อัลโหลววววววววว ~
สวัสดีจ้าววว
เริ่มยังไงดีอะเนี้ยยย ? นี่เป็นกระทู้แรกสำหรับเรานะคะ เราเป็นคนนึงที่ชอบอ่านกระทู้พันทิปมากกก เคยจะเขียนเรื่องตัวเองลงไปหลายครั้ง
แต่ก้ล่มทุกครั้งงง 555555555’
วันนี้อากาศดีเลยอยากจะมานั่งเล่าเรื่องราวตัวเองซะหน่อยย #ใครอยากฟังงง 🤪
ต้องบอกไว้ก่อนว่าเรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้ เป็นเรื่องราวของเราเอง เมื่อหลายปีก่อน.. ที่อยากจะเล่าก้เพราะว่ามันช่างเป็นความทรงจำที่แสนสนุกเหลือเกินน (ทุกข์บ้างเพราะความแรดเป็นเหตุ หุหุ)
เข้าเรื่องเลยเน้อออ (อาจจะเกริ่นยาวไปนิดนะคะ)
เราขอใช้ชื่อแทนตัวเองว่า ‘ เอย แล้วกันค่ะ
เรื่องมันเกิดเมื่อประมาน 4 ปีก่อน ตอนสมัยที่เอยเรียนมหาลัย ตอนนั้นเรากำลังจะขึ้นปี 4 แล้วกำลังหาที่ฝึกงาน คือเอยเรียนเกี่ยวกับภาษา ในหัวก็คิดแค่ว่าไม่อยากไปฝึกงานไกลบ้าน แล้วก็ไกลแฟน (แฟนเก่า)
เท้าความไปอีกนิดนึงนะคะ คือเอยกับแฟน
(แฟนในสมัยนั้น) เรียนอยู่คนละมหาลัยกันค่ะ
แล้วแฟนก็อยู่ปี 4 เหมือนกัน คือแฟนเรียนจบสามปีครึ่ง ซึ่งเขาก็ยังคงอยู่มหาลัยนั้น (ขอไม่เอ่ยชื่อสถาบันนะคะ แต่เอาเป็นว่ามีชื่อเสียงระดับนึงของภาคอีสานค่ะ) แล้วช่วงนั้นเอยก็คิดว่าจะหาที่ฝึกงานที่ไหนดี
จะได้เกี่ยวกับสาขาที่เราเรียนมา นึกๆดูก็มี โรงแรม การท่องเที่ยว ซึ่งถ้าอยากจะใช้ภาษาจริงๆ ก็จะต้องไปฝึกที่ที่มีชาวต่างชาติเยอะๆ พวกภูเก็ต เชียงใหม่ ประมานนี้ แล้วคือถ้าเลือกไปไกลก็จะไม่ได้อยู่ใกล้ชิดแฟนไง #เอดอกแรสเฟ่อออ
เลยนึกขึ้นได้ว่าตอนแนะแนวฝึกประสบการณ์อาจารย์ก้จะแนะนำว่า ตม. นะเหมาะกับสาขาเราเหมือนกัน ให้ลองไปหาข้อมูลดูมีที่ไหนบ้างงง ?! เอาแล้วไง ตม. ไปไหนดีละว่ะนั่น จังหวัดไหนดี ใกล้ๆแถวนี้จะมีไหม ?
แล้วก็เลย Search หาข้อมูลในเน็ต จนสรุปได้ว่า อ๋ออออ ตม. ที่ใกล้แฟนเราอยู่ก็มี แล้วก็ใกล้บ้านเราด้วย
หลังจากนั้นก็โทรไปสอบถาม ว่าเขาต้องการรับนักศึกษาฝึกงานรึป่าว .. (กว่าจะติดนี่คือยากมากหลายรอบมากกก) จนตัดสินใจแต่งชุดนักศึกษาแล้วเดินเข้าไปถามเลยจ้า ใกล้ที่เราอยู่แค่นี้เอง ตกลงจะรับไม่รับ ไอ้ตอนที่เราเข้าไปสอบถามก็ไม่มีอะไรน่าสนใจนะ ก็แค่สถานที่ตั้งของ ตม.เนี้ยมันอยู่ในเขตรั้วศูนย์ฝึกชายฉกรรจ์ นับร้อยๆชีวิตที่จบออกมาแล้วไปปกป้องบ้านเมืองงง แต่คือตอนนั้นเงียบมาก แล้วเราก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะมีผู้ชายเยอะแยะมากมาย ใจมุ่งตรงไปที่ที่จะฝึกงานอย่างเดียวเลยยย 😝
เล่าข้ามมาเข้าเรื่องซะทีเนอะ สรุปเราก็ได้เข้าไปฝึกงานที่ ตม. แห่งนั้นละคะ 😂 ถ้าเล่าทุกเหตุการณ์คงไม่ได้หลับได้นอนพอดี 55555555555’
