สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 2
นี่มันนิยาย ที่มีประวัติศาสตร์เป็นฉากหลัง และบุคคลในประวัติศาสตร์จะเป็นแบบไหน ขึ้นอยู่กับใครเป็นคนมอง เช่น Sir Winston Churchill PM ของ UK ผู้ซึ่งคนที่นี่ยกให้เป็นมหาวีรบุรุษผู้นำพาให้ประเทศพ้นภัยในช่วงสงคราม แต่ในทางกลับกัน สำหรับชาวอินเดีย ท่านคือคนที่ทำลายอุตสาหกรรมอินเดีย ปล้นเอาความเจริญของประเทศไปในช่วงนั้น ขนทรัพยากรของคนอินเดียไปให้ประเทศตน แล้วเหลือเพียงเศษๆทิ้งเอาไว้
ดังนั้นตัวฟอลคอนเขียนโดยมุมมองที่ค่อนข้างชัดว่าเอนไปอยู่ฝั่งใด เพราะถ้าเขียนให้เท่าๆกัน เราว่ามันคงไม่ใช่นิยาย หรือละคร มันจะเป็นสารคดี
กลับมาที่คุณว่า ละครเน้นไปที่เหตุการณ์ในช่วงนั้นๆ และตัวละครฟอลคอลไม่ใช่พระเอกนางเอก ที่ต้องเท้าปูมหลังขนาดว่าทำไมถึงต้องทำอย่างนี้ ไม่ใช่บทเรียนประวัติศาสตร์หรือบทความจิตวิทยานะคะ และไม่ได้ขึ้นศาลด้วยถึงต้องหาเหตุอ้างในการกระทำของจำเลย ดังนั้นถ้าคนดูอยากรู้ไปหาเอาเอง ถ้าต้องใส่มาหมด คงต้องท้าวความไปถึงทำไมพระปีย์รักขุนหลวงมาก ทำไมขุนหลวงเปิดรับพวกฝรั่งมาก ทำไมพระเพทราชารักพ่อเดื่อมากทั้งๆที่ไม่ใช่ลูกแท้ๆ เอาให้ครบทุกคน คงได้ดูกันทั้งปีแน่ๆค่ะ
ดังนั้นตัวฟอลคอนเขียนโดยมุมมองที่ค่อนข้างชัดว่าเอนไปอยู่ฝั่งใด เพราะถ้าเขียนให้เท่าๆกัน เราว่ามันคงไม่ใช่นิยาย หรือละคร มันจะเป็นสารคดี
กลับมาที่คุณว่า ละครเน้นไปที่เหตุการณ์ในช่วงนั้นๆ และตัวละครฟอลคอลไม่ใช่พระเอกนางเอก ที่ต้องเท้าปูมหลังขนาดว่าทำไมถึงต้องทำอย่างนี้ ไม่ใช่บทเรียนประวัติศาสตร์หรือบทความจิตวิทยานะคะ และไม่ได้ขึ้นศาลด้วยถึงต้องหาเหตุอ้างในการกระทำของจำเลย ดังนั้นถ้าคนดูอยากรู้ไปหาเอาเอง ถ้าต้องใส่มาหมด คงต้องท้าวความไปถึงทำไมพระปีย์รักขุนหลวงมาก ทำไมขุนหลวงเปิดรับพวกฝรั่งมาก ทำไมพระเพทราชารักพ่อเดื่อมากทั้งๆที่ไม่ใช่ลูกแท้ๆ เอาให้ครบทุกคน คงได้ดูกันทั้งปีแน่ๆค่ะ
ความคิดเห็นที่ 6
สำหรับผม ดูละครเรื่องนี้เพื่อความสนุกสนาน ไม่ใช่เอาเป็นความรู้ครับ เพราะยังไงยังไงมันก็คือละคร แม้แต่นิยาย ก็จำเป็นต้องสร้างเพื่อให้สนุก มีตัวดี มีตัวร้าย และสุดท้ายตัวดีก็ต้องชนะตัวร้าย พระเอกจบก็ต้องคู่นางเอก มันก็ธรรมชาติของละคร
ส่วนเรื่องนี้ ผมว่าคนเขียนบท เขียนออกมาให้ตัวละครสีเทา ต้องคิด ต้องแยกแยะ ตัดสินใจเองหลายคนขนาดพระเอกที่แสนดี สุดท้ายก็ยังเข้ากับพระเพทราชาซึ่งถือว่ากบฏในช่วงเวลานั้น
