[ทีวีดาวเทียมญี่ปุ่น] อัพเดทข่าว ช่องทีวี 4K / 8K ต้นปี 2018

สวัสดีครับ

กระทู้นี้จะพูดถึงความเปลี่ยนแปลงต่างๆของ Broadcast ฝั่งญี่ปุ่น ที่ผ่านมาช่วงต้นปี 2018 เกี่ยวกับช่องทีวีแบบ 4K และ 8K ให้ได้เห็นว่าตอนนี้มีอะไรขยับบ้าง พอใกล้ออกอากาศมากขึ้นเท่าไหร่ ข่าวก็ตามมาเยอะขึ้นเท่านั้น

กระทู้นี้จะนำข้อมูลที่ผมเคยลงใน Twitter เอามาขยาย เพราะใน Twitter พิมพ์ได้น้อยครับ ---> https://twitter.com/FSX_1997
ถ้าเอาแต่ละเครื่อง มาลงแยกกระทู้ใน Pantip กลัวว่าจะรกบอร์ดครับ

นี่เป็นกระทู้ที่พูดถึงช่องดาวเทียม 4K / 8K ของญี่ปุ่น เมื่อปลายปีที่แล้วครับ ---> https://pantip.com/topic/37157069

--------------------------------------------------------------------------

โลโก้อย่างเป็นทางการ สำหรับใช้แปะอุปกรณ์ที่รองรับ 4K / 8K


JEITA สมาคมมาตรฐานเทคโนโลยีในญี่ปุ่น (คล้ายๆ มอก. เมืองไทย) ได้เลือกโลโก้ที่ใช้สำหรับบอกว่าอุปกรณ์รองรับทีวีดาวเทียมโครงข่าย "BS 4K, CS 4K และ BS 8K" โดยอุปกรณ์ทีวีและเครื่องรับต่างๆจะใช้โลโก้นี้ เหมือนกันทุกเจ้า เพื่อให้ผู้ซื้อทราบว่ารองรับอย่างแน่นอน

ที่มา : https://av.watch.impress.co.jp/docs/news/1111172.html

ปัจจุบันยังไม่มีทีวีหรือเครื่องรับที่มี Tuner ที่รองรับ แต่พวกจานดาวเทียม, สายสัญญาณ, ขั้วต่อ, Splitter ได้นำอุปกรณ์มาขายได้ประมาณ 1ปีแล้ว (โครงข่ายใหม่ ออกอากาศย่านความถี่ใหม่ ซึ่งอุปกรณ์ชุดเดิมรองรับไม่หมด และการเรียงความถี่ของญี่ปุ่นจะใช้ไม่เหมือนประเทศอื่น เอาของประเทศอื่นมาใช้ อาจจะใช้ไม่ได้)

--------------------------------------------------------------------------

โลโก้และ Font ใหม่ สำหรับสัญลักษณ์ มาตรฐานกลาง


ARIB หน่วยงานกำกับมาตรฐาน Broadcast ของญี่ปุ่น เลือกใช้ฟอนต์ "Hiragino TV Gothic" สำหรับใช้เป็นสัญลักษณ์ชุดใหม่ บรรจุลงมาตรฐาน ARIB STD-B62 เพื่อใช้บนทีวีรุ่นใหม่ และรองรับการออกอากาศ 4K/8K

โดยสัญลักษณ์ชุดใหม่ มีการเพิ่มโลโก้บอกสเปคใน EPG หลายตัว เช่น 4K, 8K, 60FPS, 120FPS, HDR, 2nd Screen, 3D, Hi-Res, 22.2 Channel ฯลฯ


ที่มา : https://av.watch.impress.co.jp/docs/news/1107860.html

* หลังจากเริ่มออกอากาศช่องระบบใหม่ ปลายปีนี้ ก็จะเริ่มผลักดันการใช้งาน Hybridcast และ 2nd Screen ในการแสดงผลข้อมูลเสริมต่างๆ ให้มากขึ้น ปัจจุบันมีการใช้ Hybridcast แทน Datacasting ในบางสถานี (สามารถเปลี่ยนไปใช้ Datacasting แบบเดิมได้อยู่) ซึ่งตอนนี้ก็ใช้สำหรับส่งการถ่ายทอดสดแบบ 4K ผ่านอินเทอร์เน็ต โดยใช้ Hybridcast เป็นตัวเชื่อม ได้ใช้แล้วในการถ่ายทอดสด Pyeongchang 2018 ที่ผ่านมา


