สวัสดีค่ะ วันนี้เรามีเรื่องมารบกวนขอคำปรึกษาของสมาชิกทุกคนในพันทิปค่ะ
ตอนนี้เราอายุ 23 ปี มีอาการคือเครียดค่ะ นอนไม่ค่อยหลับ ชอบนอนร้องไห้ตอนดึกๆคนเดียว และกำลังจะหาเวลาไปพบจิตแพทย์ในเร็วๆนี้
สาเหตุของความเครียดของเราคือ การกำหนดอนาคตตัวเองไม่ได้ การเลือกไปเรียนต่อ และภาระของทางบ้านค่ะ
ก่อนอื่นต้องขออนุญาตเล่าประวัติตัวเองคร่าวๆนะคะ เราจบจากมหาวิทยาลัยรัฐบาลแห่งหนึ่ง ที่มีชื่อเสียงพอสมควร ในคณะสายภาษา ด้วยเกรดเฉลี่ย 2.7x (เกือบต่ำที่สุดในชั้นปี) ตอนนี้ทำงานอยู่ที่โรงแรมที่เป็น international chain ในตำแหน่ง GSA (Receptionist) ฐานเงินเดือนบวก service charge อยู่ที่ประมาณ 18,xxx ++ แต่ยังไม่เกิน 20K ค่ะ
รายจ่ายหลักๆของเราแบ่งเป็นประมาณนี้
1. ค่าใช้จ่ายส่วนตัวของเราต่อเดือนไม่เกินประมาณ 3,000 บาท
2. เรามีน้องที่ต้องดูแล ค่าเทอมน้อง ค่าขนมต่างๆอยู่ที่ประมาณเดือนละ 3,000 บาท
3. ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเน็ตที่บ้านอีกประมาณ 1,500 บาท
4. ให้รายเดือนแม่กับป้าอีก 7,000 บาท
5. ใช้ดอกและเงินต้นของเงินกู้ที่เอามาให้แม่ (จะหมดภายในเดือนกรกฎาคม) 3,000 บาท
รวมทั้งหมดคือเกือบเท่าเงินเดือนในแต่ละเดือน และยังไม่มีเก็บออมค่ะ
ปัญหาคือตลอดระยะเวลาเกือบหนึ่งปีที่เราทำงานมา เราไม่เคยแน่ใจเลยว่าเราชอบงานที่เราทำอยู่ตอนนี้จริงๆมั้ย บางครั้งเรารู้สึกชอบเพราะเราสนุกกับการคุยกับแขก การแก้ปัญหาที่แต่ละวันไม่เคยเหมือนกัน การได้รับมือกับคนหลายๆแบบ แต่บางครั้งเราเองก็รู้สึกอยากลองงานอื่นๆก่อน เราอยากลองไปทางเป็น SLAES, AE , PA หรือพวกงาน Coordinator แต่เท่าที่สมัครไปก็ยังไม่มีบริษัทเรียกมา
ประกอบกับเราไม่รู้เลยว่าเราเองอยากจะเลือกเดินสายนี้ต่อไปรึเปล่า หรือสายงานนี้จะโตได้อีกแค่ไหน ทุกครั้งที่เราคิด เราวนอยู่กับคำถามที่เราตอบตัวเองไม่ได้ เราทรมานกับการเซ็ต goal ที่อย่างน้อยเป็นงานที่เราอยากทำ หรือเป็นอาชีพในชีวิตของตัวเองไม่ได้เลยค่ะ
พอประมาณช่วงปลายเดือนมีนา เพื่อนสนิทเราก็มาชวนไปเรียนต่อทางแถบยุโรปซึ่งจะเป็นการสอบขอทุนไป ในส่วนค่าเรียน (ถ้าสอบชิงทุนได้) จะเรียนฟรี แต่ค่าหอและค่าอื่นๆคือเราต้องเสียเอง หลักสูตรที่เรามองไว้คือทางด้านบริหารค่ะ แต่พอเราตัดสินใจจะลองไปสอบ ielts ใหม่เพราะเขาต้องการ 6.5 และทุกพาร์ทไม่ต่ำกว่า 6 เรากลับลังเล เพราะเราไม่รู้ว่าเราจะเลือกต่อสายนี้แน่ชัดแล้วใช่หรือเปล่า หรือเราอยากแค่ “ลอง” อะไรใหม่ๆ ประสบการณ์ทำงานก็ยังไม่เยอะ ส่วนของภาระที่บ้านก็ยังมี พอเราไปปรึกษากับแม่ แม่บอกให้ไปเรียนต่อเลย โดยที่แม่จะเอาบ้านไปจำนองให้ หรือให้พ่อขายที่ดินที่มีอยู่เพื่อเป็น pocket money ให้ แต่พอไปปรึกษาพ่อ พ่อบอกว่าอยากให้เราทำงานมีประสบการณ์ก่อนสักสองปีค่อยไปเรียนต่อ
