ทันตะจุฬาเป็นการเรียนแบบ self study ไหมคะ?

เราเพิ่งจบม.6 และทราบคะแนนทั้ง 9 วิชาสามัญ และความถนัดแล้วค่ะ
อยากรู้ว่าที่คณะทันตะจุฬา เค้าเป็นการเรียนแบบ self study หรือเปล่า? เคยได้ยินมาว่าคณะแพทย์จุฬาเป็นการเรียนรู้ด้วยตนเอง ทำให้เราไม่แน่ใจค่ะว่าคณะทันตะจุฬาเป็นเหมือนกันไหม
วอนผู้รู้มาตอบทีนะคะ ถ้าเป็น self study จริง แล้วมันเป็นการเรียนยังไงหรอคะ? เรารู้สึกหลงทาง
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
มีวิชาเดียวที่เป็น self study ที่นี่เรียกว่า problem base learning(pbl)
ส่วนวิชาอื่นๆก็ lecture อาจารย์มาป้อนความรู้ให้


problem base learning ถ้าจำไม่ผิดจะเรียนตอนปี 1 2 เเล้วก็ 4
เวลาเรียนจะเเบ่งเป็นกลุ่มย่อยห้องละประมาณ10 คน
มีเคส(กรณีศึกษา)มาให้ เป็นโจทย์สั้นๆ5-6บรรทัด

ถ้าตอนปี1 จะเป็นเป็นเรื่องทั่วๆไป ยังไม่ค่อยเกี่ยวกับทางเเพทย์หรือทันตะเท่าไหร่ เหมือนเพื่อให้นิสิตเข้าใจกระบวนการเรียนเเบบ pbl เฉยๆ เช่น เรื่องบุหรี่ไฟฟ้างี้ "วัยรุ่นนายA เห็นบุหรี่ไฟฟ้ากำลังฮิต เเล้วเค้าว่ากันว่าสูบเเล้วเป็นโทษน้อยกว่าปกติ เลยไปหาซื้อมาสูบบ้าง" เป็นต้น
ในโจทย์ก็ไม่ได้มีคำถามอะไร เเต่นิสิตอ่านเเล้วต้องdiscuss กันเองว่าจากโจทย์นั้นอยากรู้อะไร
(ถึงได้ชื่อว่า problem base learning เพราะเป็นการเรียนโดยมีปัญหาเป็นฐาน ไปหาความรู้เพื่อมาตอบปัญหา)
เช่น อยากรู้ว่าบุหรี่ไฟฟ้ามีโทษน้อยกว่าบุหรี่จริงๆจริงมั้ย บุหรี่ไฟฟ้ามีกลไกการทำงานยังไง กฏหมายเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้า
จะมีอาจารย์ประจำกลุ่มคอยคุมอยู่ ถ้าที่นิสิตdiscuss กันเองยังได้ไม่ครบตามที่อ.อยากได้  อ.ก็จะคอยช่วยตบๆชี้ทางให้
เเล้วก็ให้เวลา1-2 อาทิตย์ ไปหาข้อมูล อาทิตย์ของอาทิตย์ถัดไปก็มาอภิปรายสิ่งที่ไปหามาในห้อง
โดยข้อมูลที่ไปหามาจะต้องมาจากเเหล่งที่น่าเชื่อถือ


พอปี2 เคสก็จะมีความเกี่ยวข้องกับทางเเพทย์มากขึ้น เช่น
"นางAมีอาการบลาๆ.... ก่อนหน้านี้เคยบลาๆ.....มา ไปหาหมอ หมอตรวจโดยวิธีบลาๆ...... พบว่าเป็นโรคบลาๆ....."
ก็ทำเหมือนเดิม discussกันอยากรู้อะไร
mechanismการเกิดโรค มีปัจจัยเสี่ยงอะไรที่ทำให้เป็นโรคนี้บ้าง ถ้าคนไข้ที่เป็นโรคนี้มาทำฟันกับเรามีอะไรที่เราต้องระวังบ้าง ฯลฯ
แหล่งข้อมูลก็จะซีเรียสเรื่องความน่าเชื่อถือกว่าตอนปี1มาก ต้องเป็นงานวิจัย ต้องเป็นวารสารทางการเเพทย์ (ซึ่งที่เป็นภาษาไทยมีน้อยมาก = ='')
ข้อมูลจากพันทิพย์ เว็บหาหมอดอทคอม บทความใดๆจากเว็บสุขภาพ อะไรพวกนี้ห้ามเอามาใช้อ้างอิง

พอปี4 ถ้าเข้าใจไม่ผิด รู้สึกว่า เคสจะให้มาเเต่อาการคนไข้ ไม่มีบอกละว่าคนไข้เป็นโรคอะไร ต้องไปหาเเละสรุปเอง


ซึ่งทุกเคสจะเป็นเรื่องทียังไม่เคยเรียนมาก่อน
(เเต่ถ้าเป็นเรื่องสำคัญ เป็นmust knowสำหรับทันตเเพทย์ เดี๋ยวเค้าก็สอนซ้ำอีกทีในวิชาlectureเเหล่ะ)
สิ่งที่อ.อยากให้นิสิตได้จากการเรียนเเบบนี้ไม่ใช่เเค่ความรู้ในโรคนั้นๆ เเต่เป็นกระบวนการเรียนรู้ด้วยตนเอง
เพราะความรู้ทางการเเพทย์มันกว้างเเละเยอะมากกกกกก สอนกันไม่หวาดไม่ไหว เเถมยังมีอัพเดตใหม่เรื่อยๆ
เพื่อที่ถ้าวันหนึ่งเราทำงานไป เเล้วเจอคนไข้เป็นเบบนั้นเเบบนี้ ซึ่งอยู่นอกเหนือจากที่อ.สอน เราจะได้ไปค้นคว้าหาข้อมูลด้วยตัวเองเป็นเเละต้องเป็นข้อมูลที่น่าเชื่อถือด้วย

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่