มาขอแชร์ความรู้สึกค่ะ คบกันอยู่ด้วยกันมาก่อนมันก็โอเคมาก จนมีน้องด้วยกัน ก็ตกลงคุยกับผู้ใหญ่ จะจัดงานแต่งกัน แต่ด้วยสถานะที่เปลี่ยนไป ความอิสระก็ไม่เหมือนเดิมแล้ว รู้สึกทุกอย่างเปลี่ยนเร็วไปหมดและกลัวกับอนาคตมาก
คือปีที่ผ่านมาเราป่วยเป็นซึมเศร้ารุนแรง จนต้องออกจากงานมาพักรักษาตัว ก็มีแฟนเรานี่แหละที่คอยดูแล อดทนกับเราทุกสิ่งอย่าง จากที่ชอบไปสังสรรค์กับเพื่อนก็เปลี่ยนมาอยู่ดูแลเรา หรือก็จะพาเพื่อนมากินที่บ้านเพราะเราจะมีอาการเมื่อไหร่ก็ไม่ทราบได้ ก็พยุงกันมากับแฟนและครอบครัวจนเราก็อาการดีขึ้นตามลำดับ พอสิ้นปีออกจากงานก็บังเอิญมีน้อง(จะพูดว่าพลาดก็ได้เพราะเราหยุดยาคุมเนื่องจากช่วงนั้นกินยาเยอะมากและมีอาการหลงลืมจนขาดระเบียบการกินยาทุกชนิดเลย TT)
ซึ่งเราและทุกคนก็โอเค ดีใจ ไม่มีปัญหาเกิดขึ้นเนื่องจากเราก็ต้องพักรักษาตัวอยู่แล้ว ลำบากก็ที่ตัวเองต้องปรับลดยาที่มีผลต่อน้องลงและหยุดกิน
**จริงๆผู้ป่วยไม่ควรมีน้องนะคะคุณหมอว่าเหมือนต้องรื้อรักษาใหม่**
แต่ก็ปรากฎว่าพอมีน้องอาการเราดีขึ้นมาก อาการดีขึ้นมาก เราก็สลับอยุ่บ้านตัวเองบ้าง วันหยุดแฟนก็ไปอยู่บ้านแฟน แต่ปรากฎว่าพอเราอาการดีขึ้นแฟนเราก็ขอออกไปกินข้างนอกกับเพื่อน กินกันถึงตัสองตีสามก็ยังไม่กลับ เช้ามาก็ตื่นสายมาก เวลาไปอยู่บ้านแฟนเราจะมีปัญหามากเพราะหลายครั้งไม่มีอะไรกิน เราไม่สามารถขับรถได้ ไหนจะหลานแฟนที่ยังเด็ก พอเราไปปู่ย่าก็จะปล่อยให้เราเลี้ยง คงเพราะอยากพักบ้างเพราะเลี้ยงหลานตลอด พ่อแม่เด็กยังวัยรุ่นหรือยังไงไม่ขอเอ่ยถึง บางครั้งเราไม่โอเค บางทีก็ไม่มีใครทำงานบ้านอะไรเลย เราก็ต้องทำ มีครั้งหนึ่งเราลืมเอายามาทำให้เรานอนไม่หลับทั้งวันทั้งคืนทั้งที่ร่างกายเพลียมาก ปวดหัวทรมาน (ถ้าคนที่กินยานอนหลับแล้วเกิดการ withdraw จะเข้าใจได้ดี) แต่สุดท้ายเราก็ต้องดูหลาน ทำงานบ้าน แฟนกลับมาก็เครียดใส่เรา หงุดหงิดใส่ แบบเรารู้สึกแย่จนคิดว่าจะอยู่แบบนี้ได้ไหม ทะเลาะกันเพราะต้างคนต่างมีเรื่องเครียดต้องการให้อีกฝ่ายรับฟัง
และมีวันหนึ่งที่แฟนเราออกไปกินเหล้า แล้วเราเจอแมลงสาบในถ้วยผลไม้ เราอ้วกแตก สติก็แตก วิ่งไปอ้วกที่ห้องน้ำเจอแมลงสายที่ไล่แล้วพวกนางไม่ไป พวกนางเหมือนจะเดินหน้าด้วยซ้ำ (วันนั้นที่บ้านในตกหนักมากเข้าใจว่าแมลงสายหนีขึ้นจากท่อ) เราทั้งอ้วกทั้งร้องไห้ สติแตก เป็น panic รู้สึกเหมือนมีอะไรไต่ตัวตลอดเวลา กกโทรหาแฟนขอให้เขารีบกลับมา แต่กดผิดไปเบอร์พี่สาว เรารีบวาง แต่พี่เขยเห็นโทรกลับมาได้ยินดราร้องไห้ เสียงสั่น ก็ถามถึงแฟน ตอนนั้นเราพูดจาไม่รู้เรื่องไปแล้ว
