จากที่เกมแรกเรือโดนถล่มไปแบบเละคาสนามแอนฟิลด์ 3-0 ..
- เกมที่แอนฟิลด์เป็นเกมที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้มีโอกาส 11 ครั้ง..แต่ไม่เข้ากรอบของ นังอุส เลยสักครั้ง..
( นังอุส มันดันมีชื่อติดโผยอดเยี่ยม UCL ซะงั้น.. กินแรงเพื่อนชัด ๆ

)
- จาก 5 เกมที่ผ่านมาผลงานของแมนฯ ซิฯ แข่ง 5 ... ชนะ 2 / แพ้ 3 / ยิงได้ 8-เสีย 10 ..!!!
แพ้ 3 เกมคือ..
- 7 เม.ย. แพ้ .. แมนฯยู 3-2 คาบ้าน (manchester derby)
- 3 เม.ย. แพ้ .. ลิเวอร์พูล 3-0 คาแอนฟิลด์
- 7 มี.ค. แพ้ .. บาเซิ่ล 2-1 คาบ้าน
ชนะ 2 เกมคือ..
- 31 มี.ค. ชนะ .. เอฟเวอร์ตัน 1-3 เยือน
- 12 มี.ค. ชนะ .. สโต๊ค ซิตี้ 2-0 เยือน
----------------------------------------------------------------------------------------------------
จาก 5 เกมที่ผ่านมาผลงานของลิเวอร์พูล แข่ง 5 ... ชนะ 3 / เสมอ 1 / แพ้ 1 / ยิงได้ 11-เสีย 3 ..!!!
แพ้ 1 เกมคือ..
- 10 มี.ค. แพ้ .. แมนฯยู 2-1 เยือน
เสมอ 1 เกมคือ..
- 7 เม.ย. เสมอ .. เอฟเวอร์ตัน 0-0 เยือน (Merseyside derby)
ชนะ 3 เกมคือ..
- 4 เม.ย. ชนะ .. แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 3-0 เหย้า
- 31 มี.ค. ชนะ .. พาเลส 1-2 เยือน
- 17 มี.ค. ชนะ .. วัตฟอร์ต 1-2 เหย้า
เกมล่าสุดลิเวอร์พูลเตะเกมเยือน (Merseyside derby) เวลา 18.30 น.(ไทย) / แมนฯ ซิตี้เตะในบ้าน (manchester derby) 23.30 น.(ไทย) .. วันเดียวกัน
***แข่งห่างกันถึง 5 ชั่วโมง..จากทั้ง 2 เกมที่ได้ดูสดๆเกมที่ manchester ปะทะกันหนักมาก..แมนฯ ซิตี้ โหมบุกหนักท้ายเกมมีปะทะกันหนัก..
- ผลทางฝั่งเมืองลิเวอร์พูล 0-0 แบบได้เตรียมพักนักเตะไว้ถึง 5 คน .. คนเหล็ก / อ็อกเหล็ก / โรเบิร์ตสัน / Bobby / ซาล่าห์ ..
- เปลี่ยนตัว ทั่นรอง น.68 อ็อกซฯ แทน / ณเดช น.75 Bobby แทน / น.89 คนเหล็ก แทน อิงส์..
- คล็อปป์ ได้ทำตามแผนที่เตรียมไว้ก่อนเกมทุกจุดเพื่อ focus ไปที่เกมเยือนนัดที่ 2 ไม่มีเหตุการสุดวิสัยเกิดขึ้นเลย
***ผลทางฝั่งเมืองแมนฯ..ต้องบอกว่า "ผมคิดว่ามันตายชัวร์แล้วครับนาย..!!!" แต่ครึ่งหลังดราม่าบังเกิด..แทนที่จะเขี่ยบอลไปมาขำๆกลับต้องเหนื่อยหนัก..
