ยามเย็น รถติดยาวเป็นหางว่าว ..
ต่างคนต่างรีบมุ่งตรงกลับบ้านไปหาครอบครัว ไปเจอรอยยิ้ม ไปอยู่กันพร้อมหน้า เพื่อเติมพลังให้วันรุ่งขึ้นได้ออกมาเผชิญโลกด้วยพาหนะคู่ใจกันต่อไป วนเวียนเป็นวัฏจักร ..
.
.
จขกท ก็เช่นกันครับ ออกตัวก่อนว่า ผมเป็นคนใช้ทั้งรถยนต์และมอเตอร์ไซต์ ดังนั้นเข้าใจจิตใจและความเป็นไปของทั้งสองฝ่าย แต่สำหรับกระทู้นี้ ขอพูดถึงเฉพาะชาวสองล้อด้วยกันเท่านั้นครับ ขออย่าได้นำข้อพิพาทของชาวสี่ล้อมาผสมโรงนะครับ เพื่อสังคมอุดมสุขของพวกเรา
.
.
ผมเองขี่มอเตอร์ไซต์มาตั้งแต่ 17-18 จนบัดป่านนี้ก็อายุอานามปาไปจะ 40 แล้ว ก็ยังชอบและรักในการขี่มันอยู่ อีกทั้งบวกกับสภาพการจราจรใน กทม. มันก็เอื้อให้เราใช้มอเตอร์ไซต์มากกว่าด้วย เพราะมันซื้อเวลาได้ ซื้อความคล่องแคล่วว่องไวได้มากกว่ารถยนต์
.
.
วันนี้แค่ขอมาบ่นในเรื่อง
"พวกจอมปาด"
.
.
ยก ตย. เมื่อซักพักสดๆร้อนๆ ก่อนจะมานั่งพิมพ์อยู่นี้
..ผมก็ขี่รถกลับบ้านปกติแบบทุกวัน ด้วยความที่รถยาวเหยียด บนถนนกัลปพฤกษ์ ซึ่งเป็นที่รู้ๆกันว่ามันติดแค่ไหน
วิสัยของชาวสองล้ออย่างเราๆก็คือ ขี่ไประหว่างช่องว่างของรถที่กำลังติดกันอย่างเมามัน (รู้ว่ามันผิดนะครับ แต่ในเมื่อสภาพการจราจรบ้านเรามันเป็นแบบนี้ มันก็ไม่รู้จำทำอย่างไรได้เหมือนกัน)
ซึ่งยิ่งรถติดมากช่องว่างระหว่างรถก็จะแคบลง เพราะขางครั้งจากสองเลนส์ก็หลายเป็นสามเลนส์ เผลอๆสี่เลนส์ก็มีมาแล้ว ยังไม่นับรวมรถที่เปลี่ยนช่องจราจรไปมาอีก ทั้งหมดคือปัจจัยเสี่ยงอันมากมายอยู่แล้วในยามเมื่อเราพยายามจะมุดไปตามช่องว่างเหล่านี้
ซึ่งก็แน่นอนว่า ด้วยช่องว่างเพียงแค่นี้ เราก็ขี่กันไปเรื่อยๆครับ ตามๆกันไป ส่วนตัวผมยืนพื้นความเร็วราวๆ 30-40 ค่อยๆไป เน้นความปลอดภัยไว้ก่อน
.
.
ระหว่างกำลังตั้งสมาธิขี่ตามคันข้างหน้าอยู่ ผมได้ยินเสียงท่อบึ้มๆๆมาด้านหลังแล้ว เหลือบมองกระจกหลังสิ่งที่เห็นคือมอเตอร์ไซต์ขนาดใหญ่คันนึง กำลังเร่งจี้มาและพยายามจะแซงผมให้ได้ ในขณะที่ขี่กันในช่องว่างระหว่างรถซึ่งพอดีคันเป๊ะๆ
พอมีจังหวะหน่อยพี่เบิ้มคันนี้ ก็พยายามเร่งแซงขวาขนาบข้างผมแล้วก็เบิ้ลๆ (ทั้งๆที่รถติดๆ) เพื่อที่จะมาพยายามปาดเข้าข้างหน้าระหว่างมอเตอร์ไซต์คันหน้ากับรถของผมเสียให้ได้ เป็นแบบนี้อยู่ 2-3 ครั้ง
ผมก็ยังคงขี่ไปเรื่อยๆในความเร็วประมาณเดิมครับ พี่เบิ้มเขาก็ยังคงแซงไม่ได้ เพราะจังหวะมันคงไม่ดีพอสำหรับเขา
ซักระยะนึงชาวงจังหวะรถคลายตัวลง พี่เขาก็รีบแซงซ้าย แล้วรีบปาดแว๊บบเข้าด้านหน้าผม ด้วยท่าทีประดุจนักแข่งมืออาชีพที่มีสกิลสูงส่ง พร้อมทั้งเบิ้ลเครื่องเพื่อ
.. นั่นสิ ผมก็สงสัยว่าเพื่ออะไรครับ ???