ส่วนฟอคอล ผมดูเรื่องนี้กลับสงสารเขานะ รับรู้ได้ถึงว่าอดีตชีวิตคงแย่มาก พอมามีอำนาจ คนเห็นความสามารถต้องรีบโกย ตอนเนรคุณขุนเหล็ก อันนี้ประวัติศาสตร์ก็กล่าวถึงให้ได้อ่าน เขาก็เสียใจมาก รู้เลยว่าฟอคอลคงไม่ตั้งใจจริงๆ ส่วนสึกพระคงจริง แต่ในช่วงปลายชีวิต ถ้าไม่ใช่คนดีจริง ยศคงไม่ขึ้นเอาขึ้นเอาหรอก ส่วนการกระทำผมก็เข้าใจนะว่านี่คือนิสัยของทุกคนในสมัยก่อนละถ้าเราไม่รังแกเขาตอนมีอำนาจ เมื่อหมดอำนาจยังไงก็โดนคนอื่นเขารังแก ส่วนความดีละครก็กล่าวถึงหลายครั้งอยู่นะครับ แค่ตอนแรกๆยังไม่เข้มข้นพาร์ทการเมือง เราอาจดูไม่ได้อิน หรือคิดอะไรมาก
พระเพทราชา ประเด็นนี้ที่คนเขียนเขียนให้เทาน้อยมาก ทั้งนิยาย และบทละคร ผมคิดว่า ท่านคือกษัตริย์องค์หนึ่งของประวัติศาสตร์ไทย จะเขียนบทให้ร้ายกว่า หรือเทาเข้มมากกว่าเพื่อนมันไม่ได้หรอก จะผิดจะถูก จะร้ายมามากยังไงก็เขียนในแง่ดีไว้ก่อนอยู่แล้ว สุดท้ายความดำมืดก็ตกไปอยู่ฝั่งตรงข้ามคือฟอลคอลมากกว่า
อันที่จริงผมว่าถ้าจะให้รู้จริง คงต้องถามคนที่เกิดจริงๆในสมัยนั้น หรืออาศัยคนระลึกชาติได้ ประวัติศาสตร์มันก็ไม่ได้ถูกต้อง 100% หรอก เพราะส่วนใหญ่เรารู้ จากการจดบันทึก จากฝรั่งบ้าง คนไทยบ้าง ซึ่งคนบันทึกก็ต้องมีอคติอยู่บ้างในการจดบันทึก เช่น ที่เรายึดถือคือบันทึกของฝรั่ง ซึ่งไม่ชอบพระเพทราชาอยู่แล้ว คงเขียนในทางที่ไม่ดี ส่วนฟอคอลฝรั่งด้วยกันก็เขียนอีกแบบ ซึ่งความจริงไม่มีใครรู้ว่าเป็นมายังไงแน่ อาศัยเพียงหลักฐานบางอย่างมาสนับสนุน ถ้ามองไปที่ประวัติสาสตร์ของเกาหลี เขาจะบอกเลยว่าคนชนะคือคนเขียนประวัติศาสตร์ (ซึ่งผมคิดว่า ของไทยก็คงคล้ายกัน) บางคน ละคร 2 เรื่อง ยังเสนอกันคนละแนว นางเอกเรื่องนี้กลายเป็นนางร้ายอีกเรื่องก็มี
ผมแค่อยากบอกว่า เราดูละครให้เป็นละคร ดูให้บันเทิง มันไม่ถูกต้อง หรือผิดหมด ประวัติศาสตร์ที่เราเรียนก็เช่นกัน บางทีมีหลากหลายที่ หลากหลายแหล่ง ที่ข้อมูลยังตีกัน อาจขึ้นอยู่กับการเขียน การบันทึก หรือแม้แต่การตีความจากนักประวัติศาสตร์ก็เป็นได้
ส่วนเรื่องนี้ ผมว่าคนเขียนบท เขียนออกมาให้ตัวละครสีเทา ต้องคิด ต้องแยกแยะ ตัดสินใจเองหลายคนขนาดพระเอกที่แสนดี สุดท้ายก็ยังเข้ากับพระเพทราชาซึ่งถือว่ากบฏในช่วงเวลานั้น