เราเครียดมากค่ะ แม่ก็กดดันให้ออกจากงานไปสอบเพื่อไปเรียนต่อ ส่วนพ่อก็ยังอยากให้ทำงานก่อน เราเองก็กดดันตัวเอง ไม่รู้จะเลือกเดินทางไหน กลัวผิดกลัวพลาดไปหมด ไม่อยากให้แม่เอาบ้านไปจำนอง แล้วก็อยากชัดเจนกับตัวเองมากกว่านี้ด้วย
ยังไงเราขออภัยทุกท่านที่ผ่านมาอ่านกระทู้นี้แล้วอาจจะเครียด หรือรำคาญเรานะคะ เราเองยังรู้สึกค่อนข้างรำคาญตัวเองเลยค่ะ 55555 แต่เราอยากทราบความเห็นอื่นๆจริงๆ ว่าถ้าทุกท่านตกอยู่ในสถานการณ์คล้ายๆแบบนี้จะเลือกแบบไหนแล้วคิดว่าในทางที่หนูอาจจะเลือกอนาคตของชีวิตคิดว่าจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้างคะ
ขอบพระคุณสำหรับคำตอบอันมีค่าของแต่ละท่านล่วงหน้า ที่อาจจะชี้ทางสว่างพร้อมทั้งให้สติและแง่คิด และขออภัยสำหรับกระทู้ที่ดูจะงงและสับสนชีวิตที่ทำให้ทุกท่านต้องเสียอารมณ์ขณะอ่านหรือแท็กผิดห้องมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ ขอบพระคุณค่ะ
ปัญหาเล็กๆของเด็กอายุ 23
ตอนนี้เราอายุ 23 ปี มีอาการคือเครียดค่ะ นอนไม่ค่อยหลับ ชอบนอนร้องไห้ตอนดึกๆคนเดียว และกำลังจะหาเวลาไปพบจิตแพทย์ในเร็วๆนี้
สาเหตุของความเครียดของเราคือ การกำหนดอนาคตตัวเองไม่ได้ การเลือกไปเรียนต่อ และภาระของทางบ้านค่ะ
ก่อนอื่นต้องขออนุญาตเล่าประวัติตัวเองคร่าวๆนะคะ เราจบจากมหาวิทยาลัยรัฐบาลแห่งหนึ่ง ที่มีชื่อเสียงพอสมควร ในคณะสายภาษา ด้วยเกรดเฉลี่ย 2.7x (เกือบต่ำที่สุดในชั้นปี) ตอนนี้ทำงานอยู่ที่โรงแรมที่เป็น international chain ในตำแหน่ง GSA (Receptionist) ฐานเงินเดือนบวก service charge อยู่ที่ประมาณ 18,xxx ++ แต่ยังไม่เกิน 20K ค่ะ
รายจ่ายหลักๆของเราแบ่งเป็นประมาณนี้
1. ค่าใช้จ่ายส่วนตัวของเราต่อเดือนไม่เกินประมาณ 3,000 บาท
2. เรามีน้องที่ต้องดูแล ค่าเทอมน้อง ค่าขนมต่างๆอยู่ที่ประมาณเดือนละ 3,000 บาท
3. ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเน็ตที่บ้านอีกประมาณ 1,500 บาท
4. ให้รายเดือนแม่กับป้าอีก 7,000 บาท
5. ใช้ดอกและเงินต้นของเงินกู้ที่เอามาให้แม่ (จะหมดภายในเดือนกรกฎาคม) 3,000 บาท
รวมทั้งหมดคือเกือบเท่าเงินเดือนในแต่ละเดือน และยังไม่มีเก็บออมค่ะ
