...ช่วงนี้มีหนังน่าดูมากมายหลายเรื่องพากันเข้าโรงจนเราแทบกินแกลบ 555+ อย่างล่าสุดก็เพิ่งดู Ready Player One ขอบอกเลยว่ามันส์มากๆและภาพสวยจริงๆ...แต่ๆๆเราจะไม่รีวิว Ready Player One กันนะจ๊ะ เพราะในช่วงนี่รอยต่อระหว่าง Ready Player One กับ Infinity War ยังมีหนังฟอร์มเล็กๆเรื่องนึงที่หลายคนพูดถึง นั่นคือ
A Quiet Place หนังเงียบแต่แต่กระแสไม่เงียบ....
***คำเตือนด้านล่างจะมีสปอยนะจ๊ะ
...A Quiet Place เป็นหนังของผู้กำกับฝีมือดี John Krasinski ซึ่งแกมีผลงานกำกับหลายเรื่อง(แต่เราไปอ่านประวัติดูแล้วรู้สึกแต่ละเรื่องไม่ค่อยคุ้นหรืออาจจะไม่ใช่สไตล์เรา --") เนื้อเรื่องเกี่ยวกับ A Quiet Place เกี่ยวกับโลกที่โดนเอเลี่ยนต่างดาวบุกโลกและยึดครองโลกเอาไว้ โดยจุดเด่นของมันอยู่ที่"ตาบอด" แต่มีประสาทการได้ยินที่ยอดเยี่ยมมากและเคลื่อนไหวจู่โจมได้อย่างรวดเร็วและรุนแรง ชะตากรรมมาตกอยู่ที่ครอบครัวที่ประกอบไปด้วยพ่อแม่และลูกอีกสามคนที่ต้องเอาตัวรอดจากภัยเอเลี่ยน
ความสนุกและลุ้นระทึกอยู่ตรงที่หนังพยายามจะใช้เสียงในการสื่อสารให้น้อยที่สุดเพราะถ้าเอเลี่ยนได้ยินเสียงประหลาดๆเพียงนิดเดียวมันจะวิ่งและสังหารทันที!!!!
หนึ่งในฉากเปิดที่มีในทีเซอร์ แม้จะโหดร้ายแต่เราคิดในใจ....อืมมมม ก็ไปดีนะลู๊กก!
...A Quiet Place ถือเป็นหนังที่น่าจะเกิดสองกระแสทั้งด้านดีและด้านลบอย่างชัดเจนเพราะหนังจบแบบปลายเปิด บางคนอาจดูแล้วลุ้นระทึกสนุกแต่บางคนอาจจะรู้สึกง่วง งง และอยากให้มันเคลียร์มากกว่าที่เป็นอยู่ แต่โดยรวมเราค่อนข้างชอบหนังเรื่องนี้นะเพราะเป็นหนังเอเลี่ยนแต่ให้อารมณ์เหมือนดูหนังผีมาก 555+ ฉากผ่อนคลายมีค่อนข้างน้อยแต่ฉากบีบหัวใจนี่พี่แกเล่นยัดไว้ซะเต็มเหลือเกิน
...A Quiet Place เป็นหนังฟอร์มเล็กที่ขายไอเดียและเสริมความเข้มข้นด้วยบทและเนื้อเรื่องการไล่ล่า อารมณ์เหมือนดู Don't Breathe หรือ Get Out ใช้ตัวละครไม่มาก ฉากที่ถ่ายก็จะเป็นสถานที่ซ้ำๆวนไปมา แต่แน่นด้วยพลังของเนื้อเรื่อง การตัดต่อ และการแสดงอันยอดเยี่ยมของนักแสดงที่บอกได้เลยว่า "เอาอยู่!" แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีข้อผิดพลาดค่อนข้างรั่วและไม่เป็นเหตุเป็นผลอย่างเห็นได้ชัด โดยเราเริ่มจากข้อดีก่อน
• นักแสดงเล่นได้ดีและสมบทบาทมาก
...สิ่งนี้ต้องขอชื่นชมนักแสดงทุกคนตั้งแต่พ่อแม่ลูก ที่ทำให้เราเชื่อว่าพวกเขาเหมือนตกอยู่ในเหตุการณ์อันตรายจริงๆการแสดงถ่ายทอดผ่านพฤติกรรม แววตา โดยใช้เสียงเพียงน้อยนิดแต่กลับทำให้เราเข้าใจถึงอารมณ์ของตัวละครได้อย่างยอดเยี่ยม ที่เด่นที่สุดคงจะเป็น เอมิลี บลันต์ ที่ทำให้เรารู้สึกว่าเธอเข้าถึงบทบาทได้สุดยอดมากๆ จนอยากให้มีหนังที่สามารถดึงการแสดงพลังของเธอออกมากกว่านี้เพราะเธอเป็นนักแสดงมากฝีมือ แต่จากหนังหลายเรื่องที่ผ่านมาเหมือนโดนนักแสดงคนอื่น(ที่เด่นกว่า)แย่งซีนจนทำให้เธอดูดรอปลง
