผ่นดิน เมื่อผู้ใดได้เห็นใครเผาตัวบูชาพระ ก็ดี หรือได้เห็นใครผูกคอตาย โจนน้ำตายก็ดี ก็ให้เข้าช่วย ว่ากล่าวห้ามปราม แย่งชิงเครื่องศัสตราวุธ จะเข้าแย่งชิงมิได้ก็ให้ร้องบอกเรียกผู้อื่นมาให้ช่วยกันห้ามปราม ผู้ซึ่งได้รู้เห็นแลจะนั่งดูดายเสีย ไม่ห้ามปราม หรือจะพลอยเห็นว่าได้บุญได้กุศลนั้นไม่ได้ ถ้าผู้ใดได้รู้เห็นแล้วดูดายเสีย ไม่ว่ากล่าวห้ามปราม แย่งชิงเครื่องศัสตราวุธ หรือไม่ช่วยตัดเชือกก็ดี จะให้ผู้นั้นเสียเบี้ยปรับตามรังวัดถ้าผู้รู้เห็นอยู่ในที่ใกล้
อนึ่ง สตรีที่เป็นม่ายผัวอย่า ผัวตาย ร้างมานาน ๆ ขึ้นคานอยู่ หรือหญิงสะเทิ้นที่ตั้งแต่เล็กยังไม่เคยพบชาย ขึ้นคานอยู่นาน ๆ ย่อมสืบเสาะหาผัวที่ไม่มีภรรยา วิสัยคนที่เป็นคฤหัสถ์ ก็มีภรรยาทุกคนด้วยกัน ไม่ใคร่มีใครว่างเปล่าอยู่ ฝ่ายพระสงฆ์บวชอยู่นาน ไม่มีภรรยา เป็นคนว่างเปล่าอยู่ ถ้าให้สึกออกมา ได้เป็นผัวจะดี พระสงฆ์เล่าบวชอยู่นาน ได้ยศบรรดาศักดิ์แต่ในหลวงทรงตั้งให้เป็นที่พระราชาคณะ ฐานานุกรม เปรียญ รับนิตยภัตไตรปีได้ แลเทศนาบ้าง บังสุกุลบ้าง แลรับนิมนต์ในการพิธีอื่น ๆ บ้าง หรือเป็นพระครูเจ้าอธิการ แลอนุจรก็ดี ได้เทศนาบังสุกุลรวบรวมเฟื้องสลึงบาทไว้ได้มาก ถ้าเราเกลี้ยกล่อมให้สึกออกมาเป็นผัวได้ ก็คงจะทอดเทฝากตัวกลัวเรา จะได้มอบหมายเงินทองที่เก็บไว้ให้แก่เราทั้งสิ้น คงอยู่ในอำนาจเรา ๆ จะใช้อย่างไรคงได้ดังปรารถนาทุกอย่าง ด้วยคนชาววัดบวชอยู่นาน ไม่เคยพบการชำเราชำเขา ได้พบเข้าแล้ว ก็ตื่นไป งมเซอะไป ดังนั้น จึงคิดกลอุบายเอาบุตรชายไปฝากไว้บ้าง ชักโยงพี่น้องพวกพ้องให้ไปอยู่บ้าง พอได้ไปมาเป็นสนสื่อ แลได้ส่งคาวหวานเปรี้ยวเค็มถวายพระสงฆ์ที่ตนชอบใจอยากได้เป็นผัว หรือเป็นเขยนั้นเนือง ๆ ฝ่ายพระสงฆ์เล่าเป็นชาววัด ได้อุปการเกื้อหนุนสมดังที่คิดไว้ เมื่อยังไม่ได้สึกมักอ้อๆแอ้ๆเข้าประจ๋อประแจ๋ประจบประแจงฝากตัวเป็นญาติเป็นโยม เรียกโยมที่บ้านโยมที่แพ โยมที่ตึก บ้านล่าง บ้านบนดังนี้ มีโดยมาก ครั้นได้คราว ก็สึกออกมากินอยู่ด้วยกันกับนางคนนั้นบ้าง กับน้องสาวแลบุตรของนางคนนั้นบ้าง หรือชำเรากันเสียก่อนแต่ยังไม่สึกบ้าง หญิงพอใจหาพระสงฆ์ชาววัดเป็นผัว พระสงฆ์ชาววัดที่สึกออกมาพอใจหาหญิงม่ายหญิงขึ้นคานเป็นภรรยา อย่างนี้ก็มีชุกชุมมากนักทุกหนทุกแห่ง จะระบุชื่อว่าคนนี้ คนนั้น คู่นี้ คู่นั้น จะพรรณนาไปก็จะไม่สิ้นสุดลง แลเป็นเครื่องเคืองหูรำคาญใจ ท่านที่มีแผลไม่พอใจฟัง เพราะฉะนั้น ข้าพเจ้าขอเตือนสติท่านทั้งปวงที่อ้างชื่อมาแล้วให้รู้ว่า พระบาทสมเเด็จพระเจ้าแผ่นดิน มีพระราชหฤทัยประสงฆ์จะทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาให้บริสุทธิ์ มิให้มัวหมองเป็นมลทิน แลให้รุ่งเรืองเจริญเป็นประโยชน์แก่ไพร่ฟ้าข้าแผ่นดินเป็นอันมาก แลมีพระราชประสงค์จะทำนุบำรุงแผ่นดินทั่วพระราชอาณาจักร ให้อยู่เย็นเป็นสุขทั้งไพร่ฟ้าข้าแผ่นดิน สมณพราหมณาจารย์ จึงโปรดเกล้า ฯ เตือนสติให้ระวังตัวกลัวผิดด้วยกัน ทั่วทุกคนทั้งชาววัดชาวบ้านว่า ตั้งแต่นี้สืบไป ถ้าผู้หญิงหาพระเป็นผัว หรือพระหาหญิงม่ายหญิงขึ้นคานเป็นภรรยา แลทำการสนสื่อไปมาเพื่อเมถุนสังวาสแล้ว มีผู้มาโจทนาว่ากล่าว สืบได้ความเป็นสัจ จะให้ปรับไหมมีโทษตามพระราชบัญญัติ แลจะปรับพระสงฆ์ที่อยู่ใกล้เคียง ในที่รังวัด ๓ เส้น ๑๕ วา หรือชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงรู้เห็นเป็นใจ ไม่ว่ากล่าว แลไม่ฟ้องร้อง แกล้งเพิกเฉยปิดความนิ่งเสีย จะปรับให้เสียรังวัดในการบุญ คืออยู่ในที่ ๓ เส้น ๑๕ วา ได้รู้เห็น ให้ทำวัดถากหญ้า รื้อขนอิฐปูน ใช้ในการบุญกว่าจะครบตามกำหนดรังวัด ที่ใกล้แลไกลตามสมควร เมื่อสตรีใด ๆ มีความเกี่ยวข้องด้วยเรื่องพระสงฆ์ดังว่ามานี้ หรือพระสงฆ์ชาววัดที่จะสึก ได้มีความเกี่ยวข้องด้วยเรื่องผู้หญิง คือหาภรรยาแต่ยังเป็นพระสงฆ์อยู่ก็ดี มีอยู่สักกี่แห่งกี่ราย ก็จะให้มาลุกะโทษเสียโดยตรง อย่าให้ปิดบังไว้ให้เนิ่นช้าเกิน ๑๕ วัน จะโปรดยกโทษให้ ถ้ามีคดีเกี่ยวข้อง ในกำหนด ๑๕ วัน มีปากโจทก์หรือผู้มาฟ้องร้องว่ากล่าว หรือกราบทูลพระกรุณาให้ขุ่นเคืองฝ่าละอองธุลีพระบาทก็ดี จะให้ปรับไหมมีโทษจงหนัก เสมอกับคนที่เป็นปาราชิก ทั้งชาววัดแลชาวบ้านจะให้เสียรังวัดกึ่งผู้ผิด
ประกาศมา ณ ปีมะเมีย สัมฤทธิศก
ขุนปฏิภาณพิจิตร เป็นผู้รับสั่ง
เห็นว่าไม่ใช่ทางของคนฉลาด เป็นหนทางของคนเสียจริต แลคนที่ใกล้จะเสียจริต
๑๖๕. ประกาศผู้ถือศาสนาแลผู้ถือผิด
(ปีมะเมีย สัมฤทธิศก)
ว่าธรรมเนียมผู้ครองแผ่นดินที่เป็นยุติธรรม มิได้ห้ามได้ราษฎรทั้งปวงในการถือศาสนาที่พึ่งของตัว ๆ ในที่สุดแลการเบื้องหน้า ทรงอนุญาตยอมให้คนนับถือตามอัธยาศัย