วันแรกของการไปฝึกงานโคตรตลกตัวเองกับเพื่อนเลยค่ะ เอยมีเพื่อนในห้องไปฝึกที่เดียวกันค่ะ ขอเรียกชื่อว่า ‘ น้ำ แล้วกันนะคะ 🤗 วันนั้นเอยกับน้ำก็โทรนัดแนะกันเรียบร้อยค่ะว่าไปเจอกันข้างหน้าศูนย์ฝึก แล้วค่อยเดินเข้าไปด่านพร้อมกัน (ตม.ชื่อเต็มคือ ด่านตรวจคนเข้าเมือง) เราเดินไปถึงประมาน 7 โมงเกือบ 8 โมงเห็นจะได้ คืออิน้ำเนี้ยมันบอกเราว่า ตม.เปิดทำการเวลา 8 โมงครึ่งค่ะ ดอกกกก กูดูมาเรียบร้อยยย 55555555’
สิ่งแรกที่ตกใจคืออะไรรู้ไม๊ค่ะ? ตั้งแต่ก้าวเท้าลงจากสะพานลอยหน้าศูนย์ฝึก และมองเข้าไปด้านใน
คือผู้ชายใส่เสื้อสีขาว ใส่หมวก หลากสี น่าจะเป็นชุดนักเรียนของเขา แต่ยืนกันเป็นหมวดหมู่ กำลังเคารพธงชาติอยู่จ้าาา ซึ่งคือกูเขินไง เขินมาก คือไม่รู้มาก่อนว่าในที่แห่งนี้เขามีฝึกผู้ชายด้วย (เรื่องจริงนะคะ)
เรากับอิน้ำก็นั่งรออยู่ใต้ต้นไม้หน้าด่าน รอเวลาเข้าไปจะได้ตรงเวลา (โธ่ พวกกำลังไปฝึกงานวันแรกยังไม่รู้ตัวอีก) พอใกล้ๆจะ 8 โมงครึ่งพวกเราก็เดินหน้าตรงเข้าไปที่ด่านค่ะ ก็เปิดประตูเข้าไปสวัสดีพวกพี่ๆข้างใน พี่เขาเลยแซวว่า นึกว่าน้องฝึกงานจะเบี้ยวซะแล้ว เห็นสายมา 30 นาทียังไม่เข้ามา จ้าาาา ~
อิสองคนก็มองหน้ากันแล้วหัวเราะเลย บอกนึกว่าที่นี่ทำการ 8 โมงครึ่ง พี่เขาเลยบอก 8 โมงนะครับน้องๆ วันหลังจะได้ไม่มาสายอีก วันนี้วันแรกให้อภัยคนสวย ( อันหลังนี่เติมเอง 55555555) และหลังจากนั้นก็เข้าไปแนะนำตัวกับหัวหน้าด่าน แล้วพี่เจ้าหน้าที่ก็มาสอนงานอธิบายให้ฟังว่าที่นี่ทำไรบ้าง...
พี่ผู้ชายในด่านเลยแซวขึ้นมาว่า เดินเข้ามาเจอหนุ่มๆยืนรอรับรึป่าวน้องๆ เลยบอกว่าเจอค่ะ แล้วก็เลยถามว่าทำไมถึงมีผู้ชายหนุ่มๆเยอะแยะอยู่ คำตอบที่ได้คือ ที่นี่โรงเรียนผู้ชาย เขามาฝึก เราก็จะเจอแบบนี้ทุกวันนั่นแหละ เผลอๆ คงได้แฟนในนั้นซักคนก็ได้ เพราะมีน้อฝึกงานได้เป็นแฟนกัน คบกันจนไปถึงแต่งงานหลายคนแล้วกับไอ้หนุ่มหัวเกรียนพวกนั้น.
ตอนนั้นเอยก็ไม่ได้รู้สึกอะไรนะ เพราะตัวเองก็มีแฟนอยู่แล้ว ไม่ได้สนใจอะไร จากนั้นก็ใช้ชีวิตการเป็นนักฝึกษาฝึกงานปกติทั่วๆไป ตอนเช้ามาถึงด่านก่อนเวลา กลับหอตรงเวลาเลิกงานเป๊ะๆ 5555555 อันหลังคือเป๊ะจริง 5 โมงปุ๊บเก็บกระเป๋ากลับหอเลยจ้าาา
ช่วงนั้นคือเป็นช่วงที่แบบมาถึงด่านก่อน 7 โมงครึ่งแทบทุกวัน เพราะไม่อยากเจอพวกผู้ชายหัวเกรียนยืนเคารพธงชาติอยู่ทางเข้า เพราะอายมาก ไม่รู้จะอายอะไร เขาไม่ได้มองตัวเองซะหน่อยยย 😂
การฝึกงานก็ดำเนินไปแบบนั้นวนไปๆ เราเองก็เริ่มปรับตัวได้ล่ะ ไม่อายมันละผู้ชาย มาตอนเคารพธงชาติแทบทุกวัน แต่ก็ทันเวลางานนะจ๊ะ อิอิ
เราจะชอบทำงานอยู่ด้านนอกสำนักงาน ทำพวกแนะนำคนต่างชาติเกี่ยวกับการเขียนวีซ่า รึช่วยเขียนช่วยเหลือคนที่มาติดต่องานนั่นแหละ .
