ผมอายุ25ดำเนินชีวิตในฐานะลูกชายคนเดียวและไม่เคยนำเรื่องเดือดร้อนมาให้ครอบครัวเลย
จนอายุครบ25ปีชีวิตผมก็เปลี่ยนไปเมื่อผมไม่ได้เป็นชายแท้แต่เป็นเกย์ที่ปกปิดครอบครัวมาโดยตลอดและตอนนี้แม่ก็ได้รับรู้แล้ว
(ในที่นี้คือรู้จากปากคนอื่น ผมยังไม่กล้ากลับบ้านและคุยเปิดอกกับแม่)
ยังหาทางออกไม่ได้เลยครับ
อยากขอความคิดเห็นว่าควรทำอย่างไรกับชีวิตดี
ผมจะเล่าชีวิตของผมและลักษณะนิสัยทั่วไปของผมและแม่ให้รับรู้ครับ
แม่ของผมเป็นผู้หญิงในวัย53+
เธอเป็นหญิงที่ไม่เคยด่าหรือตีหรือพูดคำหยาบให้ผมได้ยินเลยตั้งแต่เด็กจนโต
เธอเป็นคนใจดีเรียบร้อยเป็นแม่บ้านแม่เรือนที่เลี้ยงผมมาโดยไม่ให้ผมทำอะไรเลย
อันนี้คงเป็นตั้งแต่ยายสอนมาว่าเป็นหญิงต้องดูแลสามีและลูก คือเราเป็นครอบครัวคนจีน
ส่วนผม
ผมรู้ตัวเองว่าเป็นเกย์แน่ๆในวัยประมาณม.2
ก่อนน่านั้นก็เป็นแต่ยังหาคำจำกัดเพศตัวเองไม่ได้
ผมใช้ชีวิตที่เป็นเกย์แบบมีเพื่อนเป็นเพศที่สามเพื่อนญเยอะมาก
ทางเพื่อนเองก็รู้ แต่ทางบ้านจะคิดว่าเป็นกลุ่มเรียนเด็กเรียน เพื่อไม่ให้น่าสงสัยมปลายผมพยายามเล่นกีฬากับเพื่อนชายเพื่อให้ทางบ้านสบายใจว่าลูกก็เล่นกับผู้ชาย แต่เพื่อนชายไม่รู้ว่าผมเป็นคือบุคลิกผมจะเงียบมาก
แต่ถ้าอยู่กับเพื่อนสาวนี้จะพูดเยอะน่อยกับเพื่อนเพศที่สามก็คุยเฮฮาแต่ไม่หยาบคายนะ
ก็ข้ามมาในวัย20+ผมก็เริ่มทำงานแต่ทางบ้านก็จะถามไม่มีแฟนเหรอ
พาแฟนมาบ้านบ้างสิที่ทำงานสาวเยอะมั้ย
แต่ผมก็จะบ่ายเบี่ยงตลอดว่า
ไม่มีหรอกทำแต่งานเอาเวลาไหนไปจีบสาว
จนใชีชีวิตหลบๆซ่อนมาตลอด
พอวัย22ผมได้บวชให้แม่ครับ
ผมคิดว่าเป็นสิ่งที่ควรทำและตั้งใจเส้นผมที่ในชีวิตดูแลมาโดยตลอดแม้นวัยเด็กครูปกครองจะหนีบทิ้งตัดแหว่งแค่ไหนก็ไม่เคยโกนจนตอนนี้ผมยอมหัวโล้นเพราะผมคิดว่าสมควรที่จะบวชให้แม่ ทำไมต้องหวงเส้นผมอันนี้ผมก็ไม่ทราบผมว่าคนอื่นน่าจะเป็นเหมือนกันนะ
พอหลังจากบวชเสร็จ
ผมก็กลับมาใช้ชีวิตทำงานวนไปวนไปจนอายุ25เพิ่งมาคิดได้ว่า
เห้ยเราเข้าสู่1/3ของชีวิตแล้วนะ
ที่เหลือ26-75ปีเราควรจะใช้ชีวิตในแบบที่เราอยากเป็นจนผมปรึกษาเรื่องนี้กับหลายๆคนทั้งเพื่อนลูกพี่ลูกน้องจนตอนนี้เรื่องถึงหูแม่แล้วแต่แม่ก็แกล้งเป็นไม่ทราบแล้วไม่ด่าว่าผมเลย