แฟนกลับมาก็ปลอบเรา รื้อที่นอนรื้อโต๊ะให้เรามั่นใจว่าไม่มีแล้วก็นอยปลอบเรา แต่กลับบอกว่าถ้าเราหลับแล้วเขาจะออกไปหาเพื่อนต่อ เราแบบกลัวบอกวั้นเอาเราไปด้วย ไม่เอาแล้วไม่อยากอยู่คนเดียวแล้วเพราะทุกคนในบ้านหลับกันหมดแล้ว แล้วเราไม่กล้าจะเรียกใครด้วย จนแฟนต้องยอมไม่ออกไป
ซึ่งแน่นอนว่า ที่บ้านเราไม่พอใจเป็นอย่างมาก แฟนเราก็ไม่พอใจว่าเราไม่ปกป้องเขา ให้ที่บ้านมองเขาไม่ดี
และที่เราไม่โอเคกว่าคือทุกคนที่บ้านแฟนรู้ว่าแฟนเราจะไปกินเหล้านอกบ้าน แต่ไม่มีใครว่าลูกตัวเองสักคน ได้แต่บ่นลับหลัง แต่ก็ปล่อย หลานก็ปล่อยเพราะวันนั้นพ่อเด็กก็นั่งกินเหล้าอยู่บ้าน สรุปเราต้องเป็นคนดูหลาน พอมาเจอเรื่องแมลงสาบอีกเราคิดไปไดล และกังวลไปไกลมาก
บ้านเราอยู่ในเมืองสุ่นวาย เป็นทาวเฮ้าส์เล็กๆอยู่กันหลายคน เรายอมรับว่าอึดอัด เราปวดหัวบ่อยๆ แต่พี่ๆหลานๆเข้าใจเราหมด รู้ว่าเราทนฟังเสียงดังไม่ได้ เจออะไรมากๆเราจะเครียด ปวดหัว ส่วนบ้านแฟนเป็นบ้านมีพื้นที่กว้าง รายล้อมด้วยธรรมชาติอยู่แล้วไม่ปวดหัวเลย เห็นท้องฟ้ากว้างแต่ไม่มีใครใส่ใจว่าเราป่วย เราท้อง เราไปไหนไม่ได้เลย เวลาหิวก็ไม่มีไรกิน หงุดหงิดก็ไม่มีใครรับฟัง หลายก็เอาแต่เล่นเสียงดัง กรี๊ดตลอดเวลา ทำนอสัยไม่ดีพอเราสอนก็ไม่พอใจ ร้องไห้แบบแสบหูมาก
>>สุดท้าย ต่างฝ่ายต่างอยากเลี้ยงหลาน ที่บ้านเราก็มองว่าทางนู้นเลี้ยงเด็กไม่โอเค คนดูและเราก็ไม่มี(เราน้องสุดท้องยอมรับว่าเอาแต่ใจในระดับ678) ไม่อยากให้ไปอยู่ลำบากใจ มีปัญหา แต่ทางนู้นก็มองว่ามี่ยเานเราแคบ สังคมก็ไม่ดี อยู่นี่สบายกว่า ตอนแรกเราคิดอยากไปอยู่บ้านแฟนนะเพราะเราก็ไม่อยากเป็นภาระที่บ้าน คือเราแทบไม่ต้องกระดิกเลย ไม่ต้องพูด ไม่ต้องโวยวาย วันนึงแค่คิดว่าอยากกินอะไร อยากไปไหน ขนาดไปบ้านแฟนพี่เราก็ไปรับไปส่งเอง แต่!!!!! พอเราไปเจอหลายๆเหตุการณ์ทั้งตัวแฟนและครอบครัวแฟน เราไม่มั่นใจในอะไรเลย ไม่รู้ควรทำไง ไม่อยากขัดใจแฟน แต่แฟนก็ไม่พร้อมจะปรับตัวเป็นคุณพ่อมือใหม่เลย ซึ่งแต่ก่อนเราไม่ค่อยแคร์นะ อยากทำไรทำ แต่พอมีน้องทุกอย่างเปลี่ยนไป เรายังทำงานไม่ได้ด้วย รู้สึกกังวลว่าเขาจะดูแล้ราและลูกได้แค่ไหน แล้วเราควรไปเลี้ยงลูกที่ไหน เมื่อไหร่จะหาย หลังคลอดอาการจะแย่ลงไหม สารพัดไปหมด