ปัญหาคือตลอดระยะเวลาเกือบหนึ่งปีที่เราทำงานมา เราไม่เคยแน่ใจเลยว่าเราชอบงานที่เราทำอยู่ตอนนี้จริงๆมั้ย บางครั้งเรารู้สึกชอบเพราะเราสนุกกับการคุยกับแขก การแก้ปัญหาที่แต่ละวันไม่เคยเหมือนกัน การได้รับมือกับคนหลายๆแบบ แต่บางครั้งเราเองก็รู้สึกอยากลองงานอื่นๆก่อน เราอยากลองไปทางเป็น SLAES, AE , PA หรือพวกงาน Coordinator แต่เท่าที่สมัครไปก็ยังไม่มีบริษัทเรียกมา
ประกอบกับเราไม่รู้เลยว่าเราเองอยากจะเลือกเดินสายนี้ต่อไปรึเปล่า หรือสายงานนี้จะโตได้อีกแค่ไหน ทุกครั้งที่เราคิด เราวนอยู่กับคำถามที่เราตอบตัวเองไม่ได้ เราทรมานกับการเซ็ต goal ที่อย่างน้อยเป็นงานที่เราอยากทำ หรือเป็นอาชีพในชีวิตของตัวเองไม่ได้เลยค่ะ
พอประมาณช่วงปลายเดือนมีนา เพื่อนสนิทเราก็มาชวนไปเรียนต่อทางแถบยุโรปซึ่งจะเป็นการสอบขอทุนไป ในส่วนค่าเรียน (ถ้าสอบชิงทุนได้) จะเรียนฟรี แต่ค่าหอและค่าอื่นๆคือเราต้องเสียเอง หลักสูตรที่เรามองไว้คือทางด้านบริหารค่ะ แต่พอเราตัดสินใจจะลองไปสอบ ielts ใหม่เพราะเขาต้องการ 6.5 และทุกพาร์ทไม่ต่ำกว่า 6 เรากลับลังเล เพราะเราไม่รู้ว่าเราจะเลือกต่อสายนี้แน่ชัดแล้วใช่หรือเปล่า หรือเราอยากแค่ “ลอง” อะไรใหม่ๆ ประสบการณ์ทำงานก็ยังไม่เยอะ ส่วนของภาระที่บ้านก็ยังมี พอเราไปปรึกษากับแม่ แม่บอกให้ไปเรียนต่อเลย โดยที่แม่จะเอาบ้านไปจำนองให้ หรือให้พ่อขายที่ดินที่มีอยู่เพื่อเป็น pocket money ให้ แต่พอไปปรึกษาพ่อ พ่อบอกว่าอยากให้เราทำงานมีประสบการณ์ก่อนสักสองปีค่อยไปเรียนต่อ
เราเครียดมากค่ะ แม่ก็กดดันให้ออกจากงานไปสอบเพื่อไปเรียนต่อ ส่วนพ่อก็ยังอยากให้ทำงานก่อน เราเองก็กดดันตัวเอง ไม่รู้จะเลือกเดินทางไหน กลัวผิดกลัวพลาดไปหมด ไม่อยากให้แม่เอาบ้านไปจำนอง แล้วก็อยากชัดเจนกับตัวเองมากกว่านี้ด้วย
ยังไงเราขออภัยทุกท่านที่ผ่านมาอ่านกระทู้นี้แล้วอาจจะเครียด หรือรำคาญเรานะคะ เราเองยังรู้สึกค่อนข้างรำคาญตัวเองเลยค่ะ 55555 แต่เราอยากทราบความเห็นอื่นๆจริงๆ ว่าถ้าทุกท่านตกอยู่ในสถานการณ์คล้ายๆแบบนี้จะเลือกแบบไหนแล้วคิดว่าในทางที่หนูอาจจะเลือกอนาคตของชีวิตคิดว่าจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้างคะ
ขอบพระคุณสำหรับคำตอบอันมีค่าของแต่ละท่านล่วงหน้า ที่อาจจะชี้ทางสว่างพร้อมทั้งให้สติและแง่คิด และขออภัยสำหรับกระทู้ที่ดูจะงงและสับสนชีวิตที่ทำให้ทุกท่านต้องเสียอารมณ์ขณะอ่านหรือแท็กผิดห้องมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ ขอบพระคุณค่ะ