คันไม้คันมือ อยากล้างตู้เย็น

สวัสดีค่ะ นี่เป็นกระทู้แรกของเรา ที่จะมาแชร์ประสบการณ์ในการใช้ชีวิตในบ้านสามี
เราจะไม่เจาะลึกรายละเอียดมากมาก (แอบกลัวสามีอ่านเจอ)
ขอให้คิดว่าเป็นกระทู้เรื่องเล่าจากเพื่อนละกันนะคะ และใครมีข้อเสนอแนะก็แชร์กันได้ค่ะ

ท้าวความนิดนึง...
เริ่มจากเราแต่งงานเข้าบ้านสามี 3 ปีแล้ว ก่อนแต่งงาน เราเคยมาเที่ยวบ้านสามีแค่ครั้งเดียว (จริงๆนะ)
พอได้เข้ามาอยู่จริงๆก็แบบ "คุณพระช่วย! ทำไมมัน....ขนาดนี้เนี่ย?"
คือที่บ้านสามีเนี่ย มีของเยอะมากๆ ซึ่งบางอย่างเราก็ไม่รู้ว่าที่บ้านเค้าจะเก็บไว้ทำไม อย่างแก้วน้ำชาไข่มุกใบใหญ่ๆ
หรือถุงยา ซองยา ที่ใช้หมดแล้ว ไม้จิ้มฟัน (ใช้แล้วรึเปล่า อันนี้ก็ไม่อาจรู้ได้) ฯลฯ และที่สำคัญ มีฝุ่นเยอะมาก

สามีเล่าให้ฟังว่า เมื่อก่อนที่บ้านจนมาก เรียกว่าแทบไม่มีสมบัติอะไรเลย
ที่บ้านเลยต้องทำงานกันหนักมากเพื่อเลี้ยงตัวสามีที่ยังเด็กให้มีกิน มีใช้ มีเรียนหนังสือ
จนไม่มีเวลามาทำงานบ้านอะไรพวกนี้ ซึ่งเราก็เข้าใจนะ เอาน่ะ... เดี๋ยวภรรยาอย่างเราทำให้เองก็ได้

เราซึ่งไม่เคยอยู่แบบนี้มาก่อน เพราะที่บ้าน แม่จะคอยทำความสะอาด ทำซะจนเหมือนบ้านมันจะโปร่งแสงได้
และแน่นอนว่าต้องเคี่ยวเข็ญเราให้ทำด้วย เราเองก็ทำบ้าง ไม่ทำบ้าง (แต่ก็สะอาดอยู่นะ ประมาณ 8/10 คะแนน)
แต่ด้วยเวลาที่มีจำกัด เนื่องจากที่บ้านสามีปิดบ้านนอนไวมาก 2 ทุ่มครึ่งนี่คือบ้านมืดสนิท เข้านอนกันหมดแล้ว
รวมถึงเราและสามีที่ก็ต้องเข้าห้องตัวเองไปด้วยเช่นกัน เลยกลายเป็นคนรักสุขภาพนอนตรงเวลาไปเลย
เลิกงาน 5 โมง กลับถึงบ้าน 1 ทุ่ม มีเวลาทำทุกอย่าง 1 ชั่วโมงครึ่ง ก็เลยไม่ค่อยได้ทำความสะอาดอย่างที่ตั้งใจไว้
(ส่วนวันหยุดก็ไม่ได้อยู่บ้าน เพราะต้องไปอีกบ้านนึง ขอข้ามรายละเอียดตรงนี้ไปเลยนะคะ)

แต่วันนี้ เรามีเวลาเหลือเฟือ ทันใดนั้นก็เหลือบไปเห็นตู้เย็น เห็นแล้วก็รู้สึกคันไม้คันมือ
"เจ้าตู้เย็น แกเสร็จฉันแน่!" เอาล่ะนะ...กะละมัง พร้อม! ผ้าขนหนู พร้อม! พับแขนเสื้อ พร้อม! เพี้ยนลุย

เริ่มจากการเช็ดถูภายนอกให้สะอาดเอี่ยมอ่องเท่าที่มันจะเป็นไปได้ และเท่าที่มืออวบๆของเราจะเข้าถึง
แน่นอนว่าคราบดำๆที่สะสมมานานมันขัดยาก แต่มันก็ต้องแพ้ความสามารถของเราอยู่ดี
ผ้าคลุมตู้เย็นลูกไม้สีน้ำตาล ที่ผ่านมาไม่รู้กี่ร้อนกี่หนาว ก็ถูกเราเอาไปซัก เพียงเพื่อจะได้รู้ว่าที่จริงแล้วมันเป็นสีขาว
ทุกสิ่งทุกอย่างที่วางอยู่บนหลังตู้เย็นและเคลือบด้วยฝุ่น ถูกเช็ดและเก็บทิ้งไปจนแทบจะไม่มีอะไรเหลือ
แน่นอนว่าเราก็ภาคภูมิใจกับผลงานนะ เริ่มข้างในต่อเลยดีกว่า

เปิดตูเย็นเช็ดด้านในประตู เริ่มจากถาดวางไข่ ซึ่งมีอะไรก็ไม่รู้เหนียวๆ เช็ดไปก็ร้องไป อี๋... เม่ารังเกียจ
เช็ดไป เก็บทิ้งไป หนังยางเอามาแช่ตู้เย็นทำไม มีคำถามมากมายเกิดขึ้นระหว่างทำความสะอาดเจ้าตู้เย็น
จนเริ่มส่วนที่ 2 ช่องเล็กๆที่มักจะเอาไว้วางยาที่ต้องเก็บในที่เย็น ก็เต็มไปด้วยถุงน้ำจิ้มอะไรก็ไม่รู้ที่น่าจะบูดแล้ว ทิ้งเลยละกัน
รวมถึงเจ้าคราบเหนียวๆยังคงตามมาหลอกหลอนไปทุกส่วนที่เช็ดไปถึง
ในช่วงที่กำลังเมามันกับการเช็ดถูตู้เย็น แม่สามีก็เดินมาเห็นพอดี แล้วแนะนำให้เราว่า
"ไม่ต้องเช็ดหรอก (ชื่อสามี)มันบอกว่าจะซื้อใหม่แล้ว"
เออใช่ เคยได้ยินเหมือนกัน ถ้าจำไม่ผิดก็ตั้งแต่อาทิตย์แรกที่แต่งเข้ามาล่ะมั้ง นี่มันก็ผ่านมาจะ 3 ปีละนะ เม่าโศก

สุดท้าย เราก็เลยต้องหยุดภารกิจเช็ดตู้เย็นลง ด้วยเวลาปฏิบัติงานเกือบ 3 ชั่วโมง
เอาน่ะ อย่างน้อย เวลามองตู้เย็นตอนนี้ก็สะอาดขึ้นเยอะแล้วนะ (ถึงจะเแค่ข้างนอกก็เถอะ)
ขอให้มีเวลาอีกละกัน แม่จะเช็ดถูให้เกลี้ยงบ้าน ให้ฝุ่นมันสูญพันธุ์ไปเลย
นี่ก็ใกล้หยุดยาวแล้วนี่เนอะ พัดลม แอร์ ตู้ พื้น บันได ชั้นหนังสือ กระจก ประตู ฯลฯ กดบัตรคิวรอไว้ได้เลย
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่