เอไอเอส แจงผ่อนผันชำระเงินประมูล ส่งผลดีต่อประเทศ
เอไอเอส ชี้แจงเหตุขอผ่อนผันการชำระเงินประมูลคลื่นความถี่ย่าน 900 MHz ระบุหากรัฐบาลพิจารณาผ่อนผันจะช่วยให้สามารถนำเงินมาลงทุนขยายโครงข่ายระบบสื่อสารโทรคมนาคมด้วยเทคโนโลยีใหมๆอันเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญในการนำไปสู่การพัฒนาเทคโนโลยี ดิจิทัลใหม่ๆเพื่อให้บริการลูกค้า และเป็นประโยชน์ต่อประชาชน และเป็นรากฐานอันสำคัญในการพัฒนาภาคธุรกิจอื่นๆ เช่นเทคโนโลยี 5G เทคโนโลยี IoT ที่สำคัญเป็นแรงขับเคลื่อนพัฒนาประเทศให้ก้าวสู่ไทยแลนด์ 4.0 ตามนโยบายรัฐบาลต่อไป แต่หากรัฐบาลไม่เห็นชอบผ่อนผันการชำระเงินบริษัทฯก็เคารพในการตัดสินใจของรัฐบาล
นายวีรวัฒน์ เกียรติพงษ์ถาวร หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านธุรกิจสัมพันธ์และองค์กร บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ จำกัด กล่าวว่า ตามที่บริษัทฯได้ยื่นหนังสือถึงคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ขอพิจารณาขยายเวลาผ่อนผันการชำระเงินประมูลคลื่นความถี่ย่าน 900 MHz ในงวดที่ 4 เนื่องจากราคาประมูลคลื่นดังกล่าวสูงกว่าการประเมินไว้ในตอนแรก ซึ่งหากรัฐบาลมีมติให้ผ่อนผันการชำระเงินค่าคลื่นดังกล่าวออกไปก็จะเกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติโดยรวม โดยบริษัทฯจะสามารถนำงบประมาณไปเข้าร่วมการประมูลคลื่นความถี่ย่านอื่นๆในครั้งต่อไปที่กสทช.กำหนดขึ้น และที่สำคัญบริษัทฯจะสามารถนำเงินมาลงทุนขยายโครงข่ายระบบสื่อสารโทรคมนาคมด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลใหม่ๆซึ่งถือเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญในการนำไปสู่การพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลใหม่ๆเพื่อให้บริการลูกค้า อันได้แก่ประชาชนทั้งประเทศ กลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆที่จะมีนวัตกรรมไปพัฒนาอุตสาหกรรม และธุรกิจต่างๆให้เกิดขีดความสามารถในการแข่งขันกับนานาประเทศส่งผลให้ประเทศมีความก้าวหน้ามั่งคง และที่สำคัญเป็นแรงขับเคลื่อนพัฒนาประเทศให้ก้าวสู่ไทยแลนด์ 4.0 ตามนโยบายรัฐบาลต่อไป
http://www.thaipost.net/main/detail/6769
TRUE รับหากรัฐไม่ผ่อนผันขยายเวลาจ่ายค่าใบอนุญาต กระทบการลงทุน-ประมูลคลื่นใหม่
นายวิเชาวน์ รักพงษ์ไพโรจน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่กลุ่มบริษัท (ร่วม) บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) เปิดเผยว่า บริษัทเคารพในการตัดสินใจหากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีข้อสรุปไม่ให้ขยายระยะเวลาการชำระค่าใบอนุญาตคลื่นความถี่ 900 เมกะเฮิร์ตซ์ (MHz) งวดสุดท้ายในปี 63 ออกไป ภายหลังจากที่เมื่อเดือนก.ย.60 บริษัทได้ยื่นหนังสือถึงคสช. ขอให้พิจารณาผ่อนผันการชำระค่าใบอนุญาตดังกล่าวออกไปเป็น 7 งวด โดยไม่มีดอกเบี้ย
