ใครเคยคิดฆ่าตัวตายเพราะความกดดันจากครอบครัวตัวเองบ้างไหมคะ ทำยังไงถึงจะเปลี่ยนความคิดเขาใหม่ได้บ้าง

เรื่องที่จะเล่าคือเรื่องของเราเองค่ะ ตอนนี้อายุ22ปีแล้ว  เรียนอยู่ชั้นปี4  ครอบครัวเรามีแค่3คนค่ะ (เราเป็นลูกคนเดียว) รู้สึกอยากตายค่ะ คิดแบบนี้มานานแล้ว คิดหลายรอบมาก ความอดทนน้อยลงทุกที ทนมามาก หลายครั้งแล้ว เรารู้สึกว่าที่บ้านเข้มงวดกับเรามากเกินไป พ่อกับแม่เป็นคนหัวโบราณค่ะ โบราณมากกกกกกก กอ ไก่ ล้านตัว! (เข้าใจว่าหวังดีแต่นี่เกินไป จะรับไม่ไหวแล้ว) ปัจจัยที่คิดอยากตายมาจากนิสัยของแม่ตัวเอง

แม่เราเป็นคนขวานผ่าซาก ลูกทุ่ง ปากตลาด เลี้ยงเรามาด้วยลำแข้งค่ะ ไม่มีการตามใจใดๆ คำพูดหยาบคาย ถามว่าหยาบคายยังไง Eสัตว์ อีเหี้* ลูกเหี้**ๆ สาระ(เลว) หน้าหนัง-ี  E-ดอก ช้างเย* ดอกไม้สีทอง มาหมด (พิมพ์ให้ซอฟท์ค่ะ ถ้าหยาบโดนเซ็นเซอร์)
(อันนี้รับไม่ได้มากๆแต่ก็ทนมาจนถึงทุกวันนี้) /อิจฉาเพื่อนทุกคนค่ะ เห็นเวลาคุยกับแม่เรียกชื่อกัน คุยกันแบบเพื่อน บางคนเที่ยวด้วยกันอยู่คุยกันเหมือนเพื่อน แต่บ้านนี้เรียกๆกูๆ ค่ะ เพื่อนเคยได้ยินคุยโทรศัพท์ค่ะ เวลาแม่ด่าเพื่อนยังตกใจเลย ว่าทำไมต้องพูดกับลูกแบบนี้

เราถูกเลี้ยงมาอย่างเข้มงวดค่ะ งานบ้านต้องเป็นทุกอย่าง เรียนต้องเก่ง ห้ามเที่ยว ห้ามดื่มเหล้าดื่มเบียร์ ห้ามมีแฟน
1. งานบ้านต้องเป็นทุกอย่าง เราทำค่ะ ทำทุกวัน ตื่นเช้ามาคือต้องกวาด+ถูบ้านก่อนอาบน้ำแต่งตัวไปมหาลัยเสมอ และตกเย็น-หัวค่ำกลับจากมอเราต้องทำเหมือนกับตอนเช้า คือกวาด+ถูบ้าน วันไหนเลิกเรียนเร็วก็ต้องไปตลาดซื้อกับข้าวที่จะกินกันตอนเย็นเข้าบ้านมาเสมอ วันเสาร์นี่ยกให้เป็นวันงานบ้านแห่งชาติเสื้อผ้าของเราเองของพ่อแม่ตั้งแต่ซัก ตาก ยันเก็บรีด มหรสพมากๆ ชีวิตบันเทิงสุดๆ =_= /เรายอมรับนะว่าเป็นคนขี้เกียจ ไม่ได้เนี๊ยบซะทุกอย่าง อยู่บ้านแม่ด่าว่าซกมกงี้แต่อยู่กับเพื่อนกล้าพูดได้เลยว่านี่สะอาดสุดเน็ยบสุดแล้วจริงๆ เวลาแม่กระตุ้นก็ทำ แต่เราก็ทำทุกวันไง วันไหนไม่ได้ทำก็รู้สึกว่าโดนด่าแน่ๆ บางครั้งแม่ออกไปข้างนอกหรือมีธุรกลับตจว.งี้ กลับมาด่าตลอด "แบบเนี่ยพ่อกูไม่อยู่สามวันมันไม่ได้กวาดหรอกบ้าน วันๆไม่ทำห่าไรหรอก แหกหีนอนเล่นมือถืออย่างเดียว" คือว้อททท!? บ่นไม่สะอาดบ้าง รกบ้าง วันๆคงไม่ทำไรกินนอน เอาแต่หน้าตางี้ คือเราทำค่ะ ทำจริงๆ แค่ไม่ถูกใจเขา เราก็เถียงนะคะ ยิ่งพูดกลับกลายว่าเราอ้าง เราใส่อารมณ์กับเขา แล้วเวลาด่านี่เสียงดังตลอด ด่าทีไรข้างบ้านคือรู้ว่าเออบ้านนี้ด่าลูกอีกแล้ว บางทีด่าหมาคนเค้ายังคิดว่าด่าลูกเลย "นี่ก็บอกถ้าไม่เชื่องั้นคราวหลังติดกล้องวงจรปิดไปเลยนะแม่" แม่บอกเราเถียง เป็นูกนะ ต่อคำไม่ได้ อ่ะ ยาววว คือไม่มีแม้แต่ความเชื่อใจเลย  และเป็นแบบนี้เสมอ ไม่เข้าใจ ไม่รู้ทำไม

