สวัสดีครับ

ผมอยากแนะนำทางเลือกในการท่องเที่ยวในญี่ปุ่นในการ ขับรถ เรื่องการทำ inter licence นั้นมีหลายคนบอกแล้ว ผมแจ้งสั้นๆว่า ใช้ ใบขับขี่เราตัวจริง และรูป สองนิ้งสองใบ พร้อมเงิน 500 บาท ก็ไปทำได้ที่สถานีขนส่งทั่วประเทศรอรับได้เลย มีอายุ 1 ปีครับ

การขับรถในญี่ปุ่นนั้น ง่ายกว่าบ้านเรามากนัก เพราะว่าเค้า "ทำตามกฎ" กันอย่างเคร่งครัด หากไม่อยากเกิดอุบัติเหตุ เพียงแค่ "ทิ้งนิสัยเดิมที่ขับในประเทศไทย" ออกไป เราก็จะขับรถได้อย่างปลอดภัย แต่จะมีเกล็ดเล็กๆน้อยๆขอเล่าเป็นข้อๆดังนี้ครับ

1.รถญี่ปุ่น พวงมาลัยอยู่ด้านขวาเหมือนเมืองไทย และขับซ้าย ดังนั้นเราไม่ต้องปรับเปลี่ยนอะไร นอกจากนิสัยของเรา ครับ เวลารับรถ เค้าจะถามเรื่องการประกันภัย หากขับครั้งแรก ผมแนะนำซื้อ Super safety pack ไปเลย เพิ่มวันละ 900 บาทโดยประมาณ หากไปหลายคนก็คุ้ม เราสามารถขับรถเค้าพังทั้งคัน ก็ไม่ต้องจ่ายสักบาท!!!  สบายใจกันไป  หากท่านขับมาหลายครั้งแล้ว อาจจะเหลือแค่ซื้อ แค่ safety pack วันละ 300 บาท ก็เพียงพอ


2. รถนั้นมีกฎหมายความเร็ว เลขเลขถนน และ ป้ายข้างทาง เช่นในเมือง 30-40  นอกเมือง 50-60 กม/ชม. แต่เราจะเห็นว่า คันอื่นๆก็ขับเท่าป้าย หรือมากกว่าเล็กน้อย ไม่เสียหาย แต่อย่าขับเกินมาก เพราะ ที่ญี่ปุ่นมีกล้องจับความเร็วอยู่ทุกที่   ย้ำ ทุกที่จริงๆ ท่านอาจจะเจอค่าปรับไม่คาดฝัน ซึ่งราคา เกือบหมื่นเยน หรือ 2-3 พันบาท ต่อครั้งเลย บนทางด่วนผมเคยขับจาก อาซาฮิกาว่า มา ชิโตเสะ มีรถขับ 120-140 ทั้งๆที่ความเร็วจำกัดแค่ 80-100 ซึ่งก็มีคนญี่ปุ่นขับเกิน แต่เราไม่ควรทำตาม ผมแนะนำเท่าที่ขับมา หาก ป้ายบอก 40 ท่านขับ 50 ได้ ไม่เป็นไร แต่หากขับ 80 อันตรายเสี่ยงใบสั่งครับ

3.แม้จะเป็นทางแยก ทางร่วม หรือ ทางออกห้าง คนญี่ปุ่น รถติด จะเว้นช่องว่างไว้หาากเห็นรถท่านเปิดไฟขอทางไว้ และเมื่อเค้าไฟเขียว เค้าจะไม่ไปปิดทางท่าน  แต่จะให้ท่านไปก่อน ซึ่งสิ่งที่ควรทำ คือ โค้ง หรือ ยกมือให้ พร้อมเวลาเข้าเลน เสร็จ รถท่านอยู่หน้ารถเค้า ควร จะกดไฟฉุกเฉิน กระพริบ 2 ครั้ง เพื่อเป็นการบอกขอบคุณ  ซึ่งถ้าท่านให้ทางใคร เค้าก็จะขอบคุณท่านแบบนี้เหมือนๆกัน   อย่าเผลอไป เปิดไฟ ฉุกเฉินเวลา ขับทางตรง ในทางแยกละครับ เพราะเค้าจะเข้าใจผิด เกิดอุบัติเหตุได้      

แม้จะเป็นไฟเขียวอยู่ ถ้าตรงนั้นเป็นสี่แยก เค้าจะไม่เดินรถไปจนปิดช่องทางแยกนะครับ เพราะเค้าจะให้รถเลี้ยวไปได้ก่อน เพราะข้างหน้าไปก็ติด เค้าจะไม่ปิดเลนอื่น ซึ่งคนไทยเรา ไม่เคยทำ  เราจะดันๆกันไปเพราะฉันไฟเขียว