เผื่อมีคนงงว่าเอมิลีไหนหว่า?.... แปะรูปเทียบว่านางมาไกลมาก
• Soundtrack ที่เก็บรายละเอียดได้อย่างงดงาม
...แม้นั่งจะใช้เสียงพูดน้อยมาก แต่หนังใช้ดนตรีประกอบที่ระทึกใจมากชวนให้ลุ้นติดตามตลอด ทั้งยังเก็บรายละเอียดเสียงรอบข้างได้ดีเช่น เสียงต้นไม้ใบหญ้าที่ปลิวตามลม เสียงฝีเท้า เสียงการเคลื่อนไหวของตัวละคร ซึ่งเสียงอะไรที่มันกรอบๆแกรบๆทำไมมันทำให้เรารู้สึกหิวได้ก็ไม่รู้ 555+ แต่เอาเป็นว่าหนังเรื่องนี้เด่นเรื่องการใช้ดนตรีและเสียงเอฟเฟกซ์ประกอบต่างๆได้ดีมาก ชื่นชมค่ะ
• หนังไม่เนือยไม่อืดอาจ
....ถือเป็นข้อดีที่หนังดำเนินเรื่องไว รวดเร็ว ไม่เกิด dead air บางซีนที่ยืดยาว เหมือนรู้ว่าถ้าหนังบทพูดน้อยก็ต้องใส่แอคติ้งให้หนัก พี่แกเลยอัดฉากไล่ล่าซะจนเราหายใจไม่ทั่วท้อง ถือว่าทำออกมาได้ลุ้นระทึกดีมากแม้จะตัวละครไม่กี่ตัวแต่เลือกที่จะจับทางถูกว่าจะใช้จุดอ่อนของตัวละครไหนเล่นกับคนดู อีกเรื่องนึงที่ขอชม นั่นคือ CG ของตัวเอเลี่ยนทำออกมาได้ ไม่หลุด ไม่ลอย อาจเพราะใช้เทคนิคแบบผลุดๆโผล่ๆกับตัวเอเลี่ยนช่วงแรกเพื่อจะได้ไม่ต้องเปลือง CG มาก แล้วมาอัดตู้มเดียวตอนท้ายงานเลยออกมาดี XD
พูดถึงข้อดีไปซะเยอะแต่หนังก็มีช่องโหว่ค่อนข้างมาก ตอนแรกที่เราดูยังไม่อะไรให้คิดมากเพราะหนังชวนให้จิตตกตลอดเวลา(มัวแต่กลัวอยู่

) จนกระทั่งหนังจบจึงมาพินิจพิเคราะห์ว่า เออ หนังมันอะไรบางอย่างไม่เป็นเหตุเป็นอยู่นะ... เริ่มจากประเด็นใหญ่ก่อน เราเข้าใจว่าหนังเรื่องนี้น่าจะได้แรงบันดาลใจมาจากเรื่อง Signs ซึ่งเคยฉายเมื่อปี 2002 ซึ่งแรงบันดาลใจนี้น่าจะเอาเรื่องเทคนิคการตัดภาพ เสียง และประเด็นหลายอย่างที่เกี่ยวข้องกันค่อนข้างมาก เช่น
-โลเคชั่นที่ใช้เป็นไร่ข้าวโพดแล้วต้องวิ่งหนีมนุษย์ต่างดาวกันในไล่ ซึ่งฉากนี้เราติดตามาจาก Signs เพราะทำออกมาได้น่ากลัวมากเหมือนหนังผีจริงๆ --" แล้วเล่นประเด็นกับจุดทีอ่อนไหวที่สุด คือ "ลูก"
-ดนตรีที่ใช้ประกอบหนังมาประเภทเดียวกัน นั่นคือในหนังเรื่อง Signs ซาวด์ประกอบหลอนติดหูมากๆ(ทุกวันนี้ก็ยังจำได้) ในขณะที่ A Quiet Place จะกึ่งๆหนังผี+หนังระทึก จะมีความมันส์ผสมความสยองอยู่
-เทคนิคการเปิดเผยตัวมนุษย์ต่างดาว ใช้เทคนิคใกล้เคียงกันคือจะไม่ให้เรามองเห็นบอดี้หน้าตาเอเลี่ยนให้ชัดเจนจนหนังเริ่มดำเนินไปถึงกลาง-ท้าย เราถึงรู้ว่าเอเลี่ยนหน้าตาจริงๆเป็นยังไง
-A Quiet Place เอเลี่ยนกลัวคลื่นเสียง , Signs เอเลี่ยนกลัวน้ำ
Signs สัญญาณสยองโลก...หนังดีอีกเรื่องที่แนะนำ
บ้านที่ไม่ปลอดภัย...แล้วเอ็งไปอยู่ทำไมในไร่ข้าวโพด!!!