สิ่งที่เราเคยอายตอนแรกๆ ตอนนี้กลายเป็นอาหารตาไปแล้ว 🤪 เพราะพวกผู้ชายเหล้านั้นจะถอดเสื้อวิ่งแล้วร้องเพลงทุกวั๊นทุกวันน วันละหลายๆรอบ หลายกองร้อย วิ่งสวนกันไปมา ร้องเพลงนู้นนี้นั่นไป เพลินดี บางทีพวกนั้นก็โดนครูฝึกแกล้งให้หมอบเวลาวิ่งมาหน้าด่านเรา โชว์สาวไรงี้ พวกเราก็เขินม้วนกันไป 5555555555’ ซึ้งตอนนั้นไม่รู้หรอกว่าใครเป็นใคร หน้าตา ทรงผม ตัวดำนี่เหมือนกันไปหมด
จะดูดีหน่อยก็วันแต่งชุดออกไปพักผ่อน เสื้อเชิ๊ตแขนยาวสีขาวรัดรูป กางเกงสีอะไรว่ะออกกรมท่าเขียวๆ ผูกไทด์สีดำ รองเท้าขัดมันเงาแทบจะส่องแทนกระจกได้เลย ถือกระเป๋าเจมส์บอนคนละใบ หืมม เอาจิงๆคือถ้าไม่ให้มองหน้าดำๆนะ คือเท่มากกก 555555555’
แล้วการเปลี่ยนแปลงเล็กๆน้อยในชีวิตเราก็ค่อยๆเกิดขึ้น เนื่องจากเรากับแฟน(ในตอนนั้น) เริ่มทะเลาะกันบ่อยขึ้น ไม่ค่อยเข้าใจกัน ต่างคนต่างไม่ได้ดั่งใจ แต่ไม่ได้มีเรื่องมือที่ 3 เข้ามาเกี่ยวข้องเลยนะ เพราะตอนนั้นยังไม่มีใครเข้ามาาา
จนกระทั่งเราก็มาฝึกงานปกติ ทีนี้เริ่มมีพวกหัวเกรียน
เราขอเรียกพวกผู้ชายพวกนั้นว่า ‘ หัวเกรียน นะคะ
พวกหัวเกรียนก็เริ่มแวะเวียนมาด่านเรา มาถ่ายเอกสารบ้าง มาหลบหลังต้นไม้ ให้เราซื้อขนม ซื้อน้ำให้บ้าง *ด่านเราจะมีร้านกาแฟสดขายข้างหน้าค่ะ*
บางคนก็มาไม่ได้มาซื้อะไร แค่แวะมาแซวแล้วก็กลับกองร้อยงี้ คือเป็นอยู่แบบนี้เรื่อยๆ เราก้ไม่ได้มีใครมาจีบจิงๆจังๆนะ ส่วนมากก็แค่แซว ขอเฟส ขอไลน์ เราก็ให้บ้าง ไม่ให้บ้างแล้วแต่อารม #สวยเนอะ 😝
เวลาพวกเราขับรถไปซื้อของหลังด่าน ซึ่งต้องผ่านโรงอาหารไอ้พวกนั้น พวกมันก็จะตะโกนเสียงดังทำความเคารพ แบบแซวสาวด้วยไรงี้ ประมานว่าใครผ่านเข้าออกต้องทำความเคารพอะ แบบเขินมาก นั่งรถไปบิดจะตกมอร์ไซต์เอา คือนึกภาพออกป่ะ ผู้ชายประมาน 4-5 ร้อยคนอะ อยู่ในชุดที่แบบจัดว่าดูดีแลสะอาดตางี้อะ คือเยอะมากกกก แล้วก็จะคิดว่าตัวเองสวยไงเขาเลยแซว แต่ความจิงนะใครเข้าไปสวยหมดแหละผู้หญิง เพราะนานทีจะมีเข้าไปบ้าง 5555555555’
คือชีวิตฝึกงานของเอยก็จะฟินๆ เขินๆ ฮาๆ แบบแฮปปี้มากอะตอนนั้น 😁
หลังจากนั้นเราก้เริ่มมีเพื่อนเป็นพวกหัวเกรียนมากขึ้นๆ มีเข้ามาคุยแบบจีบบ้าง เพื่อนบ้าง เวลาพวกนี้ออกไปพักผ่อนอาทิตย์ละครั้ง ก็จะชวนพวกเราไปเที่ยวกันประจำๆ ส่วนมากมีแต่คนจากจังหวัดอื่น เรากับพวกเพื่อนๆแล้วก็น้องฝึกงานด้วยกันก็แห่กันไป ชอบนักของฟรี เมาฟรีลูกหมาป่ามากค้าาา 55555555’
ถ้าจะคิดว่าพวกเราจะกินแล้วเมาน็อคให้หิ้วปีกกลับห้องด้วยงี้ คือคิดผิดมหันต์ เพราะนอกจากจะไม่เมา ไม่น็อค แล้วยังเปลืองมิกซ์เซอร์ เปลืองกับแกล้ม แล้วก็เปลืองพื้นที่ในการเต้นอีกค้าาา 5555555555’
พอเรามีเพื่อนเยอะขึ้น เรากับแฟนก็ค่อยๆห่างกัน เราเองนี่แหละที่ตีตัวออกห่างจากเขา นิสัยไม่ดีเด้อ ไม่ใช่ว่ามีคนอื่นนะ แต่เหมือนตอนนั้นมันรู้สึกว่าไปกันไม่ได้เลยค่อยๆห่างกัน แต่ก็ยังคุยกันอยู่บ้าง