อันนี้ผมเสียใจมากไม่กล้ามองหน้าแม่เลย คือถ้าเป็นแบบด่าว่ายังจะดีกว่า
นี้มาแนวเสียใจและผิดหวังแต่เก็บทุกอย่างไว้มันทำให้ผมคิดโทษตัวเองว่า แม่เราเลี้ยงมาไม่ดุด่าไม่ตีแต่ทำไมเรากลับเป็นแบบนี้ให้ท่านผิดหวังนะ
คือมีใครที่มีปัญหาลูกเป็นเพศที่สามหรือคุณผ่านปัญหาเหล่านั้นมายังไงช่วยแนะนำผมทีครับผมอยากหาทางออกที่ดีที่สุดเพื่อให้ทางบ้านสบายใจ
ตอนนี้ผมทำงานต่างจังหวัดไกลบ้านได้กลับปีล่ะ3-4ครั้งและตอนนี้ก็ไม่กล้ากลับไปสู้หน้าเลย
ได้แต่ส่งเงินช่วยเหลือทุกสิ้นเดือนเป็นค่าจิปาถะ
โทรศัพท์ก็ไม่กล้าคุยกับแม่หาเรื่องบ่ายเบี่ยงว่าทำงานตลอดคุยไม่ถึง10นาที
ทางด้านผมก็มีปัญหาชีวิตผมเองและต้องหาเงินจ่ายค่าต่างๆเพราะว่าตัวคนเดียว
เหมือนไม่มีความสุขในชีวิตเลยครับ
แม้อยู่ไกลบ้านแต่ผมก็ไม่วีดว๊ายหรือแสดงอาการออกมาได้เยอะนะเหมือนผมเก็บกดบุคลิกแต่เด็กจนติดนิสัยแม้ที่ทำงานจะไม่มีใครรู้จักเราแต่เราก็ควรอยู่ในมุมของเราไปอย่าแสดงออกมามากผมคิดแบบนี้อ่ะ
เมื่อผมไม่ใช่ลูกชายของแม่อีกต่อไป
จนอายุครบ25ปีชีวิตผมก็เปลี่ยนไปเมื่อผมไม่ได้เป็นชายแท้แต่เป็นเกย์ที่ปกปิดครอบครัวมาโดยตลอดและตอนนี้แม่ก็ได้รับรู้แล้ว
(ในที่นี้คือรู้จากปากคนอื่น ผมยังไม่กล้ากลับบ้านและคุยเปิดอกกับแม่)
ยังหาทางออกไม่ได้เลยครับ
อยากขอความคิดเห็นว่าควรทำอย่างไรกับชีวิตดี
ผมจะเล่าชีวิตของผมและลักษณะนิสัยทั่วไปของผมและแม่ให้รับรู้ครับ
แม่ของผมเป็นผู้หญิงในวัย53+
เธอเป็นหญิงที่ไม่เคยด่าหรือตีหรือพูดคำหยาบให้ผมได้ยินเลยตั้งแต่เด็กจนโต
เธอเป็นคนใจดีเรียบร้อยเป็นแม่บ้านแม่เรือนที่เลี้ยงผมมาโดยไม่ให้ผมทำอะไรเลย
อันนี้คงเป็นตั้งแต่ยายสอนมาว่าเป็นหญิงต้องดูแลสามีและลูก คือเราเป็นครอบครัวคนจีน
ส่วนผม
ผมรู้ตัวเองว่าเป็นเกย์แน่ๆในวัยประมาณม.2
ก่อนน่านั้นก็เป็นแต่ยังหาคำจำกัดเพศตัวเองไม่ได้
ผมใช้ชีวิตที่เป็นเกย์แบบมีเพื่อนเป็นเพศที่สามเพื่อนญเยอะมาก
