[SR] ตลาดน้ำท่าคา 2561 ไปมาแล้ว ไปดูกัน

สวัสดีครับ เมื่อเดือนมีนาคม 2561 ที่ผ่านมา ผมมีโอกาสไปเที่ยวพร้อมกับไปทำงานด้วยที่ตลาดน้ำท่าคา จ.สมุทรสงคราม ตามคำชวนของเพื่อนคนนึง
จึงได้ไปตามสถานที่ต่างๆแบบที่มีคนนำทางเที่ยว ผมพบว่าข้อดีอย่างนึงของการเที่ยวแบบมีเส้นทางกำหนดไว้ และมีคนอธิบาย
ช่วยให้สถานที่ต่างๆ ที่เราได้ไป มีความหมายและน่าประทับใจมากขึ้น ในครั้งนี้ผมได้ไปเที่ยวในจุดกิจกรรมต่างๆ ที่ทางชุมชนร่วมกันจัดขึ้นเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในชุมชน ผมเลยเก็บภาพมาฝากกันครับ หากมีข้อมูลอะไรที่ไม่ถูกต้อง ต้องขออภัยไว้ด้วย เนื่องจากบรรยายจากความทรงจำที่ได้ไปมาครับ


ตลาดน้ำท่าคาเปิดตั้งแต่เช้าตรู่ และเปิดทุกวันเสาร์-อาทิตย์ จากที่แต่ก่อนเป็นเพียงตลาดที่ซื้อขายของกันเองของชุมชน แต่ปัจจุบันได้มีความเจริญมากขึ้นเป็นจุดหมายหนึ่งของนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ


เช้าๆ อากาศดี ที่นี่เป็นหนึ่งในเส้นทางที่นักปั่นจักรยาน จะมาแวะพักกันเพื่อถ่ายรูป และพักจิบกาแฟดริปแบบสบายๆ


ร้านกาแฟดริป นิทานคำกลอน เป็นที่เติมความสดชื่นช่วงเช้าได้เป็นอย่างดี



หลังจากจิบกาแฟกันแล้ว ก็พร้อมที่จะเดินกันต่อ ช่วงเวลานี้ที่ริมน้ำ เรือเริ่มหนาตา เรือพายของแม่ค้าต่างๆเริ่มเข้าจับจองพื้นที่ริมน้ำเพื่อรอนักท่องเที่ยวกันแล้ว


มีเรืออยู่ลำนึง ที่ขายอาหารที่ผมแปลกใจ จึงแวะเข้าไปดู  ผมจำชื่อไม่ได้แล้วว่าเขาเรียกว่าอะไร แต่พี่คนขายบอกว่า เป็นทอดมันพันอ้อย อร่อยนะ ลองชิมก่อน ไม่ซื้อไม่เป็นไร ผมก็เลยลองชิมดู มันก็คือทอดมันนั่นแหละ แต่รู้สึกว่ามีความหวานจากอ้อยซึมอยู่หน่อยๆ อร่อยดีครับ ก็ได้อุดหนุนพี่เขาหลายไม้เลยทีนี้


สิ่งที่ผมพบเห็นตลอดทางที่เดินไปตามเรือต่างๆ ก็คือรอยยิ้มครับ รอยยิ้มที่เห็นแล้วรู้สึกมีความสุขจากคุณยายหลายๆท่านที่พายเรือมารอขายของ ซึ่งของที่คุณยายต่างๆนำมาขายนี่ก็ไม่แพงเลย ถ้ารถที่นำมามีที่เหลือละก็ ผมว่าต้องได้ชื้อของฝากกลับไปเยอะแน่ครับ


บรรยากาศ สีสัน ของตลาดน้ำในเวลาช่วงสาย แสงแดดเริ่มมาแล้วครับ นักท่องเที่ยวก็มากันมากขึ้นเรื่อยๆ


ของสานจากวัสดุธรรมชาติ สินค้าของฝากที่เป็นที่นิยม และหากนักท่องเที่ยวสนใจที่จะลองทำด้วยตัวเอง ก็สามารถติดต่อขอลองทำดูได้ครับ คุณยายท่านใจดี


หลังจากเดินชมตลาดน้ำกันแล้ว เราก็จะไปนั่งเรือกันครับ


การท่องเที่ยวทางเรือที่ตลาดน้ำท่าคาแห่งนี้ เป็นการรวมกลุ่มของชาวบ้านที่นำเรือที่มีของตัวเองมาให้บริการแก่นักท่องเที่ยวได้ล่องเรือชมธรรมชาติของชุมชนท่าคา โดยชาวบ้านในชุมชนเป็นทั้งผู้พายเรือให้ และเป็นคนนำเที่ยวไปในตัวด้วยครับ


บรรยากาศเมื่อเรือเริ่มเข้าสู่บริเวณสวนของชาวชุมชน ซึ่งยังคงความเป็นธรรมชาติไว้ได้อย่างดี เรือจะพายไปแบบไม่รีบร้อนเพื่อให้เราได้ชมสถานที่ต่างๆริมคลองที่มีความน่าสนใจครับ