แต่หากไม่ได้รับความช่วยเหลือ บริษัทก็มองว่าน่าจะส่งผลกระทบต่อแผนการลงทุนของบริษัท และแผนการเข้าประมูลคลื่นความถี่ใหม่ แต่อย่างไรก็ตามการเข้าประมูลคลื่นความถี่ ต้องขึ้นอยู่กับการพิจารณาของคณะกรรมการบริษัท อีกทั้ง ยังส่งผลกระทบต่อภาพรวมอุตสาหกรรมโทรคมนาคม ในการลงทุนด้านเทคโนโลยีใหม่ เช่น IoT, IoE เป็นต้น เนื่องจากอุตสาหกรรมฯ ถือว่ามีความสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ รวมถึงส่งผลกระทบต่อภาคประชาชนในการเปลี่ยนผ่านคลื่นความถี่จาก 4G ไป 4.5G และ 5G
"ถ้าภาครัฐไม่ให้ผ่อนชำระค่างวดใบอนุญาต เราก็เคารพการตัดสินใจของภาครัฐ แต่อาจจะส่งผลกระทบต่อแผนการลงทุน และโอกาสในการเข้าประมูลคลื่นในครั้งต่อไปพอสมควร เนื่องจากเราต้องสำรองเงินไว้ลงทุนในบริษัทในเครืออื่น ๆ อีก แต่ถ้าช่วยเหลือ เราก็จะมีโอกาสในการลงทุนได้ตามแผน"
สำหรับกรณีที่นักวิชาการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการช่วยเหลือกิจการโทรคมนาคม บริษัทยืนยันว่าข้อเสนอดังกล่าวไม่ได้ทำให้รัฐเสียผลประโยชน์ เป็นเพียงการขอขยายระยะเวลาการผ่อนชำระค่างวดใบอนุญาตคลื่นความถี่เท่านั้น ซึ่งบริษัทก็มีความยินดีที่จะจ่ายดอกเบี้ย ตามภาครัฐกำหนด
"รัฐไม่ได้เสียประโยชน์ เรายังคงจ่ายเงินให้ทั้งหมด และจ่ายดอกเบี้ยด้วย เพียงแต่เราขอขยายระยะเวลา ถ้ารัฐเลือกที่จะไม่ช่วยแน่นอนจะกระทบต่อการพัฒนา ซึ่งเทเลคอมต้องพัฒนาไปเรื่อย ๆ และมีการลงทุนอย่างต่อเนื่อง"นายวิเชาวน์ กล่าว
นายวิเชาวน์ กล่าวว่า ตั้งแต่ปี 60 ผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลได้ยื่นขอความช่วยเหลือจากรัฐบาล เพราะราคาประมูลสูงกว่าราคาที่ตั้งไว้ 2 เท่า บริษัทจึงเห็นว่าเมื่อการประมูลคลื่นความถี่ 900 MHz ที่ผ่านมามีราคาสูงกว่าราคาเริ่มต้นถึง 6 เท่า จึงน่าจะขอความช่วยเหลือจากรัฐได้ อีกทั้งรูปแบบการชำระเงินค่างวดใบอนุญาตในเอกสารเชิญชวนประมูล (TOR) ที่กำหนดให้แบ่งชำระเป็น 4 งวด ได้แก่ งวดที่ 1 ชำระ 50% หรือ 8,040 ล้านบาท, งวดที่ 2 ชำระ 25% หรือ 4,020 ล้านบาท, งวดที่ 3 ชำระ 25% หรือ 4,020 ล้านบาท และงวดสุดท้ายชำระที่เหลือทั้งหมดรวมดอกเบี้ย หรือราว 60,000 ล้านบาท ถือเป็นจำนวนที่สูงเกินคาดการณ์ ซึ่งหากมีการออกแบบ TOR ให้ดีกว่านี้อาจจะไม่ส่งผลกระทบกับเทคโนโลยีที่จะเข้ามา หรือการประมูลในครั้งต่อไป
"คลื่นความถี่ 900 เมกะเฮิร์ตของประเทศไทย ถือเป็นคลื่นความถี่ที่แพงที่สุดในโลกแล้ว"นายวิเชาวน์ กล่าว