เพื่อนๆพี่ๆน้องๆ เคยต้องเจออะไรประมาณนี้ไหมคะ แล้วควรทำยังไง ตัดสินใจอะไรดี
ใครมีความหวั่นใจกับคนรักที่เราเลือกบ้างคะ กำลังจะมีตัวน้อยด้วย ใกล้วันแต่งแล้วก็ยิ่งกังวล
คือปีที่ผ่านมาเราป่วยเป็นซึมเศร้ารุนแรง จนต้องออกจากงานมาพักรักษาตัว ก็มีแฟนเรานี่แหละที่คอยดูแล อดทนกับเราทุกสิ่งอย่าง จากที่ชอบไปสังสรรค์กับเพื่อนก็เปลี่ยนมาอยู่ดูแลเรา หรือก็จะพาเพื่อนมากินที่บ้านเพราะเราจะมีอาการเมื่อไหร่ก็ไม่ทราบได้ ก็พยุงกันมากับแฟนและครอบครัวจนเราก็อาการดีขึ้นตามลำดับ พอสิ้นปีออกจากงานก็บังเอิญมีน้อง(จะพูดว่าพลาดก็ได้เพราะเราหยุดยาคุมเนื่องจากช่วงนั้นกินยาเยอะมากและมีอาการหลงลืมจนขาดระเบียบการกินยาทุกชนิดเลย TT)
ซึ่งเราและทุกคนก็โอเค ดีใจ ไม่มีปัญหาเกิดขึ้นเนื่องจากเราก็ต้องพักรักษาตัวอยู่แล้ว ลำบากก็ที่ตัวเองต้องปรับลดยาที่มีผลต่อน้องลงและหยุดกิน
**จริงๆผู้ป่วยไม่ควรมีน้องนะคะคุณหมอว่าเหมือนต้องรื้อรักษาใหม่**
แต่ก็ปรากฎว่าพอมีน้องอาการเราดีขึ้นมาก อาการดีขึ้นมาก เราก็สลับอยุ่บ้านตัวเองบ้าง วันหยุดแฟนก็ไปอยู่บ้านแฟน แต่ปรากฎว่าพอเราอาการดีขึ้นแฟนเราก็ขอออกไปกินข้างนอกกับเพื่อน กินกันถึงตัสองตีสามก็ยังไม่กลับ เช้ามาก็ตื่นสายมาก เวลาไปอยู่บ้านแฟนเราจะมีปัญหามากเพราะหลายครั้งไม่มีอะไรกิน เราไม่สามารถขับรถได้ ไหนจะหลานแฟนที่ยังเด็ก พอเราไปปู่ย่าก็จะปล่อยให้เราเลี้ยง คงเพราะอยากพักบ้างเพราะเลี้ยงหลานตลอด พ่อแม่เด็กยังวัยรุ่นหรือยังไงไม่ขอเอ่ยถึง บางครั้งเราไม่โอเค บางทีก็ไม่มีใครทำงานบ้านอะไรเลย เราก็ต้องทำ มีครั้งหนึ่งเราลืมเอายามาทำให้เรานอนไม่หลับทั้งวันทั้งคืนทั้งที่ร่างกายเพลียมาก ปวดหัวทรมาน (ถ้าคนที่กินยานอนหลับแล้วเกิดการ withdraw จะเข้าใจได้ดี) แต่สุดท้ายเราก็ต้องดูหลาน ทำงานบ้าน แฟนกลับมาก็เครียดใส่เรา หงุดหงิดใส่ แบบเรารู้สึกแย่จนคิดว่าจะอยู่แบบนี้ได้ไหม ทะเลาะกันเพราะต้างคนต่างมีเรื่องเครียดต้องการให้อีกฝ่ายรับฟัง
และมีวันหนึ่งที่แฟนเราออกไปกินเหล้า แล้วเราเจอแมลงสาบในถ้วยผลไม้ เราอ้วกแตก สติก็แตก วิ่งไปอ้วกที่ห้องน้ำเจอแมลงสายที่ไล่แล้วพวกนางไม่ไป พวกนางเหมือนจะเดินหน้าด้วยซ้ำ (วันนั้นที่บ้านในตกหนักมากเข้าใจว่าแมลงสายหนีขึ้นจากท่อ) เราทั้งอ้วกทั้งร้องไห้ สติแตก เป็น panic รู้สึกเหมือนมีอะไรไต่ตัวตลอดเวลา กกโทรหาแฟนขอให้เขารีบกลับมา แต่กดผิดไปเบอร์พี่สาว เรารีบวาง แต่พี่เขยเห็นโทรกลับมาได้ยินดราร้องไห้ เสียงสั่น ก็ถามถึงแฟน ตอนนั้นเราพูดจาไม่รู้เรื่องไปแล้ว
