ปกติเรามีแต่ละครสะท้อน "สังคม" แต่ครั้งนี้กลับมีละครที่สะท้อน "ละครไทย"
ซึ่งถ้ามองให้ดีนับเป็นมิติใหม่ที่ทั้งผู้จัดและทีมสร้างหลายค่ายสามารถใช้ปรากฎการณ์นี้ศึกษารสนิยม(ที่แท้จริง)ของคนไทยได้เลยทีเดียว
เพราะถ้าถามว่าบุพเพฯมีความแปลกใหม่ด้านใดบ้าง ตอบตรงๆเลยว่าไม่ได้มีอะไรต่างไปจากเดิม เพราะหลายอย่างก็เหมือนละครทั่วไป แถมบางอย่างก็ด้อยกว่าละครเรื่องอื่นด้วยซ้ำ
แต่แล้วอะไรถึงทำให้ละครเรื่องนี้ประสบความสำเร็จมากมาย โกยเรตติ้งถล่มทลายถึงเพียงนี้?
อันที่จริงถ้าพูดถึงสิ่งที่บุพเพฯมีเหมือนละครรักเรื่องอื่นๆ ก็เช่น "นางเอกย้อนกลับไปอดีต" (กระจกทวิภพก็ลอยมา...) "พระเอกรักเดียวใจเดียว" (อันนี้เยอะเลยมีนับไม่ถ้วน) "ละครอิงประวัติศาสตร์" (นี่ก็นับไม่ถ้วนอีกหมือนกัน) "เป็นละครพีเรียด" (หลับตาบอกได้หลายเรื่องทีเดียว) "ตัวละครเทาๆไม่เว้นแม้แต่พระเอกนางเอก" (ก็พอมีเหมือนกันไม่ได้แปลกใหม่อะไร) "นางเอกโก๊ะกังพระเอกซึนๆแนวโรแมนติกคอมเมดี้" (เพียบเลยล่ะออเจ้า) "พระเอกนางเอกเล่นดีมว๊ากกกกก" (อึดตะปือนังทีเดียวเชียว) "นักแสดงประกอบเล่นดีเป็นที่จดจำ" (อักโขเหลือเกินเจ้าค่ะ) "เวทมนต์ ความเชื่อ ไสยศาสตร์" (หืมมม มีเป็นสิบเป็นร้อยเรื่องคุณหญิงจำปาก็รู้) "คอสตูมสวยงามประณีต" (ถามพี่ไก่ วรายุทธ ได้เลย) ฯลฯ
เท่าที่นึกออกเฟสแรกก็มีประมาณนี้ ทำให้เห็นว่าจุดเด่นหลักๆของบุพเพฯไม่ได้แตกต่างจากละครไทยเรื่องอื่น
งั้นโอเค... ถ้าพูดถึงจุดด้อยบ้างล่ะจะเป็นยังไง?
เริ่มจากที่ถูกพูดถึงมากมายคือ "ฉาก CG ต่างๆ" (ได้ข่าวว่าพี่หน่องให้โอกาสเด็กรุ่นใหม่และรู้สึกชื่นชมอยู่ลึกๆ แต่หลายครั้งก็อารมณ์สะดุดเพราะรู้สึกเหมือนอยู่ในโลกการ์ตูนมากกว่าโลกความจริง) "ฉากฟินต้องมีขาอ่อนล้มทับ" (เป็นฉากที่ไม่ว่าเรื่องไหนก็โดนวิจารณ์ทุกครั้งที่มี และเรื่องนี้ก็มีเพียบเลย แหะๆ) "การแต่งหน้า" (เราว่าสีสันจัดจ้านไปหน่อยทั้งออเจ้า พี่หมื่น และเพื่อนๆพี่หมื่น) "นักแสดงบางคนเล่นแข็งหรือยังไม่ดีพอ" (แม่มะลิโดนเยอะเชียวหนา แม่จันทร์วาดก็โดนหาว่าอ่อยคุณพี่เกินกุลสตรีไทย) "ความต่อเนื่องและสมจริง" (บาตอนเดินเรื่องเร็วมากจนตามไม่ทันยิ่งตอนหลังไวยิ่งกว่าเน็ต 4G / ศรีปราชญ์โผล่ก็งงๆเหมือนตายไปแล้วตั้งแต่ฉากแรกที่ออก / พี่หมื่นจากอยุธยาไปช่วยการะเกดที่ละโว้เร็วมาก) ฯลฯ
แล้วฉากที่ปกติละครรักหรือแนวโรแมนติกคอมเมดี้ส่วนใหญ่มีแต่ละครเรื่องนี้ไม่มี?