เราก็ใช้ชีวิตแบบนี้ไปเรื่อยๆ พอสถานะเรื่มชัดเจนกับแฟนเก่า ทีนี้ก็มีคนเข้ามาคุยแบบจีบเยอะมาก ด้วยความที่ว่าเราคุยเก่ง เราไม่ห่วงสวย ตลก ไม่อายละพักหลังๆ เราก็คุยๆไป เพราะเราก็มีความรู้สึกว่าต้องเลือกคนที่เข้าใจเราจริงๆมาเป็นแฟน
คือเราชอบเที่ยวนะ ชอบดื่ม เพื่อนเยอะ แต่ดูแลตัวเองได้ ไปได้กลับได้ สบายหายห่วง
(พร็อตเรื่องเริ่มมาละ 55555 เล่าตั้งนานละนะ 😂)
มีอยู่วันนึงช่วงเวลาประมานบ่ายๆ พี่ที่ด่านก็วานให้เราไปเย็บผ้าปูโต๊ะกินข้าวที่หลังด่าน หลังด่านพวกเราก้มีแบบปลูกผักปลูกต้นไม้ ดอกไม้ด้วยนะ
เราก็นั่งๆ ยืนๆ เย็บผ้าอยู่ข้างหลัง กับพวกพี่ๆ แล้วก็น้องฝึกงานด้วยกัน จู่ๆ ก็มีพวกกองทัพชายฉกรรจ์
หัวเกรียนสวมหมวกสีฟ้าสดใส เดินมาพร้อมกับอาวุธครบมือ !! จบเอย เสียมเอย เชือกเอย ถังน้ำเอยยย
มาทำไมน่ะหรอค่ะ ?! จะมาตัดต้นมะม่วงหลังด่านเราค่ะ จะมาตัดไม้ ทำความสะอาดกองร้อย รอรุ่นน้องเข้ามาค่ะ แล้วแบบแต่ละคนก้จะแซวสาวคนนู้นคนนี้ เหมือนกับมาใกล้กับสาว ตม.แล้วก้แซวเต็มที่เพราะผู้หญิงในนี้มีที่นี่ที่เดียว (ที่มีสาวๆวัยรุ่นๆนะ)
บางคนก็ช่วยน้องฝึกงานรถน้ำต้นไม้ ล้างห้องน้ำ บางคนฉลาดหน่อยก้เข้ามาคุยเล่นกับพี่เจ้าหน้าที่ ส่วนเราก็เย็บผ้าปูโต๊ะต่อไปด้วยอาการมือไม้สั่นเพราะเขิลผู้ชาย บางคนแซวเรา ขอเบอร์ ขอเฟส ขอไลน์ แต่แบบทำปากขมุบขมิบเอา แบบกลัวโดนพี่ที่ด่านดุเอา แล้วก็กลัวโดนครูฝึกมาเจออะ
เชื่อไม๊ เรานั่งคุกเข่าเย็บผ้าอยู่ๆก็ได้ยินเสียงคนตะโกนมาว่า ‘ ตัวเล็กขอเบอร์หน่อย ประมาน 2-3 รอบได้ คือก็ไม่รู้ใช่ป่ะถ้าเสียงใครขอใคร เราเลยยืนขึ้นแล้วก็หันหน้าไปตามเจ้าของเสียง เลยเห็นผู้ชายที่กำลังเดินเข้ามาประมาน 4-5 คน แล้วไอ้คนตัวโตคนแรกมันก็พูดว่า ‘ พี่ขอเบอร์เรานั่นแหละ ‘
เราก็หันไปมองหน้าพี่ที่ด่าน พี่เขาเลยยิ้มแล้วบอกให้ไปสิ เราเลยบอกว่า
‘ หนูจำเบอร์ไม่ได้ พึ่งจะเปลี่ยนเบอร์ใหม่ค่ะ! ‘
สิ้นเสียงเราค่ะทุกคนค่ะะะะ ไอ้ตัวโตที่ขอเบอร์เรามันพูดว่า ~
‘ โธ่ ไม่เอาก็ได้ว่ะ ขอเบอร์แค่นี้ก็ไม่ให้ หยิ่งว่ะ!!! จำไว้เลยยย ~ ‘
ขุ่นพระะ คืออะไรค่ะไอ้นี่ คือทุกคนมาจีบกูในแบบสุขุมนุ่มลึกมาก ละคืออัลไลลล ฮัลโหลววว 😅
แล้วเราก้ยิ้มหน้าเจื่อนๆ แบบตกใจอะ แล้วมันก็ทำท่าจะเดินกลับไป แล้วพูดขึ้นมาว่า
‘ ตกลงจะให้รึไม่ให้เบอร์อะ ? ‘
เราเลยยิ้มแทนคำตอบ ทำไรไม่ถูก ส่วนพวกหัวเกรียนที่มาก่อนก็ไม่มีใครพูดไรซักคน น่าจะรู้กันดีเพราะน่าอยู่กองร้อยเดียวกันหมวกสีเดียวกัน.
แล้วมันก็พูดขึ้นอีกว่า
‘ ไม่ให้ก็ไม่ให้ว่ะ จำไว้ๆ ‘
จ้าา กูจำไว้แน่ค่ะ จำแบบแม่นยำเลยจ้าา
พอมันพูดจบซักพักก็มีป๋า 53 (คือตอนนั้นมี ผช อายุ 53 ปีมาอบรมอะเลยเรียกป๋า) เดินเข้ามาหาเรา คือแก็รู้จักกับพี่ที่ด่านแหละ แกเดินเข้ามา พร้อมกระดาษสีขาวสี่เหลี่ยมแผ่นเล็กๆ พร้อมกับดินสอ แล้วพูดกับเรา
‘ หนูป๋าขอเบอร์หน่อย จะเอาไปให้ลูกชาย ป๋ามีลูกชาย’
คือเราก็งงๆนิดๆอะน่ะ แล้วพี่ที่ด่านเลยบอกว่าให้ป๋าแกไปเถอะ เรสก็เลยต้องจำใจเขียนเบอร์โทรให้แกไป..