4.ไฟจราจร ส่วนใหญ๋ โดยเฉพาะนอกเมือง ไฟจราจรจะเปิดเขียว ทั้งสองด้าน แต่หากอยากเลี้ยวขวา ให้รอตรงเส้น รอเลี้ยวขวา (มีเส้น เลยตรงไป)  หากรถหน้าทางตรงหมด ให้ท่านเลี้ยวขวาได้เลย   แต่!!  ท่านห้าม ขับตามคันหน้าเพราะเห็นว่าเค้าเลี้ยวไปแล้ว  เพราะ รถอาจจะมีจังหวะ ที่เลี้ยวได้แค่คันเดียว เพราะข้างหน้ายังมีรถตรงมาอยู่  ท่านต้องมองด้วยตาตนเอง ว่ารถด้านตรงนั้นมากันหมดแล้ว ว่างแล้ว ถึงเลี้ยว  หากโชคร้ายเจอแดงพอดีตรงท่านมารอเลี้ยว ให้ไปทางขวาเลย อย่าขวางทางรถอีกฝั่งนะครับ   บางแยกก็มีไฟเลี้ยวขวาให้หลังจากไฟตรงแดงแล้ว แต่เท่าที่ขับมาส่วนใหญ่เป็นแบบแรก คือ เขียวทางตรงทั้งสองด้าน เลี้ยวขวา หาจังหวะ หรือ รอไฟเขียวเลี้ยวจึงเลี้ยวครับ

5.การออกจากร้านอาหาร ซอยเล็กๆ ไม่ใช่ท่านจะแหย่ พุ่งออกมาได้เลย ท่านต้องหยุดตรงก่อนถึง ฟุตบาท เพราะ มีคนเดิน  มีจักรยาน ที่อาจจะพุ่งมาได้ด้วยความเร็ว   หากท่านไม่ระวัง จะชนจักรยาน หรือคนเดินได้   ดูให้ปลอดภัยแล้วจึงเลี้ยวออกมานะครับ


6.หากขับผ่านทางรถไฟ แม้ไม่มีรถไฟ คนญี่ปุ่นจะหยุด มองซ้ายขวาก่อนขับข้ามไปทุกครั้ง แม้ทางกั้นจะเปิด และไม่มีไฟเตือน อย่าพุ่งออกไปตามที่เคยชินนะครับ เพราะท่านอาจจะชนท้ายคันหน้าที่หยุดนิ่ง เพื่อมองซ้าย ขวา และผมก็เจอตำรวจ ติดเครื่องมอไซด์ รอมองคนที่ข้ามทางรถไฟ เกรงว่า นี่จะเป็นกฎหมาย ที่หากไม่ทำตามจะก่อให้เกิดอันตราย อาจจะโดนใบสั่งได้

7.ทาง ไฮเวย์นออกเมือง แซงแล้วชิดซ้าย หรือเลนกลางนะครับ อย่าแช่ขวา เพราะผมเจอตำรวจ ขับรถตามและแจกใบสั่งต่อหน้าต่อตามาแล้ว  ตำรวจญี่ปุ่นก็รอซุ่มอยู่ตาม ทางแยกเหมือนเมืองไทย ไม่ต่างกันครับ

8.การขึ้นทางด่วนนั้น ราคาแพงมาก ถ้าใช้ บัตร  etc จะถูกกว่านิดหน่อย ถ้าวิ่งไกลๆ เยอะๆ ซื้อ pass แบบเหมาจ่าย ตกวันละ 2,000 เยน น่าจะคุ้มกว่าเยอะ ผมเคยจ่าย ค่าทางด่วน ที่ซัปโปโร รอบเดียว 1,800 บาท   เวลาผ่านช่องบัตร etc จริงๆ ไม่ต้องแตะเบรค ระบบเค้าดี มันผ่านได้แบบสมูทเลย รถไม่ติดหน้าด่าน แต่ผมติดที่เมืองไทย เพราะ easy pass บ้านเรา หากไม่แตะเบรค ผมว่าชนไม้กั้นแน่นอน