"นางร้ายมิติเดียว" (เกิดมาเพื่อแย่งพระเอกจากนางเอก / แม่หญิงจันทร์วาด? ไม่ใช่นะ นางเรียบร้อยเและป็นคู่รองทีเดียวเชียว) "พระเอกนางเอกเด่นมากกกกกก" (ก็ปกติของละครแนวนี้นะ/บุพเพฯเด่นทุกคู่ แม้แต่คู่ไอ้จ้อยกับไก่ยังเด่นเลย) "นางเอกน่าสงสาร เรียบร้อย เป็นกุลสตรีไทย" (ไม่งั้นพระเอกจะรักเหรอ/หันมาสบตาการะเกดตัวจริง บรื่อววว์) "พระเอกเป็นคนดีสุดๆ" (ไม่งั้นนางเอกจะรักเหรอ/โอมมม มนต์กฤษณะกาลี...) "ตัวร้ายร้ายก็ร้ายสุดๆ" (พระเอกนางเอกจะได้ดูไง / สงสารฟอลคอน ฮืออออ) "ฉาก Feel Good เยอะแบบรัวๆๆ" (ฟีลลิ่งแบบนี้ต้องมีตลอดเรื่อง เพราะเราคือโรแมนติกคอมเมดี้ๆๆๆ/ หา... บุพเพฯไม่ใช่ละครโรแมนติกดราม่าหรอกเหรอ ก็แหม่การเมืองเข้มข้นละเกิ๊นนนน) "คู่จิ้น" (คำนี้สั้นๆแต่มีความหมาย / โป๊บกับเบลล่าไม่ได้เป็นคู่จิ้นกันกันนะเอ้อ รู้ยัง)
และจบท้ายที่ "ละครบุพเพฯมี แต่ละครเรื่องอื่นไม่มีหรือมีน้อย" ละกันนะ
1. "เปิดโอกาสให้ตัวละครโดดเด่นทุกคน" (แม้จะมีบทมากน้อยแค่ไหน หน้าเก่า หน้าใหม่ หน้าไก่... เอ๊ย 555 ถ้าได้ออกนิดเดียว คุณจะได้สิทธิ์นั้นทันที่ เพราะ ผกก.พี่ใหม่ได้กล่าวไว้)
2. "พล็อตเรื่องที่ละเอียดอ่อน ทำให้ตัวละครหลักมีที่มาที่ไป มีมิติทางอารมณ์และน่าสนใจ" (อย่างฟอลคอนก่อนตายก็ยังน่าสงสารได้ การะเกดหรือเกดสุรางค์เป็นพี่น้องฝาแฝดกันแต่ไม่เคยได้โตด้วยกัน พระเพทราชาจำต้องกบฎ ขุนหลวงนารายณ์มีความขมขื่นในใจยากที่ใครจะเข้าใจ ฯลฯ)
3. "คัดสรรนักแสดงที่มีความเหมาะสมมากกว่าชื่อเสียง" (เรื่องนี้เห็นได้ชัดเลยว่าเรามีนักแสดงฝีมือดีอีกมากจริงๆ โดยเฉพาะพี่บิ๊ก พี่ปราปต์ หลุยส์ นุ่น พี่หยา ไอ้จ้อย ฯลฯ เพียงแต่โอกาสไม่เคยมาถึงพวกเค้า และหลายครั้งบางคนต้องเล่นบทที่ไม่เหมาะสมจนจมหายไปกับละคร)
4. "ทำให้ประวัติศาสตร์ไทยน่าสนใจและมีชีวิตได้อย่างน่าทึ่ง ละครรักไม่ได้มีแต่พระเอกนางเอกอย่างเดียว" (เพราะการให้ความสำคัญใน 3 ข้อแรกของผู้จัดและผกก. บวกกับเนื้อหานิยายที่ผู้เขียนมีความรู้ด้านประวัติศาสตร์ และการเขียนบทโทรทัศน์ขั้นเทพจาก อ.ศัลยา ตลอดจนนักแสดงและทีมงานเบื้องหลังทุกคน ปรากฎการณ์นี้ถึงเกิดขึ้นมาได้ ถ้าขาดอย่างใดอย่างหนึ่งไปความนิยมคงน้อยกว่านี้เยอะทีเดียว)
* จุดที่น่าสังเกต... จากที่แยกหัวข้อไว้จะเห็นได้ว่าบุพเพฯมีความเหมือนละครเรื่องอื่นเยอะมากกกกก ขณะเดียวกันจุดด้อยก็มีและเยอะด้วย แต่หลายอย่างที่บุพเพฯไม่มีแต่มันกลับถูกจริตคนดูสุดๆซึ่งเป็นส่วนสำคัญมาก แต่ขณะเดียวกัน 4 ข้อที่ละครเรื่องนี้มีแต่เรื่องอื่นไม่มีหรือมีน้อยนั้น กลับเป็นหัวใจสำคัญที่ตรึ่งคนดูและทำให้รักละครเรื่องนี้จนหมดใจ