...หนังเรื่องนี้ให้แง่คิดเรื่องที่"บ้านไม่ใช่ที่ปลอดภัย" และตั้งอยู่ในกลางไร่ข้าวโพดที่ไม่แม้กำแพงหรือปราการอะไรให้กันภัยได้ ทั้งยังเป็นบ้านไม้ออดๆแอดๆเสียงเอี๊ยดอ๊าดแถมยังกรอบรูปสารพัดแขวนบนผนังที่พร้อมจะหล่นแหล่มิหล่นแหล่!... คุณเอ้ยยย!! มีแต่อะไรที่พร้อมทำให้เสียงดังลั่นทุ่งมากก อันนี้บอกเลยว่าไม่เข้าใจ 5555+ ทั้งๆในหนังก็บอกอยุ่นะว่าถ้าอยู่ในที่มีเสียงดังกว่าเราจะปลอดภัย แต่คุณพี่อยู่ในเงียบกว่า ก็พร้อมตายสิคะงานนี้!! ...(แต่เราชอบไอเดียการใช้ไฟประดับมาเป็นสัญญาณไฟนะ แก้สถานการณ์เฉพาะหน้าได้ดี)
โลกจะไม่รอด..เอ็งยังจะมีลูกกันอี๊กกกก!
...อันนี้ชวนหงุดหงิดมาก คือเสียลูกไปแล้วรอบแรกพี่แกไม่สะใจจ้า...ปั๊มลูกอีกคนสร้างอุปสรรคเข้าไปอีก และตรงจุดนี้เดาหนังได้ง่ายเลยว่ามันต้องมีเหตุการณ์อิแม่ต้องแหกปากคลอดลูกและเด็กต้องร้องงอแง ซึ่งมันก็จริง!!!ยิ่งกว่าถูกหวย!
รู้ว่าเอเลี่ยนชอบวิ่งเข้าไปหาเสียง...แต่ทำไมไม่มีใครทำกัปดัก???
...อันนี้อาจไม่ใช่ประเด็นใหญ่ แต่เราเห็นจุดอ่อนเอเลี่ยนค่อนข้างชัดเจนก็แปลกใจว่าทำไมรัฐบาล กองทัพ หรือใครสักคนบนโลกไม่มีไอเดียสร้างจุดล่อเสียงให้เอเลี่ยนไปรวมกันแล้ว บึ๊มมมม!!!เป็นโกโก้ครัชนนนน
ทั้งท้อง ทั้งเสียลูก เสียผัว แต่จะไม่ยอมเสียชีวิตค่ะ! #หญิงแกร่งแห่งปี2018
...สรุปภาพรวม หนังเรื่องนี้ถ้าใครจะไปดูแนะนำอย่าหาเหตุผลให้มาก อย่าตั้งคำถามกับหนังเกินไปเพราะคุณจะดูไม่สนุก 555+ แต่ถ้าปล่อยวางแล้วดูเอามันส์เราถือว่าหนังเรื่องนี้ทำออกมาได้ดี ถ้าหากให้คะแนนเราให้ 7/10 เพราะเห็นความตั้งใจของนักแสดงและผู้กำกับที่ถ่ายทอดหนังหลายๆส่วนได้ยอดเยี่ยม (หากไม่นับปัญหาที่เรากล่าวไปก่อนหน้านั้น) แต่อาจจะไม่ใช่หนังที่เรียกว่าที่สุดของปีนี้ เพราะถ้าเทียบกับหนังต้นทุนไม่สูงแต่มีชั้นเชิงที่ลึกกว่าอย่าง Get out ก็ยังถือว่าำไกลอยู่ แต่อาจมีสิทธิ์ลุ้นในเรื่องของดนตรีประกอบ ส่วนนักแสดงนำหญิงเราอาจต้องลุ้นหนักหน่อยเพราะเรื่องนี้เอมิลี่แม้แสดงได้ดี แต่ตอนนี้ยังไม่ถึงกลางปีอาจมีหนังหลายเรื่องที่นักแสดงคนอื่นๆพร้อมเข้าชิงได้ตลอดเวลา
ทั้งหมดนี้เป็นความเห็นส่วนตัวของเราหากผิดพลาดประการใดก็ขออภัยลวงหน้าจ้า