พอเรายื่นให้แกเสร็จปุ๊ปแกก็บอกว่า ‘เขียนชื่อไว้ด้วยๆ เราก็ค่ะๆ แล้วยื่นให้แกไป
พอแกได้กระดาษเสร็จปุ๊ป แกก็อ่านชื่อเราแล้วก็เดินไปหาไอ้ตัวโตนั่น พร้อมกับยื่นกระดาษเบอร์โทรที่เราให้แล้วบอก ‘ อะลูกชาย ป๋าขอให้ล่ะ ‘ คือไรอะป๋าาาาาา
จากนั้นไอ้ตัวตัวก็พูดขึ้นว่า
‘ ไหนบอกว่าจำไม่ได้ไงว่ะ แค่นี้ก็ต้องโกหก ! ‘
เอ่าอิดอกก นะง จะมาจีบกูแท้ๆปากดีเชียววว เล่นกูหน้าเหวอไปอีกรอบค่ะ 5555555555’
เงียบคือคำตอบจากกูค่ะ จากนั้นมันก็บอกว่า
‘ งั้นเดี๋ยวพี่จะโทรหานะ รับด้วยนะ ‘
แหม่ พี่จะโทรหานะ พี่เลยค่ะ อารมณ์เปลี่ยนเลย มีการสั่งให้กูรับด้วยนะคะ เยี่ยมมมม 👍🏻
** วันนี้พอแค่นี้ก่อนเน้ออ ง่วงล๊าวว ถ้ามีคนอ่านค่อยจะมาเขียนต่อ **
ฝันดีนะคะ ออเจ้าทั้งหลายยย 😍
เกลียดนัก ยิ่งรัก ไอ้หัวเกรียน
สวัสดีจ้าววว
เริ่มยังไงดีอะเนี้ยยย ? นี่เป็นกระทู้แรกสำหรับเรานะคะ เราเป็นคนนึงที่ชอบอ่านกระทู้พันทิปมากกก เคยจะเขียนเรื่องตัวเองลงไปหลายครั้ง
แต่ก้ล่มทุกครั้งงง 555555555’
วันนี้อากาศดีเลยอยากจะมานั่งเล่าเรื่องราวตัวเองซะหน่อยย #ใครอยากฟังงง 🤪
ต้องบอกไว้ก่อนว่าเรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้ เป็นเรื่องราวของเราเอง เมื่อหลายปีก่อน.. ที่อยากจะเล่าก้เพราะว่ามันช่างเป็นความทรงจำที่แสนสนุกเหลือเกินน (ทุกข์บ้างเพราะความแรดเป็นเหตุ หุหุ)
เข้าเรื่องเลยเน้อออ (อาจจะเกริ่นยาวไปนิดนะคะ)
เราขอใช้ชื่อแทนตัวเองว่า ‘ เอย แล้วกันค่ะ
เรื่องมันเกิดเมื่อประมาน 4 ปีก่อน ตอนสมัยที่เอยเรียนมหาลัย ตอนนั้นเรากำลังจะขึ้นปี 4 แล้วกำลังหาที่ฝึกงาน คือเอยเรียนเกี่ยวกับภาษา ในหัวก็คิดแค่ว่าไม่อยากไปฝึกงานไกลบ้าน แล้วก็ไกลแฟน (แฟนเก่า)
เท้าความไปอีกนิดนึงนะคะ คือเอยกับแฟน
(แฟนในสมัยนั้น) เรียนอยู่คนละมหาลัยกันค่ะ
แล้วแฟนก็อยู่ปี 4 เหมือนกัน คือแฟนเรียนจบสามปีครึ่ง ซึ่งเขาก็ยังคงอยู่มหาลัยนั้น (ขอไม่เอ่ยชื่อสถาบันนะคะ แต่เอาเป็นว่ามีชื่อเสียงระดับนึงของภาคอีสานค่ะ) แล้วช่วงนั้นเอยก็คิดว่าจะหาที่ฝึกงานที่ไหนดี
จะได้เกี่ยวกับสาขาที่เราเรียนมา นึกๆดูก็มี โรงแรม การท่องเที่ยว ซึ่งถ้าอยากจะใช้ภาษาจริงๆ ก็จะต้องไปฝึกที่ที่มีชาวต่างชาติเยอะๆ พวกภูเก็ต เชียงใหม่ ประมานนี้ แล้วคือถ้าเลือกไปไกลก็จะไม่ได้อยู่ใกล้ชิดแฟนไง #เอดอกแรสเฟ่อออ
เลยนึกขึ้นได้ว่าตอนแนะแนวฝึกประสบการณ์อาจารย์ก้จะแนะนำว่า ตม. นะเหมาะกับสาขาเราเหมือนกัน ให้ลองไปหาข้อมูลดูมีที่ไหนบ้างงง ?! เอาแล้วไง ตม. ไปไหนดีละว่ะนั่น จังหวัดไหนดี ใกล้ๆแถวนี้จะมีไหม ?
แล้วก็เลย Search หาข้อมูลในเน็ต จนสรุปได้ว่า อ๋ออออ ตม. ที่ใกล้แฟนเราอยู่ก็มี แล้วก็ใกล้บ้านเราด้วย
หลังจากนั้นก็โทรไปสอบถาม ว่าเขาต้องการรับนักศึกษาฝึกงานรึป่าว .. (กว่าจะติดนี่คือยากมากหลายรอบมากกก) จนตัดสินใจแต่งชุดนักศึกษาแล้วเดินเข้าไปถามเลยจ้า ใกล้ที่เราอยู่แค่นี้เอง ตกลงจะรับไม่รับ ไอ้ตอนที่เราเข้าไปสอบถามก็ไม่มีอะไรน่าสนใจนะ ก็แค่สถานที่ตั้งของ ตม.เนี้ยมันอยู่ในเขตรั้วศูนย์ฝึกชายฉกรรจ์ นับร้อยๆชีวิตที่จบออกมาแล้วไปปกป้องบ้านเมืองงง แต่คือตอนนั้นเงียบมาก แล้วเราก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะมีผู้ชายเยอะแยะมากมาย ใจมุ่งตรงไปที่ที่จะฝึกงานอย่างเดียวเลยยย 😝