อ่านต่อได้ที่ :
http://www.ryt9.com/s/iq05/2810205
กสทช.ถอย กรูด เลิกอุ้ม 'เอไอเอส-ทรู' ปัดชง มาตรา44
9 เม.ย.61 - นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า มาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการโทรคมนาคมและทีวีดิจิตอล ไม่ใช่สิ่งที่ กสทช.เป็นคนชงเรื่องให้รัฐบาลออกม.44 อย่างที่หลายฝ่ายคิด เพราะเรื่องนี้รัฐบาลเป็นผู้มาขอความเห็นจาก กสทช.เองว่ามีความคิดเห็นอย่างไรบ้าง ซึ่งจริง ๆ แล้วสิ่งที่ผู้ประกอบการโทรคมนาคม 2 ราย คือ เอไอเอส และทรูมูฟ ที่ไปยื่นเรื่องกับรัฐบาลเองลงวันที่ 27 ธ.ค. 2560 ว่าขอผ่อนผันการชำระเงินประมูลคลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์ งวดที่สี่ออกไปเป็น 7 งวด และขอไม่ชำระอัตราดอกเบี้ย โดยอ้างว่าราคาประมูลสูงเกินจริง เพราะ บริษัท แจส โมบาย บรอดแบรนด์ จำกัด ไม่ชำระค่าประมูล และจะมีปัญหาในการขยายโครงข่ายด้านโทรคมนาคมในอนาคต
นายฐากร กล่าวต่อว่า กสทช.มีความเห็นตอบกลับไปยังรัฐบาลว่า ผู้ประมูลสามารถมีทางเลือกว่าจะชำระตามเดิมหรือชำระตามที่ขอก็ได้ แต่ควรขยายระยะเวลาการชำระค่าประมูลเป็น 3 - 5 งวด ไม่ใช่ 7 งวด และควรชำระอัตราดอกเบี้ยตามประกาศของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ซึ่งสิ่งที่รัฐบาลขอความเห็นนั้นไม่ได้ขอแค่กสทช.ฝ่ายเดียว รัฐบาลยังขอความเห็นจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องด้วย ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงการคลัง สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน เป็นต้น
“การช่วยเหลือเรื่องโทรคมนาคม ล่าสุดก็ได้ชี้แจงเมื่อวันที่ 3 เม.ย.อีกครั้งแล้วว่าแนวทางช่วยและไม่ช่วยจะเกิดอะไรขึ้น ขออย่ามาโฟกัสที่คำพูดของเรา ถ้าตรรกะนี้ใช้ไม่ได้ เลอะเลือนไป ก็ทำตามตรรกะของนักวิชาการไป ส่วนเรื่องโทรคมนาคมจะไม่ช่วยก็ไม่ขัดใจ ถึงปี 2563 ก็นำแบงก์การรันตีไปขึ้นเงินเท่านั้นเอง ขอให้ทุกคนที่มีเหตุผลดีส่งไปยังนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เอง ไม่ต้องส่งมาที่ผม
ผมไม่ได้เป็นคนชง ไม่ได้อุ้มโทรคมนาคม ที่บอกว่าโทรคมนาคมยังมีกำไรอยู่นั้น เราไม่ได้ติดใจเรื่องนี้ หลักการในการตอบเราตอบให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน หากหลายคนบอกว่าไม่ต้องการช่วยเหลือ กสทช.ก็ไม่ขัดข้อง เพราะกสทช.มีแบงก์การันตีอยู่แล้ว ถึงเวลาก็เอาไปขึ้นเงิน ที่ผ่านมาเราทำดีที่สุดแล้ว ตอนนี้รัฐบาลจะช่วยทีวีดิจิทัลก็ช่วยไป”เลขาธิการกสทช.ระบุ.
http://www.thaipost.net/main/detail/6746
เห็นควรให้ผ่อนชำระเงินประมูล 900 Mhz ให้ AIS - TRUE ออกไปอีกหรือไม่ ?