++ชวนมารีวิวกับหนังเงียบแห่งปี A Quiet Place เงียบซะจนไม่กล้ากินไม่กินป็อปคอร์นเลยค่าาา!!!++
***คำเตือนด้านล่างจะมีสปอยนะจ๊ะ
...A Quiet Place เป็นหนังของผู้กำกับฝีมือดี John Krasinski ซึ่งแกมีผลงานกำกับหลายเรื่อง(แต่เราไปอ่านประวัติดูแล้วรู้สึกแต่ละเรื่องไม่ค่อยคุ้นหรืออาจจะไม่ใช่สไตล์เรา --") เนื้อเรื่องเกี่ยวกับ A Quiet Place เกี่ยวกับโลกที่โดนเอเลี่ยนต่างดาวบุกโลกและยึดครองโลกเอาไว้ โดยจุดเด่นของมันอยู่ที่"ตาบอด" แต่มีประสาทการได้ยินที่ยอดเยี่ยมมากและเคลื่อนไหวจู่โจมได้อย่างรวดเร็วและรุนแรง ชะตากรรมมาตกอยู่ที่ครอบครัวที่ประกอบไปด้วยพ่อแม่และลูกอีกสามคนที่ต้องเอาตัวรอดจากภัยเอเลี่ยน ความสนุกและลุ้นระทึกอยู่ตรงที่หนังพยายามจะใช้เสียงในการสื่อสารให้น้อยที่สุดเพราะถ้าเอเลี่ยนได้ยินเสียงประหลาดๆเพียงนิดเดียวมันจะวิ่งและสังหารทันที!!!!
...A Quiet Place ถือเป็นหนังที่น่าจะเกิดสองกระแสทั้งด้านดีและด้านลบอย่างชัดเจนเพราะหนังจบแบบปลายเปิด บางคนอาจดูแล้วลุ้นระทึกสนุกแต่บางคนอาจจะรู้สึกง่วง งง และอยากให้มันเคลียร์มากกว่าที่เป็นอยู่ แต่โดยรวมเราค่อนข้างชอบหนังเรื่องนี้นะเพราะเป็นหนังเอเลี่ยนแต่ให้อารมณ์เหมือนดูหนังผีมาก 555+ ฉากผ่อนคลายมีค่อนข้างน้อยแต่ฉากบีบหัวใจนี่พี่แกเล่นยัดไว้ซะเต็มเหลือเกิน
...A Quiet Place เป็นหนังฟอร์มเล็กที่ขายไอเดียและเสริมความเข้มข้นด้วยบทและเนื้อเรื่องการไล่ล่า อารมณ์เหมือนดู Don't Breathe หรือ Get Out ใช้ตัวละครไม่มาก ฉากที่ถ่ายก็จะเป็นสถานที่ซ้ำๆวนไปมา แต่แน่นด้วยพลังของเนื้อเรื่อง การตัดต่อ และการแสดงอันยอดเยี่ยมของนักแสดงที่บอกได้เลยว่า "เอาอยู่!" แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีข้อผิดพลาดค่อนข้างรั่วและไม่เป็นเหตุเป็นผลอย่างเห็นได้ชัด โดยเราเริ่มจากข้อดีก่อน
• นักแสดงเล่นได้ดีและสมบทบาทมาก
...สิ่งนี้ต้องขอชื่นชมนักแสดงทุกคนตั้งแต่พ่อแม่ลูก ที่ทำให้เราเชื่อว่าพวกเขาเหมือนตกอยู่ในเหตุการณ์อันตรายจริงๆการแสดงถ่ายทอดผ่านพฤติกรรม แววตา โดยใช้เสียงเพียงน้อยนิดแต่กลับทำให้เราเข้าใจถึงอารมณ์ของตัวละครได้อย่างยอดเยี่ยม ที่เด่นที่สุดคงจะเป็น เอมิลี บลันต์ ที่ทำให้เรารู้สึกว่าเธอเข้าถึงบทบาทได้สุดยอดมากๆ จนอยากให้มีหนังที่สามารถดึงการแสดงพลังของเธอออกมากกว่านี้เพราะเธอเป็นนักแสดงมากฝีมือ แต่จากหนังหลายเรื่องที่ผ่านมาเหมือนโดนนักแสดงคนอื่น(ที่เด่นกว่า)แย่งซีนจนทำให้เธอดูดรอปลง