- ผลทางฝั่งเมืองแมนฯออกมาเจอแซงจากนำอยู่ 2-0 กลับมาแพ้ 2-3 ..นักเตะจะนอนหลับลงหรือคืนนั้น...!!!
- เกม MANC 2-3 MANU ทีม แมนฯ ซิตี้ จัดการพัก .. ลาปอร์ท / วอร์คเกอร์ / เดอร์บรอยน์ / เฆซุส ..
- เปลี่ยนตัว ดาบิด ซิลบา - เบนาโด้ ซิลบา น.72 / เดอ บรอยน์ - เฆซุส , น.76 อิลคาย กุนโดกัน / กุน .
- เป็ป ไม่คาดฝันว่าจะเกิดดราม่าเจอแซงจนพ่ายคาบ้าน 2-3 แน่ ๆ ..
(เมื่อคืนนอนหลับสบายไหม เป็ป ..???!!!)
*******************************************************************************
เกมนั้นจบไปแล้วเรามามองเกมสำคัญที่มีโจทย์ต้องขบคิดกับทั้ง 2 ฝั่ง..!!! ..
โจทย์ที่ทั้ง เป็ป และ คล็อปป์ ต้องเจอ..คือ
- เวลาระหว่างเกมเพื่อพื้นสภาพร่างกาย.. คงราวๆ 70 ชม. ทั้งคู่ (เตะเสร็จ-สัมภาษณ์-เดินทางกลับ-ฯลฯ = 4 ชม.)
ฝั่ง LIV ต้องออกเดินทางไปแมนเชสเตอร์ด้วย เวลาคงจะใช้พอๆกัน..
- สภาพร่างกาย / จิตใจ = ความฟิต-ความสด ..ฝั่งแมนฯ ซิตี้ หลับยากกว่าแน่ๆ..
คล็อปป์ น่าจะไม่ต้องเปลี่ยนแผนที่เตรียมไว้ก่อนดาร์บี้แมทส์เลย..
เป็ป ต้องฟื้นฟูสภาพร่างกาย / จิตใจนักเตะ..เพราะน่าจะชนะ 2-0 กับต้องมาแพ้ 3-2 ..
ทั้งๆที่ออกนำไป 2-0 ในครึ่งแรก..ได้พักประมาณ 70 ชม.จะพอหรือเปล่า..???
- ความเชื่อมั่น..!!! 2 เกมล่าสุด หงส์ชนะห่าง 3-0 ไม่เสีย away goal
ส่วนอีกเกมกับเพื่อนร่วมเมืองขอแค่นักเตะได้พัก+ไม่แพ้+ไม่มีใครเจ็บจากเกม.. = ok.
แมนฯ ซิตี้ เสีย 6 ประตูจาก 2 เกมที่ห่างกันไม่เท่าไร.. / นักเตะโดนเข้าหนักมีปัญหาหรือเปล่า..
/ ต้องเร่งหนักท้ายเกม.. / ความเชื่อมั่นหายไป.. = ???
- คล็อปป์ หาวิธีเพื่อให้ได้ away goal ..เพื่อทำลายความมุ่งมั่นของนักเตะ ซิตี้ ..
กำชับนักเตะให้มีสมาธิเล่นละเอียดอาจจะเสียประตูบ้างก็อย่าตกใจ..
*** เป็ป ต้องห้ามเสียประตูในเกมนี้เด็ดขาด+ต้องยิงอย่างต่ำ 3 ลูกด้วย..ถึงจะมีโอกาสต่อไป อาจจะถึงต่อเวลาได้..
*** แต่ถ้าเสีย away goal เกมนี้จบใน 90 นาทีแน่ๆ..เสีย 1 ลูก-ต้องชนะ 5-1 , เสีย 2 ลูก-ต้องชนะ 6-2

"ใครจะต้องคิดหนักกว่ากัน..???!!!"
