ทริปนี้เรากับพี่สาวจองตั๋วกันไว้ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ในราคาคนล่ะ 2,425.40 บาท รวมที่พัก 2 คืน แต่เราจะพักแค่หนึ่งคืนเพราะวันแรกเราจะขึ้นไปพักบน Genting ค่ะ ก็เลยมีเวลาเตรียมแพลนไว้ว่าเราจะไปเที่ยวที่ไหนกันบ้าง อะไรอร่อยบ้างแต่เอาเข้าจริงๆ นี่แบบแอ๊ะแอ๋ ไปไม่ครบแถมไม่ได้กินตามที่คิดไว้อีก ด้วยทั้งเวลาและฝนที่ไม่เป็นใจ ว่าแล้วก็มาชมกันได้เลยค่ะ




ก่อนเดินทาง 2 วันเราก็ได้ไปแลกเงินไว้ติดตัวจำนวน 5,000 บาท 1 RM = 8 บาท ได้มาทั้งหมด 625 RM


วันที่ 1 Bangkok>>KLIA2>>Genting Highland

ตื่นมาตี 4 กว่าๆ อาบน้ำแต่งตัว เช็คกระเป๋าอีกรอบว่าลืมแปรงสีฟันมั้ย  เพราะไปเที่ยวทีไรลืมทุกที แหะๆ พอเช็คของเรียบร้อยก็ไปสนามบินดอนเมืองกันเลยจ้า ซึ่งรอบนี้ไม่ได้ถ่ายรูปภายในสนามบินไว้เลยมัวแต่ไปแลกของฟรีของทรูบ้างอะไรบ้าง เอาไว้ตุนรองท้อง จะได้ไม่เสียค่าข้าวบเครื่องบิน อิอิ (แอบงก) จัดการธุระตัวเองให้เรียบร้อย แล้วก็เข้าไปรอที่เกตเตรียมบินสู่มาเลเซียดินแดนที่มีตึกแฝดกันเลย


ขึ้นเครื่องมาก็หลับยิงยาวมาจนถึงมาเลเซียเลยค่ะ ต้นปาล์มที่เค้าว่าต้องมองต้องชม ก็ไม่ได้เห็นสักนิด พอเครื่องถึงสนามบิน KLIA2 ปุ๊บ ก็รีบเดินไปตม.เลยจ้า เพราะที่นี่เห็นว่าร่ำลือเรื่องความสโลว์ไลฟ์ และก็เป็นจริงดั่งที่ว่ายืนต่อแถววนไปค่ะ กว่าพี่เค้าจะประทับตราให้ใช้เวลาประมาณคนล่ะ 5 นาทีได้ แต่ดีตรงที่ประเทศนี้เราไม่ต้องกรอกใบขาเข้า-ขาออกแล้ว เพียงแค่คุณมองกล้อง และสแกนนิ้วก็ได้เที่ยวมาเลเซียแล้วค่ะ เดินออกมาจากตม.ความหิวก็มาเยือน มื้อแรกเดินวนอยู่นานจนขามาหยุดที่ KFC เราก็จัดซะเลยมื้อแรก ในราคา 14 RM/2 คน  รสชาติก็เหมือนบ้านเราเลยนะ ออกจะกรอบกว่าด้วยซ้ำ แต่ซอสนี่กินผิดชีวิตเปลี่ยนเลย ชิมทุกครั้งก่อนกิน เราเตือนคุณแล้ว ฮ่าๆๆๆ (ในรูปไก่มี 2 ชุดนะคะเพราะมีครอบครัวพี่อีกคนมาเค้ามาเที่ยวด้วย)



เมื่ออิ่มท้องก็เดินทางต่อไปที่ Genting Highland เราจะลงไปชั้นล่างสุด ที่มีเคาน์เตอร์ขายตั๋ว AERO BUS กันค่ะ ราคาคนล่ะ 35 RM รถบัสจะไปส่งที่  Awana  Skyway  สถานที่ที่เราจะขึ้นกระเช้าได้เลยค่ะ รับตั๋วมาแล้วก็ดูประตูในการเดินไปขึ้นรถด้วยนะคะ ตามที่เค้าวงไว้ในตั๋ว