สุดท้ายนี้ไม่รู้ว่าการวิเคราะห์ของเราจะถูกต้องหรือถูกใจใครแค่ไหน แต่ตามที่เขียนไปนี้เราหวังจริงๆว่าวันหนึ่งละครไทยจะพัฒนาขึ้นกว่าเก่า มีพล็อตเรื่องที่ลึกซึ้งกินใจชวนติดตาม พระนางไม่อิงกระแสคู่จิ้นเพราะเลือกจากความเหมาะสมตามบทบาท ตัวละครทุกตัวไม่ใช่แค่ตัวประกอบเข้าฉากแต่เป็นผู้มีบทบาทให้เรื่องราวดำเนินไปอย่างเข้มข้นและควรเป็น...
เพราะทุกวันนี้เราดูซีรีย์เกาหลี ญี่ปุ่น ฝรั่ง จีน ฯลฯ กันเยอะมากกกกกก ยอมไป ตปท. เพื่อตามรอยละครก็มีเยอะเพราะของเค้าดีจริงๆ ทำให้คนดูบางส่วนไม่คิดกลับมาดูละครไทยเพราะที่ดูอยู่ก็พอใจมากแล้ว (ค่ายดีๆ ผกก.เก่งๆ ที่ทำละครสนุกก็มีเยอะนะคะ 555 เพียงแต่ถ้าเทียบสัดส่วนแล้วยังมีน้อยจนน่าเสียดาย) ซึ่งถ้าผู้จัดและทีมงานสามารถนำตัวอย่างความสำเร็จจากบุพเพฯไปปรับใช้กับละครตัวเองได้ เราเชื่อว่าจะมีปรากฎการณ์แบบนี้ได้อีกหลายเรื่องทีเดียว และไม่ว่าจะเป็นเรื่องไหน ช่องอะไร ค่ายใดทำ ก็ล้วนแต่เป็นความสำเร็จที่น่ายินดีด้วยกันทั้งนั้น ว่าแล้วก็มาช่วยกันผลิตละครดีๆไปบุกตลาดต่างประเทศกันเยอะๆเถอะนะคะ ประเทศอื่นทำได้ ประเทศไทยก็ทำได้ สู้ๆๆๆค่ะ ><
อีกอย่างตอนนี้เราว่ากระแส T-Pop กำลังมาดีมาก เพราะปีก่อนวงการเพลงบ้านเราก็ตื่นตัวขึ้นเยอะจากรายการ The Mask Singer มาจนถึงปีนี้ก็มีน้องๆ BNK48 และตอนนี้ก็ถึงคราวของละครไทยอย่างบุพเพสันนิวาสแล้ว เราดีใจมากที่คนไทยหันมาชื่นชมผลงานและศิลปินของคนไทย ไม่รู้จะบรรยายยังไงดีแต่รู้แค่ว่าอยาก "ขอบคุณ" ทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกระแส T-Pop โดยเฉพาะละครเรื่องนี้ "บุพเพสันนิวาส" เพราะพวกคุณทำให้ค่านิยมหลายอย่างในวงการละครไทยเปลี่ยนไป แม้จะตอบไม่ได้ว่าสิ่งนี้จะอยู่นานแค่ไหน แต่เชื่อว่าความสำเร็จนี้ไม่มีใครมองข้ามไปแน่นอน
ป.ล. เขียนยืดยาวมาก ออกแนวพร่ำเพ้อและเวิ่นเว้อ ถ้าอ่านลำบากก็ขอโทษด้วยนะคะ 555555
บุพเพสันนิวาส... ละครที่สะท้อน "ละครไทย"
ซึ่งถ้ามองให้ดีนับเป็นมิติใหม่ที่ทั้งผู้จัดและทีมสร้างหลายค่ายสามารถใช้ปรากฎการณ์นี้ศึกษารสนิยม(ที่แท้จริง)ของคนไทยได้เลยทีเดียว
เพราะถ้าถามว่าบุพเพฯมีความแปลกใหม่ด้านใดบ้าง ตอบตรงๆเลยว่าไม่ได้มีอะไรต่างไปจากเดิม เพราะหลายอย่างก็เหมือนละครทั่วไป แถมบางอย่างก็ด้อยกว่าละครเรื่องอื่นด้วยซ้ำ
แต่แล้วอะไรถึงทำให้ละครเรื่องนี้ประสบความสำเร็จมากมาย โกยเรตติ้งถล่มทลายถึงเพียงนี้?