--------------------------------------------------------------------------

ลดบิทเรต / ย้าย TP ช่องเดิม เพื่อจะเอา 4K มาลง


ตั้งแต่วันที่ 14 มกราคม ที่ผ่านมา ช่องฟรีทีวี BS ทั้งหมด 7 ช่อง ทยอยทำการปรับบิทเรตช่องของตัวเองโดยการลดบิทเรตลง เพื่อที่จะนำไปย้าย TP บนดาวเทียม เพื่อให้มี TP ว่าง สำหรับช่องฟรีทีวี BS 4K ที่จะมาอยู่ในโครงข่ายเดิมจำนวน 6 ช่อง (6 ช่องนี้จะไม่ต้องเดินสายหรือเปลี่ยนจานใหม่ เพราะอยู่ย่านความถี่เดิม)

* ที่จริงแล้วมีช่องนึง ไม่โดนลดล่วงหน้า แต่จะไปลดตอนย้าย TP เลย คือช่อง BS Japan (ช่อง BS ของ TV Tokyo)

โดยช่องฟรีทีวี BS เหล่านี้จะมีความพิเศษกว่าช่อง HD อื่นๆ ในระบบต่างๆ เพราะส่งภาพแบบ 1920x1080i (1080i) เพราะบิทเรตสูงกว่า HD ช่องอื่นๆปกติ (ปกติช่อง HD ญี่ปุ่น จะเป็น 1440x1080i) โดยการลดบิทเรต ลดจาก 18-20Mbps MPEG2 มาเป็น 15-16Mbps MPEG2 (ยังถือว่าสูงกว่าบิทเรตช่อง HD ทั่วไป เล็กน้อย) แต่ไม่ลดความละเอียดภาพลง ส่งผลทำให้ภาพคมน้อยลงนิดหน่อย (ดูจอใหญ่ๆจะรู้สึก ถ้าดูแบบบิทเรตเต็มแบบเมื่อก่อนมาก่อน)

โดยวันที่ 16 เมษายน นี้ ก็จะทยอยย้าย TP ไปทีละช่อง โดยมีช่องที่จะต้องย้าย TP 6 ช่อง (ทั้งที่เป็น HD และ SD)
ซึ่งคิวแรกก็คือ BS Japan ที่ยังไม่โดนลดบิทเรต ณ วันที่พิมพ์กระทู้นี่ นั่นเอง (ทำเสียง TV Champion ♪)



ที่มา : https://av.watch.impress.co.jp/docs/news/1112687.html

* มาตรฐานช่อง HD ญี่ปุ่น ที่เป็น MPEG2 (ฟรีทีวี / BS / CS / CATV) จะมี 10/14/15/18 Mbps
โดย 10 สำหรับช่องวาไรตี้, ช่องเพลง และฟรีทีวีช่อง Tokyo MX (ต้องแบ่งไปให้ช่องรอง SD)
14 สำหรับฟรีทีวี ทีวีดิจิตอล และช่อง HD อื่นๆ
15 สำหรับ BS 7ช่องที่โดนลดบิทเรต
18 สำหรับ WOWOW 3ช่อง และ BS11 (BS 7ช่องก่อนโดนลดใช้สเปคนี้)

ส่วน SD จะใช้ที่ 6 Mbps MPEG2 (ความคมสู้ 576i ไม่ได้ ญี่ปุ่นเป็น 480i แต่ได้ตรงภาพแตกน้อย เพราะบิทเรตสูงสำหรับ SD)
SD ช่องเดียวบนโครงข่าย BS คือ Disney Channel ออกอากาศบนโครงข่ายนี้มาตั้งแต่ปี 2004 (HD บน Sukapa! Premium ตั้งแต่ปี 2010)