2. เรียนต้องเก่ง ปัจจัยสำคัญคือห้ามน้อยหน้าญาติในตระกูล ญาติฝ่ายแม่รับข้าราชการเยอะค่ะ เรียนจนใกล้จบในทุกวันนี้พ่นใส่หูอยู่ตลอด ข้าราชการ ข้าราชการ สวัสดิการดี มั่นคง เบิกได้ไรได้ (เราเรียนบริหารระหว่างประเทศค่ะ จริงๆใจอยากเรียนนิเทศศาสตร์มาก แต่ด้วยปห.ทางการเงินไม่ไหว (นิเทศค่าเทอมแพง) เลยเลือกๆไปแบบ เออ เรียนๆไปเหอะ คิดแค่นี้จริงๆ)ช่วงมอ.ต้น เกรดเฉลี่ยรวม 3.82 มอ.ปลายเกรดเฉลี่ยรวม 3.30 และตอนนี้ ปี4 เกรดเฉลี่ยรวม 2.40 (เราเรียนไม่เก่งค่ะ ไม่ไปเลย ชอบภาษา ชอบการพบปะผู้คน การตลาด พรีซนท์งานไรงี้ เราชอบมากๆ แต่เลขเข้าขั้นเหี้*มาก บัญชีนี่นรกมาก เข้าขั้นบรรลัย) คือแม่ชอบเอาเรื่องญาติมาพูดให้ฟังเสมอ เขาเลื่อนขั้นแล้ว เขาได้เงินเดือนเท่านี้ เขาทำงานที่นี่ที่นั่น พูดให้ฟังตลอด แบบ เออเนี่ย น่าสนใจนะ /คือเราไม่สนใจไงงงงงง ไม่เอาาาา ไม่ชอบบบ เกรดเราล่วงเหมือนไปฆ่าใครตายอ่ะ ชอบพูดเสมอว่า "ตอนกูเรียนไม่เคยหรอกนะที่จะได้เกรดน้อยขนาดนี้หรอกนะ",  "ควาย! มันควายดีๆนี่เอง" ชอบพูดแบบว่ามันจะไปยากตรงไหนวะ  คือนี่2018ค่ะแม่ ไม่ใช่ความรู้มอ.ต้นสมัยที่แม่เรียนนนนนน แล้วอย่างเวลาเราทำงานกลุ่ม รายงาน วิจัย(วิชาหัว*วย) อะไรพวกนี้ คือเขาไม่เข้าใจไงว่างาน การบ้านมหาลัยมันเยอะมาก เยอะแบบเยอะ Shift หายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย ขอกลับดึกเพราะต้องคุยงานกับเพื่อก็มีปัญหาตลอด บางวันมีเรียนเย็น 15.30-18.30น. คือกว่าจะเลิกกว่าจะถึงบ้านก็เกือบชม.แล้วอ่ะยิ่งวันไหนรถติด 2ชม.ได้เลยนะ บางทีวันหยุดเพื่อนๆนัดทำงานเราก็ออกมาไม่ได้ คือเราไปทำงานจริงๆไม่ได้เที่ยวหรือแรดเตร็ดเต่ที่ไหน เขาไม่เข้าใจตรงนี้ แล้วแม่ก็เหมือนมนุษย์ป้าคนนึงอ่ะ บอกเลย คือชอบไปบ้านนู้น บ้านนี้ เม้ามอยต่างๆนานาตลอด เค้าเกทับมาแม่เกทับกลับ อวดลูกมา ก็เอามาพูดให้ฟัง นินทาบ้านนู้นที พอมาบ้านนี้นินทาบ้านนั้นที บางทีเอาเรื่องของชาวบ้านมาพูดปาวๆกลางโต๊ะกินข้าว คือเราไม่ได้อยากรับรู้ คือไม่ชอบอ่ะ ไม่ชอบมากๆ เราไม่ชอบคนแบบนี้ ไม่อยากให้แม่เราเป็นแบบนี้เลย ทำยังไงดีคะ?


