ขอเล่าเรื่องราวชีวิตตนเองคราวๆ ดิฉันเป็นพยาบาลรับราชการทำงานอยู่ต่างจังหวัด ยังไม่มีลูกด้วยกัน สามีทำงานที่กทม. อาศัยอยู่กับพ่อแม่ ยาย
น้องชาย ที่กทม (ดิฉันให้เขาลาออกมาทำงานแถวบ้าน เขาว่ามันไม่มีงานอะไรทำที่จะได้เงินเดือนเท่านี้ กลัวรายจ่ายไม่พอ )
ดิฉันจะไปหาสามีทุกเดือน เดือนละ 2-3 วัน เนื่องจากสามีทำงานบริษัท หยุดงานได้แค่ 1 วัน/สัปดาห์
วันหนึ่งไปเที่ยวด้วยกันดิฉันจับได้ว่าเขาเสพยาเสพติด แต่ดิฉันไม่พูดอะไร เนื่องจากไปเที่ยวหลายคน พอกลับมาถึงบ้านที่กทม
ดิฉันถามเขา เขาปฏิเสธ ดิฉันเลยบอกว่ามีหลักฐานเจอยาเสพติดในกล่องๆเล็กพร้อมไฟแช็ค เขาถึงยอมรับ (ก่อนที่จะถามสามีดิฉันถามแม่เขาแล้ว เขาบอกว่ารู้นานแล้ว แต่ไม่กล้าบอกดิฉัน กลัวว่าสามีดิฉันจะว่ารู้มาจากแม่ตัวเอง) แต่ถามเขาว่าทำไมไปยุ่งเกี่ยวยาเสพติดนานเท่าไหร่แล้วเขาไม่บอก ดิฉันเลยพูดไปว่าดิฉันไม่ดีมากใช่ไหม เขาถึงไปยุ่ง เขารับปากว่าจะเลิก เพราะถ้าไม่เลิกยาเสพติดดิฉันจะขอเลิกกับเขา และแม่สามีก็บอกว่าแล้วแต่ดิฉันจะจัดการ เนื่องจากบอกลูกชายตัวเองไม่ได้
แต่ล่าสุดดิฉันจับได้จากแชทในการพูดคุยเรื่องยาเสพติด กับเพื่อนคนนึง และวันที่ไปทำงานเขาไม่ได้อยู่ที่ทำงาน(ดูจากค้นหา I - Phone) เนื่องจากดิฉันโทรไปหลายสายมากไม่รับ เลยลองเปิดดูว่าเขาอยู่ที่ไหน ซึ่งไม่ใช่ทำงานเขาเลย แล้วพอรับสายโกหกเราว่ามีงานด่วน
แต่วันนี้เขาบอกว่าจะไปหาเพื่อน ดิฉันดูใน app อีก ซึ่งเป็นสถานที่ ที่เขาโกหกว่ามีงานด่วน ซึ่งเพื่อนคนนี้คือคนที่ในแชทคุยกันเรื่องยาเสพติด
ดิฉันเลยรู้ว่าวันนั้นเขาโกหกดิฉัน
ตอนนี้ดิฉัน เสียใจ กลุ้มใจเหลือเกิน ปกติเขาไม่สูบบุหรี่ ไม่ดื่มแอกฮอล์ถ้าไม่พบปะสังสรรค์หรือเจอกลุ่มที่ทำงาน แต่ติดเกมส์ ROV มากช่วงนี้
ดิฉันเคยไว้ใจ เชื่อใจเขา ไม่คิดว่าเขาจะเป็นคนแบบนี้
แต่ตอนนี้ดิฉันระแวงไปหมด มันผิดปกหรือไม่
1. ดิฉันยังไม่บอกเรื่องนี้กับพ่อแม่ เนื่องจากพ่อแม่เป็นคนเข้มงวด จริงจัง
2. ดิฉันว่าถ้าเขาเลิกไม่ได้ดิฉันจะหย่ากับเขา ต่างคนต่างอยู่ ดิฉันจะได้ไม่ต้องมาคิดระแวงแบบนี้
3. หรือว่าดิฉันจะให้โอกาสเขาต่อ แต่ตอนนี้คำพูดดิฉันมันไม่สำคัญแล้ว เขาไม่กลัว ไม่เกรงใจดิฉันแล้ว
4. ถ้าเป็นคุณ คุณจะทำยังไงต่อไป
