สวัสดีค่ะเพื่อนๆชาวบลูแพลนเน็ต
เหมือนกับหลายๆคนที่ฝังตัวอยู่ที่ห้องนี้มานานและได้ความรู้ต่างๆมากมายสำหรับการเดินทางและนี่ก็จะเป็นอีกหนึ่งครั้งที่จะขอมาแชร์ประสบการณ์การเดินทางที่ประทับใจสุดๆสำหรับตัวเองให้กับเพื่อนๆ แต่ออกตัวก่อนเลยว่า ไม่ใช่การท่องเที่ยวราคาประหยัดแต่อย่างใด หมดเงินไปกับเรื่องไม่เป็นเรื่องมากมาย บางอย่างที่จ่ายแพงแบบไร้สาระ ยังไงก็หวังว่าจะได้ประโยชน์ไม่ก็เอาไว้เป็นเยี่ยงอย่างที่ไม่ดีนะคะ
เริ่มจากความตั้งใจว่าจะไปอังกฤษให้ได้ ราวๆมีนาคม ถึง เมษายน 2018 จึงได้เริ่มดำเนินการหาข้อมูลทำวีซ่าและหาเงินใส่บัญชี ทราบมาว่าเราสามารถยื่นขอวีซ่าได้ล่วงหน้านานที่สุด 90 วัน ดังนั้นเราต้องยื่นเรื่องขอวีซ่าราวเดือนธันวา 2017 และก็ผ่านไปด้วยดี
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ https://pantip.com/topic/37235551
เมื่อได้วีซ่ามาแล้ว ก็ดำเนินการเรื่องตั๋วและที่พักและโปรแกรมต่างๆ โดยเพิ่มเติมจากแผนเดิมที่ยื่นขอวีซ่าไป เพราะอันนั้นคือไปจริงๆ ไม่ได้ทำเพื่อยื่นขอวีซ่าเท่านั้น ตอนที่สนุกก็คือตอนวางแผนนี่แหละค่ะ
เริ่มจากตั๋ว
เราแลกไมล์ของการบินไทยไปด้วยค่าภาษีราวๆ 9600++ บาท แต่ภายหลังก็มีเลื่อนวันกลับอีก ก็เพิ่มอีกพันกว่าบาท อาจจะมีคนถามว่า โห แพงจัง ทำไมไม่หาตั๋วโปร ตอนนั้นอะไรประหยัดได้ก็ประหยัดค่ะ 555 แล้วอีกอย่างก็สะสมไมล์มาเพื่อแลกตั๋วอยู่แล้ว จะมาเก็บไว้เพื่อแลก business class หรือไปประเทศที่ตั๋วแพงกว่านี้ เราก็ไม่รู้จะได้ไปเมื่อไหร่ก็เลยแลกไปเลยค่ะ ไม่คิดมาก และแล้วก็เข้าไปเลือกที่นั่งตาม Seat Guru เลยค่ะ เป๊ะมากเว่อร์
ตามมาด้วยโปรแกรม
อันแรกเลยที่ต้องไปให้ได้คือ Warner Bros. Studio Tour – The Making of Harry Potter (สามพันกว่าบาท) เราซื้อผ่าน counter ตอนไปยื่นวีซ่า อันนี้ต้องจ่ายเงินสด เราซื้อพร้อมกับ London Pass - One Day (เกือบสามพัน) ก็เลยทำให้โปรแกรมทุกอย่างต้องเริ่มจากการบรรจุ Harry Potter ลงไปก่อนแล้วอย่างอื่นค่อยตามมา และวันที่ได้ก็คือ 3 เมษา เวลาบ่ายสอง คราวนี้ก็ไปวางโปรแกรมอื่นๆต่อไป
*** ตอนแรกจะกลับวันที่ 9 เมษา โปรแกรมเลยอาจจะค่อนข้างรวนเล็กน้อยและใช้เวลาที่สอนดอนมากเกินไป ***
หลังจากลง Harry Potter เรียบร้อยแล้ว ก็ตามมาด้วย Dublin ค่ะ เป็นหนึ่งในโปรแกรมที่ต้องไปหาเพื่อนที่นั่น เริ่มจากเราวางแผนว่าขาไปเราจะนั่งรถไฟไปและขากลับจะกลับเครื่องบิน ก็เลยเริ่มจากตั๋วรถไฟ เราใช้บริการ Virgin Trains ค่ะ ออกจาก London Euston สุดทางที่ Holyhead และต่อ Ferry ไปที่ Dublin Ferryport ทั้งหมด GBP47.60 ออกจาก Euston 09.10 ไปถึงดับลิน 17.25 โดยประมาณ
เราอยู่ที่นั่นจนถึงวันที่ 3 เมษาแล้วบินกลับมาตอนเช้าตรู่มาลง London Gatwick แล้วต่อรถไฟมา King Cross มาเอากระเป๋าแล้วก็ check-in แล้วก็ไป Harry Potter ต่อ
เราอยู่แถว King Cross จนถึงวันที่ 9 เมษา แล้วนั่งรถไฟไป Edinburgh ค้างหนึ่งคืนแล้วกลับมาลอนดอน แล้ววันรุ่งขึ้นก็ซื้อ private tour ไป Cotswold แล้วค้างที่ Bath หนึ่งคืน แล้วนั่งรถไฟกลับมาลอนดอน แล้วก็อยู่ยาวจนถึงวันที่ 15 เมษาบินกลับตอนสามทุ่มกว่ามาถึงไทยวันที่ 16 เมษาบ่ายสามค่ะ
รายละเอียด พร้อมรูปถ่าย และค่าใช้จ่ายคร่าวๆจะลงแยกให้เป็นส่วนๆนะคะ เริ่ม!!!