3.ห้ามเที่ยว ห้ามดื่มเหล้าดื่มเบียร์ เมื่อก่อนออกจากบ้านไม่ได้เลยจ้า ช่วงปี1 สมัยเฟรชชี่ มันก็มีกิจกรรมรับน้องอ่ะ กว่าจะเสร็จในแต่ละวันคือกลับดึก 2 ทุ่ม ถึงบ้านสี่ทุ่มงี้ ยิ่งวันไหนใกล้งานกีฬานะ โห เกือบเที่ยงคืนตลอด นอนหอเพื่อนก็ไม่ได้ เพราะเค้าไม่ไว้ใจ เคยแอบเที่ยวค่ะ เหล้าก็กินค่ะ ช่วงมหาลัยนี่แหละ ฝึกเอง กินเอง เที่ยวโดยที่พ่อแม่ไม่รู้อ่ะ (งินตัวเองนะทำงานบ้าง เก็บเองบ้าง ไม่ไก้ขอเขา เพราะถ้าขอไม่ว่าจะค่าอะไรคือมีตลอด /บ้านนี้มีเรื่องต้องห้ามค่ะ พดเรื่องเงินไม่ได้ เป็นคำต้องห้าม พูดทีไรทะเลาะทุกที) เที่ยวกลางคืน มีเที่ยวค่ะ แบบมีกินเลี้ยงสาขา หรือเสร็จจากงานกีฬาก็ไปต่องี้ (แต่ไม่เมา ไม่ได้ทำตัวแย่นะคะ คือกินเหล้านั่งชิลกับเพื่อนแล้วก็กลับจริง) / (คือแม่กลัวมาก กลัวว่าเราจะมั่วผู้ชาย ท้องเทิ้งไรงี้ ติดยงติดยาไรงี้ แถวบ้านวัยรุ่นแบบนี้เยอะค่ะ แม่เขาคงกังวล) แต่ที่เขาคิดคือ การที่เราขอไปกินเลี้ยงต่อ คือเราจะไปกินเหล้าเมายามั่วสุมผู้ชายไรงี้เสมอค่ะ (กินเหล้าอ่ะกินจริง คอสนิมด้วย แต่มีสต คือกินรู้ลิมิต กินแบบขับรถกลับเองได้ปลอดภัยอ่ะ) ไม่รู้ว่าคิดได้ไง คือเรารู้ตัวเราเองอ่ะ ว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ อะไรถูกผิดเรารู้ เราไม่ได้ทำเรื่องอย่างว่า ของมันก็ของๆเราค่ะ เราไม่เคยแบให้ใครเย เก็บไว้ให้แห้งตายไปเนี่ยแหละ จะทำยังไงให้เขาไม่คิดติดลบ ติดภาพแบบนี้สักทีบ้าง เหนื่อยที่จะอธิบายมากๆ

