เรื่องสั้นวันพุธ (18 เม.ย. 61) : ของชำร่วย

รื่องสั้น..................ของชำร่วย
โดย.........ลิอ่อง


              หลังจากหีบไม้ถูกผลักเข้าไปในช่องสำหรับวางบนเชิงตะกอนแล้ว ก่อนเจ้าหน้าที่จะปิดฝาช่องด้านหน้า พลันมีเสียงผู้ชายท้วงขึ้นค่อนข้างดัง

              “เดี๋ยวก่อนลุง ญาติเขาขอใส่ลังนี่เข้าไปด้วย” เด็กหนุ่มที่ช่วยดูแลศาลาฌาปนกิจอุ้มลังกระดาษสองใบพร้อมกับวิ่งขึ้นบันไดมาหาเขา

              “อะไร ?”

               เขาถามอย่างไม่ค่อยใส่ใจนัก เพราะหน้าที่นี้ทำให้ได้พบเห็นเรื่องราวในลักษณะนี้อยู่เป็นประจำ ยังไม่ทันที่เด็กหนุ่มจะตอบ เมื่อเขายื่นแขนออกไปรับลังใบหนึ่งที่เปิดฝาไว้ ก็แลเห็นว่าภายในคือถุงหรือกระเป๋าซ้อนทับกันจนเต็มลัง เขาค่อยๆ วางลังนั้น แล้วไสมันเข้าไปภายในช้าๆ ก่อนจะปิดฝา ขณะที่มีบางคนช่วยกันยกลังกระดาษอีกหลายใบเดินตามไปติดๆ

                “ทั้งหมดแปดลัง” เด็กหนุ่มรายงาน

                ผู้ที่สูงวัยกว่ารับรู้ด้วยสีหน้าเฉยเมย เขาต้องรอให้ร่างในหีบไม้นั้นมอดไหม้ไปพร้อมกับลังกระดาษใบแรกเสียก่อน จากนั้นจึงทยอยใส่เข้าไปอีกทีละสองสามลังจนกว่าจะหมด เขาถือวิสาสะเปิดฝาลังใบที่สองออก หยิบวัตถุในนั้นขึ้นมาพิจารณาใกล้ๆ และต่อเมื่อเพ่งดูอย่างละเอียดแล้ว เขาจึงรู้ว่า ทุกเส้นสายที่ร้อยรัดกันเป็นรูปทรงกระเป๋าและหูกระเป๋านั้นล้วนทำมาจากถุงหูหิ้วพลาสติกทั้งสิ้น

         

                เป็นครั้งแรกที่เธอได้เห็นกระเป๋าถักหน้าตาออกจะประหลาด เมื่อน้องสาวที่แวะมาหาส่งถุงกระดาษใบเขื่องให้ดูของภายใน

                “คุณยายเต็ม-ยายของปูนาฝากมาให้ แกถักเองนะเนี่ย”

                เธอล้วงมือลงไปในถุงแล้วหยิบขึ้นมาดู กระเป๋าถักหยาบๆ จากเส้นถุงหูหิ้วพลาสติก หรือที่หลายคนเรียกว่า “ถุงก๊อบแก๊บ” เป็นสีขาวเกือบทั้งหมดสองใบ ใบที่สามสีเขียว และใบที่สี่สีออกชมพูอมแดง แต่ละใบขนาดไม่เท่ากันเสียทีเดียว ราวๆ ครึ่งหน้ากระดาษสมุด และมีหูหิ้วที่ถักด้วยวัสดุชนิดเดียวกันเป็นสีเดียวกับตัวกระเป๋า

                สำหรับคนที่นั่งพับถุงหูหิ้วพลาสติกเป็นงานอดิเรกอย่างเธอ ช่างคุ้นตาเหลือเกินกับวัสดุที่ใช้ถักกระเป๋าเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นผิวสัมผัส สี หรือลวดลายใดๆ และแม้มันจะธรรมดาเสียเหลือเกินตรงที่เป็นวัสดุด้อยราคาอย่างถุงพลาสติกที่ผ่านการใช้งานมาแล้ว แต่ที่เธอรู้สึกทึ่งอย่างยิ่งก็คือ คนทำต้องผ่านการคิดเพื่อการออกแบบ และลงมือทำอย่างตั้งอกตั้งใจไม่น้อย โดยเฉพาะเมื่อได้รู้ว่าผู้เป็นเจ้าของงานชิ้นนั้นคือสตรีวัยแปดสิบเจ็ดปี และรู้ถึงจุดประสงค์ที่แท้จริงของกระเป๋าถักเหล่านี้ในครู่ต่อมา