• Soundtrack ที่เก็บรายละเอียดได้อย่างงดงาม
...แม้นั่งจะใช้เสียงพูดน้อยมาก แต่หนังใช้ดนตรีประกอบที่ระทึกใจมากชวนให้ลุ้นติดตามตลอด ทั้งยังเก็บรายละเอียดเสียงรอบข้างได้ดีเช่น เสียงต้นไม้ใบหญ้าที่ปลิวตามลม เสียงฝีเท้า เสียงการเคลื่อนไหวของตัวละคร ซึ่งเสียงอะไรที่มันกรอบๆแกรบๆทำไมมันทำให้เรารู้สึกหิวได้ก็ไม่รู้ 555+ แต่เอาเป็นว่าหนังเรื่องนี้เด่นเรื่องการใช้ดนตรีและเสียงเอฟเฟกซ์ประกอบต่างๆได้ดีมาก ชื่นชมค่ะ
• หนังไม่เนือยไม่อืดอาจ
....ถือเป็นข้อดีที่หนังดำเนินเรื่องไว รวดเร็ว ไม่เกิด dead air บางซีนที่ยืดยาว เหมือนรู้ว่าถ้าหนังบทพูดน้อยก็ต้องใส่แอคติ้งให้หนัก พี่แกเลยอัดฉากไล่ล่าซะจนเราหายใจไม่ทั่วท้อง ถือว่าทำออกมาได้ลุ้นระทึกดีมากแม้จะตัวละครไม่กี่ตัวแต่เลือกที่จะจับทางถูกว่าจะใช้จุดอ่อนของตัวละครไหนเล่นกับคนดู อีกเรื่องนึงที่ขอชม นั่นคือ CG ของตัวเอเลี่ยนทำออกมาได้ ไม่หลุด ไม่ลอย อาจเพราะใช้เทคนิคแบบผลุดๆโผล่ๆกับตัวเอเลี่ยนช่วงแรกเพื่อจะได้ไม่ต้องเปลือง CG มาก แล้วมาอัดตู้มเดียวตอนท้ายงานเลยออกมาดี XD
พูดถึงข้อดีไปซะเยอะแต่หนังก็มีช่องโหว่ค่อนข้างมาก ตอนแรกที่เราดูยังไม่อะไรให้คิดมากเพราะหนังชวนให้จิตตกตลอดเวลา(มัวแต่กลัวอยู่
-โลเคชั่นที่ใช้เป็นไร่ข้าวโพดแล้วต้องวิ่งหนีมนุษย์ต่างดาวกันในไล่ ซึ่งฉากนี้เราติดตามาจาก Signs เพราะทำออกมาได้น่ากลัวมากเหมือนหนังผีจริงๆ --" แล้วเล่นประเด็นกับจุดทีอ่อนไหวที่สุด คือ "ลูก"
-ดนตรีที่ใช้ประกอบหนังมาประเภทเดียวกัน นั่นคือในหนังเรื่อง Signs ซาวด์ประกอบหลอนติดหูมากๆ(ทุกวันนี้ก็ยังจำได้) ในขณะที่ A Quiet Place จะกึ่งๆหนังผี+หนังระทึก จะมีความมันส์ผสมความสยองอยู่
-เทคนิคการเปิดเผยตัวมนุษย์ต่างดาว ใช้เทคนิคใกล้เคียงกันคือจะไม่ให้เรามองเห็นบอดี้หน้าตาเอเลี่ยนให้ชัดเจนจนหนังเริ่มดำเนินไปถึงกลาง-ท้าย เราถึงรู้ว่าเอเลี่ยนหน้าตาจริงๆเป็นยังไง
-A Quiet Place เอเลี่ยนกลัวคลื่นเสียง , Signs เอเลี่ยนกลัวน้ำ
บ้านที่ไม่ปลอดภัย...แล้วเอ็งไปอยู่ทำไมในไร่ข้าวโพด!!!