อยากมีชีวิตเป็นของตัวเองค่ะ อยู่ในกรอบจนกรอบจะแตกแล้วเนี่ย อยากลองคิดหรือทำอะไรด้วยตัวเองบ้าง ไม่ใช่มีคนคอนกำหนด วาดทางาดถนนให้เดิน หรือคอยกำกับชีวิตที่จะเป็นอยู่เสมอ อยากมีอิสระบ้าง อยากเป็นตัวของตัวเองให้มากกว่านี้...

เราท้อนะ ท้อมากๆอ่ะ เจอเรื่องเรียน เรื่องงาน เรื่องอาจารย์ เรื่องเพื่อนที่มอก็ปวดหัวแล้วอ่ะ กลับมาบ้านในแต่ละวันคือต้องมาเจอ หรือได้ยินอะไรแบบนี้ในทุกๆวันอีก การดุการด่าเขาเข้าใจว่าคนเป็นแม่ = เป็นห่วงลูก แต่ช่วยใช้คำพูดที่มันดีๆได้ไหม แบบไม่ใช่คำหยาบคาย หยาบโลยแบบนี้ อารมณ์ก็ไม่รู้ขึ้นอะไรนักหนา เวลาอธิบายอะไรจะตีความไปคนละทิศคนละทางตลอด จนกลายว่าเบื่อที่จะอธิบายไปแล้ว ปล่อยให้เขาคิดว่าเราเป็นลูกที่เลวไปเลยอ่ะจริงๆ แค่เรื่องคำพูด เรื่องความไว้ใจ และการให้เกียรติกัยในฐานะมนุษย์คนนึง พูดดีๆ ยอมรับ และเปิดใจรับฟังเราบ้าง เราจะรู้สึกดีมากๆเลยนะ ท้อนะ ตอนนี้ท้อมาก กดดันมาก คือนอกจากเรียนตอนนี้ปีสุดท้ายแล้วมันก็ต้องวางแผนด้วยว่าเออในอนาคตต้องทำงาน ต้องทำอะไรต่อ เอาไงกับชีวิต คือเราก็ลูกคนเดียวไง มีอยู่หัวๆเดียว คิดคนเดียว ไม่ได้มีพี่น้องช่วยคิด ต้นทุน ฐานะทางบ้านก็ไม่ได้ดีเลิศขนาดนั้น สองบ่านี้แบบนักอ่ะ หนักมากๆ ขอแค่กำลังใจเล็กๆน้อยๆในแต่ละวันแค่นี้ก็พอใจแล้วอ่ะ อย่าให้มันถึงกับขนาดที่จะทนไม่ไหวเลย พิมพ์ไปร้องไห้ไปค่ะ ท้อ ท้อมากๆ อยากตาย เหนื่อยแรงไม่เท่าเหนื่อยใจนะ ให้คนอื่นมองเราไม่ดีดีกว่าพ่อแม่มองเราเป็นคนเหี้*ๆอ่ะ เสียใจมาก

สรุปประเด็นปัญหารที่เราทุกข์ใจมากๆคือ
1.นิสัยของแม่ คำพูดของแท่
2.ความกดดัน ความหวังของครอบครัว
3.ความไว้ใจ และอิสระ

สุดท้ายนี้ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านที่เราระบายไปค่ะ ยอมรับเลยว่าพิมพ์ไปร้องไห้ไป พิมพ์เสร็จแล้วโล่งมาหน่อยเหมือนว่าได้ระบายทิ้ง ใครมีประสบการณ์หรือมีความรู้สึกเดียวกันกับเรา แชร์ๆให้กันได้นะคะ ว่าควรทำยังไงดี ทำยังไงให้แม่เปลี่ยนความคิดดี ทำไงให้หายทุกข์ ทำไงให้ไม่เก็บกด ขอบคุณมากๆค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่