ส่วนฟอคอล ผมดูเรื่องนี้กลับสงสารเขานะ รับรู้ได้ถึงว่าอดีตชีวิตคงแย่มาก พอมามีอำนาจ คนเห็นความสามารถต้องรีบโกย ตอนเนรคุณขุนเหล็ก อันนี้ประวัติศาสตร์ก็กล่าวถึงให้ได้อ่าน เขาก็เสียใจมาก รู้เลยว่าฟอคอลคงไม่ตั้งใจจริงๆ ส่วนสึกพระคงจริง แต่ในช่วงปลายชีวิต ถ้าไม่ใช่คนดีจริง ยศคงไม่ขึ้นเอาขึ้นเอาหรอก ส่วนการกระทำผมก็เข้าใจนะว่านี่คือนิสัยของทุกคนในสมัยก่อนละถ้าเราไม่รังแกเขาตอนมีอำนาจ เมื่อหมดอำนาจยังไงก็โดนคนอื่นเขารังแก ส่วนความดีละครก็กล่าวถึงหลายครั้งอยู่นะครับ แค่ตอนแรกๆยังไม่เข้มข้นพาร์ทการเมือง เราอาจดูไม่ได้อิน หรือคิดอะไรมาก
พระเพทราชา ประเด็นนี้ที่คนเขียนเขียนให้เทาน้อยมาก ทั้งนิยาย และบทละคร ผมคิดว่า ท่านคือกษัตริย์องค์หนึ่งของประวัติศาสตร์ไทย จะเขียนบทให้ร้ายกว่า หรือเทาเข้มมากกว่าเพื่อนมันไม่ได้หรอก จะผิดจะถูก จะร้ายมามากยังไงก็เขียนในแง่ดีไว้ก่อนอยู่แล้ว สุดท้ายความดำมืดก็ตกไปอยู่ฝั่งตรงข้ามคือฟอลคอลมากกว่า
อันที่จริงผมว่าถ้าจะให้รู้จริง คงต้องถามคนที่เกิดจริงๆในสมัยนั้น หรืออาศัยคนระลึกชาติได้ ประวัติศาสตร์มันก็ไม่ได้ถูกต้อง 100% หรอก เพราะส่วนใหญ่เรารู้ จากการจดบันทึก จากฝรั่งบ้าง คนไทยบ้าง ซึ่งคนบันทึกก็ต้องมีอคติอยู่บ้างในการจดบันทึก เช่น ที่เรายึดถือคือบันทึกของฝรั่ง ซึ่งไม่ชอบพระเพทราชาอยู่แล้ว คงเขียนในทางที่ไม่ดี ส่วนฟอคอลฝรั่งด้วยกันก็เขียนอีกแบบ ซึ่งความจริงไม่มีใครรู้ว่าเป็นมายังไงแน่ อาศัยเพียงหลักฐานบางอย่างมาสนับสนุน ถ้ามองไปที่ประวัติสาสตร์ของเกาหลี เขาจะบอกเลยว่าคนชนะคือคนเขียนประวัติศาสตร์ (ซึ่งผมคิดว่า ของไทยก็คงคล้ายกัน) บางคน ละคร 2 เรื่อง ยังเสนอกันคนละแนว นางเอกเรื่องนี้กลายเป็นนางร้ายอีกเรื่องก็มี
ผมแค่อยากบอกว่า เราดูละครให้เป็นละคร ดูให้บันเทิง มันไม่ถูกต้อง หรือผิดหมด ประวัติศาสตร์ที่เราเรียนก็เช่นกัน บางทีมีหลากหลายที่ หลากหลายแหล่ง ที่ข้อมูลยังตีกัน อาจขึ้นอยู่กับการเขียน การบันทึก หรือแม้แต่การตีความจากนักประวัติศาสตร์ก็เป็นได้
ความคิดเห็นที่ 16
ในนิยายบอกถึงภูมิหลังค่ะ ในละครก็มีพูดถึงนะ พูดถึงหลายครั้งด้วย เราว่าคุณรอมแพงเขียนไว้ค่อนข้างชัดว่า ทุกคนมีข้อดี-ข้อเสีย แม่การะเกดก็ไม่ได้เห็นด้วยกับฝ่ายพระเพทราชา ตอนจะมีการก่อกบฏ ยังถามคุณพี่เลยว่าคิดอย่างไร คุณพี่ก็ตอบได้ดีค่ะ การกระทำในแต่ละเหตุการณ์ แต่ละช่วงเวลา มีเหตุผล-เงื่อนไขในการกระทำค่ะ อาจจะไม่ใช่ทางเลือกที่ดีที่สุดในสายตาคนนอก คนมองย้อนหลังอย่างเราๆ แต่คนที่อยู่ในสถานการณ์ตอนนั้น นั่นคือสิ่งที่เขาเลือกค่ะ