ทางเพื่อนเองก็รู้ แต่ทางบ้านจะคิดว่าเป็นกลุ่มเรียนเด็กเรียน เพื่อไม่ให้น่าสงสัยมปลายผมพยายามเล่นกีฬากับเพื่อนชายเพื่อให้ทางบ้านสบายใจว่าลูกก็เล่นกับผู้ชาย แต่เพื่อนชายไม่รู้ว่าผมเป็นคือบุคลิกผมจะเงียบมาก
แต่ถ้าอยู่กับเพื่อนสาวนี้จะพูดเยอะน่อยกับเพื่อนเพศที่สามก็คุยเฮฮาแต่ไม่หยาบคายนะ
ก็ข้ามมาในวัย20+ผมก็เริ่มทำงานแต่ทางบ้านก็จะถามไม่มีแฟนเหรอ
พาแฟนมาบ้านบ้างสิที่ทำงานสาวเยอะมั้ย
แต่ผมก็จะบ่ายเบี่ยงตลอดว่า
ไม่มีหรอกทำแต่งานเอาเวลาไหนไปจีบสาว
จนใชีชีวิตหลบๆซ่อนมาตลอด
พอวัย22ผมได้บวชให้แม่ครับ
ผมคิดว่าเป็นสิ่งที่ควรทำและตั้งใจเส้นผมที่ในชีวิตดูแลมาโดยตลอดแม้นวัยเด็กครูปกครองจะหนีบทิ้งตัดแหว่งแค่ไหนก็ไม่เคยโกนจนตอนนี้ผมยอมหัวโล้นเพราะผมคิดว่าสมควรที่จะบวชให้แม่ ทำไมต้องหวงเส้นผมอันนี้ผมก็ไม่ทราบผมว่าคนอื่นน่าจะเป็นเหมือนกันนะ
พอหลังจากบวชเสร็จ
ผมก็กลับมาใช้ชีวิตทำงานวนไปวนไปจนอายุ25เพิ่งมาคิดได้ว่า
เห้ยเราเข้าสู่1/3ของชีวิตแล้วนะ
ที่เหลือ26-75ปีเราควรจะใช้ชีวิตในแบบที่เราอยากเป็นจนผมปรึกษาเรื่องนี้กับหลายๆคนทั้งเพื่อนลูกพี่ลูกน้องจนตอนนี้เรื่องถึงหูแม่แล้วแต่แม่ก็แกล้งเป็นไม่ทราบแล้วไม่ด่าว่าผมเลย
อันนี้ผมเสียใจมากไม่กล้ามองหน้าแม่เลย คือถ้าเป็นแบบด่าว่ายังจะดีกว่า
นี้มาแนวเสียใจและผิดหวังแต่เก็บทุกอย่างไว้มันทำให้ผมคิดโทษตัวเองว่า แม่เราเลี้ยงมาไม่ดุด่าไม่ตีแต่ทำไมเรากลับเป็นแบบนี้ให้ท่านผิดหวังนะ
คือมีใครที่มีปัญหาลูกเป็นเพศที่สามหรือคุณผ่านปัญหาเหล่านั้นมายังไงช่วยแนะนำผมทีครับผมอยากหาทางออกที่ดีที่สุดเพื่อให้ทางบ้านสบายใจ
ตอนนี้ผมทำงานต่างจังหวัดไกลบ้านได้กลับปีล่ะ3-4ครั้งและตอนนี้ก็ไม่กล้ากลับไปสู้หน้าเลย
ได้แต่ส่งเงินช่วยเหลือทุกสิ้นเดือนเป็นค่าจิปาถะ
โทรศัพท์ก็ไม่กล้าคุยกับแม่หาเรื่องบ่ายเบี่ยงว่าทำงานตลอดคุยไม่ถึง10นาที
ทางด้านผมก็มีปัญหาชีวิตผมเองและต้องหาเงินจ่ายค่าต่างๆเพราะว่าตัวคนเดียว
เหมือนไม่มีความสุขในชีวิตเลยครับ
แม้อยู่ไกลบ้านแต่ผมก็ไม่วีดว๊ายหรือแสดงอาการออกมาได้เยอะนะเหมือนผมเก็บกดบุคลิกแต่เด็กจนติดนิสัยแม้ที่ทำงานจะไม่มีใครรู้จักเราแต่เราก็ควรอยู่ในมุมของเราไปอย่าแสดงออกมามากผมคิดแบบนี้อ่ะ