รถมาแล้วก็ขึ้นไปนั่งประจำที่กันได้เลย รถที่นี่ไม่ต้องรอนานมารับคนปุ๊บ ไม่ถึง 5 นาทีออกแล้วค่ะ ในรถก็จะมีเพลงเปิดไว้กล่อมเราเพลงสากลบ้างเพลงแขกบ้าง ฟังไปฟังมาจนหลับ ตื่นมาอีกทีบนเขาแล้วจ้า ถนนรอบข้างสวยงามมาก ดูไปเพลินๆก็ถึงที่แล้วค่ะ เมื่อลงรถเราก็ขึ้นบันไดเลื่อนไปตามป้าย Awana  Skyway เลยค่ะ ขึ้นมาถึงก็จัดแจงซื้อตั๋วที่เคาน์เตอร์หรือตู้ Kiosk ก็ได้ค่ะ ราคาคนล่ะ 8 RM เท่านั้น








หลังจากได้ตั๋วมาแล้วเราก็ไปเข้าคิวขึ้นกระเช้ากันได้เลย ใครกลัวความสูงแนะนำให้จิกขาไว้ เพราะมันสูงจริงๆ สูงจนต้องร้องขอชีวิต (ชั้นอยากลงไป) วิวมันก็สวยอยู่หรอกแต่มองไปข้างล่างทีไร ใจมันหวิวทุกที และสถานีแรกที่เรามาถึงก็คือ วัด Shin Swee แต่เราจะลงมาเที่ยวพรุ่งนี้แทนเพราะตอนนี้เวลาเย็นใกล้มืดแล้ว แถมฝนปรอยๆ ยิ่งใจบ่ดี เลยขึ้นรวดเดียวยาวไปเก็นติ้งกันเลย





เห็นตึกลางๆกลางหมอกแสดงว่าจะถึงสถานีด้านบนแล้วจ้า ดีใจสุดๆ


และแล้วก็ถึงแล้วที่พักของเราคืนนี้ First World Hotel ตึกสีสันไม่เหมือนใคร แถมห้องพักก็เยอะเว่อร์ เราจองมาในราคา 1,500 บาท แพงมากแต่ทำไงได้ที่นี่มันถูกสุดแล้ว ต้องทำใจ จัดการเช็คอินแล้วไปกินข้าวกันดีกว่า




โรงแรมนี้รอบๆก็เหมือนเมืองๆหนึ่งเนอะ มีทั้งร้านอาหาร จุดชมวิว สวนสนุก ห้างร้านต่างๆ แต่เรามาในช่วงปรับปรุงก็มีแต่ในส่วน Indoor เท่านั้น ที่จะเดินเที่ยวได้ อาหารการกินก็สูงตามระดับความสูงจากน้ำทะเล




ตัดสินใจเดินไปฟู้ดคอร์ท เพราะอาหารน่าจะถูกสุดแล้ว ไปเห็นเจ้านี้เข้าหน้าตาคล้ายๆพะโล้บ้านเรา เลยคิดว่ามันน่าจะอร่อยหวานๆเค็มๆ สั่งมาเลยค่ะหม้อใหญ่พร้อมข้าวสวย ยกมาวางที่โต๊ะกลิ่นหอมมาก อดใจไม่ไหวตักเข้าไปเลยหนึ่งชิ้น โอ้วแม่เจ้า จืด จืด จืด และก็จืดแบบน้ำเปล่าแล้วเลี่ยนมาก  เลยทำได้แต่กินข้าวเปล่ากับเอาน้ำมาราดข้าวนิดหน่อย เสียเงินไปกับจานนี้ 50 RM/2 คน รวมน้ำ


แวะซื้อขนมไว้กันหิวดอนตึกไป 11 RM แล้วก็ขึ้นไปห้องนอนกันค่ะ สภาพห้องก็โอเค ไม่เก่า ห้องน้ำแคบแต่ยังดีว่าแยกห้องอาบน้ำ ไม่งั้นนึกไม่ออกเลย จะยืนอาบน้ำแบบไหน ฮ่าๆ


วันที่ 2 Genting Highland >>Chin Swee Caves Temple>>Batu Caves>>>Petronas Twin Towers>>>Bukit Bintang