เอไอเอส แจงผ่อนผันชำระเงินประมูล ส่งผลดีต่อประเทศ
เอไอเอส ชี้แจงเหตุขอผ่อนผันการชำระเงินประมูลคลื่นความถี่ย่าน 900 MHz ระบุหากรัฐบาลพิจารณาผ่อนผันจะช่วยให้สามารถนำเงินมาลงทุนขยายโครงข่ายระบบสื่อสารโทรคมนาคมด้วยเทคโนโลยีใหมๆอันเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญในการนำไปสู่การพัฒนาเทคโนโลยี ดิจิทัลใหม่ๆเพื่อให้บริการลูกค้า และเป็นประโยชน์ต่อประชาชน และเป็นรากฐานอันสำคัญในการพัฒนาภาคธุรกิจอื่นๆ เช่นเทคโนโลยี 5G เทคโนโลยี IoT ที่สำคัญเป็นแรงขับเคลื่อนพัฒนาประเทศให้ก้าวสู่ไทยแลนด์ 4.0 ตามนโยบายรัฐบาลต่อไป แต่หากรัฐบาลไม่เห็นชอบผ่อนผันการชำระเงินบริษัทฯก็เคารพในการตัดสินใจของรัฐบาล
นายวีรวัฒน์ เกียรติพงษ์ถาวร หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านธุรกิจสัมพันธ์และองค์กร บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ จำกัด กล่าวว่า ตามที่บริษัทฯได้ยื่นหนังสือถึงคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ขอพิจารณาขยายเวลาผ่อนผันการชำระเงินประมูลคลื่นความถี่ย่าน 900 MHz ในงวดที่ 4 เนื่องจากราคาประมูลคลื่นดังกล่าวสูงกว่าการประเมินไว้ในตอนแรก ซึ่งหากรัฐบาลมีมติให้ผ่อนผันการชำระเงินค่าคลื่นดังกล่าวออกไปก็จะเกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติโดยรวม โดยบริษัทฯจะสามารถนำงบประมาณไปเข้าร่วมการประมูลคลื่นความถี่ย่านอื่นๆในครั้งต่อไปที่กสทช.กำหนดขึ้น และที่สำคัญบริษัทฯจะสามารถนำเงินมาลงทุนขยายโครงข่ายระบบสื่อสารโทรคมนาคมด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลใหม่ๆซึ่งถือเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญในการนำไปสู่การพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลใหม่ๆเพื่อให้บริการลูกค้า อันได้แก่ประชาชนทั้งประเทศ กลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆที่จะมีนวัตกรรมไปพัฒนาอุตสาหกรรม และธุรกิจต่างๆให้เกิดขีดความสามารถในการแข่งขันกับนานาประเทศส่งผลให้ประเทศมีความก้าวหน้ามั่งคง และที่สำคัญเป็นแรงขับเคลื่อนพัฒนาประเทศให้ก้าวสู่ไทยแลนด์ 4.0 ตามนโยบายรัฐบาลต่อไป
http://www.thaipost.net/main/detail/6769
TRUE รับหากรัฐไม่ผ่อนผันขยายเวลาจ่ายค่าใบอนุญาต กระทบการลงทุน-ประมูลคลื่นใหม่
นายวิเชาวน์ รักพงษ์ไพโรจน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่กลุ่มบริษัท (ร่วม) บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) เปิดเผยว่า บริษัทเคารพในการตัดสินใจหากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีข้อสรุปไม่ให้ขยายระยะเวลาการชำระค่าใบอนุญาตคลื่นความถี่ 900 เมกะเฮิร์ตซ์ (MHz) งวดสุดท้ายในปี 63 ออกไป ภายหลังจากที่เมื่อเดือนก.ย.60 บริษัทได้ยื่นหนังสือถึงคสช. ขอให้พิจารณาผ่อนผันการชำระค่าใบอนุญาตดังกล่าวออกไปเป็น 7 งวด โดยไม่มีดอกเบี้ย