อันที่จริงถ้าพูดถึงสิ่งที่บุพเพฯมีเหมือนละครรักเรื่องอื่นๆ ก็เช่น "นางเอกย้อนกลับไปอดีต" (กระจกทวิภพก็ลอยมา...) "พระเอกรักเดียวใจเดียว" (อันนี้เยอะเลยมีนับไม่ถ้วน) "ละครอิงประวัติศาสตร์" (นี่ก็นับไม่ถ้วนอีกหมือนกัน) "เป็นละครพีเรียด" (หลับตาบอกได้หลายเรื่องทีเดียว) "ตัวละครเทาๆไม่เว้นแม้แต่พระเอกนางเอก" (ก็พอมีเหมือนกันไม่ได้แปลกใหม่อะไร) "นางเอกโก๊ะกังพระเอกซึนๆแนวโรแมนติกคอมเมดี้" (เพียบเลยล่ะออเจ้า) "พระเอกนางเอกเล่นดีมว๊ากกกกก" (อึดตะปือนังทีเดียวเชียว) "นักแสดงประกอบเล่นดีเป็นที่จดจำ" (อักโขเหลือเกินเจ้าค่ะ) "เวทมนต์ ความเชื่อ ไสยศาสตร์" (หืมมม มีเป็นสิบเป็นร้อยเรื่องคุณหญิงจำปาก็รู้) "คอสตูมสวยงามประณีต" (ถามพี่ไก่ วรายุทธ ได้เลย) ฯลฯ
เท่าที่นึกออกเฟสแรกก็มีประมาณนี้ ทำให้เห็นว่าจุดเด่นหลักๆของบุพเพฯไม่ได้แตกต่างจากละครไทยเรื่องอื่น
งั้นโอเค... ถ้าพูดถึงจุดด้อยบ้างล่ะจะเป็นยังไง?
เริ่มจากที่ถูกพูดถึงมากมายคือ "ฉาก CG ต่างๆ" (ได้ข่าวว่าพี่หน่องให้โอกาสเด็กรุ่นใหม่และรู้สึกชื่นชมอยู่ลึกๆ แต่หลายครั้งก็อารมณ์สะดุดเพราะรู้สึกเหมือนอยู่ในโลกการ์ตูนมากกว่าโลกความจริง) "ฉากฟินต้องมีขาอ่อนล้มทับ" (เป็นฉากที่ไม่ว่าเรื่องไหนก็โดนวิจารณ์ทุกครั้งที่มี และเรื่องนี้ก็มีเพียบเลย แหะๆ) "การแต่งหน้า" (เราว่าสีสันจัดจ้านไปหน่อยทั้งออเจ้า พี่หมื่น และเพื่อนๆพี่หมื่น) "นักแสดงบางคนเล่นแข็งหรือยังไม่ดีพอ" (แม่มะลิโดนเยอะเชียวหนา แม่จันทร์วาดก็โดนหาว่าอ่อยคุณพี่เกินกุลสตรีไทย) "ความต่อเนื่องและสมจริง" (บาตอนเดินเรื่องเร็วมากจนตามไม่ทันยิ่งตอนหลังไวยิ่งกว่าเน็ต 4G / ศรีปราชญ์โผล่ก็งงๆเหมือนตายไปแล้วตั้งแต่ฉากแรกที่ออก / พี่หมื่นจากอยุธยาไปช่วยการะเกดที่ละโว้เร็วมาก) ฯลฯ
แล้วฉากที่ปกติละครรักหรือแนวโรแมนติกคอมเมดี้ส่วนใหญ่มีแต่ละครเรื่องนี้ไม่มี?