ด้วยว่าการถือศาสนา ลางสิ่งก็ต้องกัน เหมือนอย่างไม่ฆ่าสัตว์ ไม่ลักทรัพย์ ไม่ล่วงเกินในการเมถุนสังวาสทำชู้ภรรยาของผู้อื่น แลไม่เจรจาคำเท็จ แลไม่เสพสุรา แลอดความโกรธ มีเมตตากรุณาแก่กัน แลซื่อสัตว์ กตัญญูกตเวที แลให้ปันสิ่งของ เฉลี่ยความสุขแก่กัน แลทำความดีอื่น ๆ ซึ่งเป็นคุณประโยชน์แก่กัน ก็มีอีกหลายอย่าง คนทุกชาติ ทุกภาษา ทุกศาสนา ก็เห็นพร้อมกันว่า เป็นความดีความชอบ เป็นยุติธรรม ก็ลางสิ่งซึ่งเป็นการขัดต่อการแผ่นดินบ้านเมือง ถึงคนบางจำพวกที่เป็นคนใกล้จะเสียจริตนับถือว่าใครทำได้เป็นคนดีมีศรัทธาแก่กล้า จะเห็นว่าเป็นบุญกุศลมาก ด้วยได้ฟังคำเล่าลือ แลได้ฟังพระสงฆ์บางรูปที่ไม่ได้เล่าเรียนศึกษาพระไตรปิฎกธรรมให้รู้จริง มาเทศนาเลอะ ๆ ลาม ๆ ใกล้จะเสียจริต พรรณนาสรรเสริญว่าเป็นบุญกุศลมาก แล้วหลงใหลเห็นตามไป เหมือนอย่างเผาตัวบูชาพระรัตนตรัย แลเชือดคอเอาศรีษะบูชาพระ เชือดเนื้อรองเลือดใส่ตะเกียงตามบูชา แลทำการอื่นที่ขัดต่อราชการแผ่นดินก็ดี มีโดยชุกชุม เหมือนอย่างสามเณรสุกเผาตัวที่วัดหงสาราม แลนายเรือง นายนก เผาตัวบูชาพระที่หน้าพระอุโบสถวัดอรุณราชวราราม แลนางชีผู้หนึ่งเผาตัวบูชาพระพุทธบาท เป็นตัวอย่างเห็นอยู่ทั่วกันดังนี้ ผู้ครองแผ่นดินที่เป็นธรรม แลท่านเป็นคนฉลาดทั้งปวง ไม่เห็นว่าเป็นความดีความชอบด้วยเลยแต่สักศาสนาหนึ่ง ก็การเผาตัวบูชาพระก็ดี เชือดเนื้อรองโลหิตใส่ตะเกียงตามบูชาพระก็ดี ตัดศรีษะบูชาพระก็ดี เห็นว่าไม่ใช่ทางของคนฉลาด เป็นหนทางของคนเสียจริต แลคนที่ใกล้จะเสียจริต ไม่ควรที่คนทั้งปวงจะเห็นว่าเป็นการบุญการกุศลในพระพุทธศาสนา นักปราชญ์ที่ได้ค้นหาในพระคัมภีร์ที่ควรเชื่อได้ว่าเป็นพระบาลีพุทธภาษิต หรือสาวกภาษิตในศาสนาก็ไม่พบเห็นเลยแต่สักแห่งหนึ่งว่าการทำอย่างนั้นเป็นบุญเป็นกุศล ถึงจะมีในหนังสือแปล ร้อยที่พระสงฆ์ซุ่มซ่ามเทศนา ลวงสัปปุรุษที่โง่ ๆ ตื่น ๆ ให้นับถืออยู่บ้างก็ดี เมื่อพิเคราะห์ดูจริง ๆ ก็เห็นว่าไม่ใช่สำนวนในพระศาสนา ชะรอยจะเป็นสำนวนของคนที่โง่ ๆ ตื่น ๆ ใกล้จะเสียจริตแน่แล้ว อย่าให้ใครเชื่อฟังเอาเป็นตัวอย่างเลยเป็นอันขาด ถึงในพระวินัยบัญญัติก็ให้ห้ามไว้ มิให้พระสงฆ์ชักชวนคนให้ฆ่าตัว ถ้าพระสงฆ์รูปใดชักชวนมนุษย์ให้ตายด้วยวจีประโยค ก็เป็นปาราชิก เพราะฉะนั้น จึงเห็นว่าไม่ใช่การบุญการกุศล ไม่ควรอนุโมทนายอมตามเลย เป็นการขัดต่อแผ่นดิน ถึงในพระศาสนาอื่น ๆ ก็เห็นว่าจะไม่มีใครสรรเสริญ ว่าเป็นความดีมีความชอบแต่สักแห่งเลย