แต่หากไม่ได้รับความช่วยเหลือ บริษัทก็มองว่าน่าจะส่งผลกระทบต่อแผนการลงทุนของบริษัท และแผนการเข้าประมูลคลื่นความถี่ใหม่ แต่อย่างไรก็ตามการเข้าประมูลคลื่นความถี่ ต้องขึ้นอยู่กับการพิจารณาของคณะกรรมการบริษัท อีกทั้ง ยังส่งผลกระทบต่อภาพรวมอุตสาหกรรมโทรคมนาคม ในการลงทุนด้านเทคโนโลยีใหม่ เช่น IoT, IoE เป็นต้น เนื่องจากอุตสาหกรรมฯ ถือว่ามีความสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ รวมถึงส่งผลกระทบต่อภาคประชาชนในการเปลี่ยนผ่านคลื่นความถี่จาก 4G ไป 4.5G และ 5G
"ถ้าภาครัฐไม่ให้ผ่อนชำระค่างวดใบอนุญาต เราก็เคารพการตัดสินใจของภาครัฐ แต่อาจจะส่งผลกระทบต่อแผนการลงทุน และโอกาสในการเข้าประมูลคลื่นในครั้งต่อไปพอสมควร เนื่องจากเราต้องสำรองเงินไว้ลงทุนในบริษัทในเครืออื่น ๆ อีก แต่ถ้าช่วยเหลือ เราก็จะมีโอกาสในการลงทุนได้ตามแผน"
สำหรับกรณีที่นักวิชาการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการช่วยเหลือกิจการโทรคมนาคม บริษัทยืนยันว่าข้อเสนอดังกล่าวไม่ได้ทำให้รัฐเสียผลประโยชน์ เป็นเพียงการขอขยายระยะเวลาการผ่อนชำระค่างวดใบอนุญาตคลื่นความถี่เท่านั้น ซึ่งบริษัทก็มีความยินดีที่จะจ่ายดอกเบี้ย ตามภาครัฐกำหนด
"รัฐไม่ได้เสียประโยชน์ เรายังคงจ่ายเงินให้ทั้งหมด และจ่ายดอกเบี้ยด้วย เพียงแต่เราขอขยายระยะเวลา ถ้ารัฐเลือกที่จะไม่ช่วยแน่นอนจะกระทบต่อการพัฒนา ซึ่งเทเลคอมต้องพัฒนาไปเรื่อย ๆ และมีการลงทุนอย่างต่อเนื่อง"นายวิเชาวน์ กล่าว
นายวิเชาวน์ กล่าวว่า ตั้งแต่ปี 60 ผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลได้ยื่นขอความช่วยเหลือจากรัฐบาล เพราะราคาประมูลสูงกว่าราคาที่ตั้งไว้ 2 เท่า บริษัทจึงเห็นว่าเมื่อการประมูลคลื่นความถี่ 900 MHz ที่ผ่านมามีราคาสูงกว่าราคาเริ่มต้นถึง 6 เท่า จึงน่าจะขอความช่วยเหลือจากรัฐได้ อีกทั้งรูปแบบการชำระเงินค่างวดใบอนุญาตในเอกสารเชิญชวนประมูล (TOR) ที่กำหนดให้แบ่งชำระเป็น 4 งวด ได้แก่ งวดที่ 1 ชำระ 50% หรือ 8,040 ล้านบาท, งวดที่ 2 ชำระ 25% หรือ 4,020 ล้านบาท, งวดที่ 3 ชำระ 25% หรือ 4,020 ล้านบาท และงวดสุดท้ายชำระที่เหลือทั้งหมดรวมดอกเบี้ย หรือราว 60,000 ล้านบาท ถือเป็นจำนวนที่สูงเกินคาดการณ์ ซึ่งหากมีการออกแบบ TOR ให้ดีกว่านี้อาจจะไม่ส่งผลกระทบกับเทคโนโลยีที่จะเข้ามา หรือการประมูลในครั้งต่อไป