.
.
ยอมรับว่าสกิลการขับขี่พี่ "ชั้นสูง" เลยครับ.. ผมยอมรับ พี่เก่งมาก ทักษะพี่ดี คล่องแคล่วว่องไว ปานในสนามแข่ง ..
แต่พี่รู้ไหมครับ ...
จิตสำนึกต่อผู้ร่วมทางบนท้องถนนของพี่ .. "ชั้นต่ำ" มากครับ
พี่คิดไหมครับ ถ้าช่วงที่พี่พยายามปาด เกิดพี่แหย่พรวดเข้ามา ผมเบรคไม่ทัน คันข้างหน้า + พี่ + ผม + รถข้างๆ จะต้องจัดปาร์ตี้กันอย่างสนุกสนานโอดโอยแน่นอนครับ
.
.
.
เหตุการณ์เหล่านี้ พวกเราพบเจอเป็นประจำครับ ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
แต่ก็อดคิดไม่ได้นะครับ ว่า พวกที่ขับขี่ประเภทนี้ ก่อนทำแบบนั้นคุณได้ใช้สติคิดซักนิดไหมว่า ..
คนอื่นๆที่เขาขี่มอไซต์ ขึ้นคร่อมสองล้อ ก็พร้อมที่จะแบกรับความเสี่ยงอันมากมายบนท้องถนนอยู่แล้ว แต่ทำไงได้ ในเมื่อเราต้องดำรงชีวิตไปวันๆ และพยายามหาทางกลับบ้านไปหาลูกเมียด้วยอาการครบ 32 ในทุกวันๆ
แต่คนที่ขี่มอเตอร์ไซต์เพื่อดำรงชีวิต กลับต้องมาเจอการกระทำ
"ชั้นต่ำ" เหล่านี้ จะด้วยเพราะเหตุใด ... เพราะความคะนอง ความอยากโชว์พาว ความมั่นใจแบบไร้สติ ความไม่มีจิตสำนึก หรืออะไรก็แล้วแต่
สิ่งที่คุณทำ ถ้าพลาดพลั้งไปอะไรจะเกิดขึ้น คนเดือดร้อนอาจไม่ใช่แค่คุณเพียงคนเดียว ...
.
.
ฝากไว้ให้คิดนะครับ
คันเร่งอยู่ที่มือ แต่จิตสำนึกอยู่ที่สติและหัวใจ
ใช้สติไตร่ตรอง ใช้ใจเอื้อเฟื้อ เพื่อสังคมบนท้องถนนที่ดี ไม่ใช่สักแต่ว่าใช้มือบิดๆเอามันส์ โชว์ความง่าวบนท้องถนนไปวันๆนะครับ
.
.
.
.
#ขอเพิ่มเติมนิดหน่อย (เกรงว่าจะเข้าใจความหมายของกระทู้ผิด)
กระทู้นี้ผมไม่ได้หมายเฉพาะรถ BB นะครับ พฤติการแบบนี้มันมีทั้งรถเล็กรถใหญ่นั่นแล
แต่ที่ผมยก ตย. คันนี้ เพราะเย็นนั้นผมเจอพอดีครับ แต่ปกติขับขี่ทุกวันก็เจอหมดล่ะครับ **ว่าไปแล้วยิ่งรถเล็กๆเนี่ยตัวดีเลยครับ เจอบ่อยมากกว่า BB เยอะครับ
จากใจ ... คนขี่สองล้อ ถึงสองล้อด้วยกัน
ต่างคนต่างรีบมุ่งตรงกลับบ้านไปหาครอบครัว ไปเจอรอยยิ้ม ไปอยู่กันพร้อมหน้า เพื่อเติมพลังให้วันรุ่งขึ้นได้ออกมาเผชิญโลกด้วยพาหนะคู่ใจกันต่อไป วนเวียนเป็นวัฏจักร ..