เพราะฉะนั้น ตั้งแต่นี้สืบไป อย่าให้ใครเผาตัวบูชาพระ ตัดศรีษะบูชาพระ เชือดเนื้อรองโลหิตตามตะเกียงบูชาพระเลยเป็นอันขาด เพราะว่าเป็นการขัดต่อราชการแผ่นดิน เมื่อผู้ใดได้เห็นใครเผาตัวบูชาพระ ก็ดี หรือได้เห็นใครผูกคอตาย โจนน้ำตายก็ดี ก็ให้เข้าช่วย ว่ากล่าวห้ามปราม แย่งชิงเครื่องศัสตราวุธ จะเข้าแย่งชิงมิได้ก็ให้ร้องบอกเรียกผู้อื่นมาให้ช่วยกันห้ามปราม ผู้ซึ่งได้รู้เห็นแลจะนั่งดูดายเสีย ไม่ห้ามปราม หรือจะพลอยเห็นว่าได้บุญได้กุศลนั้นไม่ได้ ถ้าผู้ใดได้รู้เห็นแล้วดูดายเสีย ไม่ว่ากล่าวห้ามปราม แย่งชิงเครื่องศัสตราวุธ หรือไม่ช่วยตัดเชือกก็ดี จะให้ผู้นั้นเสียเบี้ยปรับตามรังวัดถ้าผู้รู้เห็นอยู่ในที่ใกล้
อนึ่ง สตรีที่เป็นม่ายผัวอย่า ผัวตาย ร้างมานาน ๆ ขึ้นคานอยู่ หรือหญิงสะเทิ้นที่ตั้งแต่เล็กยังไม่เคยพบชาย ขึ้นคานอยู่นาน ๆ ย่อมสืบเสาะหาผัวที่ไม่มีภรรยา วิสัยคนที่เป็นคฤหัสถ์ ก็มีภรรยาทุกคนด้วยกัน ไม่ใคร่มีใครว่างเปล่าอยู่ ฝ่ายพระสงฆ์บวชอยู่นาน ไม่มีภรรยา เป็นคนว่างเปล่าอยู่ ถ้าให้สึกออกมา ได้เป็นผัวจะดี พระสงฆ์เล่าบวชอยู่นาน ได้ยศบรรดาศักดิ์แต่ในหลวงทรงตั้งให้เป็นที่พระราชาคณะ ฐานานุกรม เปรียญ รับนิตยภัตไตรปีได้ แลเทศนาบ้าง บังสุกุลบ้าง แลรับนิมนต์ในการพิธีอื่น ๆ บ้าง หรือเป็นพระครูเจ้าอธิการ แลอนุจรก็ดี ได้เทศนาบังสุกุลรวบรวมเฟื้องสลึงบาทไว้ได้มาก ถ้าเราเกลี้ยกล่อมให้สึกออกมาเป็นผัวได้ ก็คงจะทอดเทฝากตัวกลัวเรา จะได้มอบหมายเงินทองที่เก็บไว้ให้แก่เราทั้งสิ้น คงอยู่ในอำนาจเรา ๆ จะใช้อย่างไรคงได้ดังปรารถนาทุกอย่าง ด้วยคนชาววัดบวชอยู่นาน ไม่เคยพบการชำเราชำเขา ได้พบเข้าแล้ว ก็ตื่นไป งมเซอะไป ดังนั้น จึงคิดกลอุบายเอาบุตรชายไปฝากไว้บ้าง ชักโยงพี่น้องพวกพ้องให้ไปอยู่บ้าง พอได้ไปมาเป็นสนสื่อ แลได้ส่งคาวหวานเปรี้ยวเค็มถวายพระสงฆ์ที่ตนชอบใจอยากได้เป็นผัว หรือเป็นเขยนั้นเนือง ๆ ฝ่ายพระสงฆ์เล่าเป็นชาววัด ได้อุปการเกื้อหนุนสมดังที่คิดไว้ เมื่อยังไม่ได้สึกมักอ้อๆแอ้ๆเข้าประจ๋อประแจ๋ประจบประแจงฝากตัวเป็นญาติเป็นโยม เรียกโยมที่บ้านโยมที่แพ โยมที่ตึก บ้านล่าง บ้านบนดังนี้ มีโดยมาก ครั้นได้คราว ก็สึกออกมากินอยู่ด้วยกันกับนางคนนั้นบ้าง กับน้องสาวแลบุตรของนางคนนั้นบ้าง หรือชำเรากันเสียก่อนแต่ยังไม่สึกบ้าง หญิงพอใจหาพระสงฆ์ชาววัดเป็นผัว พระสงฆ์ชาววัดที่สึกออกมาพอใจหาหญิงม่ายหญิงขึ้นคานเป็นภรรยา อย่างนี้ก็มีชุกชุมมากนักทุกหนทุกแห่ง จะระบุชื่อว่าคนนี้ คนนั้น คู่นี้ คู่นั้น จะพรรณนาไปก็จะไม่สิ้นสุดลง แลเป็นเครื่องเคืองหูรำคาญใจ ท่านที่มีแผลไม่พอใจฟัง เพราะฉะนั้น ข้าพเจ้าขอเตือนสติท่านทั้งปวงที่อ้างชื่อมาแล้วให้รู้ว่า พระบาทสมเเด็จพระเจ้าแผ่นดิน มีพระราชหฤทัยประสงฆ์จะทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาให้บริสุทธิ์ มิให้มัวหมองเป็นมลทิน แลให้รุ่งเรืองเจริญเป็นประโยชน์แก่ไพร่ฟ้าข้าแผ่นดินเป็นอันมาก แลมีพระราชประสงค์จะทำนุบำรุงแผ่นดินทั่วพระราชอาณาจักร ให้อยู่เย็นเป็นสุขทั้งไพร่ฟ้าข้าแผ่นดิน สมณพราหมณาจารย์ จึงโปรดเกล้า ฯ เตือนสติให้ระวังตัวกลัวผิดด้วยกัน ทั่วทุกคนทั้งชาววัดชาวบ้านว่า ตั้งแต่นี้สืบไป ถ้าผู้หญิงหาพระเป็นผัว หรือพระหาหญิงม่ายหญิงขึ้นคานเป็นภรรยา แลทำการสนสื่อไปมาเพื่อเมถุนสังวาสแล้ว มีผู้มาโจทนาว่ากล่าว สืบได้ความเป็นสัจ จะให้ปรับไหมมีโทษตามพระราชบัญญัติ แลจะปรับพระสงฆ์ที่อยู่ใกล้เคียง ในที่รังวัด ๓ เส้น ๑๕ วา หรือชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงรู้เห็นเป็นใจ ไม่ว่ากล่าว แลไม่ฟ้องร้อง แกล้งเพิกเฉยปิดความนิ่งเสีย จะปรับให้เสียรังวัดในการบุญ คืออยู่ในที่ ๓ เส้น ๑๕ วา ได้รู้เห็น ให้ทำวัดถากหญ้า รื้อขนอิฐปูน ใช้ในการบุญกว่าจะครบตามกำหนดรังวัด ที่ใกล้แลไกลตามสมควร เมื่อสตรีใด ๆ มีความเกี่ยวข้องด้วยเรื่องพระสงฆ์ดังว่ามานี้ หรือพระสงฆ์ชาววัดที่จะสึก ได้มีความเกี่ยวข้องด้วยเรื่องผู้หญิง คือหาภรรยาแต่ยังเป็นพระสงฆ์อยู่ก็ดี มีอยู่สักกี่แห่งกี่ราย ก็จะให้มาลุกะโทษเสียโดยตรง อย่าให้ปิดบังไว้ให้เนิ่นช้าเกิน ๑๕ วัน จะโปรดยกโทษให้ ถ้ามีคดีเกี่ยวข้อง ในกำหนด ๑๕ วัน มีปากโจทก์หรือผู้มาฟ้องร้องว่ากล่าว หรือกราบทูลพระกรุณาให้ขุ่นเคืองฝ่าละอองธุลีพระบาทก็ดี จะให้ปรับไหมมีโทษจงหนัก เสมอกับคนที่เป็นปาราชิก ทั้งชาววัดแลชาวบ้านจะให้เสียรังวัดกึ่งผู้ผิด
ประกาศมา ณ ปีมะเมีย สัมฤทธิศก