*** สิ่งที่ เป็ป ต้องหาทางแก้ให้ได้คือต้องห้ามเสียประตู..!!!
- แต่...ลิเวอร์พูลชุดนี้ยังไม่แพ้เลยใน UCL ในซีซั่นนี้
ยิงได้ถึง 31 ประตู (มากที่สุด PSG 27 / RM 25 ) จะเล่นกับทีมนี้ยังไงแบบไม่เสียประตู..???
- สภาพที่เห็น 5 เกมล่าสุด ชนะ 2 แพ้ 3 ยิงได้ 8 เสีย 10 ..ปัญหาเรื่องความเชื่อมั่น..???!!!
- จะกำจัดภาพหลอนที่เสีย 3 ประตูในครึ่งเวลาเดียวจาก 2 เกมล่าสุดอย่างไร..???
- จะจัดการกับเกมรุกที่เร็วและเปี่ยมด้วยไหวพริบของ FSM อย่างไร..???
- จะจัดการกับการเพรสซิ่งที่ดุดันอย่างที่สุดของลิเวอร์พูลอย่างไร..???
- สภาพร่างกายนาทีนี้เป็นรองมากพอสมควรเพราะบดกันหนักในเกมที่แพ้คาบ้านล่าสุด..???
*** ข้อได้เปรียบของ ซิตี้ คือ
- ได้เล่นในบ้าน..แต่เหล่ากองกำลังที่จะหนุนหลังอย่างที่เพิ่งเจอในแอนฟิลด์มาเมื่อไม่กี่วันนี้..มีหริอเปล่า..???
- คุณภาพนักเตะโดยรวมเหนือกว่าลิเวอร์พูลมาก..
*** ตัวแปรที่อาจจะส่งผลกับเกมนี้..
ลิเวอร์พูลเคยเสีย 3 ประตูหรือมากกว่า..มากถึง 7 เกม..
* วัตฟอร์ด 3-3 เกมเปิดหัวซีซั่นนี้ ..(ริชาริสัน ดึงมิโญเล่ต์..จากภาพรีเพลย์ ริชาริสัน ล้ำหน้าในจังหวะตีเสมอ)
* ซิตี้ เองก็เคยถล่มลิเวอร์พูล 5-0 ในเกมแรกที่สนามแห่งนี้..(ลิเวอร์พูล เสีย มาเน่ จากใบแดง น.37 ..เดอ บรอยน์ "ผมอยากเจอ LIV ทุกๆเกม..!!!")
* สเปอร์ ในเกมที่เวมบรี่ย์ 4-1 (ความผิดพลาดของ ลอฟเลน จนถูกเปลี่ยนออกในครึ่งแรกเลย)
* เซบีย่า ที่บ้านเซบีย่าเสมอไป 3-3 ( ลิเวอร์พูล นำ 0-3 จบลง 3-3 )
* ปืนใหญ่ 3-3 เอมิเรตสเตเดียม ( 2-0 ก่อนปืนแซง 3-2 จบเกม 3-3 )
* WBA ในรายการ FA cup ที่แอนฟิลด์ 2-3 (ลิเวอร์พูลตกรอบ)
* LIV 4-3 MANC แอนฟิลด์ ทีมแรกที่เอาชนะ ซิตี้ ได้ใน BPL ( LIV 4-1 MANC ก่อนโดนไล่ยิงคืน 2 ประตูท้ายเกม )
> > > .. ซึ่งทีมเดียวที่ทำได้โดยไม่เสียประตูเลยคือ ซิตี้ นี่แหละ..ที่สำคัญกว่าก็คือ ซิตี้ จะทำได้อีกหรือไม่ต่างหาก..???
หลังเกมถล่ม 5-0 "ผมอยากจะลงเล่นกับลิเวอร์พูลทุกๆเกมจริงๆ" เควิน เดอ บรอยน์..
(ลองไปถามแกดูอีก 10 ทีซิว่า..ยังอยากเจอลิเวอร์พูลอีกจริงๆหรือ.. อิ อิ ) ...
