ภาพประกอบในกระทู้ต่อไปไม่มีอยู่จริง เป็นเพียงแค่กระทู้สมมติขึ้นเพื่อประกอบกระทู้
ยอมรับว่า 4-5 ปีที่ผ่านมา Pantip ได้เปลี่ยนโฉมใหม่จากสังคมรูปแบบหนึ่งมาเป็นอีกรูปแบบ เป็นรูปแบบที่ได้รับอิทธิพลใหม่จากกลุ่ม Social Netidol หลายๆกลุ่มเข้ามา และรูปแบบใหม่ดังกล่าวของ Pantip ทำให้การสมัครสมาชิกง่ายขึ้น การตั้งกระทู้ง่ายขึ้น เรียกได้ว่าทุกวันนี้กระทู้หลายๆประเภท ไม่ว่าจะเป็น Review อาหาร เที่ยวรอบโลก หรือแม้กระทั่ง การอวดของสะสม ก็เป็นสิ่งที่พบเจอในสังคม Pantip ปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม มีกระทู้กลุ่มหนึ่งที่มักจะถูกตั้งมาเพื่อเป็นจุดสนใจและดึงดูดความคิดเห็นหลายทางเข้ามา จนกลายเป็นสิ่งที่เรียกว่า กระทู้ Drama เสียอย่างนั้น เรามาดูกันว่าในกระทู้ Drama นี้ จะมีคนจำพวกไหนบ้าง
1.แค่ชื่อและเนื้อหากระทู้ ก็ชวนทะเลาะแล้ว

มีกระทู้อยู่ 2 ประเภท ที่มักจะได้รับความนิยมเสมอในทุกๆครั้ง คือ กระทู้ที่เกี่ยวหรือมีส่วนกับเรื่องละเอียดอ่อน เช่น สังคม ประเทศชาติ การเมือง ศาสนา รูปลักษณ์บุคคล หรือแม้กระทั่งแนวคิดทางศีลธรรม จริยธรรม และ กระทู้ชวนเผือก เช่น เรื่องบนเตียง เรื่องดารา หรือแม้กระทั่งเรื่องอาหารการกินก็เสี่ยง Drama ได้เช่นกัน ซึ่งมักจะดึงดูดคนหลากหลายความคิดเข้ามาเป็นประจำเสมอ และนั้นก็คือจุดเริ่มต้นของกระทู้ Drama
2.กระทู้ช่วงแรก มีแต่คนจองดู Drama

หลายๆกระทู้ มักจะพบเนื้อหาประมาณว่า ปูเสื่อรอดู Drama หรือแม้กระทั่งความคิดเห็นในเชิงเห็นด้วยบ้างแต่ไม่ได้แสดงออกมานัก บางครั้งก็มาในรูปแบบเพียงแค่น้องเพี้ยนต้มน้ำรอ หรือไม่ก็ปูเสื่อรอดู ซึ่งจะว่าไปแล้ว แม้จะดูเหมือนไม่ค่อยมีส่วนร่วม Drama นัก แต่ก็มากพอที่จะดึงดูดความคิดต่างๆเข้ามาได้อีก เนื่องจากการแสดงความคิดเห็นในหัวกระทู้ที่ส่อ Drama มักจะดึงดูดให้ดูความคิดเห็นเหล่านั้นได้อย่างดี
3.ค้านแบบกำปั้นทุบดิน

เมื่อมีผู้คัดค้าน ก็มักจะมีหลายๆความเห็น พยายามเถียงหรือแสดงการโต้แย้งใส่เจ้าของกระทู้ บ้างก็พยายามตอบแบบกำปั้นทุบดิน เช่น "อาจ....ก็ได้ค่ะ" หรือ "ทำไมไม่.....ล่ะคะ" หรือแม้กระทั่งการ Copy ข้อความต้นฉบับแล้วทำตัวเอียง แล้วโต้ตอบข้อความส่วนนั้นอย่างถึงพริกถึงขิง เช่นหากต้นฉบับกล่าวว่า
เรากลัวว่าเขาจะทิ้งเราไปอีก ก็จะพิมพ์ตัวเอียงแล้วตามข้อความมาว่า แล้วทำไมยังรับรักเขาล่ะคะ บางครั้งก็ต้องระวังเพราะเป็นการยั่วยุได้
4.ตอบเบี่ยงประเด็น

หากคุณพยายามบอกว่า คุณสงสัยว่าน้ำส้มยี่ห้อ X ทำให้คุณดื่มไม่สบายคอ แล้วจะไปกินน้ำส้มยี่ห้อ Y แทน แทนที่คุณจะได้คำตอบว่าน้ำส้ม X มีอันตรายหรือทำให้ร่างกายพบเจอภาวะใดๆบ้าง คุณก็ต้องหัวเสียกับคำตอบประมาณว่า ''น้ำส้ม Y มีปริมาณไม่ต่างกัน ส่วนผสมไม่ต่างกัน กินแล้วไม่ต่างกันหรอก" ซึ่งใครๆก็ต้องคิดแน่นอนว่ามีการเบี่ยงประเด็นเกิดขึ้นเพื่อพยายามลาก Drama ไปต่อ แทนที่จะจบลงในประเด็นหลักเพียงเท่านั้น
5.ตอบออกนอกเรื่องไปไกล

หากคุณคิดว่าข้อ 4 ตอบได้ออกเรื่องไปมากแล้ว เรื่องที่ 5 ไปไกลมากกว่านั้นเยอะ เพราะคุณต้องปวดตับทุกครั้งที่พบว่า กระทู้เนื้อหาละเอียดอ่อนทั้งหลาย โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง พื้นฐานสังคม เช่น การแสดงความคิดเห็นเรื่องการมีเพศสัมพันธ์ก่อนแต่งงาน หรือ การแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับรัฐมนตรีในกาฬทวีปเบี่ยงประเด็นไปที่ประเทศไทย เนื้อหาท้ายกระทู้ มักจะจบที่การเสียดสีประเทศ หรือเสียดสีสังคม หรือแม้แต่กระทู้เผือกดารา ก็ยังอาจจะพบได้เช่นกัน
สรุป
การตั้งกระทู้ในสมัยนี้ การยืนยันเบอร์โทรศัพท์ เป็นสิ่งที่ง่ายมาก เพียงแค่คุณตั้งกระทู้หนึ่งๆ หรือแสดงความคิดเห็นหนึ่งๆ ความคิดของคุณก็เผยแพร่สู่สาธารณะแล้ว ซึ่งแน่นอนว่าในสังคม Online ล้วนมีคนหลากประเภทเจอกัน บางคนก็อยากระบาย บางคนก็เรียกร้องความสนใจ บางคนก็พยายามทำตัวมีบทบาท บางคนพยายามใช้สื่อ Online เพื่อทำเรื่องหลากหลายสารพัด สุดท้ายแล้ว สิ่งที่ควรพึงตระหนัก คือ การพยายามพูดคุยกันดีๆ ไม่ใช้อารมณ์นำเหตุผล ไม่มีเจตนาแฝง ไม่ยั่วยุใดๆ เพื่อส่งเสริมให้สังคม Pantip น่าอยู่ขึ้นต่อๆไป
5 สิ่งที่คุณต้องเจอในกระทู้ Drama ของ Pantip
ยอมรับว่า 4-5 ปีที่ผ่านมา Pantip ได้เปลี่ยนโฉมใหม่จากสังคมรูปแบบหนึ่งมาเป็นอีกรูปแบบ เป็นรูปแบบที่ได้รับอิทธิพลใหม่จากกลุ่ม Social Netidol หลายๆกลุ่มเข้ามา และรูปแบบใหม่ดังกล่าวของ Pantip ทำให้การสมัครสมาชิกง่ายขึ้น การตั้งกระทู้ง่ายขึ้น เรียกได้ว่าทุกวันนี้กระทู้หลายๆประเภท ไม่ว่าจะเป็น Review อาหาร เที่ยวรอบโลก หรือแม้กระทั่ง การอวดของสะสม ก็เป็นสิ่งที่พบเจอในสังคม Pantip ปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม มีกระทู้กลุ่มหนึ่งที่มักจะถูกตั้งมาเพื่อเป็นจุดสนใจและดึงดูดความคิดเห็นหลายทางเข้ามา จนกลายเป็นสิ่งที่เรียกว่า กระทู้ Drama เสียอย่างนั้น เรามาดูกันว่าในกระทู้ Drama นี้ จะมีคนจำพวกไหนบ้าง
1.แค่ชื่อและเนื้อหากระทู้ ก็ชวนทะเลาะแล้ว
มีกระทู้อยู่ 2 ประเภท ที่มักจะได้รับความนิยมเสมอในทุกๆครั้ง คือ กระทู้ที่เกี่ยวหรือมีส่วนกับเรื่องละเอียดอ่อน เช่น สังคม ประเทศชาติ การเมือง ศาสนา รูปลักษณ์บุคคล หรือแม้กระทั่งแนวคิดทางศีลธรรม จริยธรรม และ กระทู้ชวนเผือก เช่น เรื่องบนเตียง เรื่องดารา หรือแม้กระทั่งเรื่องอาหารการกินก็เสี่ยง Drama ได้เช่นกัน ซึ่งมักจะดึงดูดคนหลากหลายความคิดเข้ามาเป็นประจำเสมอ และนั้นก็คือจุดเริ่มต้นของกระทู้ Drama