"นางร้ายมิติเดียว" (เกิดมาเพื่อแย่งพระเอกจากนางเอก / แม่หญิงจันทร์วาด? ไม่ใช่นะ นางเรียบร้อยเและป็นคู่รองทีเดียวเชียว) "พระเอกนางเอกเด่นมากกกกกก" (ก็ปกติของละครแนวนี้นะ/บุพเพฯเด่นทุกคู่ แม้แต่คู่ไอ้จ้อยกับไก่ยังเด่นเลย) "นางเอกน่าสงสาร เรียบร้อย เป็นกุลสตรีไทย" (ไม่งั้นพระเอกจะรักเหรอ/หันมาสบตาการะเกดตัวจริง บรื่อววว์) "พระเอกเป็นคนดีสุดๆ" (ไม่งั้นนางเอกจะรักเหรอ/โอมมม มนต์กฤษณะกาลี...) "ตัวร้ายร้ายก็ร้ายสุดๆ" (พระเอกนางเอกจะได้ดูไง / สงสารฟอลคอน ฮืออออ) "ฉาก Feel Good เยอะแบบรัวๆๆ" (ฟีลลิ่งแบบนี้ต้องมีตลอดเรื่อง เพราะเราคือโรแมนติกคอมเมดี้ๆๆๆ/ หา... บุพเพฯไม่ใช่ละครโรแมนติกดราม่าหรอกเหรอ ก็แหม่การเมืองเข้มข้นละเกิ๊นนนน) "คู่จิ้น" (คำนี้สั้นๆแต่มีความหมาย / โป๊บกับเบลล่าไม่ได้เป็นคู่จิ้นกันกันนะเอ้อ รู้ยัง)
และจบท้ายที่ "ละครบุพเพฯมี แต่ละครเรื่องอื่นไม่มีหรือมีน้อย" ละกันนะ
1. "เปิดโอกาสให้ตัวละครโดดเด่นทุกคน" (แม้จะมีบทมากน้อยแค่ไหน หน้าเก่า หน้าใหม่ หน้าไก่... เอ๊ย 555 ถ้าได้ออกนิดเดียว คุณจะได้สิทธิ์นั้นทันที่ เพราะ ผกก.พี่ใหม่ได้กล่าวไว้)
2. "พล็อตเรื่องที่ละเอียดอ่อน ทำให้ตัวละครหลักมีที่มาที่ไป มีมิติทางอารมณ์และน่าสนใจ" (อย่างฟอลคอนก่อนตายก็ยังน่าสงสารได้ การะเกดหรือเกดสุรางค์เป็นพี่น้องฝาแฝดกันแต่ไม่เคยได้โตด้วยกัน พระเพทราชาจำต้องกบฎ ขุนหลวงนารายณ์มีความขมขื่นในใจยากที่ใครจะเข้าใจ ฯลฯ)
3. "คัดสรรนักแสดงที่มีความเหมาะสมมากกว่าชื่อเสียง" (เรื่องนี้เห็นได้ชัดเลยว่าเรามีนักแสดงฝีมือดีอีกมากจริงๆ โดยเฉพาะพี่บิ๊ก พี่ปราปต์ หลุยส์ นุ่น พี่หยา ไอ้จ้อย ฯลฯ เพียงแต่โอกาสไม่เคยมาถึงพวกเค้า และหลายครั้งบางคนต้องเล่นบทที่ไม่เหมาะสมจนจมหายไปกับละคร)
4. "ทำให้ประวัติศาสตร์ไทยน่าสนใจและมีชีวิตได้อย่างน่าทึ่ง ละครรักไม่ได้มีแต่พระเอกนางเอกอย่างเดียว" (เพราะการให้ความสำคัญใน 3 ข้อแรกของผู้จัดและผกก. บวกกับเนื้อหานิยายที่ผู้เขียนมีความรู้ด้านประวัติศาสตร์ และการเขียนบทโทรทัศน์ขั้นเทพจาก อ.ศัลยา ตลอดจนนักแสดงและทีมงานเบื้องหลังทุกคน ปรากฎการณ์นี้ถึงเกิดขึ้นมาได้ ถ้าขาดอย่างใดอย่างหนึ่งไปความนิยมคงน้อยกว่านี้เยอะทีเดียว)