เล่าข้ามมาเข้าเรื่องซะทีเนอะ สรุปเราก็ได้เข้าไปฝึกงานที่ ตม. แห่งนั้นละคะ 😂 ถ้าเล่าทุกเหตุการณ์คงไม่ได้หลับได้นอนพอดี 55555555555’
วันแรกของการไปฝึกงานโคตรตลกตัวเองกับเพื่อนเลยค่ะ เอยมีเพื่อนในห้องไปฝึกที่เดียวกันค่ะ ขอเรียกชื่อว่า ‘ น้ำ แล้วกันนะคะ 🤗 วันนั้นเอยกับน้ำก็โทรนัดแนะกันเรียบร้อยค่ะว่าไปเจอกันข้างหน้าศูนย์ฝึก แล้วค่อยเดินเข้าไปด่านพร้อมกัน (ตม.ชื่อเต็มคือ ด่านตรวจคนเข้าเมือง) เราเดินไปถึงประมาน 7 โมงเกือบ 8 โมงเห็นจะได้ คืออิน้ำเนี้ยมันบอกเราว่า ตม.เปิดทำการเวลา 8 โมงครึ่งค่ะ ดอกกกก กูดูมาเรียบร้อยยย 55555555’
สิ่งแรกที่ตกใจคืออะไรรู้ไม๊ค่ะ? ตั้งแต่ก้าวเท้าลงจากสะพานลอยหน้าศูนย์ฝึก และมองเข้าไปด้านใน
คือผู้ชายใส่เสื้อสีขาว ใส่หมวก หลากสี น่าจะเป็นชุดนักเรียนของเขา แต่ยืนกันเป็นหมวดหมู่ กำลังเคารพธงชาติอยู่จ้าาา ซึ่งคือกูเขินไง เขินมาก คือไม่รู้มาก่อนว่าในที่แห่งนี้เขามีฝึกผู้ชายด้วย (เรื่องจริงนะคะ)
เรากับอิน้ำก็นั่งรออยู่ใต้ต้นไม้หน้าด่าน รอเวลาเข้าไปจะได้ตรงเวลา (โธ่ พวกกำลังไปฝึกงานวันแรกยังไม่รู้ตัวอีก) พอใกล้ๆจะ 8 โมงครึ่งพวกเราก็เดินหน้าตรงเข้าไปที่ด่านค่ะ ก็เปิดประตูเข้าไปสวัสดีพวกพี่ๆข้างใน พี่เขาเลยแซวว่า นึกว่าน้องฝึกงานจะเบี้ยวซะแล้ว เห็นสายมา 30 นาทียังไม่เข้ามา จ้าาาา ~
อิสองคนก็มองหน้ากันแล้วหัวเราะเลย บอกนึกว่าที่นี่ทำการ 8 โมงครึ่ง พี่เขาเลยบอก 8 โมงนะครับน้องๆ วันหลังจะได้ไม่มาสายอีก วันนี้วันแรกให้อภัยคนสวย ( อันหลังนี่เติมเอง 55555555) และหลังจากนั้นก็เข้าไปแนะนำตัวกับหัวหน้าด่าน แล้วพี่เจ้าหน้าที่ก็มาสอนงานอธิบายให้ฟังว่าที่นี่ทำไรบ้าง...
พี่ผู้ชายในด่านเลยแซวขึ้นมาว่า เดินเข้ามาเจอหนุ่มๆยืนรอรับรึป่าวน้องๆ เลยบอกว่าเจอค่ะ แล้วก็เลยถามว่าทำไมถึงมีผู้ชายหนุ่มๆเยอะแยะอยู่ คำตอบที่ได้คือ ที่นี่โรงเรียนผู้ชาย เขามาฝึก เราก็จะเจอแบบนี้ทุกวันนั่นแหละ เผลอๆ คงได้แฟนในนั้นซักคนก็ได้ เพราะมีน้อฝึกงานได้เป็นแฟนกัน คบกันจนไปถึงแต่งงานหลายคนแล้วกับไอ้หนุ่มหัวเกรียนพวกนั้น.
ตอนนั้นเอยก็ไม่ได้รู้สึกอะไรนะ เพราะตัวเองก็มีแฟนอยู่แล้ว ไม่ได้สนใจอะไร จากนั้นก็ใช้ชีวิตการเป็นนักฝึกษาฝึกงานปกติทั่วๆไป ตอนเช้ามาถึงด่านก่อนเวลา กลับหอตรงเวลาเลิกงานเป๊ะๆ 5555555 อันหลังคือเป๊ะจริง 5 โมงปุ๊บเก็บกระเป๋ากลับหอเลยจ้าาา
ช่วงนั้นคือเป็นช่วงที่แบบมาถึงด่านก่อน 7 โมงครึ่งแทบทุกวัน เพราะไม่อยากเจอพวกผู้ชายหัวเกรียนยืนเคารพธงชาติอยู่ทางเข้า เพราะอายมาก ไม่รู้จะอายอะไร เขาไม่ได้มองตัวเองซะหน่อยยย 😂
การฝึกงานก็ดำเนินไปแบบนั้นวนไปๆ เราเองก็เริ่มปรับตัวได้ล่ะ ไม่อายมันละผู้ชาย มาตอนเคารพธงชาติแทบทุกวัน แต่ก็ทันเวลางานนะจ๊ะ อิอิ
เราจะชอบทำงานอยู่ด้านนอกสำนักงาน ทำพวกแนะนำคนต่างชาติเกี่ยวกับการเขียนวีซ่า รึช่วยเขียนช่วยเหลือคนที่มาติดต่องานนั่นแหละ .