2.กระทู้ช่วงแรก มีแต่คนจองดู Drama
หลายๆกระทู้ มักจะพบเนื้อหาประมาณว่า ปูเสื่อรอดู Drama หรือแม้กระทั่งความคิดเห็นในเชิงเห็นด้วยบ้างแต่ไม่ได้แสดงออกมานัก บางครั้งก็มาในรูปแบบเพียงแค่น้องเพี้ยนต้มน้ำรอ หรือไม่ก็ปูเสื่อรอดู ซึ่งจะว่าไปแล้ว แม้จะดูเหมือนไม่ค่อยมีส่วนร่วม Drama นัก แต่ก็มากพอที่จะดึงดูดความคิดต่างๆเข้ามาได้อีก เนื่องจากการแสดงความคิดเห็นในหัวกระทู้ที่ส่อ Drama มักจะดึงดูดให้ดูความคิดเห็นเหล่านั้นได้อย่างดี
3.ค้านแบบกำปั้นทุบดิน
เมื่อมีผู้คัดค้าน ก็มักจะมีหลายๆความเห็น พยายามเถียงหรือแสดงการโต้แย้งใส่เจ้าของกระทู้ บ้างก็พยายามตอบแบบกำปั้นทุบดิน เช่น "อาจ....ก็ได้ค่ะ" หรือ "ทำไมไม่.....ล่ะคะ" หรือแม้กระทั่งการ Copy ข้อความต้นฉบับแล้วทำตัวเอียง แล้วโต้ตอบข้อความส่วนนั้นอย่างถึงพริกถึงขิง เช่นหากต้นฉบับกล่าวว่า เรากลัวว่าเขาจะทิ้งเราไปอีก ก็จะพิมพ์ตัวเอียงแล้วตามข้อความมาว่า แล้วทำไมยังรับรักเขาล่ะคะ บางครั้งก็ต้องระวังเพราะเป็นการยั่วยุได้
4.ตอบเบี่ยงประเด็น
หากคุณพยายามบอกว่า คุณสงสัยว่าน้ำส้มยี่ห้อ X ทำให้คุณดื่มไม่สบายคอ แล้วจะไปกินน้ำส้มยี่ห้อ Y แทน แทนที่คุณจะได้คำตอบว่าน้ำส้ม X มีอันตรายหรือทำให้ร่างกายพบเจอภาวะใดๆบ้าง คุณก็ต้องหัวเสียกับคำตอบประมาณว่า ''น้ำส้ม Y มีปริมาณไม่ต่างกัน ส่วนผสมไม่ต่างกัน กินแล้วไม่ต่างกันหรอก" ซึ่งใครๆก็ต้องคิดแน่นอนว่ามีการเบี่ยงประเด็นเกิดขึ้นเพื่อพยายามลาก Drama ไปต่อ แทนที่จะจบลงในประเด็นหลักเพียงเท่านั้น
5.ตอบออกนอกเรื่องไปไกล
หากคุณคิดว่าข้อ 4 ตอบได้ออกเรื่องไปมากแล้ว เรื่องที่ 5 ไปไกลมากกว่านั้นเยอะ เพราะคุณต้องปวดตับทุกครั้งที่พบว่า กระทู้เนื้อหาละเอียดอ่อนทั้งหลาย โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง พื้นฐานสังคม เช่น การแสดงความคิดเห็นเรื่องการมีเพศสัมพันธ์ก่อนแต่งงาน หรือ การแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับรัฐมนตรีในกาฬทวีปเบี่ยงประเด็นไปที่ประเทศไทย เนื้อหาท้ายกระทู้ มักจะจบที่การเสียดสีประเทศ หรือเสียดสีสังคม หรือแม้แต่กระทู้เผือกดารา ก็ยังอาจจะพบได้เช่นกัน
สรุป
การตั้งกระทู้ในสมัยนี้ การยืนยันเบอร์โทรศัพท์ เป็นสิ่งที่ง่ายมาก เพียงแค่คุณตั้งกระทู้หนึ่งๆ หรือแสดงความคิดเห็นหนึ่งๆ ความคิดของคุณก็เผยแพร่สู่สาธารณะแล้ว ซึ่งแน่นอนว่าในสังคม Online ล้วนมีคนหลากประเภทเจอกัน บางคนก็อยากระบาย บางคนก็เรียกร้องความสนใจ บางคนก็พยายามทำตัวมีบทบาท บางคนพยายามใช้สื่อ Online เพื่อทำเรื่องหลากหลายสารพัด สุดท้ายแล้ว สิ่งที่ควรพึงตระหนัก คือ การพยายามพูดคุยกันดีๆ ไม่ใช้อารมณ์นำเหตุผล ไม่มีเจตนาแฝง ไม่ยั่วยุใดๆ เพื่อส่งเสริมให้สังคม Pantip น่าอยู่ขึ้นต่อๆไป