9.การเติมน้ำมัน ในปั้มส่วนใหญ่ เป็นแบบเติมเอง ใช้เงินสดและบัตรเครดิตได้ หากเงินสด ใส่เงืนสดไปก่อน เลือกชนิดน้ำมัน และเติมได้เลย
หากเป็นบัตรเครดิต ใส่บัตรลงไปก่อน และนรับบัตรคืน เลือกชนิดน้ำมัน เลือกยอดที่จะเติม และเติมได้เลย   แต่หากเป็นปั้มที่มีพนักงานบริการ บอกเค้าไปเลยว่า   เล็กกูล่า มันตัง แค่นี้ก็ได้น้ำมันเต็มถังครับ  น้ำมันที่ญี่ปุ่นมีแค่ 3 ชนิด ธรรมดา ส่วนใหญ่สีแดง  พิเศษเหลือง และ ดีเซล

10.อย่าไปจอดที่ห้ามจอด โดยเฉพาะ แถวๆ สถานีรถไฟฟ้าใหญ่ๆ เพราะมีตำรวจ คอยมาไล่ และปรับตลอดเวลา ซึ่งก็มีคนญี่ปุ่น ชอบมาจอดรอรับ คน เหมือนเมืองไทย  ซึ่งจะโดนใบ แปะหน้ารถ ซึ่งหมายความว่า ท่านโดนปรับแล้ว ซึ่งจะบันทึกไว้เรียบร้อยในระบบคอมพิวเตอร์

11. แม้ว่าท่านจะ มีสัญญาณให้เลี้ยวซ้าย หรือขวาได้ แต่หาก ด้านนั้น สัญญาณคนข้าม เป็นสีเขียว มีจักรยาน หรือคนข้ามอยู่  จะต้องให้เค้าข้ามให้เรียบร้อยก่อน ไม่ต้องกลัว คันหลังจะบีบแตรไล่ ไม่มีแน่นอน  ที่ญี่ปุ่น ไม่นิยมบีบแตร  หากไม่จำเป็นจริงๆครับ

12.รถมอเตอร์ไซด์ แม้จะมีไม่มากในญี่ปุ่น แต่หากเป็นรถใหญ่ เค้าขึ้นทางด่วนได้ แต่จะไม่ขับซิกแซก เค้าจะติดไฟแดงเหมือนเป็นรถใหญ่คันนึง อย่าไปเบียดเค้า ปล่อยให้เค้าขับ หากช้า ให้แซงไปด้วยอีกเลน มองเค้าเหมือนรถยนต์คันนึง

เพิ่มเติม ไฟกระพริบ สัญญาณนี้ หมายถึงให้เราไป ให้ไปได้เลย เค้าหยุดรอแน่นอน  แต่คนไทย หมายถึงไฟไล่ ให้รีบไป  อย่าเข้าใจผิด ไปดริฟไฟสูงไล่รถคนญี่ปุ่นแล้วพุ่งไป เพราะเค้าจะคิดว่า เราให้ทางเค้านะครับ

ท้ายที่สุด อะไรที่ไม่ดี ที่เคยชิน ย้ำว่า อย่าไปทำที่ญี่ปุ่น เพราะ เค้าจะถือว่า คนเดินถนน หรือ รถเล็ก สำคัญที่สุด คนญี่ปุ่นจะข้ามถนนทันที หากไฟคนข้ามเป็นสีเขียว แม้ด้านขวาตอนข้าม จะมีรถ 10 ล้อ วิ่งพุ่งมาด้วยความเร็วสูง รถ 10 ล้อคันนั้น ก็ต้องเหยียบเบรค หลังเส้นให้ป้า ลุง เดินช้าๆ เนิบๆ ข้ามรถได้โดยสวัสดิภาพ  ผมแอบคิดถ้าป้า ข้ามทางม้าลายแบบนี้ที่ไทย ป้าได้ไปเกิดใหม่แน่ๆ เพราขนาดไฟแดง หรือ ไฟเขียวคนข้าม ผมยังต้องมองซ้ายขวาดีๆก่อนเลย   ดังนั้น ขับขี่ปลอดภัย ใส่ใจคนรอบข้าง และไม่ขับเร็ว เราจะไม่เกิดอุบัติเหตุ จะเบรคทัน จะไม่มีเรื่องร้ายๆเกิดขึ้นแน่นอนครับ



ปล.กลับมาเมืองไทย ขับรถแค่วันเดียว ผมก็ตอกย้ำตัวเองว่า คนไทยเราไม่มีระเบียบวินัย ในการขับรถเลย การเบียด การเปิดเลนพิเศษเอง การบาด เป็นเรื่องปกติของเรา แต่ที่นั้นไม่มีเลย น้อยมากๆ















*แก้คำผิด*