*** ถ้าจะมีตัวแปรบางอย่างเกิดขึ้นแบบในเกมที่ ซิตี้ เอาชนะไป 5-0 มันก็ช่วยไม่ได้จริงๆ..

... "ซินแสเกินร้อย" ...
วอร์มอัพก่อนเกม.. แมนฯ ซิตี้ vs ลิเวอร์พูล นัดที่ 2 เพื่อลุ้นเข้ารอบรองฯ UCL ..
- เกมที่แอนฟิลด์เป็นเกมที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้มีโอกาส 11 ครั้ง..แต่ไม่เข้ากรอบของ นังอุส เลยสักครั้ง..
( นังอุส มันดันมีชื่อติดโผยอดเยี่ยม UCL ซะงั้น.. กินแรงเพื่อนชัด ๆ
- จาก 5 เกมที่ผ่านมาผลงานของแมนฯ ซิฯ แข่ง 5 ... ชนะ 2 / แพ้ 3 / ยิงได้ 8-เสีย 10 ..!!!
แพ้ 3 เกมคือ..
- 7 เม.ย. แพ้ .. แมนฯยู 3-2 คาบ้าน (manchester derby)
- 3 เม.ย. แพ้ .. ลิเวอร์พูล 3-0 คาแอนฟิลด์
- 7 มี.ค. แพ้ .. บาเซิ่ล 2-1 คาบ้าน
ชนะ 2 เกมคือ..
- 31 มี.ค. ชนะ .. เอฟเวอร์ตัน 1-3 เยือน
- 12 มี.ค. ชนะ .. สโต๊ค ซิตี้ 2-0 เยือน
----------------------------------------------------------------------------------------------------
จาก 5 เกมที่ผ่านมาผลงานของลิเวอร์พูล แข่ง 5 ... ชนะ 3 / เสมอ 1 / แพ้ 1 / ยิงได้ 11-เสีย 3 ..!!!
แพ้ 1 เกมคือ..
- 10 มี.ค. แพ้ .. แมนฯยู 2-1 เยือน
เสมอ 1 เกมคือ..
- 7 เม.ย. เสมอ .. เอฟเวอร์ตัน 0-0 เยือน (Merseyside derby)
ชนะ 3 เกมคือ..
- 4 เม.ย. ชนะ .. แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 3-0 เหย้า
- 31 มี.ค. ชนะ .. พาเลส 1-2 เยือน
- 17 มี.ค. ชนะ .. วัตฟอร์ต 1-2 เหย้า
เกมล่าสุดลิเวอร์พูลเตะเกมเยือน (Merseyside derby) เวลา 18.30 น.(ไทย) / แมนฯ ซิตี้เตะในบ้าน (manchester derby) 23.30 น.(ไทย) .. วันเดียวกัน
***แข่งห่างกันถึง 5 ชั่วโมง..จากทั้ง 2 เกมที่ได้ดูสดๆเกมที่ manchester ปะทะกันหนักมาก..แมนฯ ซิตี้ โหมบุกหนักท้ายเกมมีปะทะกันหนัก..
- ผลทางฝั่งเมืองลิเวอร์พูล 0-0 แบบได้เตรียมพักนักเตะไว้ถึง 5 คน .. คนเหล็ก / อ็อกเหล็ก / โรเบิร์ตสัน / Bobby / ซาล่าห์ ..
- เปลี่ยนตัว ทั่นรอง น.68 อ็อกซฯ แทน / ณเดช น.75 Bobby แทน / น.89 คนเหล็ก แทน อิงส์..
- คล็อปป์ ได้ทำตามแผนที่เตรียมไว้ก่อนเกมทุกจุดเพื่อ focus ไปที่เกมเยือนนัดที่ 2 ไม่มีเหตุการสุดวิสัยเกิดขึ้นเลย
***ผลทางฝั่งเมืองแมนฯ..ต้องบอกว่า "ผมคิดว่ามันตายชัวร์แล้วครับนาย..!!!" แต่ครึ่งหลังดราม่าบังเกิด..แทนที่จะเขี่ยบอลไปมาขำๆกลับต้องเหนื่อยหนัก..