...หนังเรื่องนี้ให้แง่คิดเรื่องที่"บ้านไม่ใช่ที่ปลอดภัย" และตั้งอยู่ในกลางไร่ข้าวโพดที่ไม่แม้กำแพงหรือปราการอะไรให้กันภัยได้ ทั้งยังเป็นบ้านไม้ออดๆแอดๆเสียงเอี๊ยดอ๊าดแถมยังกรอบรูปสารพัดแขวนบนผนังที่พร้อมจะหล่นแหล่มิหล่นแหล่!... คุณเอ้ยยย!! มีแต่อะไรที่พร้อมทำให้เสียงดังลั่นทุ่งมากก อันนี้บอกเลยว่าไม่เข้าใจ 5555+ ทั้งๆในหนังก็บอกอยุ่นะว่าถ้าอยู่ในที่มีเสียงดังกว่าเราจะปลอดภัย แต่คุณพี่อยู่ในเงียบกว่า ก็พร้อมตายสิคะงานนี้!! ...(แต่เราชอบไอเดียการใช้ไฟประดับมาเป็นสัญญาณไฟนะ แก้สถานการณ์เฉพาะหน้าได้ดี)
โลกจะไม่รอด..เอ็งยังจะมีลูกกันอี๊กกกก!
...อันนี้ชวนหงุดหงิดมาก คือเสียลูกไปแล้วรอบแรกพี่แกไม่สะใจจ้า...ปั๊มลูกอีกคนสร้างอุปสรรคเข้าไปอีก และตรงจุดนี้เดาหนังได้ง่ายเลยว่ามันต้องมีเหตุการณ์อิแม่ต้องแหกปากคลอดลูกและเด็กต้องร้องงอแง ซึ่งมันก็จริง!!!ยิ่งกว่าถูกหวย!
รู้ว่าเอเลี่ยนชอบวิ่งเข้าไปหาเสียง...แต่ทำไมไม่มีใครทำกัปดัก???
...อันนี้อาจไม่ใช่ประเด็นใหญ่ แต่เราเห็นจุดอ่อนเอเลี่ยนค่อนข้างชัดเจนก็แปลกใจว่าทำไมรัฐบาล กองทัพ หรือใครสักคนบนโลกไม่มีไอเดียสร้างจุดล่อเสียงให้เอเลี่ยนไปรวมกันแล้ว บึ๊มมมม!!!เป็นโกโก้ครัชนนนน
...สรุปภาพรวม หนังเรื่องนี้ถ้าใครจะไปดูแนะนำอย่าหาเหตุผลให้มาก อย่าตั้งคำถามกับหนังเกินไปเพราะคุณจะดูไม่สนุก 555+ แต่ถ้าปล่อยวางแล้วดูเอามันส์เราถือว่าหนังเรื่องนี้ทำออกมาได้ดี ถ้าหากให้คะแนนเราให้ 7/10 เพราะเห็นความตั้งใจของนักแสดงและผู้กำกับที่ถ่ายทอดหนังหลายๆส่วนได้ยอดเยี่ยม (หากไม่นับปัญหาที่เรากล่าวไปก่อนหน้านั้น) แต่อาจจะไม่ใช่หนังที่เรียกว่าที่สุดของปีนี้ เพราะถ้าเทียบกับหนังต้นทุนไม่สูงแต่มีชั้นเชิงที่ลึกกว่าอย่าง Get out ก็ยังถือว่าำไกลอยู่ แต่อาจมีสิทธิ์ลุ้นในเรื่องของดนตรีประกอบ ส่วนนักแสดงนำหญิงเราอาจต้องลุ้นหนักหน่อยเพราะเรื่องนี้เอมิลี่แม้แสดงได้ดี แต่ตอนนี้ยังไม่ถึงกลางปีอาจมีหนังหลายเรื่องที่นักแสดงคนอื่นๆพร้อมเข้าชิงได้ตลอดเวลา
ทั้งหมดนี้เป็นความเห็นส่วนตัวของเราหากผิดพลาดประการใดก็ขออภัยลวงหน้าจ้า