"คลื่นความถี่ 900 เมกะเฮิร์ตของประเทศไทย ถือเป็นคลื่นความถี่ที่แพงที่สุดในโลกแล้ว"นายวิเชาวน์ กล่าว
อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq05/2810205
กสทช.ถอย กรูด เลิกอุ้ม 'เอไอเอส-ทรู' ปัดชง มาตรา44
9 เม.ย.61 - นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า มาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการโทรคมนาคมและทีวีดิจิตอล ไม่ใช่สิ่งที่ กสทช.เป็นคนชงเรื่องให้รัฐบาลออกม.44 อย่างที่หลายฝ่ายคิด เพราะเรื่องนี้รัฐบาลเป็นผู้มาขอความเห็นจาก กสทช.เองว่ามีความคิดเห็นอย่างไรบ้าง ซึ่งจริง ๆ แล้วสิ่งที่ผู้ประกอบการโทรคมนาคม 2 ราย คือ เอไอเอส และทรูมูฟ ที่ไปยื่นเรื่องกับรัฐบาลเองลงวันที่ 27 ธ.ค. 2560 ว่าขอผ่อนผันการชำระเงินประมูลคลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์ งวดที่สี่ออกไปเป็น 7 งวด และขอไม่ชำระอัตราดอกเบี้ย โดยอ้างว่าราคาประมูลสูงเกินจริง เพราะ บริษัท แจส โมบาย บรอดแบรนด์ จำกัด ไม่ชำระค่าประมูล และจะมีปัญหาในการขยายโครงข่ายด้านโทรคมนาคมในอนาคต
นายฐากร กล่าวต่อว่า กสทช.มีความเห็นตอบกลับไปยังรัฐบาลว่า ผู้ประมูลสามารถมีทางเลือกว่าจะชำระตามเดิมหรือชำระตามที่ขอก็ได้ แต่ควรขยายระยะเวลาการชำระค่าประมูลเป็น 3 - 5 งวด ไม่ใช่ 7 งวด และควรชำระอัตราดอกเบี้ยตามประกาศของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ซึ่งสิ่งที่รัฐบาลขอความเห็นนั้นไม่ได้ขอแค่กสทช.ฝ่ายเดียว รัฐบาลยังขอความเห็นจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องด้วย ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงการคลัง สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน เป็นต้น
“การช่วยเหลือเรื่องโทรคมนาคม ล่าสุดก็ได้ชี้แจงเมื่อวันที่ 3 เม.ย.อีกครั้งแล้วว่าแนวทางช่วยและไม่ช่วยจะเกิดอะไรขึ้น ขออย่ามาโฟกัสที่คำพูดของเรา ถ้าตรรกะนี้ใช้ไม่ได้ เลอะเลือนไป ก็ทำตามตรรกะของนักวิชาการไป ส่วนเรื่องโทรคมนาคมจะไม่ช่วยก็ไม่ขัดใจ ถึงปี 2563 ก็นำแบงก์การรันตีไปขึ้นเงินเท่านั้นเอง ขอให้ทุกคนที่มีเหตุผลดีส่งไปยังนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เอง ไม่ต้องส่งมาที่ผม
ผมไม่ได้เป็นคนชง ไม่ได้อุ้มโทรคมนาคม ที่บอกว่าโทรคมนาคมยังมีกำไรอยู่นั้น เราไม่ได้ติดใจเรื่องนี้ หลักการในการตอบเราตอบให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน หากหลายคนบอกว่าไม่ต้องการช่วยเหลือ กสทช.ก็ไม่ขัดข้อง เพราะกสทช.มีแบงก์การันตีอยู่แล้ว ถึงเวลาก็เอาไปขึ้นเงิน ที่ผ่านมาเราทำดีที่สุดแล้ว ตอนนี้รัฐบาลจะช่วยทีวีดิจิทัลก็ช่วยไป”เลขาธิการกสทช.ระบุ.
http://www.thaipost.net/main/detail/6746