ขอบคุณทุกท่านที่เสียสละเวลาเข้ามาอ่าน
ถ้าคุณให้โอกาสสามีคุณแล้ว แล้วยังไม่เลิกทำตัวไม่ดี คุณยังจะให้อภัยเขาอยู่หรือป่าว
น้องชาย ที่กทม (ดิฉันให้เขาลาออกมาทำงานแถวบ้าน เขาว่ามันไม่มีงานอะไรทำที่จะได้เงินเดือนเท่านี้ กลัวรายจ่ายไม่พอ )
ดิฉันจะไปหาสามีทุกเดือน เดือนละ 2-3 วัน เนื่องจากสามีทำงานบริษัท หยุดงานได้แค่ 1 วัน/สัปดาห์
วันหนึ่งไปเที่ยวด้วยกันดิฉันจับได้ว่าเขาเสพยาเสพติด แต่ดิฉันไม่พูดอะไร เนื่องจากไปเที่ยวหลายคน พอกลับมาถึงบ้านที่กทม
ดิฉันถามเขา เขาปฏิเสธ ดิฉันเลยบอกว่ามีหลักฐานเจอยาเสพติดในกล่องๆเล็กพร้อมไฟแช็ค เขาถึงยอมรับ (ก่อนที่จะถามสามีดิฉันถามแม่เขาแล้ว เขาบอกว่ารู้นานแล้ว แต่ไม่กล้าบอกดิฉัน กลัวว่าสามีดิฉันจะว่ารู้มาจากแม่ตัวเอง) แต่ถามเขาว่าทำไมไปยุ่งเกี่ยวยาเสพติดนานเท่าไหร่แล้วเขาไม่บอก ดิฉันเลยพูดไปว่าดิฉันไม่ดีมากใช่ไหม เขาถึงไปยุ่ง เขารับปากว่าจะเลิก เพราะถ้าไม่เลิกยาเสพติดดิฉันจะขอเลิกกับเขา และแม่สามีก็บอกว่าแล้วแต่ดิฉันจะจัดการ เนื่องจากบอกลูกชายตัวเองไม่ได้
แต่ล่าสุดดิฉันจับได้จากแชทในการพูดคุยเรื่องยาเสพติด กับเพื่อนคนนึง และวันที่ไปทำงานเขาไม่ได้อยู่ที่ทำงาน(ดูจากค้นหา I - Phone) เนื่องจากดิฉันโทรไปหลายสายมากไม่รับ เลยลองเปิดดูว่าเขาอยู่ที่ไหน ซึ่งไม่ใช่ทำงานเขาเลย แล้วพอรับสายโกหกเราว่ามีงานด่วน
แต่วันนี้เขาบอกว่าจะไปหาเพื่อน ดิฉันดูใน app อีก ซึ่งเป็นสถานที่ ที่เขาโกหกว่ามีงานด่วน ซึ่งเพื่อนคนนี้คือคนที่ในแชทคุยกันเรื่องยาเสพติด
ดิฉันเลยรู้ว่าวันนั้นเขาโกหกดิฉัน
ตอนนี้ดิฉัน เสียใจ กลุ้มใจเหลือเกิน ปกติเขาไม่สูบบุหรี่ ไม่ดื่มแอกฮอล์ถ้าไม่พบปะสังสรรค์หรือเจอกลุ่มที่ทำงาน แต่ติดเกมส์ ROV มากช่วงนี้
ดิฉันเคยไว้ใจ เชื่อใจเขา ไม่คิดว่าเขาจะเป็นคนแบบนี้
แต่ตอนนี้ดิฉันระแวงไปหมด มันผิดปกหรือไม่
1. ดิฉันยังไม่บอกเรื่องนี้กับพ่อแม่ เนื่องจากพ่อแม่เป็นคนเข้มงวด จริงจัง
2. ดิฉันว่าถ้าเขาเลิกไม่ได้ดิฉันจะหย่ากับเขา ต่างคนต่างอยู่ ดิฉันจะได้ไม่ต้องมาคิดระแวงแบบนี้
3. หรือว่าดิฉันจะให้โอกาสเขาต่อ แต่ตอนนี้คำพูดดิฉันมันไม่สำคัญแล้ว เขาไม่กลัว ไม่เกรงใจดิฉันแล้ว
4. ถ้าเป็นคุณ คุณจะทำยังไงต่อไป
ขอบคุณทุกท่านที่เสียสละเวลาเข้ามาอ่าน