--------------------------------------------------------------------------

MPEG2-AD ออกมาเพื่อช่วยเหล่าออเจ้า BS ที่โดนลดบิทเรต

หลังจากที่ช่อง BS ฟรีทีวีทั้งหลาย โดนลดบิทเรตไป เทคโนโลยีบีบอัดภาพที่ทาง NHK ได้คิดค้นไว้ก็ได้เข็นมาใช้ ซึ่งนั่นก็คือ MPEG2-AD

MPEG2-AD เป็นการพัฒนาต่อยอดจาก MPEG2 มาตรฐานเดิมที่ใช้กันทั่วโลก โดยตัวบีบอัดแบบใหม่ จะเปลี่ยนการ Field Strutcture (ไม่รู้จัเรียกยังไงดี เรียกว่า ระบบ "สร้างภาพ" แล้วกัน) จากของเดิม Frame DCT เป็น Field DCT ทำให้การใช้บิทเรตใน Quality เท่ากัน ดีขึ้น 1-4 dB สำหรับภาพเคลื่อนไหว ส่วนภาพนิ่งจะใช้แบบเดิมคือ Frame DCT (พูดง่ายๆคือ ของเดิมต้องเลือกใช้ แต่ของใหม่จะร่วมกันทำ)




จากการนำ MPEG2-AD มาใช้ ทำให้แม้จะลดบิทเรตลง และต้องพยุงภาพความละเอียดสูงเท่าเดิม ภาพก็ไม่แตกไปกว่าเดิม แค่ลดคมตามบิทเรตที่ลดลง (สร้างขึ้นมาเพื่อลดภาพแตกเป็นหลักเมื่อบิทเรตน้อยครับ)

โดยเฉพาะ Content ที่เป็นอนิเมะ จะเห็นความต่างค่อนข้างชัดเจน อย่างเช่นภาพคู่นี้ จากอนิเมะเรื่อง Cardcapture Sakura ทางช่อง NHK BS Premium เทียบก่อนลดบิทเรต (รูปบน) และหลังลดบิทเรต และมาใช้ MPEG2-AD (รูปล่าง)



เครดิตภาพ : ทวิตเตอร์ @UmeboshiGohan

ที่มา : https://tech.ebu.ch/docs/techreview/trev_304-mpeg2.pdf
https://home.jeita.or.jp/device/lirec/symposium/fpd_2013/pdf/4C.pdf

* ที่จริงแล้วระบบ MPEG2-AD ออกแบบไว้นานแล้ว และมีแผนจะใช้เพื่อออกอากาศ Content 3D (ช่วงที่ทีวี 3D เรียกได้ว่ายังไม่ตาย)
โดยทำการลดบิทเรตช่องปกติที่เป็น MPEG2 ลงเหลือ 13 Mbps (ฟรีทีวี BS) แล้วส่งช่องที่เป็น MPEG4 H.264 เข้าไป บิทเรต 7Mbps
แล้วส่งข้อมูล Metadata ให้ทีวีรวมภาพ ทำให้เป็น 3D
โดยทำแบบนี้จะทำให้ ช่องหลักภาพแตกน้อยลง และคนที่ไม่ดู 3D ก็จะสามารถดูแบบ 2D ปกติได้ (ช่วงที่ช่อง BS เอารายการ 3D มาลง ต้องส่งมาแบบ Side by Side คนที่ทีวีไม่รองรับ 3D ก็ดูไม่ได้เลย ต้องรอรีรันแบบ 2D ปกติ)


* MPEG2-AD ทีวีหรือกล่องที่รองรับ BS Digital ตั้งแต่รุ่นแรก ปี 2000 สามารถรับได้ ไม่มีปัญหา

--------------------------------------------------------------------------

กล่องทีวีดาวเทียม BS /CS 4K ที่เปิดตัวขายจริงเป็นเจ้าแรก


บริษัท Pixela ได้เปิดตัวกล่องทีวีดาวเทียม BS / CS 4K รุ่นพร้อมขายจริงเป็นเจ้าแรก นั่นคือรุ่น PIX-SMB400 เป็นกล่อง Android TV อีกด้วย

