เป็นคนที่ไม่สามารภรับคำวิจารณ์ของคนอื่นได้ อาการหนักหรือไม่

ขอเล่าก่อนว่า ตอนเป็นเด็กนิสัยเราแตกต่างกับตอนนี้โดยสิ้นเชิง เราเป็นลูกคนเดียวของพ่อแม่ แต่มีพี่ชาย พี่สาวต่างแม่ที่อายุห่างกันเกือบ 30 ปี 4 คน [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ด้วยเหตุผลหลายอย่างทำให้ญาติฝ่ายพ่อส่วนใหญ่ไม่ชอบแม่เรา และความไม่ชอบนั้นก็เผื่อแผ่มาถึงเราด้วย เราไม่เคยเป็นหลานรักสำหรับญาติคนไหน ทุกคนมักจะมีเรื่องว่าทุกครั้งที่เจอหน้าเรา พี่น้องต่างพ่ออาจเป็นเพราะด้วยความที่อายุห่างกันมากหรือไม่ก็การกระทำของพวกเขา เราเลยไม่เคยรู้สึกว่าพวกเขาคือพี่น้องเลย พี่สาวคนโตเคยตบหน้าเราเพราะโมโหแม่เรา และชี้หน้าว่าระวังไว้ดีๆจะคอยดูว่ามันจะได้ดีหรือเปล่า น่าแปลกผ่านมาสิบกว่ามันกลับเป็นประโยคที่เราจำได้แม่น และอาจเป็นประโยคที่ส่งผลต่อนิสัยของเราในตอนนี้ ตอนเด็กด้วยความที่มักจะถูกคุณครูหรือเพื่อนชมว่าเป็นคนฉลาด หัวไว ทำให้นิสัยตอนเด็กของเราค่อนข้างกล้าคิด กล้าทำ กล้าแสดงออก เรียกได้ว่าไม่สนใจตวามติดของคนรอบข้าง (เพราะคิดว่าในเมื่อญาติพี่น้องไม่เคยสนใจความรู้สึกเรา เราก็ไม่ต้องสนใจใคร) ถึอตัวเองเป็นศูนย์กลางของโลก ทุกคนต้องฟังฉัน

แต่แล้วก็มีจุดเปลี่ยนคือตอนขึ้นมัธยมเราต้องย้ายโรงเรียนมาอยู่ต่างจังหวัด พอสังคมโตขึ้น เจอสังคมใหม่แต่นิสัยเดิม แน่นอนเราถูกแกล้งสารพัดเพราะความหมั่นไส้ของคนอื่น เวลาแห่งการกลั่นแกล้งค่อยๆเปลี่ยนนิสัยเรา จากคนไม่แคร์ใครกลายเป็นคนที่แคร์ทุกคำพูด ทุกสายตาของทุกคน เก็บทุกอย่างมาคิดซ้ำไปซ้ำมา เช่นถ้ามีใครพูดอะไรแปลกไปนิดหน่อยเราจะเก็บสื่งนั้นมาคิดวนไป วนมา พอหาคำตอบได้ก็กลับไปคิดใหม่ สามปีของม.ต้นผ่านไป เราสามารถเข้ากับทุกคนได้กลายเป็นที่รักของเพื่อนๆ แต่อาการคิดมาก วิตกกังวล การคิดซ้ำไปซ้ำมาก็ยังคงอยู่ พร้อมกับนิสัยทะเยอทะยานที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆของเรา คำพูดของพี่สาวคนโตในวันนั้นเหมือนเป็นคำหลอกหลอน ส่งผลให้เราพยายามทำทุกอย่างเผื่อให้ได้รับการยอมรับจากญาติพี่น้อง ทั้งเลือกสายการเรียนที่ไม่ชอบ สะกดจิตตัวเองให้ชอบในทุกอย่างที่คิดว่าญาติจะต้องยอมรับชื่นชม พยายามทำทุกอย่างให้ดีที่สุด จนตอนนี้มันกลายเป็นความเชื่อมั่นว่า "ฉันดีที่สุด" "สิ่งที่ฉันทำนั้นดีที่สุด" "ทำตามที่ทุกคนคาดหวังแล้วมันต้องดีที่สุด" เรามีอาการนี้มาตั้งแต่ม.ต้นแต่มาหนักขึ้นมากๆตอนม.ปลาย จากตอนแรกเพียงแค่หงุดหงิดที่มีคนมาวิจารณ์งานส่งอาจารย์ของเรา ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติของคนที่จะรู้สึกแบบนั้น แต่มันก็หนักข้อมากขึ้นเรื่อยๆ เราเริ่มไม่มีความอดทนในการฟังคำค้านของเพื่อนในการทำงานกลุ่ม เริ่มไม่รับฟังคำแนะนำของคุณครูในชิ้นงานต่างๆ เริ่มตะคอกใครก็ตามที่ติเราเพราะสำหรับทุกคำติไม่ว่าเขาจยกเหตุผลแค่ไหน สำหรับเราคือไร้สาระ เหมือนเรารู้ว่าเราพยายามอย่างเต็มที่มันจะต้องออกมาเพอเฟค อย่ามาตินะห้ามวิจารณ์เด็ดขาด เพราะสิ่งที่เราทำนั้นดีที่สุดแล้ว จนตอนนี้มันหนักขึ้นมากๆ

เหตุการณ์ที่ทำให้เราตั้งกระทู้นี้คือ เราโดนพี่สาวเราดุเรื่องงานบ้าน สิ่งที่อยู่ในหัวเราตอนนั้นมีแค่ หยุด หุบปาก อย่ามาว่ามีสิทธิอะไรมาว่า นี้คือดีที่สุดแล้ว ถ้าตัวเองไม่ได้ดีไม่ประความสำเร็จก็ไม่มีสิทธิมาวิจารณ์คนอื่น [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ เราคิดแบบนี้แค่นี้ซ้ำไปซ้ำาตลอดเวลาที่เขาพูด ตอนเหตุการณ์เกิดขึ้นเราไม่รู้ตัว มารู้ตัวตอนหลานเราร้องไห้ เพราะเราปาขวดแก้วกระแทกกำแพงแตก เฉียดแก้มพี่สาวเราไปนิดเดียว พอรู้ตัวเราตกใจมากพี่สาวและทุกคนซ็อค เราเลยรีบวิ่งไปห้องพ่อแล้วก็ขังตัวอยู่ในนั้น จากทุกอย่างที่เล่ามา เราอยากรู้จริงๆว่านี้มันผิดปกติไหม เป็นโรคทางจิตหรือเปล่า หรือว่าแค่อารมณ์ชั่ววูบ หรือความไม่มีวุฒิภาวะของวัยรุ่น ตอนนี้เราเครียดมากเพราะ เราไม่สามารถเอาเรื่องกังวลนี้ออกจากหัวได้ คิดซ้ำไปซ้ำมา
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่