.
.
จขกท ก็เช่นกันครับ ออกตัวก่อนว่า ผมเป็นคนใช้ทั้งรถยนต์และมอเตอร์ไซต์ ดังนั้นเข้าใจจิตใจและความเป็นไปของทั้งสองฝ่าย แต่สำหรับกระทู้นี้ ขอพูดถึงเฉพาะชาวสองล้อด้วยกันเท่านั้นครับ ขออย่าได้นำข้อพิพาทของชาวสี่ล้อมาผสมโรงนะครับ เพื่อสังคมอุดมสุขของพวกเรา
.
.
ผมเองขี่มอเตอร์ไซต์มาตั้งแต่ 17-18 จนบัดป่านนี้ก็อายุอานามปาไปจะ 40 แล้ว ก็ยังชอบและรักในการขี่มันอยู่ อีกทั้งบวกกับสภาพการจราจรใน กทม. มันก็เอื้อให้เราใช้มอเตอร์ไซต์มากกว่าด้วย เพราะมันซื้อเวลาได้ ซื้อความคล่องแคล่วว่องไวได้มากกว่ารถยนต์
.
.
วันนี้แค่ขอมาบ่นในเรื่อง "พวกจอมปาด"
.
.
ยก ตย. เมื่อซักพักสดๆร้อนๆ ก่อนจะมานั่งพิมพ์อยู่นี้
..ผมก็ขี่รถกลับบ้านปกติแบบทุกวัน ด้วยความที่รถยาวเหยียด บนถนนกัลปพฤกษ์ ซึ่งเป็นที่รู้ๆกันว่ามันติดแค่ไหน
วิสัยของชาวสองล้ออย่างเราๆก็คือ ขี่ไประหว่างช่องว่างของรถที่กำลังติดกันอย่างเมามัน (รู้ว่ามันผิดนะครับ แต่ในเมื่อสภาพการจราจรบ้านเรามันเป็นแบบนี้ มันก็ไม่รู้จำทำอย่างไรได้เหมือนกัน)
ซึ่งยิ่งรถติดมากช่องว่างระหว่างรถก็จะแคบลง เพราะขางครั้งจากสองเลนส์ก็หลายเป็นสามเลนส์ เผลอๆสี่เลนส์ก็มีมาแล้ว ยังไม่นับรวมรถที่เปลี่ยนช่องจราจรไปมาอีก ทั้งหมดคือปัจจัยเสี่ยงอันมากมายอยู่แล้วในยามเมื่อเราพยายามจะมุดไปตามช่องว่างเหล่านี้
ซึ่งก็แน่นอนว่า ด้วยช่องว่างเพียงแค่นี้ เราก็ขี่กันไปเรื่อยๆครับ ตามๆกันไป ส่วนตัวผมยืนพื้นความเร็วราวๆ 30-40 ค่อยๆไป เน้นความปลอดภัยไว้ก่อน
.
.
ระหว่างกำลังตั้งสมาธิขี่ตามคันข้างหน้าอยู่ ผมได้ยินเสียงท่อบึ้มๆๆมาด้านหลังแล้ว เหลือบมองกระจกหลังสิ่งที่เห็นคือมอเตอร์ไซต์ขนาดใหญ่คันนึง กำลังเร่งจี้มาและพยายามจะแซงผมให้ได้ ในขณะที่ขี่กันในช่องว่างระหว่างรถซึ่งพอดีคันเป๊ะๆ
พอมีจังหวะหน่อยพี่เบิ้มคันนี้ ก็พยายามเร่งแซงขวาขนาบข้างผมแล้วก็เบิ้ลๆ (ทั้งๆที่รถติดๆ) เพื่อที่จะมาพยายามปาดเข้าข้างหน้าระหว่างมอเตอร์ไซต์คันหน้ากับรถของผมเสียให้ได้ เป็นแบบนี้อยู่ 2-3 ครั้ง
ผมก็ยังคงขี่ไปเรื่อยๆในความเร็วประมาณเดิมครับ พี่เบิ้มเขาก็ยังคงแซงไม่ได้ เพราะจังหวะมันคงไม่ดีพอสำหรับเขา
ซักระยะนึงชาวงจังหวะรถคลายตัวลง พี่เขาก็รีบแซงซ้าย แล้วรีบปาดแว๊บบเข้าด้านหน้าผม ด้วยท่าทีประดุจนักแข่งมืออาชีพที่มีสกิลสูงส่ง พร้อมทั้งเบิ้ลเครื่องเพื่อ
.. นั่นสิ ผมก็สงสัยว่าเพื่ออะไรครับ ???
