อยากเชื่อลองพิสูจน์หรือยัง ศาสนา วิทยาศาสตร์ อะไรจริงกันแน่ มีอะไรจะเล่าให้ฟังครับ

หลังจากตลอดเวลาที่สงสัยใน ความเป็นจริงของโลกนี้ และไม่เคยเชื่ออีกทั้งยังปฏิเสธ ความเชื่อเกี่ยวกับศาสนา ถ้าย้อนไปดูกระทู้เก่าๆ ทั้งของผม และ. ที่เคยไปตอบ จะรู้ว่าผมเคยเป็นคนนึง ที่เคยคิดว่าตัวเองฉลาดซะเหลือเกิน กับความรู้อันต่ำต้อย เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ มันทำให้ผม เคยเหยียดคนที่เชื่อศาสนาต่างๆมาแล้ว หลายต่อหลายครั้ง แต่ยิ่งเอาความคิดนี้มาข่มคนอื่น ผมกลับยิ่งรู้สึกโง่อยู่ลึกๆ ไอ่ความคิดที่ว่าศาสนามันพิสูจอะไรไม่ได้ งมงาย เงอะงะ ล้าสมัย เดี๋ยวนี้มันยุคไหนกันแล้ว มันปิดกั้นผมจากมุมองอื่นๆ เมื่อผมเห็นปัญหาตรงนี้ ผมเลยเปิดใจเอาไว้ ถ้าเพื่อว่ามีอะไรผิดพลาด แต่ก็ไม่ได้ขวนขวาย ที่จะหาคำตอบ ถ้าพูดกันตรงๆ  ในความคิดอันคับแคบของผมตอนนั้น ศาสนาพุทธก็คงจะมีอะไรให้เลือกเชื่อได้อยู่นิดหน่อย เวลาผ่านไป กับความสงสัย ที่ไม่ได้ถูกแก้ไข ผมยังคงเป็นคนที่คิดว่าตัวเองเป็นคนในศาสนา วิทยาศาสตร์ ที่มีไอน์ไสตน์ เป็นศาสดา  แต่อยู่ๆวันนีง ก็นึกอยากจะลองหาคำตอบดู จนกระทั่งไปเจอกับ คำๆหนึ่งที่พระตถาคตเคยตรัสไว้ “ธรรมไม่สามารถรู้ได้ ด้วยการตรึกตรอง แต่ต้องอาศัย การปฏิบัติไปตามลำดับ “ ในความคิดตอนนั้น เหมือนโดนกระชาก ให้หันกลับมามองศาสนาพุทธใหม่  แต่ด้วยความโง่เขลา ก็ยังไม่เชื่อซะที่เดียว เพราะอะไรนะเหรอ เพราะมันพิสูจน์ ไม่ได้ไง ผมเป็นคนรุ่นใหม่ อะไรที่พิสูจน์ไม่ได้ เชื่อก็บ้าแล้ว แต่ก็ยังไม่ตัดใจซะที่เดียว ค้นหาต่อไป  แล้วก็ต้องสะดุ้งอีกครั้ง เมื่อเจอกับอาณาปานสติ อ้าว นี้ไง พระพุทธเจ้าให้เครื่องพิสูจน์ไว้ด้วย ความคิดแรกคือ มันจะเป็นไปได้ไง  แค่มานั่งหลับตา  ยังไม่เชื่อง่ายๆหรอกหน่า อ่านต่อๆไปๆ เอาเฉพาะเนื้อๆ ของศาสนาเรา ทุกวันนี้ ในวัดมีแต่น้ำ ไปเจอ หลายๆเรื่อง ทั้ง ปฎิจสมุปบาท อริยมรรค โอ้ ชักเริ่มเข้าท่าแล้วสิ แต่ก็ยังไม่เชื่อเรื่องอื่นๆอยู่ดี ไอ้เรื่องพวกนี้มันก็แค่ ปรัชญา แล้วอยู่ๆก็นึกคึก อยากจะบวช ไม่ใช่ตามประเพณี หรือ เอาบุญเอาคุณอะไรหรอก แต่ต้องการจะเข้าไปพิสูจน์ จากผู้รู้ทางนี้โดยตรง ดูซิ วิทยศาสตร์ หรือ ศาสนาจะแน่กว่ากัน ว่าแล้ว ก็อัดข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ พร้อมทั้งคำถามเต็มหัว พร้อมกับบอกทุกคนในบ้านว่าจะบวช หลังจากเคลียร์อะไรเรียบร้อย ก็บวชเลย ไม่มีฤกษ์ ยาม อะไรทั้งนั้น พอบวช ก็ได้ถามอย่างที่ตั้งใจไว้ แต่ก็ไม่ได้คำตอบ จนกระทั่งมานึกได้ว่า นี้ไงทางสุดท้าย จะได้รู้ว่าจริงไม่จริงก็ตรงนี้แหละ เครื่องมือพิสูจน์ อาณาปนสติ ถ้าไม่ได้อีกก็คือจบ เพราะนี้เป็นเครื่องพิสูจน์ในพระตถาคตด้วย เพราะท่านเป็นคนพูดเอง แรกก็หาหนังสือมาอ่าน การปฏิบัติ ยอมรับว่าอ่านแล้วงง ไม่เข้าใจ แถมยังคิดไปอีกว่า เรื่องที่เจอในการปฏิบัติ ก็เป็นเพราะการจินตนาการ ปรุงแต่งไปเอง เอาละทีนี้ ขั้นตอนสุดท้าย ทำมันซะเลย และนี้แหละ คือจุดพลิก หน้ามือเป็นหลังมือ ทุกอย่างที่พระองค์ตรัสไว้ พิสูจน์ได้จริงๆ ไม่ไช่การปรุงแต่ง หรือ จินตนาการ ย้ำเลยว่าไม่ไช่การปรุง นึกคิดไปเอง พระองค์ตรัสไว้ยังไง เป็นอย่างที่ท่านว่าไว้ทุกอย่าง ถึงตอนนี้รู้สึกเสียใจที่เคยดูถูกเรื่องเหล่านี้ไว้ และ ปลื้ม ในพระศาสดามากๆ ย้ำว่านี้ไม่ไช่เรื่องอิทธิฤทธิ์. ปาฎิหาร์ย แต่อย่างใด แต่มันคือเรื่องจริง ที่อยู่ในคุณทุกๆคน แต่กลับไม่เคยมองมันเลย ถ้าคุณยังไม่เชื่อ ก็ลองทำเองมันซะเลย แล้วคุณจะรู้ว่า พระพุทธเจ้าท่านเก่งมาก และ คุณจะยิ่งศรัทธาในตัวท่าน อย่าเอาอะไรมาปิดกลั้นตัวคุณ ถ้าคุณต้องการจะพิสูจน์ ถ้าคุณเป็นนักพิสูจน์ คุณต้องลองทำมันในทุกๆด้าน อย่าคิดว่าตัวเองฉลาด เพราะมันจะเป็นกำแพงเห็ก หนา 8เมตร กั้นคุณจากอะไรๆที่คุณไม่เคยเห็น ขอบคุณ pantip ที่เป็นอีกแรงบันดาลใจนึง ที่ทำให้ผมได้พิสูจน์เรื่องนี้ ขอบคุณครับ