สิ่งที่เราเคยอายตอนแรกๆ ตอนนี้กลายเป็นอาหารตาไปแล้ว 🤪 เพราะพวกผู้ชายเหล้านั้นจะถอดเสื้อวิ่งแล้วร้องเพลงทุกวั๊นทุกวันน วันละหลายๆรอบ หลายกองร้อย วิ่งสวนกันไปมา ร้องเพลงนู้นนี้นั่นไป เพลินดี บางทีพวกนั้นก็โดนครูฝึกแกล้งให้หมอบเวลาวิ่งมาหน้าด่านเรา โชว์สาวไรงี้ พวกเราก็เขินม้วนกันไป 5555555555’ ซึ้งตอนนั้นไม่รู้หรอกว่าใครเป็นใคร หน้าตา ทรงผม ตัวดำนี่เหมือนกันไปหมด
จะดูดีหน่อยก็วันแต่งชุดออกไปพักผ่อน เสื้อเชิ๊ตแขนยาวสีขาวรัดรูป กางเกงสีอะไรว่ะออกกรมท่าเขียวๆ ผูกไทด์สีดำ รองเท้าขัดมันเงาแทบจะส่องแทนกระจกได้เลย ถือกระเป๋าเจมส์บอนคนละใบ หืมม เอาจิงๆคือถ้าไม่ให้มองหน้าดำๆนะ คือเท่มากกก 555555555’
แล้วการเปลี่ยนแปลงเล็กๆน้อยในชีวิตเราก็ค่อยๆเกิดขึ้น เนื่องจากเรากับแฟน(ในตอนนั้น) เริ่มทะเลาะกันบ่อยขึ้น ไม่ค่อยเข้าใจกัน ต่างคนต่างไม่ได้ดั่งใจ แต่ไม่ได้มีเรื่องมือที่ 3 เข้ามาเกี่ยวข้องเลยนะ เพราะตอนนั้นยังไม่มีใครเข้ามาาา
จนกระทั่งเราก็มาฝึกงานปกติ ทีนี้เริ่มมีพวกหัวเกรียน
เราขอเรียกพวกผู้ชายพวกนั้นว่า ‘ หัวเกรียน นะคะ
พวกหัวเกรียนก็เริ่มแวะเวียนมาด่านเรา มาถ่ายเอกสารบ้าง มาหลบหลังต้นไม้ ให้เราซื้อขนม ซื้อน้ำให้บ้าง *ด่านเราจะมีร้านกาแฟสดขายข้างหน้าค่ะ*
บางคนก็มาไม่ได้มาซื้อะไร แค่แวะมาแซวแล้วก็กลับกองร้อยงี้ คือเป็นอยู่แบบนี้เรื่อยๆ เราก้ไม่ได้มีใครมาจีบจิงๆจังๆนะ ส่วนมากก็แค่แซว ขอเฟส ขอไลน์ เราก็ให้บ้าง ไม่ให้บ้างแล้วแต่อารม #สวยเนอะ 😝
เวลาพวกเราขับรถไปซื้อของหลังด่าน ซึ่งต้องผ่านโรงอาหารไอ้พวกนั้น พวกมันก็จะตะโกนเสียงดังทำความเคารพ แบบแซวสาวด้วยไรงี้ ประมานว่าใครผ่านเข้าออกต้องทำความเคารพอะ แบบเขินมาก นั่งรถไปบิดจะตกมอร์ไซต์เอา คือนึกภาพออกป่ะ ผู้ชายประมาน 4-5 ร้อยคนอะ อยู่ในชุดที่แบบจัดว่าดูดีแลสะอาดตางี้อะ คือเยอะมากกกก แล้วก็จะคิดว่าตัวเองสวยไงเขาเลยแซว แต่ความจิงนะใครเข้าไปสวยหมดแหละผู้หญิง เพราะนานทีจะมีเข้าไปบ้าง 5555555555’
คือชีวิตฝึกงานของเอยก็จะฟินๆ เขินๆ ฮาๆ แบบแฮปปี้มากอะตอนนั้น 😁
หลังจากนั้นเราก้เริ่มมีเพื่อนเป็นพวกหัวเกรียนมากขึ้นๆ มีเข้ามาคุยแบบจีบบ้าง เพื่อนบ้าง เวลาพวกนี้ออกไปพักผ่อนอาทิตย์ละครั้ง ก็จะชวนพวกเราไปเที่ยวกันประจำๆ ส่วนมากมีแต่คนจากจังหวัดอื่น เรากับพวกเพื่อนๆแล้วก็น้องฝึกงานด้วยกันก็แห่กันไป ชอบนักของฟรี เมาฟรีลูกหมาป่ามากค้าาา 55555555’
ถ้าจะคิดว่าพวกเราจะกินแล้วเมาน็อคให้หิ้วปีกกลับห้องด้วยงี้ คือคิดผิดมหันต์ เพราะนอกจากจะไม่เมา ไม่น็อค แล้วยังเปลืองมิกซ์เซอร์ เปลืองกับแกล้ม แล้วก็เปลืองพื้นที่ในการเต้นอีกค้าาา 5555555555’
พอเรามีเพื่อนเยอะขึ้น เรากับแฟนก็ค่อยๆห่างกัน เราเองนี่แหละที่ตีตัวออกห่างจากเขา นิสัยไม่ดีเด้อ ไม่ใช่ว่ามีคนอื่นนะ แต่เหมือนตอนนั้นมันรู้สึกว่าไปกันไม่ได้เลยค่อยๆห่างกัน แต่ก็ยังคุยกันอยู่บ้าง
เราก็ใช้ชีวิตแบบนี้ไปเรื่อยๆ พอสถานะเรื่มชัดเจนกับแฟนเก่า ทีนี้ก็มีคนเข้ามาคุยแบบจีบเยอะมาก ด้วยความที่ว่าเราคุยเก่ง เราไม่ห่วงสวย ตลก ไม่อายละพักหลังๆ เราก็คุยๆไป เพราะเราก็มีความรู้สึกว่าต้องเลือกคนที่เข้าใจเราจริงๆมาเป็นแฟน
คือเราชอบเที่ยวนะ ชอบดื่ม เพื่อนเยอะ แต่ดูแลตัวเองได้ ไปได้กลับได้ สบายหายห่วง
(พร็อตเรื่องเริ่มมาละ 55555 เล่าตั้งนานละนะ 😂)