- ผลทางฝั่งเมืองแมนฯออกมาเจอแซงจากนำอยู่ 2-0 กลับมาแพ้ 2-3 ..นักเตะจะนอนหลับลงหรือคืนนั้น...!!!
- เกม MANC 2-3 MANU ทีม แมนฯ ซิตี้ จัดการพัก .. ลาปอร์ท / วอร์คเกอร์ / เดอร์บรอยน์ / เฆซุส ..
- เปลี่ยนตัว ดาบิด ซิลบา - เบนาโด้ ซิลบา น.72 / เดอ บรอยน์ - เฆซุส , น.76 อิลคาย กุนโดกัน / กุน .
- เป็ป ไม่คาดฝันว่าจะเกิดดราม่าเจอแซงจนพ่ายคาบ้าน 2-3 แน่ ๆ ..
*******************************************************************************
เกมนั้นจบไปแล้วเรามามองเกมสำคัญที่มีโจทย์ต้องขบคิดกับทั้ง 2 ฝั่ง..!!! ..
โจทย์ที่ทั้ง เป็ป และ คล็อปป์ ต้องเจอ..คือ
- เวลาระหว่างเกมเพื่อพื้นสภาพร่างกาย.. คงราวๆ 70 ชม. ทั้งคู่ (เตะเสร็จ-สัมภาษณ์-เดินทางกลับ-ฯลฯ = 4 ชม.)
ฝั่ง LIV ต้องออกเดินทางไปแมนเชสเตอร์ด้วย เวลาคงจะใช้พอๆกัน..
- สภาพร่างกาย / จิตใจ = ความฟิต-ความสด ..ฝั่งแมนฯ ซิตี้ หลับยากกว่าแน่ๆ..
คล็อปป์ น่าจะไม่ต้องเปลี่ยนแผนที่เตรียมไว้ก่อนดาร์บี้แมทส์เลย..
เป็ป ต้องฟื้นฟูสภาพร่างกาย / จิตใจนักเตะ..เพราะน่าจะชนะ 2-0 กับต้องมาแพ้ 3-2 ..
ทั้งๆที่ออกนำไป 2-0 ในครึ่งแรก..ได้พักประมาณ 70 ชม.จะพอหรือเปล่า..???
- ความเชื่อมั่น..!!! 2 เกมล่าสุด หงส์ชนะห่าง 3-0 ไม่เสีย away goal
ส่วนอีกเกมกับเพื่อนร่วมเมืองขอแค่นักเตะได้พัก+ไม่แพ้+ไม่มีใครเจ็บจากเกม.. = ok.
แมนฯ ซิตี้ เสีย 6 ประตูจาก 2 เกมที่ห่างกันไม่เท่าไร.. / นักเตะโดนเข้าหนักมีปัญหาหรือเปล่า..
/ ต้องเร่งหนักท้ายเกม.. / ความเชื่อมั่นหายไป.. = ???
- คล็อปป์ หาวิธีเพื่อให้ได้ away goal ..เพื่อทำลายความมุ่งมั่นของนักเตะ ซิตี้ ..
กำชับนักเตะให้มีสมาธิเล่นละเอียดอาจจะเสียประตูบ้างก็อย่าตกใจ..
*** เป็ป ต้องห้ามเสียประตูในเกมนี้เด็ดขาด+ต้องยิงอย่างต่ำ 3 ลูกด้วย..ถึงจะมีโอกาสต่อไป อาจจะถึงต่อเวลาได้..
*** แต่ถ้าเสีย away goal เกมนี้จบใน 90 นาทีแน่ๆ..เสีย 1 ลูก-ต้องชนะ 5-1 , เสีย 2 ลูก-ต้องชนะ 6-2
*** สิ่งที่ เป็ป ต้องหาทางแก้ให้ได้คือต้องห้ามเสียประตู..!!!
- แต่...ลิเวอร์พูลชุดนี้ยังไม่แพ้เลยใน UCL ในซีซั่นนี้
ยิงได้ถึง 31 ประตู (มากที่สุด PSG 27 / RM 25 ) จะเล่นกับทีมนี้ยังไงแบบไม่เสียประตู..???