ประสบการณ์เที่ยวคนเดียว 20 วัน BKK - London - Dublin - Edinburgh - Bath - BKK (27 Mar - 15 Apr+1)
เหมือนกับหลายๆคนที่ฝังตัวอยู่ที่ห้องนี้มานานและได้ความรู้ต่างๆมากมายสำหรับการเดินทางและนี่ก็จะเป็นอีกหนึ่งครั้งที่จะขอมาแชร์ประสบการณ์การเดินทางที่ประทับใจสุดๆสำหรับตัวเองให้กับเพื่อนๆ แต่ออกตัวก่อนเลยว่า ไม่ใช่การท่องเที่ยวราคาประหยัดแต่อย่างใด หมดเงินไปกับเรื่องไม่เป็นเรื่องมากมาย บางอย่างที่จ่ายแพงแบบไร้สาระ ยังไงก็หวังว่าจะได้ประโยชน์ไม่ก็เอาไว้เป็นเยี่ยงอย่างที่ไม่ดีนะคะ
เริ่มจากความตั้งใจว่าจะไปอังกฤษให้ได้ ราวๆมีนาคม ถึง เมษายน 2018 จึงได้เริ่มดำเนินการหาข้อมูลทำวีซ่าและหาเงินใส่บัญชี ทราบมาว่าเราสามารถยื่นขอวีซ่าได้ล่วงหน้านานที่สุด 90 วัน ดังนั้นเราต้องยื่นเรื่องขอวีซ่าราวเดือนธันวา 2017 และก็ผ่านไปด้วยดี
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เมื่อได้วีซ่ามาแล้ว ก็ดำเนินการเรื่องตั๋วและที่พักและโปรแกรมต่างๆ โดยเพิ่มเติมจากแผนเดิมที่ยื่นขอวีซ่าไป เพราะอันนั้นคือไปจริงๆ ไม่ได้ทำเพื่อยื่นขอวีซ่าเท่านั้น ตอนที่สนุกก็คือตอนวางแผนนี่แหละค่ะ
เริ่มจากตั๋ว
เราแลกไมล์ของการบินไทยไปด้วยค่าภาษีราวๆ 9600++ บาท แต่ภายหลังก็มีเลื่อนวันกลับอีก ก็เพิ่มอีกพันกว่าบาท อาจจะมีคนถามว่า โห แพงจัง ทำไมไม่หาตั๋วโปร ตอนนั้นอะไรประหยัดได้ก็ประหยัดค่ะ 555 แล้วอีกอย่างก็สะสมไมล์มาเพื่อแลกตั๋วอยู่แล้ว จะมาเก็บไว้เพื่อแลก business class หรือไปประเทศที่ตั๋วแพงกว่านี้ เราก็ไม่รู้จะได้ไปเมื่อไหร่ก็เลยแลกไปเลยค่ะ ไม่คิดมาก และแล้วก็เข้าไปเลือกที่นั่งตาม Seat Guru เลยค่ะ เป๊ะมากเว่อร์
ตามมาด้วยโปรแกรม
อันแรกเลยที่ต้องไปให้ได้คือ Warner Bros. Studio Tour – The Making of Harry Potter (สามพันกว่าบาท) เราซื้อผ่าน counter ตอนไปยื่นวีซ่า อันนี้ต้องจ่ายเงินสด เราซื้อพร้อมกับ London Pass - One Day (เกือบสามพัน) ก็เลยทำให้โปรแกรมทุกอย่างต้องเริ่มจากการบรรจุ Harry Potter ลงไปก่อนแล้วอย่างอื่นค่อยตามมา และวันที่ได้ก็คือ 3 เมษา เวลาบ่ายสอง คราวนี้ก็ไปวางโปรแกรมอื่นๆต่อไป
*** ตอนแรกจะกลับวันที่ 9 เมษา โปรแกรมเลยอาจจะค่อนข้างรวนเล็กน้อยและใช้เวลาที่สอนดอนมากเกินไป ***
หลังจากลง Harry Potter เรียบร้อยแล้ว ก็ตามมาด้วย Dublin ค่ะ เป็นหนึ่งในโปรแกรมที่ต้องไปหาเพื่อนที่นั่น เริ่มจากเราวางแผนว่าขาไปเราจะนั่งรถไฟไปและขากลับจะกลับเครื่องบิน ก็เลยเริ่มจากตั๋วรถไฟ เราใช้บริการ Virgin Trains ค่ะ ออกจาก London Euston สุดทางที่ Holyhead และต่อ Ferry ไปที่ Dublin Ferryport ทั้งหมด GBP47.60 ออกจาก Euston 09.10 ไปถึงดับลิน 17.25 โดยประมาณ
เราอยู่ที่นั่นจนถึงวันที่ 3 เมษาแล้วบินกลับมาตอนเช้าตรู่มาลง London Gatwick แล้วต่อรถไฟมา King Cross มาเอากระเป๋าแล้วก็ check-in แล้วก็ไป Harry Potter ต่อ
เราอยู่แถว King Cross จนถึงวันที่ 9 เมษา แล้วนั่งรถไฟไป Edinburgh ค้างหนึ่งคืนแล้วกลับมาลอนดอน แล้ววันรุ่งขึ้นก็ซื้อ private tour ไป Cotswold แล้วค้างที่ Bath หนึ่งคืน แล้วนั่งรถไฟกลับมาลอนดอน แล้วก็อยู่ยาวจนถึงวันที่ 15 เมษาบินกลับตอนสามทุ่มกว่ามาถึงไทยวันที่ 16 เมษาบ่ายสามค่ะ
รายละเอียด พร้อมรูปถ่าย และค่าใช้จ่ายคร่าวๆจะลงแยกให้เป็นส่วนๆนะคะ เริ่ม!!!