แฟนกลับมาก็ปลอบเรา รื้อที่นอนรื้อโต๊ะให้เรามั่นใจว่าไม่มีแล้วก็นอยปลอบเรา แต่กลับบอกว่าถ้าเราหลับแล้วเขาจะออกไปหาเพื่อนต่อ เราแบบกลัวบอกวั้นเอาเราไปด้วย ไม่เอาแล้วไม่อยากอยู่คนเดียวแล้วเพราะทุกคนในบ้านหลับกันหมดแล้ว แล้วเราไม่กล้าจะเรียกใครด้วย จนแฟนต้องยอมไม่ออกไป
ซึ่งแน่นอนว่า ที่บ้านเราไม่พอใจเป็นอย่างมาก แฟนเราก็ไม่พอใจว่าเราไม่ปกป้องเขา ให้ที่บ้านมองเขาไม่ดี
และที่เราไม่โอเคกว่าคือทุกคนที่บ้านแฟนรู้ว่าแฟนเราจะไปกินเหล้านอกบ้าน แต่ไม่มีใครว่าลูกตัวเองสักคน ได้แต่บ่นลับหลัง แต่ก็ปล่อย หลานก็ปล่อยเพราะวันนั้นพ่อเด็กก็นั่งกินเหล้าอยู่บ้าน สรุปเราต้องเป็นคนดูหลาน พอมาเจอเรื่องแมลงสาบอีกเราคิดไปไดล และกังวลไปไกลมาก
บ้านเราอยู่ในเมืองสุ่นวาย เป็นทาวเฮ้าส์เล็กๆอยู่กันหลายคน เรายอมรับว่าอึดอัด เราปวดหัวบ่อยๆ แต่พี่ๆหลานๆเข้าใจเราหมด รู้ว่าเราทนฟังเสียงดังไม่ได้ เจออะไรมากๆเราจะเครียด ปวดหัว ส่วนบ้านแฟนเป็นบ้านมีพื้นที่กว้าง รายล้อมด้วยธรรมชาติอยู่แล้วไม่ปวดหัวเลย เห็นท้องฟ้ากว้างแต่ไม่มีใครใส่ใจว่าเราป่วย เราท้อง เราไปไหนไม่ได้เลย เวลาหิวก็ไม่มีไรกิน หงุดหงิดก็ไม่มีใครรับฟัง หลายก็เอาแต่เล่นเสียงดัง กรี๊ดตลอดเวลา ทำนอสัยไม่ดีพอเราสอนก็ไม่พอใจ ร้องไห้แบบแสบหูมาก
>>สุดท้าย ต่างฝ่ายต่างอยากเลี้ยงหลาน ที่บ้านเราก็มองว่าทางนู้นเลี้ยงเด็กไม่โอเค คนดูและเราก็ไม่มี(เราน้องสุดท้องยอมรับว่าเอาแต่ใจในระดับ678) ไม่อยากให้ไปอยู่ลำบากใจ มีปัญหา แต่ทางนู้นก็มองว่ามี่ยเานเราแคบ สังคมก็ไม่ดี อยู่นี่สบายกว่า ตอนแรกเราคิดอยากไปอยู่บ้านแฟนนะเพราะเราก็ไม่อยากเป็นภาระที่บ้าน คือเราแทบไม่ต้องกระดิกเลย ไม่ต้องพูด ไม่ต้องโวยวาย วันนึงแค่คิดว่าอยากกินอะไร อยากไปไหน ขนาดไปบ้านแฟนพี่เราก็ไปรับไปส่งเอง แต่!!!!! พอเราไปเจอหลายๆเหตุการณ์ทั้งตัวแฟนและครอบครัวแฟน เราไม่มั่นใจในอะไรเลย ไม่รู้ควรทำไง ไม่อยากขัดใจแฟน แต่แฟนก็ไม่พร้อมจะปรับตัวเป็นคุณพ่อมือใหม่เลย ซึ่งแต่ก่อนเราไม่ค่อยแคร์นะ อยากทำไรทำ แต่พอมีน้องทุกอย่างเปลี่ยนไป เรายังทำงานไม่ได้ด้วย รู้สึกกังวลว่าเขาจะดูแล้ราและลูกได้แค่ไหน แล้วเราควรไปเลี้ยงลูกที่ไหน เมื่อไหร่จะหาย หลังคลอดอาการจะแย่ลงไหม สารพัดไปหมด
เพื่อนๆพี่ๆน้องๆ เคยต้องเจออะไรประมาณนี้ไหมคะ แล้วควรทำยังไง ตัดสินใจอะไรดี