แตกประเด็นจากกระทู้
https://pantip.com/topic/37559650
เรื่องนี้ เขียนจากประสบการณ์ตรงครับ
แต่ไม่ใช่ประสบการณ์การเป็นเอดส์นะครับ

เป็นประสบการณ์การพูดคุยกับคุณหมอท่านหนึ่ง
ดังนี้ ครับ
1. คุณหมอท่านเล่าให้ฟังว่า พวกท่านพยายามต่อสู้กับเรื่องนี้มาเกือบยี่สิบปีแล้ว
คือเรื่องการเอาคนป่วยเป็นเครื่องมือหากิน ไม่น้อยนะครับ เงินบริจาค เงินหนุนจากแหล่งต่าง ๆ ปีละเป็นพันล้าน
กลุ่มผลประโยชน์โยงใยเป็นเครือข่าย อิทธิพลสูง แตะยาก เลยได้แต่ปล่อยไป
สังเกตสิครับ องค์กรต่าง ๆ จากนานาชาติหลายประเทศ ถอยห่างออกจากวัดบางแห่งไปนานแล้ว
เพราะเห็นวัตถุประสงค์แอบแฝง ผิดวิธี และที่น่าอดสูที่สุด คืออ้างธรรม เอาคนป่วยเป็นเครื่องมือหากิน
ไม่เชื่อผม ก็ลองค้นข้อมูลดูได้เลยครับ
2. เรื่องโรคเอดส์
ณ ปัจจุบันนี้ คือระยะสิบกว่าปีมานี่ สถานะและภาวการณ์โรคเอดส์ไม่ใช่โรคร้ายแรงอย่างที่เคยเป็นแล้วครับ
คนป่วยได้รับการดูแลรักษาอย่างดี อดีต มีแค่ยาต้านไวรัส แต่ปัจจุบันนวัตกรรมยาพัฒนาไปไกลกว่าเดิมมากแล้ว
เอดส์ ไม่ใช่โรคร้ายแรงที่เป็นแล้วต้องนอนรอความตาย การดูแลผู้ป่วยเอดส์ ครอบคลุมอยู่ในระบบประกันสุขภาพ 30 บาท
คุณหมอเล่าให้ผมฟังว่า ทางรัฐไม่อยากขยายข่าวเรื่องเอดส์ไม่ใช่ความร้ายแรงอย่างในอดีตแล้ว
เพราะเกรงจะเกิดการติดต่อแพร่เชื้อมากขึ้นเพราะคนเห็นว่าไม่น่ากลัว
มีการพยายามช่วยเหลือดูแลรักษาเยียวยาผู้ป่วยด้วยการคำนึงถึงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
ให้คนป่วยมีสถานะทางสังคมเท่า ๆ กับผู้อื่น ไม่ใช่การสร้างภาพความเจ็บป่วยเพื่อแลกกับเงินบริจาค
ข้อมูลเพิ่มเติม
http://www.healthd.net/hiv/ ลิงค์นี้มีคลิปให้ดูด้วยครับ
และ
หมดเวลาหากินกับความทุกข์ทรมานของผู้ติดเชื้อ
คงเข้าใจในเจตนาของผมนะครับ
คุณไมแค่ว ครับ ผมเสร็จธุระแล้วครับ ขอสาธยายความเข้าใจผิดให้คุณไมเค่วได้รู้ครับ .................... หล่อขวัญ
เรื่องนี้ เขียนจากประสบการณ์ตรงครับ
แต่ไม่ใช่ประสบการณ์การเป็นเอดส์นะครับ
ดังนี้ ครับ
1. คุณหมอท่านเล่าให้ฟังว่า พวกท่านพยายามต่อสู้กับเรื่องนี้มาเกือบยี่สิบปีแล้ว
คือเรื่องการเอาคนป่วยเป็นเครื่องมือหากิน ไม่น้อยนะครับ เงินบริจาค เงินหนุนจากแหล่งต่าง ๆ ปีละเป็นพันล้าน
กลุ่มผลประโยชน์โยงใยเป็นเครือข่าย อิทธิพลสูง แตะยาก เลยได้แต่ปล่อยไป
สังเกตสิครับ องค์กรต่าง ๆ จากนานาชาติหลายประเทศ ถอยห่างออกจากวัดบางแห่งไปนานแล้ว
เพราะเห็นวัตถุประสงค์แอบแฝง ผิดวิธี และที่น่าอดสูที่สุด คืออ้างธรรม เอาคนป่วยเป็นเครื่องมือหากิน
ไม่เชื่อผม ก็ลองค้นข้อมูลดูได้เลยครับ
2. เรื่องโรคเอดส์
ณ ปัจจุบันนี้ คือระยะสิบกว่าปีมานี่ สถานะและภาวการณ์โรคเอดส์ไม่ใช่โรคร้ายแรงอย่างที่เคยเป็นแล้วครับ
คนป่วยได้รับการดูแลรักษาอย่างดี อดีต มีแค่ยาต้านไวรัส แต่ปัจจุบันนวัตกรรมยาพัฒนาไปไกลกว่าเดิมมากแล้ว
เอดส์ ไม่ใช่โรคร้ายแรงที่เป็นแล้วต้องนอนรอความตาย การดูแลผู้ป่วยเอดส์ ครอบคลุมอยู่ในระบบประกันสุขภาพ 30 บาท
คุณหมอเล่าให้ผมฟังว่า ทางรัฐไม่อยากขยายข่าวเรื่องเอดส์ไม่ใช่ความร้ายแรงอย่างในอดีตแล้ว
เพราะเกรงจะเกิดการติดต่อแพร่เชื้อมากขึ้นเพราะคนเห็นว่าไม่น่ากลัว
มีการพยายามช่วยเหลือดูแลรักษาเยียวยาผู้ป่วยด้วยการคำนึงถึงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
ให้คนป่วยมีสถานะทางสังคมเท่า ๆ กับผู้อื่น ไม่ใช่การสร้างภาพความเจ็บป่วยเพื่อแลกกับเงินบริจาค
ข้อมูลเพิ่มเติม
http://www.healthd.net/hiv/ ลิงค์นี้มีคลิปให้ดูด้วยครับ
และ
หมดเวลาหากินกับความทุกข์ทรมานของผู้ติดเชื้อ
คงเข้าใจในเจตนาของผมนะครับ