สวัสดีอีกครั้งครับ วันนี้ผมก็จะหิ้วเลนส์มือหมุนพาไปชมบรรยากาศร้านกาแฟอีกเช่นเคย จะเรียกรีวิวร้านกาแฟก็คงไม่ได้ เพราะรายละเอียดของเมนูไม่มี รูปถ่ายกาแฟ ถ่ายอาหารก็ไม่ได้เห็น ไม่มีช็อตสวยๆ ของการเทกาแฟให้ดู
อันนั้นเก็บไว้ให้เหล่า Blogger เค้าทำกันแล้วกัน
หรือจะบอกว่ารีวิวเลนส์มือหมุนก็ไม่ได้ เพราะถ่ายมาแบบมองแล้วชอบ ชอบแล้วถ่าย...ไม่มีประวัติ รายละเอียด มีแต่ภาพให้ดู
เอาเป็นว่าด้วยนิสัยชอบนั่งตามร้านกาแฟ ชอบบรรยากาศในร้านกาแฟ แล้วก็ชอบถ่ายภาพ
เลยเก็บบรรยากาศร้านกาแฟน่านั่งแถบชานเมืองร้านนี้มาให้ชมกัน กับร้านที่นิยามตัวเองไว้ว่า story-café-garden
“นิยาย”

ร้านนี้อยู่ออกมาแทบชานเมืองหน่อย อยู่ใน ซอยทุ่งมังกร เขตตลิ่งชัน เข้าซอยมาไม่ไกลมาก Google Map แม่นยำไม่ทำให้เราหลงทาง ร้านนี้ไม่ต้องกังวลเรื่องที่จอดรถครับ มีให้จอดได้เยอะอยู่ทีเดียว

จากลานจอดรถมีทางเดินเข้าด้านในร้าน บริเวณนี้มีที่นั่ง outdoor อยู่นิดหน่อย แต่อากาศร้อนๆแบบนี้ เราเข้าไปข้างในกันเถอะ ส่วนตัวผมชอบกำแพงที่เป็นรั้วใบไม้ มันดูสดชื่น ร่มรื่นดีทีเดียว ที่สำคัญ รั้วแบบนี้ถ่ายรูปเรียกโบเก้สวยๆดีนักแล...
บริเวณโซน outdoor มีน้ำพุตั้งอยู่ไม่รู้จะถ่ายอย่างไรให้สวย เอาแบบนี้ล่ะกัน


อ้อ อาวุธหลักที่พกพามาด้วยวันนี้ เป็น Sony A7 กับเลนส์มือหมุน carl zeiss jena pancolar 1.8/50 zebra ตัวนี้ชิ้นเลนส์ไม่เหลืองนะครับ
เป็นเลนส์ที่ได้มาต่ำกว่าราคาตลาดพอสมควร เนื่องจากสภาพไม่ค่อยสวยนัก บอดี้ลอก ชิ้นเลนส์มีขนแมว แต่แคร์อะไรครับ ถ้ายังได้ภาพขนาดนี้

ส่วนกล้องฟิล์มเป็น Olympus Om-2n ตัวนี้พกไปด้วย แต่ฟิล์มยังเหลืออีกเยอะ อีกนานครับกว่าจะได้ล้าง
เดินเข้าร้านไปหาที่นั่งกันดีกว่าครับ เค้ายินดีต้อนรับเราด้วยแหละครับ

ภาพที่ถ่ายจะมีการ set creative style ที่กล้องเป็น landscape, standard และ Natural ตามลักษณะภาพที่อยากจะได้ การตกแต่งภาพจะแอพในมือถือในการครอป และมีการดึงแสงแค่บางภาพ ส่วนใหญ่ก็แสง สี เดิมๆจากกล้องและเลนส์ครับ
เข้าร้านมาแล้ว เรานั่งโต๊ะนี้กันครับ “คำนำ”

ข้อดีของเลนส์ Pancolar ตัวนี้ก็คือ close focus ที่ถือว่าใกล้มากพอสมควรของเลนส์ระยะ normal ทำให้สนุกกับการจ่อเพื่อถ่ายได้มากยิ่งขึ้น
และแหวนโฟกัสที่ค่อนข้างละเอียด ช่วยให้ง่ายต่อการหมุนให้เข้าอย่างแม่นยำครับ (ที่ดูเบลอๆบ้าง เพราะจ่อเข้าไปมากแล้ว Dof มันบางครับ)
เมนูที่สั่ง วันนี้ก็มี ลาเต้ร้อน พายฟักทอง เป็นพายที่มีรสชาติคล้ายๆฟักทองสังขยารสชาติไม่หวานมาก ผมชอบนะครับ ส่วนกาแฟถือว่ามาตรฐานทั่วๆไป