สำหรับสเปคก็ถือว่าจัดมาแจ่ม แต่ไม่ได้บอกรายละเอียดพวก CPU / RAM มาครับ
กล่องรุ่นนี้จะใช้ระบบ Android TV เวอร์ชั่น 8.0 รองรับการลงแอพ ซึ่งก็จะทำให้กล่องนี้ใช้ดู Youtube, เปิดเพลงผ่าน Spotify รวมถึงใช้แอพดูทีวีออนไลน์และทีวีย้อนหลังอย่าง AbemaTV, TVer, DANZ, dtv ได้ด้วย รวมถึงรองรับ Google Assistant รีโมทที่แถมมาใช้สั่งงานด้วยเสียงได้

ตัวกล่องจะมีทั้ง Tuner ทีวีดิจิตอล และ BS / CS ให้ (ไม่ได้บอกว่ามี Tuner ระบบละเท่าไหร่) และสามารถบันทึกรายการได้

ราคาทางการยังไม่ออกมา แต่แง้มมาแล้วว่าต่ำกว่า 30,000 เยน วางขายช่วงเดือน ตุลาคม นี้ครับ



ที่มา : http://www.pixela.co.jp/products/smarttuner/pix_smb400/
https://av.watch.impress.co.jp/docs/news/1115349.html
https://av.watch.impress.co.jp/docs/ex/kodenishi/1116034.html

* ก่อนจะเปิดตัวกล่องรุ่นนี้ Toshiba ก็เปิดตัวกล่องต้นแบบเช่นกัน แต่ยังไม่แง้มสเปค หรือบอกช่วงที่จะขายแต่อย่างใด บอกว่าราคาขายจะต่ำกว่า 50,000 เยน (แต่จากข่าวที่ทาง Toshiba เสนอ ดูๆแล้ว สเปคน่าจะสูงกว่าตัวนี้ครับ)

* ทีวีที่มี Tuner BS / CS 4K หรือ 8K ในตัว ณ ปัจจุบัน ยังไม่มีขายหรือเปิดตัวครับ ทีวีที่เพิ่งเปิดซีรีย์ เปิดรุ่นใหม่ขาย ณ ตอนนี้ คือยังไม่รองรับโดยตรงทั้งนั้น ต้องไปหากล่องมาต่อ

--------------------------------------------------------------------------

จบกันไปแล้วครับสำหรับเนื้อหาในกระทู้นี้ ส่วนตัวผมแล้วเสียดายที่ Tuner คลอดออกมาค่อนข้างช้าทีเดียว ช่วงนี้ทีวีเจ้าต่างๆก็เริ่มทยอยขนรุ่นปี 2018 มาขายแล้ว แต่ก็ยังไม่มี Tuner ระบบใหม่นี้มาให้ในตัว แต่จากที่ตามข่าว จะมี Sony ที่ยังไม่เข็นรุ่นปี 2018 มาขาย เป็นไปได้ว่าพอเปิดไลน์มา น่าจะใส่แบบที่รองรับมาให้แล้ว เมื่อทำราคาตัว Tuner ให้ถูกลงได้ (เทคโนโลยีพัฒนาเองในประเทศ มักแพง สเปคก็โหดเกินหน้าเกินตาชาวบ้านไปเยอะ) เจ้าอื่นเปิดตัวก็ไปเน้นฟังก์ชั่นอื่น เช่น AI (เป็นตัวคั่นรุ่นปี ยังไม่เข็นมาทั้งไลน์) งานช้างอย่าง 8K ปัจจุบันยังต้องใช้ HDMI 4 Port ในการส่งหรือรับสัญญาณภาพ 8K 60 FPS ได้ (ในงานโชว์ของ 4K / 8K ที่เพิ่งจัดไป มีการทำสาย HDMI ที่ตัวใส้ในสาย เป็นเคเบิ้ลใยแก้ว มาเปิดตัวด้วย ส่งเข้าทีวีด้วย Port เดียว แต่ฝั่งรับยังต้องแบ่ง 4 Port อยู่)

ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านนะครับ สวัสดีครับ พาพันขอบคุณ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่