                 “แกจะเอาไว้แจกตอนงานศพตัวเอง” น้องสาวกระซิบบอกทั้งที่อยู่กันสองคน

                 จากคำบอกเล่าของน้องสาว เธอแลเห็นภาพหญิงชราร่างท้วม ผมขาวโพลน ถือไม้เท้าสี่ขาช่วยพยุงเดินเคลื่อนไหวอยู่ภายในบ้านเดี่ยวหลังหนึ่งตามลำพังในยามกลางวัน บ่อยครั้งที่มีเสียงฮัมเพลงดังเป็นท่วงทำนองออกมา

                 “คุณยายแกมีโรคประจำตัวด้วยนะ แกจะปวดตรงไหนสักแห่งนี่แหละ แต่จะร้องครางเป็นเพลงกล่อมตัวเองไปเรื่อยๆ”

                 เป็นเรื่องปกติที่สามคนแม่ลูกในครอบครัวของปูนา เพื่อนของน้องสาวเธอ ที่ต้องออกไปทำงานนอกบ้าน และมักต้องมีสัมภาระต่างๆ ใส่ถุงกลับเข้าบ้านแทบทุกวัน กระทั่งราวสามปีก่อน ผู้อาวุโสสูงสุดของบ้านจึงนึกไปถึงอะไรบางอย่าง แล้วก็เริ่มลงมือทำงานฝีมือที่ออกแบบด้วยตนเอง อันเป็นสิ่งที่ตกทอดมาถึงเธอในยามนี้

                 มือที่เคยจับปากกาและหยิบจับเอกสารในสำนักงานในฐานะข้าราชการประจำกระทรวงหนึ่งของรัฐ บัดนี้ง่วนอยู่กับการคัดเลือกถุงหูหิ้วพลาสติกที่อยู่ในตะกร้า โดยรอบแรกคือ การเลือกเอาถุงใบที่สะอาด ไร้รอยเปื้อน และไม่มีกลิ่น แยกไว้เป็นกลุ่มที่หนึ่ง ส่วนรอบที่สอง คือพวกที่มีรอยรั่ว ฉีกขาด แต่ยังสะอาดดี สำหรับส่วนที่เหลือจากการคัดเลือกแล้ว บางใบที่มีสีสันสวยงามแต่อาจจะมีกลิ่นหรือร่องรอยไม่พึงประสงค์ก็ยังถูกเลือกเก็บไป “ซัก” ในน้ำผงซักฟอก ก่อนจะล้างออกด้วยน้ำสะอาดอีกหนึ่งหรือสองครั้ง แล้วก็นำไปกางผึ่งลมไว้ที่ราวตากผ้าในชายคาบ้านโดยใช้ไม้หนีบผ้าหนีบที่ก้นถุงทั้งสองด้าน หลังจากนั้นอีกสักสองหรือสามชั่วโมง กะว่าถุงแห้งดีแล้ว ร่างท้วมๆ ที่เคลื่อนไหวอย่างเชื่องช้านั้นก็จะจับไม้เท้าพยุงกายออกไปเก็บถุงพวกนี้เข้ามาใส่ตะกร้าพักไว้

                 ส่วนถุงหูหิ้วพลาสติกกลุ่มแรกที่สะอาดดี เมื่อถึงเวลา พวกมันก็จะถูกหยิบขึ้นมาคลี่ออก แล้วใช้ปลายคัตเตอร์กับคมกรรไกรและไม้บรรทัดทำให้มันกลายเป็นริ้วขนาดความกว้างเท่าๆ กัน มัดรวบไว้เป็นพวง ก่อนจะดึงมันออกมาทีละริ้ว แล้วรูดให้เป็นเส้นเพื่อถักด้วยเข็มถักโครเชต์ที่เจ้าตัวคุ้นชิน
    
                  คุณยายเต็มจริงจังกับงานฝีมือครั้งนี้มาก ตั้งใจทำทุกวัน โดยแบ่งเวลาในช่วงเช้าและบ่ายที่ทุกอย่างเอื้ออำนวย เมื่อแขกไปใครมา หลายคนจะได้รับแจกให้นำไปใช้ คุณยายทำดังนี้เรื่อยมา ไม่ยอมรามือแม้จะมีกระเป๋าทรงเดิมนี้เต็มตู้ไม้ใบใหญ่ในปีแรก เมื่อมีคำถามจากทั้งลูกหลานและคนใกล้ชิด เจ้าตัวก็จะตอบยิ้มๆ ว่า

                   “ทำเป็นของชำร่วยงานศพฉันเองไงล่ะ” เมื่อเห็นคนฟังทำหน้างง ก็จะพูดต่อด้วยสีหน้าปกติว่า “อ้าว ยายไม่ได้พูดเล่นนา...บอกแม่ใยปูนาไว้แล้ว ถ้าแม่ตาย ให้แจกกระเป๋าถักในงานศพเอาไปถือตอนจ่ายกับข้าวนะคะ”
      

(ต่อ)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่