สถานที่แห่งแรกก็คือ บ้านกำนันจัน บ้านหลังนี้มีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่เป็นที่ภาคภูมิใจของชาวท่าคา เนื่องจากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯ
เคยเสด็จมาที่แห่งนี้ และได้ยกเลิกระบบทาสให้แก่ชาวบ้าน จึงได้เหลืออนุสรณ์ไว้ให้คนรุ่นหลังได้ระลึกถึง  


คือเสาไม้ที่เคยใช้ล่ามทาสเพื่อทำโทษ และโซ่ตรวนที่ไม่เคยถูกแกะออกจากเสาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน


วิถีชิวิตดั้งเดิมของชาวชุมชนท่าคา มีอาชีพทำสวนมะพร้าว และทำน้ำตาลมะพร้าว ทุกวัน เช้าและเย็น จะต้องขึ้นต้นมะพร้าวเพื่อไปเก็บน้ำหวานจากยอดต้นมะพร้าว มาเพื่อทำน้ำตาลมะพร้าว ซึ่งยังเป็นวิถีชิวิตสืบทอดมาสู่คนรุ่นปัจจุบัน และเราสามารถมาเยี่ยมชมการทำงานของพวกเขาได้ครับ


หลังจากที่ไปดูการเก็บน้ำตาลมะพร้าวมาแล้ว กิจกรรมต่อไปเขาก็จะพาไปชมการทำน้ำตาลมะพร้าวแบบที่วางขายสำเร็จ ให้เราได้เห็นถึงขั้นตอนต่างๆ
อันนี้บอกเลยว่าน่าสนใจมากๆครับ



เสร็จแล้ว นี่ไงครับ จากน้ำตาลมะพร้าวใสๆ มาต้ม มาเคี่ยว มากรอง จนได้น้ำตาลมะพร้าวแสนอร่อยของชุมชนท่าคา


เราล่องเรือต่อ เพื่อไปสถานที่ต่อไปกัน ระหว่างทางก็จะมีความงามของดอกไม้ต่างๆให้พบเห็นอยู่ตามริมคลอง


สถานที่ต่อไปนี้ พิเศษอยู่อย่างนึงคือ สามารถเดินทางมาที่นี่ด้วยเรือเพียงอย่างเดียวเท่านั้น รถไม่สามารถมาถึงได้ เพราะอยู่ในสวนจริงๆยังไม่มีถนนตัดผ่าน
แต่บรรยากาศดีมากครับ


ที่นี่เป็นบ้านของคุณลุง ผู้ประดิษฐ์ของเล่นพื้นบ้านจากวัสดุท้องถิ่น ซึ่งก็คือ เรือดุ๊กดิ๊ก นั่นเอง


คุณลุงใช้วัสดุจากมะพร้าวที่ถูกทิ้ง คัดเลือกส่วนที่ใช้ได้ มาตัดแต่งใหม่ ประกอบกันจนกลายเป็นของเล่นของฝาก เรือดุ๊กดิ๊ก


ผมเห็นวิธีเล่นแล้ว ง่ายๆครับ แค่ลากไปตามเรือที่เราล่องไป เจ้าเรือดุ๊กดิ๊กนี่ก็จะแกว่งตัวเอง พายซ้ายพายขวา สลับกันไปเอง ดุ๊กดิ๊กๆ สมชื่อเขาละครับ
เป็นของฝากที่ผมว่าน่ารักดีครับ แถมเล่นได้จริงๆด้วย


ต่อจากนั้นก็มีอีกที่ได้แวะไปคือ บ้านป้าพา ป้าพาได้เปิดบ้านตัวเองให้เป็นแหล่งเรียนรู้การสานใบมะพร้าวให้เป็นสิ่งของต่างๆได้ และยังทำโฮมสเตย์อีกด้วย


ตลาดน้ำท่าคา สมุทรสงคราม เท่าที่ผมได้มาสัมผัสครั้งนี้ ถือได้ว่าเป็น One day trip ที่ผมประทับใจครับ ตอนล่องเรือ ผมไม่ได้เตรียมหมวกไป เขาก็มีให้ยืมใช้ไม่คิดเงินเพิ่ม มีเสื้อชูชีพเพื่อความปลอดภัยให้ใส่ด้วย

การจะมาเที่ยวให้ได้ครบอรรถรส ได้หลากหลายกิจกรรมแบบนี้ แนะนำว่า ให้ติดต่อสอบถามไปทางเจ้าหน้าที่ของตลาดน้ำท่าคา
เพื่อจองโปรแกรมท่องเที่ยวไว้ก่อน เรือนำเที่ยวมีจำนวนจำกัดครับ เพราะเป็นเรือของชาวบ้านเค้าบริหารจัดการกันเอง
จะได้ไปเที่ยวแบบไม่เสียเที่ยวนะครับ
ปล. ตลาดน้ำมีถึงแค่ช่วงเที่ยงนะครับ บ่ายๆก็ตลาดวายหมดแล้ว
ขอขอบคุณที่ติดตามอ่านจนจบครับ