ในนิยาย ฟอลคอนมีความทะเยอทะยาน แสวงหาผลประโยชน์ (เราเชื่อว่าจริงๆก็น่าจะเป็นแบบนั้น สำหรับฝรั่งต่างชาติที่รับราชการแค่ 13 ปี แต่เป็นถึงเจ้าพระยา) แต่สุดท้ายในชีวิต ฟอลคอนคิดได้ว่า มิตรแท้ที่ดีต่อเขาจริงๆคือ พระนารายณ์ สำหรับคนมากเล่ห์-รู้รอบแบบนั้น กลับโดนจับง่ายๆ เพราะอยากไปพบพระนารายณ์ อยากเข้าเฝ้าว่าอาการประชวรเป็นอย่างไร
ในนิยาย ฟอลคอนมีความทะเยอทะยาน แสวงหาผลประโยชน์ (เราเชื่อว่าจริงๆก็น่าจะเป็นแบบนั้น สำหรับฝรั่งต่างชาติที่รับราชการแค่ 13 ปี แต่เป็นถึงเจ้าพระยา) แต่สุดท้ายในชีวิต ฟอลคอนคิดได้ว่า มิตรแท้ที่ดีต่อเขาจริงๆคือ พระนารายณ์ สำหรับคนมากเล่ห์-รู้รอบแบบนั้น กลับโดนจับง่ายๆ เพราะอยากไปพบพระนารายณ์ อยากเข้าเฝ้าว่าอาการประชวรเป็นอย่างไร
แสดงความคิดเห็น
มีความเห็นอย่างไรบ้าง กับการเขียนบท "บุพเพสันนิวาส" แบบเลือกข้างชัดเจนของอ.ศัลยา
ฟอลคอลถูกนำเสนอให้มีนิสัยหยาบช้าต่อคนไทยตั้งแต่ฉากแรก มีทะเยอทะยายมักใหญ่ใฝ่สูง เนรคุณคนเช่นขุนเหล็ก โดยไม่ได้บอกภูมิหลังความลำบากขณะเป็นกุลีในเรือสินค้าซึ่งมีผลต่อลักษณะนิสัย ดังเช่นนักประวัติศาสตร์บางคนวิเคราะห์ไว้ มีการตอกย้ำเรื่องสึกพระมาสร้างป้อมหลายครั้ง แต่ก็ไม่ได้พูดถึงสาเหตุที่บรรดาไพร่หนีไปบวชจำนวนมากเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกเกณฑ์แรงงาน และที่ฉกาจฉกรรจ์ที่สุดคือชักศึกเข้าบ้าน ในละครจึงมีแต่คนต่อต้านฟอลคอล ตั้งแต่บรรดาขุนนาง บ่าวไพร่ รวมไปถึงภรรยาตัวเอง
ขณะทางฝั่งพระเพทราชาออกมาบอกหลายครั้งว่าที่ตัดสินใจยึดอำนาจขุนหลวงนายรายณ์และปราบดาภิเษก ไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง แต่ทำเพื่อบ้านเมือง มีคนเข้าข้างมากกว่าทั้งตัวพระเอก เพื่อนพระเอก ไปจนถึงนางเอกก็ยังเข้าข้างถึงกับแฉเรื่องจดหมายลับของฟอลคอนถึงนายทหารฝรั่งเศสให้ส่งกองกำลังมาช่วย ทำให้ฝ่ายนี้มีความชอบธรรมมากขึ้นในการยึดอำนาจ ความโหดของฝั่งนี้หลังขึ้นสู่อำนาจทั้งในเรื่องลงโทษฟอลคอลและทองกีมาก็ถูกเขียนให้ดาวน์ลงมาก การจัดการกับพวกเดียวกันที่ไม่เป็นที่ไว้วางใจอย่างโกษาปานก็ไม่กล่าวถึง
อย่างไรก็ตามก็ไม่แน่ใจว่า หากเขียนบทให้ทั้ง 2 ฝ่าย มีสีเทาหม่นเท่าๆ กัน จะทำให้ละครออกมาสนุกหรือไม่ ทำให้เสียเวลาเกินไปหรือเปล่า สามารถเร้าอารมณ์คนดูเหมือนที่ผู้เขียนต้องการได้ไหม หรือการเขียนบทละครให้ตัวละครมีสีขาวหรือดำชัดเจนซึ่งเป็นขนบแต่ดั้งเดิมยังมีความจำเป็น