.
.
ยอมรับว่าสกิลการขับขี่พี่ "ชั้นสูง" เลยครับ.. ผมยอมรับ พี่เก่งมาก ทักษะพี่ดี คล่องแคล่วว่องไว ปานในสนามแข่ง ..
แต่พี่รู้ไหมครับ ...
จิตสำนึกต่อผู้ร่วมทางบนท้องถนนของพี่ .. "ชั้นต่ำ" มากครับ
พี่คิดไหมครับ ถ้าช่วงที่พี่พยายามปาด เกิดพี่แหย่พรวดเข้ามา ผมเบรคไม่ทัน คันข้างหน้า + พี่ + ผม + รถข้างๆ จะต้องจัดปาร์ตี้กันอย่างสนุกสนานโอดโอยแน่นอนครับ
.
.
.
เหตุการณ์เหล่านี้ พวกเราพบเจอเป็นประจำครับ ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
แต่ก็อดคิดไม่ได้นะครับ ว่า พวกที่ขับขี่ประเภทนี้ ก่อนทำแบบนั้นคุณได้ใช้สติคิดซักนิดไหมว่า ..
คนอื่นๆที่เขาขี่มอไซต์ ขึ้นคร่อมสองล้อ ก็พร้อมที่จะแบกรับความเสี่ยงอันมากมายบนท้องถนนอยู่แล้ว แต่ทำไงได้ ในเมื่อเราต้องดำรงชีวิตไปวันๆ และพยายามหาทางกลับบ้านไปหาลูกเมียด้วยอาการครบ 32 ในทุกวันๆ
แต่คนที่ขี่มอเตอร์ไซต์เพื่อดำรงชีวิต กลับต้องมาเจอการกระทำ "ชั้นต่ำ" เหล่านี้ จะด้วยเพราะเหตุใด ... เพราะความคะนอง ความอยากโชว์พาว ความมั่นใจแบบไร้สติ ความไม่มีจิตสำนึก หรืออะไรก็แล้วแต่
สิ่งที่คุณทำ ถ้าพลาดพลั้งไปอะไรจะเกิดขึ้น คนเดือดร้อนอาจไม่ใช่แค่คุณเพียงคนเดียว ...
.
.
ฝากไว้ให้คิดนะครับ
คันเร่งอยู่ที่มือ แต่จิตสำนึกอยู่ที่สติและหัวใจ
ใช้สติไตร่ตรอง ใช้ใจเอื้อเฟื้อ เพื่อสังคมบนท้องถนนที่ดี ไม่ใช่สักแต่ว่าใช้มือบิดๆเอามันส์ โชว์ความง่าวบนท้องถนนไปวันๆนะครับ
.
.
.
.
#ขอเพิ่มเติมนิดหน่อย (เกรงว่าจะเข้าใจความหมายของกระทู้ผิด)
กระทู้นี้ผมไม่ได้หมายเฉพาะรถ BB นะครับ พฤติการแบบนี้มันมีทั้งรถเล็กรถใหญ่นั่นแล
แต่ที่ผมยก ตย. คันนี้ เพราะเย็นนั้นผมเจอพอดีครับ แต่ปกติขับขี่ทุกวันก็เจอหมดล่ะครับ **ว่าไปแล้วยิ่งรถเล็กๆเนี่ยตัวดีเลยครับ เจอบ่อยมากกว่า BB เยอะครับ