- สภาพที่เห็น 5 เกมล่าสุด ชนะ 2 แพ้ 3 ยิงได้ 8 เสีย 10 ..ปัญหาเรื่องความเชื่อมั่น..???!!!
- จะกำจัดภาพหลอนที่เสีย 3 ประตูในครึ่งเวลาเดียวจาก 2 เกมล่าสุดอย่างไร..???
- จะจัดการกับเกมรุกที่เร็วและเปี่ยมด้วยไหวพริบของ FSM อย่างไร..???
- จะจัดการกับการเพรสซิ่งที่ดุดันอย่างที่สุดของลิเวอร์พูลอย่างไร..???
- สภาพร่างกายนาทีนี้เป็นรองมากพอสมควรเพราะบดกันหนักในเกมที่แพ้คาบ้านล่าสุด..???
*** ข้อได้เปรียบของ ซิตี้ คือ
- ได้เล่นในบ้าน..แต่เหล่ากองกำลังที่จะหนุนหลังอย่างที่เพิ่งเจอในแอนฟิลด์มาเมื่อไม่กี่วันนี้..มีหริอเปล่า..???
- คุณภาพนักเตะโดยรวมเหนือกว่าลิเวอร์พูลมาก..
*** ตัวแปรที่อาจจะส่งผลกับเกมนี้..
* วัตฟอร์ด 3-3 เกมเปิดหัวซีซั่นนี้ ..(ริชาริสัน ดึงมิโญเล่ต์..จากภาพรีเพลย์ ริชาริสัน ล้ำหน้าในจังหวะตีเสมอ)
* ซิตี้ เองก็เคยถล่มลิเวอร์พูล 5-0 ในเกมแรกที่สนามแห่งนี้..(ลิเวอร์พูล เสีย มาเน่ จากใบแดง น.37 ..เดอ บรอยน์ "ผมอยากเจอ LIV ทุกๆเกม..!!!")
* สเปอร์ ในเกมที่เวมบรี่ย์ 4-1 (ความผิดพลาดของ ลอฟเลน จนถูกเปลี่ยนออกในครึ่งแรกเลย)
* เซบีย่า ที่บ้านเซบีย่าเสมอไป 3-3 ( ลิเวอร์พูล นำ 0-3 จบลง 3-3 )
* ปืนใหญ่ 3-3 เอมิเรตสเตเดียม ( 2-0 ก่อนปืนแซง 3-2 จบเกม 3-3 )
* WBA ในรายการ FA cup ที่แอนฟิลด์ 2-3 (ลิเวอร์พูลตกรอบ)
* LIV 4-3 MANC แอนฟิลด์ ทีมแรกที่เอาชนะ ซิตี้ ได้ใน BPL ( LIV 4-1 MANC ก่อนโดนไล่ยิงคืน 2 ประตูท้ายเกม )
> > > .. ซึ่งทีมเดียวที่ทำได้โดยไม่เสียประตูเลยคือ ซิตี้ นี่แหละ..ที่สำคัญกว่าก็คือ ซิตี้ จะทำได้อีกหรือไม่ต่างหาก..???
(ลองไปถามแกดูอีก 10 ทีซิว่า..ยังอยากเจอลิเวอร์พูลอีกจริงๆหรือ.. อิ อิ ) ...
*** ถ้าจะมีตัวแปรบางอย่างเกิดขึ้นแบบในเกมที่ ซิตี้ เอาชนะไป 5-0 มันก็ช่วยไม่ได้จริงๆ..