* จุดที่น่าสังเกต... จากที่แยกหัวข้อไว้จะเห็นได้ว่าบุพเพฯมีความเหมือนละครเรื่องอื่นเยอะมากกกกก ขณะเดียวกันจุดด้อยก็มีและเยอะด้วย แต่หลายอย่างที่บุพเพฯไม่มีแต่มันกลับถูกจริตคนดูสุดๆซึ่งเป็นส่วนสำคัญมาก แต่ขณะเดียวกัน 4 ข้อที่ละครเรื่องนี้มีแต่เรื่องอื่นไม่มีหรือมีน้อยนั้น กลับเป็นหัวใจสำคัญที่ตรึ่งคนดูและทำให้รักละครเรื่องนี้จนหมดใจ
สุดท้ายนี้ไม่รู้ว่าการวิเคราะห์ของเราจะถูกต้องหรือถูกใจใครแค่ไหน แต่ตามที่เขียนไปนี้เราหวังจริงๆว่าวันหนึ่งละครไทยจะพัฒนาขึ้นกว่าเก่า มีพล็อตเรื่องที่ลึกซึ้งกินใจชวนติดตาม พระนางไม่อิงกระแสคู่จิ้นเพราะเลือกจากความเหมาะสมตามบทบาท ตัวละครทุกตัวไม่ใช่แค่ตัวประกอบเข้าฉากแต่เป็นผู้มีบทบาทให้เรื่องราวดำเนินไปอย่างเข้มข้นและควรเป็น...
เพราะทุกวันนี้เราดูซีรีย์เกาหลี ญี่ปุ่น ฝรั่ง จีน ฯลฯ กันเยอะมากกกกกก ยอมไป ตปท. เพื่อตามรอยละครก็มีเยอะเพราะของเค้าดีจริงๆ ทำให้คนดูบางส่วนไม่คิดกลับมาดูละครไทยเพราะที่ดูอยู่ก็พอใจมากแล้ว (ค่ายดีๆ ผกก.เก่งๆ ที่ทำละครสนุกก็มีเยอะนะคะ 555 เพียงแต่ถ้าเทียบสัดส่วนแล้วยังมีน้อยจนน่าเสียดาย) ซึ่งถ้าผู้จัดและทีมงานสามารถนำตัวอย่างความสำเร็จจากบุพเพฯไปปรับใช้กับละครตัวเองได้ เราเชื่อว่าจะมีปรากฎการณ์แบบนี้ได้อีกหลายเรื่องทีเดียว และไม่ว่าจะเป็นเรื่องไหน ช่องอะไร ค่ายใดทำ ก็ล้วนแต่เป็นความสำเร็จที่น่ายินดีด้วยกันทั้งนั้น ว่าแล้วก็มาช่วยกันผลิตละครดีๆไปบุกตลาดต่างประเทศกันเยอะๆเถอะนะคะ ประเทศอื่นทำได้ ประเทศไทยก็ทำได้ สู้ๆๆๆค่ะ ><
อีกอย่างตอนนี้เราว่ากระแส T-Pop กำลังมาดีมาก เพราะปีก่อนวงการเพลงบ้านเราก็ตื่นตัวขึ้นเยอะจากรายการ The Mask Singer มาจนถึงปีนี้ก็มีน้องๆ BNK48 และตอนนี้ก็ถึงคราวของละครไทยอย่างบุพเพสันนิวาสแล้ว เราดีใจมากที่คนไทยหันมาชื่นชมผลงานและศิลปินของคนไทย ไม่รู้จะบรรยายยังไงดีแต่รู้แค่ว่าอยาก "ขอบคุณ" ทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกระแส T-Pop โดยเฉพาะละครเรื่องนี้ "บุพเพสันนิวาส" เพราะพวกคุณทำให้ค่านิยมหลายอย่างในวงการละครไทยเปลี่ยนไป แม้จะตอบไม่ได้ว่าสิ่งนี้จะอยู่นานแค่ไหน แต่เชื่อว่าความสำเร็จนี้ไม่มีใครมองข้ามไปแน่นอน
ป.ล. เขียนยืดยาวมาก ออกแนวพร่ำเพ้อและเวิ่นเว้อ ถ้าอ่านลำบากก็ขอโทษด้วยนะคะ 555555