มีอยู่วันนึงช่วงเวลาประมานบ่ายๆ พี่ที่ด่านก็วานให้เราไปเย็บผ้าปูโต๊ะกินข้าวที่หลังด่าน หลังด่านพวกเราก้มีแบบปลูกผักปลูกต้นไม้ ดอกไม้ด้วยนะ
เราก็นั่งๆ ยืนๆ เย็บผ้าอยู่ข้างหลัง กับพวกพี่ๆ แล้วก็น้องฝึกงานด้วยกัน จู่ๆ ก็มีพวกกองทัพชายฉกรรจ์
หัวเกรียนสวมหมวกสีฟ้าสดใส เดินมาพร้อมกับอาวุธครบมือ !! จบเอย เสียมเอย เชือกเอย ถังน้ำเอยยย
มาทำไมน่ะหรอค่ะ ?! จะมาตัดต้นมะม่วงหลังด่านเราค่ะ จะมาตัดไม้ ทำความสะอาดกองร้อย รอรุ่นน้องเข้ามาค่ะ แล้วแบบแต่ละคนก้จะแซวสาวคนนู้นคนนี้ เหมือนกับมาใกล้กับสาว ตม.แล้วก้แซวเต็มที่เพราะผู้หญิงในนี้มีที่นี่ที่เดียว (ที่มีสาวๆวัยรุ่นๆนะ)
บางคนก็ช่วยน้องฝึกงานรถน้ำต้นไม้ ล้างห้องน้ำ บางคนฉลาดหน่อยก้เข้ามาคุยเล่นกับพี่เจ้าหน้าที่ ส่วนเราก็เย็บผ้าปูโต๊ะต่อไปด้วยอาการมือไม้สั่นเพราะเขิลผู้ชาย บางคนแซวเรา ขอเบอร์ ขอเฟส ขอไลน์ แต่แบบทำปากขมุบขมิบเอา แบบกลัวโดนพี่ที่ด่านดุเอา แล้วก็กลัวโดนครูฝึกมาเจออะ
เชื่อไม๊ เรานั่งคุกเข่าเย็บผ้าอยู่ๆก็ได้ยินเสียงคนตะโกนมาว่า ‘ ตัวเล็กขอเบอร์หน่อย ประมาน 2-3 รอบได้ คือก็ไม่รู้ใช่ป่ะถ้าเสียงใครขอใคร เราเลยยืนขึ้นแล้วก็หันหน้าไปตามเจ้าของเสียง เลยเห็นผู้ชายที่กำลังเดินเข้ามาประมาน 4-5 คน แล้วไอ้คนตัวโตคนแรกมันก็พูดว่า ‘ พี่ขอเบอร์เรานั่นแหละ ‘
เราก็หันไปมองหน้าพี่ที่ด่าน พี่เขาเลยยิ้มแล้วบอกให้ไปสิ เราเลยบอกว่า
‘ หนูจำเบอร์ไม่ได้ พึ่งจะเปลี่ยนเบอร์ใหม่ค่ะ! ‘
สิ้นเสียงเราค่ะทุกคนค่ะะะะ ไอ้ตัวโตที่ขอเบอร์เรามันพูดว่า ~
‘ โธ่ ไม่เอาก็ได้ว่ะ ขอเบอร์แค่นี้ก็ไม่ให้ หยิ่งว่ะ!!! จำไว้เลยยย ~ ‘
ขุ่นพระะ คืออะไรค่ะไอ้นี่ คือทุกคนมาจีบกูในแบบสุขุมนุ่มลึกมาก ละคืออัลไลลล ฮัลโหลววว 😅
แล้วเราก้ยิ้มหน้าเจื่อนๆ แบบตกใจอะ แล้วมันก็ทำท่าจะเดินกลับไป แล้วพูดขึ้นมาว่า
‘ ตกลงจะให้รึไม่ให้เบอร์อะ ? ‘
เราเลยยิ้มแทนคำตอบ ทำไรไม่ถูก ส่วนพวกหัวเกรียนที่มาก่อนก็ไม่มีใครพูดไรซักคน น่าจะรู้กันดีเพราะน่าอยู่กองร้อยเดียวกันหมวกสีเดียวกัน.
แล้วมันก็พูดขึ้นอีกว่า
‘ ไม่ให้ก็ไม่ให้ว่ะ จำไว้ๆ ‘
จ้าา กูจำไว้แน่ค่ะ จำแบบแม่นยำเลยจ้าา
พอมันพูดจบซักพักก็มีป๋า 53 (คือตอนนั้นมี ผช อายุ 53 ปีมาอบรมอะเลยเรียกป๋า) เดินเข้ามาหาเรา คือแก็รู้จักกับพี่ที่ด่านแหละ แกเดินเข้ามา พร้อมกระดาษสีขาวสี่เหลี่ยมแผ่นเล็กๆ พร้อมกับดินสอ แล้วพูดกับเรา
‘ หนูป๋าขอเบอร์หน่อย จะเอาไปให้ลูกชาย ป๋ามีลูกชาย’
คือเราก็งงๆนิดๆอะน่ะ แล้วพี่ที่ด่านเลยบอกว่าให้ป๋าแกไปเถอะ เรสก็เลยต้องจำใจเขียนเบอร์โทรให้แกไป..
พอเรายื่นให้แกเสร็จปุ๊ปแกก็บอกว่า ‘เขียนชื่อไว้ด้วยๆ เราก็ค่ะๆ แล้วยื่นให้แกไป
พอแกได้กระดาษเสร็จปุ๊ป แกก็อ่านชื่อเราแล้วก็เดินไปหาไอ้ตัวโตนั่น พร้อมกับยื่นกระดาษเบอร์โทรที่เราให้แล้วบอก ‘ อะลูกชาย ป๋าขอให้ล่ะ ‘ คือไรอะป๋าาาาาา
จากนั้นไอ้ตัวตัวก็พูดขึ้นว่า
‘ ไหนบอกว่าจำไม่ได้ไงว่ะ แค่นี้ก็ต้องโกหก ! ‘
เอ่าอิดอกก นะง จะมาจีบกูแท้ๆปากดีเชียววว เล่นกูหน้าเหวอไปอีกรอบค่ะ 5555555555’
เงียบคือคำตอบจากกูค่ะ จากนั้นมันก็บอกว่า
‘ งั้นเดี๋ยวพี่จะโทรหานะ รับด้วยนะ ‘
แหม่ พี่จะโทรหานะ พี่เลยค่ะ อารมณ์เปลี่ยนเลย มีการสั่งให้กูรับด้วยนะคะ เยี่ยมมมม 👍🏻
** วันนี้พอแค่นี้ก่อนเน้ออ ง่วงล๊าวว ถ้ามีคนอ่านค่อยจะมาเขียนต่อ **
ฝันดีนะคะ ออเจ้าทั้งหลายยย 😍