ร้านนี้ใช้ถ้วยชามที่ลวดลายสวยคลาสสิคดีครับ ชอบ ^^
เมนูอื่นๆที่สั่งก็จะเป็น เค้กแมคคาเดเมีย อันนี้ก็อร่อยดี กับกาแฟเย็นครับ
จริงๆร้านนี้มีอาหารจานเดียวด้วยนะครับ แต่เพิ่งทานข้าวมาก่อนเข้าร้าน เลยไม่ได้ลองชิม
ดอกไม้ที่แถมมาบนพายฟักทองสวยดีครับ ชอบเป็นการส่วนตัว

โดยรวมรสชาติของขนม ผมชอบครับ ส่วนกาแฟถือว่าได้มาตรฐาน เรื่องราคา เครื่องดื่มอย่างกาแฟถือว่าราคากลางๆครับ ส่วนเครื่องดื่มอื่นๆ เฉลี่ยกันไป ราคากลางถึงค่อนข้างสูงในบางรายการ ส่วนของขนมถือว่าราคากลางค่อนไปทางสูง แต่ก็ยังถูกว่าร้านในใจกลางเมือง
ส่วนตัวยอมรับได้ในราคาครับ เพราะถือว่า ขายเสน่ห์ในการจัดแต่งร้านไปด้วย
ปล. เจ้าของร้านดูแลดีครับร้านนี้
มาชมบรรยากาศภายในร้านกันดีกว่าครับ





วันนี้ทางร้านคนไม่เยอะ สงสัยเพราะเป็นวันหยุดยาว เลยเดินถ่ายรูปเล่นได้พอสมควร
ภาพจากบริเวณด้านนอกบ้างครับ




วันนี้สังเกตุเห็นมีคนมาทำรีวิวร้านด้วย มีสัมภาษณ์พูดคุย แล้วก็ช่างภาพ แต่ช่างเหอะ เราถ่ายแบบสะดวกของเราล่ะกัน
บริเวณภายในร้านต่ออีกหน่อยครับ