ตื่นนอนมาตอน 7 โมงเช้าก็รีบอาบน้ำแต่งตัว ลงไปเช็คเอ้าท์แล้วก็รีบไปซื้อตั๋วขึ้นกระเช้าอีก 8 RM เพื่อลงไปที่วัด Shin Swee ก่อนที่มวลมหาชนจะลงตามมา



ลงมาถึงสถานีวัด Shin Swee ก็เดินไปตามทางเลยค่ะ เป็นบันไดเลื่อน เดินไปเรื่อยๆ ก็จะเจอกับวัดแล้ว สวยมากๆอากาศก็ดี ยิ่งเราลงมากันเช้าๆ คนจะน้อยหน่อยค่ะ ไม่แย่งกันถ่ายรูป เดินแบบสบายๆ











เดินเล่นไปเรื่อยๆ ก็เจอกับร้านข้าวแบบจีนๆแต่มีทุกอย่างจริงๆ ออกแนวคล้ายๆอาหารบ้านเรา แล้วก็มี Lok Lok ด้วยค่ะ แต่เราไม่ได้กินเพราะเห็นว่ายังเช้ากลัวท้องไส้จะปั่นป่วน เลยสั่งเห็ดชุบแป้งทอดมากินกับลูกชิ้นในน้ำซุป รสชาติอร่อยดีค่ะ ซุปก็ซดได้เรื่อยๆ แล้วก็ซื้อน้ำชามะนาวมากินด้วยรวมราคามื้อเช้า 20 RM/2 คน



กินเสร็จเราก็นั่งกระเช้าลงมาที่สถานี Awana เพื่อจะขึ้นรถบัสไปที่ KL- Sentral ค่าตั๋ว 4.3 RM ค่ะ ถึงสถานี KL- Sentral ด้วยความฉลาดน้อยขอเราก็เดินตรงไปซื้อตั๋วเลยจ้า มาดมั่นมากไป Batu Caves ค่ะ เจ้าหน้าที่มองหน้า บอกอีหนูเอ้ย เอ็งต้องไปขึ้นรถบัสฟรีที่ด้านล่างก่อนนะ แล้วเค้าจะไปส่งที่สถานี Sentul แล้วขึ้นจากสถานีนั้นไป แต่ด้วยภาษาอันแข็งแรงของเรา เดินเกาหัว งง ไปค่ะ เค้าพูดว่าอะไรว้า จนมานั่งจับใจความแล้วลองเดินลงมาชั้นล่าง เออ มันมีรถไปส่งจริงๆ เราก็ขึ้นไปโหนกันไป แล้วเค้าก็จะไปจอดให้เราลงสถานี Sentul ค่ะ ซื้อตั๋วต่อไป Batu Caves ราคา 5 RM  ถึงที่เลย เดินแค่นิดเดียว




ภาพตรงหน้าคือภูเขามีบันไดสูงๆ มีรูปปั้นพระขันธกุมารองค์ใหญ่สีทองสวยงามค่ะ รอบข้างจะมีน้องลิงลงมาเล่นด้วยยิ่งถ้าถือของกิน จะยิ่งเป็นเพื่อนรักของลิง ฮ่าๆ เราไม่ได้เดินขึ้นไปด้านบนเพราะฝนตก เลยทำได้แค่ชมด้านนอกค่ะ




ขากลับก็จะผ่านพี่ๆแขก ขายขนมบ้าง ดอกไม้บ้าง ให้เลือกซื้อเลือกชิมกันตามชอบ



แล้วปิดท้ายด้วยรูปปั้นหนุมานก่อนที่เราจะกลับมาที่สถานี KL- Sentral ตั้งหลักก่อนจะไป Merdeka Square ต่อค่ะ



แต่แล้วฟ้าฝนไม่เป็นใจ ทำให้เราต้องยกเลิก Merdeka Squareไป เสียใจจนอยากลงไปนอนดิ้นที่พื้น เลยตัดสินใจกินข้าวก่อนแล้วเอาของไปเก็บที่โรงแรมก่อนแล้วช่วงเย็นจะออกมาที่ตึกแฝดปิโตรนาส  ที่พักของเราอยู่แถวสถานี Pudu ถ้าจะมาดูตึกแฝดต้องลงที่สถานี KLCC ค่ะ แล้วเดินไปนิดเดียว ก็ถึงจุดชมแล้ว