สรุปโดยรวม
เลนส์ตัวนี้เป็นเลนส์ที่ดี น่าใช้มากเลยที่เดียวครับกับ carl zeiss pancolar 50/1.8 ตัวนี้
ส่วนร้าน “นิยาย” มีไปซ้ำแน่นอนครับ
ขอบคุณที่รับชมนะครับ ผิดพลาดประการใดก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ ^^
เลนส์มือหมุนกับร้านกาแฟ..."นิยาย"
อันนั้นเก็บไว้ให้เหล่า Blogger เค้าทำกันแล้วกัน
หรือจะบอกว่ารีวิวเลนส์มือหมุนก็ไม่ได้ เพราะถ่ายมาแบบมองแล้วชอบ ชอบแล้วถ่าย...ไม่มีประวัติ รายละเอียด มีแต่ภาพให้ดู
เอาเป็นว่าด้วยนิสัยชอบนั่งตามร้านกาแฟ ชอบบรรยากาศในร้านกาแฟ แล้วก็ชอบถ่ายภาพ
เลยเก็บบรรยากาศร้านกาแฟน่านั่งแถบชานเมืองร้านนี้มาให้ชมกัน กับร้านที่นิยามตัวเองไว้ว่า story-café-garden
“นิยาย”
จากลานจอดรถมีทางเดินเข้าด้านในร้าน บริเวณนี้มีที่นั่ง outdoor อยู่นิดหน่อย แต่อากาศร้อนๆแบบนี้ เราเข้าไปข้างในกันเถอะ ส่วนตัวผมชอบกำแพงที่เป็นรั้วใบไม้ มันดูสดชื่น ร่มรื่นดีทีเดียว ที่สำคัญ รั้วแบบนี้ถ่ายรูปเรียกโบเก้สวยๆดีนักแล...
บริเวณโซน outdoor มีน้ำพุตั้งอยู่ไม่รู้จะถ่ายอย่างไรให้สวย เอาแบบนี้ล่ะกัน
อ้อ อาวุธหลักที่พกพามาด้วยวันนี้ เป็น Sony A7 กับเลนส์มือหมุน carl zeiss jena pancolar 1.8/50 zebra ตัวนี้ชิ้นเลนส์ไม่เหลืองนะครับ
เป็นเลนส์ที่ได้มาต่ำกว่าราคาตลาดพอสมควร เนื่องจากสภาพไม่ค่อยสวยนัก บอดี้ลอก ชิ้นเลนส์มีขนแมว แต่แคร์อะไรครับ ถ้ายังได้ภาพขนาดนี้
ส่วนกล้องฟิล์มเป็น Olympus Om-2n ตัวนี้พกไปด้วย แต่ฟิล์มยังเหลืออีกเยอะ อีกนานครับกว่าจะได้ล้าง
เดินเข้าร้านไปหาที่นั่งกันดีกว่าครับ เค้ายินดีต้อนรับเราด้วยแหละครับ
เข้าร้านมาแล้ว เรานั่งโต๊ะนี้กันครับ “คำนำ”
ข้อดีของเลนส์ Pancolar ตัวนี้ก็คือ close focus ที่ถือว่าใกล้มากพอสมควรของเลนส์ระยะ normal ทำให้สนุกกับการจ่อเพื่อถ่ายได้มากยิ่งขึ้น
และแหวนโฟกัสที่ค่อนข้างละเอียด ช่วยให้ง่ายต่อการหมุนให้เข้าอย่างแม่นยำครับ (ที่ดูเบลอๆบ้าง เพราะจ่อเข้าไปมากแล้ว Dof มันบางครับ)
เมนูที่สั่ง วันนี้ก็มี ลาเต้ร้อน พายฟักทอง เป็นพายที่มีรสชาติคล้ายๆฟักทองสังขยารสชาติไม่หวานมาก ผมชอบนะครับ ส่วนกาแฟถือว่ามาตรฐานทั่วๆไป
ร้านนี้ใช้ถ้วยชามที่ลวดลายสวยคลาสสิคดีครับ ชอบ ^^
เมนูอื่นๆที่สั่งก็จะเป็น เค้กแมคคาเดเมีย อันนี้ก็อร่อยดี กับกาแฟเย็นครับ
จริงๆร้านนี้มีอาหารจานเดียวด้วยนะครับ แต่เพิ่งทานข้าวมาก่อนเข้าร้าน เลยไม่ได้ลองชิม
ดอกไม้ที่แถมมาบนพายฟักทองสวยดีครับ ชอบเป็นการส่วนตัว
โดยรวมรสชาติของขนม ผมชอบครับ ส่วนกาแฟถือว่าได้มาตรฐาน เรื่องราคา เครื่องดื่มอย่างกาแฟถือว่าราคากลางๆครับ ส่วนเครื่องดื่มอื่นๆ เฉลี่ยกันไป ราคากลางถึงค่อนข้างสูงในบางรายการ ส่วนของขนมถือว่าราคากลางค่อนไปทางสูง แต่ก็ยังถูกว่าร้านในใจกลางเมือง
ส่วนตัวยอมรับได้ในราคาครับ เพราะถือว่า ขายเสน่ห์ในการจัดแต่งร้านไปด้วย
ปล. เจ้าของร้านดูแลดีครับร้านนี้
มาชมบรรยากาศภายในร้านกันดีกว่าครับ
วันนี้ทางร้านคนไม่เยอะ สงสัยเพราะเป็นวันหยุดยาว เลยเดินถ่ายรูปเล่นได้พอสมควร
ภาพจากบริเวณด้านนอกบ้างครับ
วันนี้สังเกตุเห็นมีคนมาทำรีวิวร้านด้วย มีสัมภาษณ์พูดคุย แล้วก็ช่างภาพ แต่ช่างเหอะ เราถ่ายแบบสะดวกของเราล่ะกัน
บริเวณภายในร้านต่ออีกหน่อยครับ
สรุปโดยรวม
เลนส์ตัวนี้เป็นเลนส์ที่ดี น่าใช้มากเลยที่เดียวครับกับ carl zeiss pancolar 50/1.8 ตัวนี้
ส่วนร้าน “นิยาย” มีไปซ้ำแน่นอนครับ
ขอบคุณที่รับชมนะครับ ผิดพลาดประการใดก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ ^^