ร้อยวันที่ฉันเปลี่ยน วันที่สิบแปด

กระทู้สนทนา
เจ็ด เดือนสี่ ปีสองพันห้าร้อยหกสิบเอ็ด

ฝนตกทั้งวัน อากาศเย็นเข้าขั้นหนาวกันเลยทีเดียว
วันนี้ก็งมกับการหาข้อมูลธุรกิจ  จากประสบการณ์ที่ผ่านมาอยากลงทุนอะไรก็จะด่วนตัดสินใจ
แต่คราวนี้ฉันจะไม่พลาดอีกแล้ว จึงต้องหาข้อมูลให้ได้มากที่สุด

หลังจากมีเสียงดับฝันดังมาให้พอรู้สึกระคายหูว่า
เปลี่ยนอีกแล้วหรือ?
ฉันมองว่าเป็นธรรมดาของการค้าขายนะ เมื่อสินค้าที่เรามีไม่ปัง ก็ต้องหาใหม่
ไม่อย่างนั้นคนที่ขายของเหมือนกันก็รวยเหมือนกันไปแล้วสิ
เพราะอะไร ?

อย่างหนึ่งคือ สินค้าเข้ากับเราหรือไม่ เข้าในที่นี้อาจมีหลายแง่
เรื่องความเชื่อ ดวง หรือพลังงานบางอย่างที่เรามองไม่เห็น
เรื่องความชำนาญ คนขายทองเหมือนกัน แต่รู้จักทอง รู้จักลาย ต่างกันคนก็ย่อมจะซื้อกับคนที่ดูเชี่ยวชาญกว่า
เรื่องความอดทน บางคนไม่มีความสม่ำเสมอ บางคนไม่มีความอดทนเวลาเจอลูกค้าถามเยอะ ต่อแยะ
เรื่องความรักในสินค้า ถ้าเรารักของที่เราขาย การเชียร์สินค้าก็จะดูจริงใจกว่าคนที่ไม่ได้รักสินค้าที่ตัวเองขาย

และอื่นๆ อีกมากมาย ดังนั้นเราเลยต้องขายและเปลี่ยนถ้าสินค้านั้นไปไม่ไหวจริงๆ
ฉันขายเสื้อผ้ามาเกือบสามปี แต่ไม่ได้ทำให้รวยตามเป้าที่วางไว้ ฉันเลยมองหาอย่างอื่น
ก็คงไม่ผิดอะไร

ฉันตั้งใจจะขายเครื่องประดับ แต่หลังจากซื้อมาใช้เองแล้วไม่โอเค คุณภาพไม่ได้ ฉันก็ไม่สั่งมาขาย
ก็จะขายได้อย่างไรเราเองยังไม่พอใจเลย  
แล้วอย่างนี้จะมาว่าฉันเปลี่ยนอีกแล้วหรือ มันไม่ถูกต้องเลย ขอความเป็นธรรมด้วย

ขอยืมคำพูดของคุณขุนเขา ที่ว่า ถ้างานที่เราทำไม่สามารถพาเราไปถึงฝันได้ เราต้องกล้าพอที่จะเปลี่ยนงาน ไม่ใช่ทนทำไปแล้วก็อ้างว่า ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น เพราะอย่าลืมว่าความพยายามที่ไร้ปัญญาก็ไม่ต่างจากความบ้าที่ดันทุรัง

เอาล่ะ ระบายออกบ้างก็สบายใจขึ้น ถ้าใครที่มีเรื่องไม่สบายใจ ลองทำแบบนี้ดูเขียนระบายออกมา
ไม่ต้องลงเน็ตก็ได้ ในกระดาษก็ดี เขียนเสร็จฉีกทิ้งหรือเผา แล้วจะรู้สึกว่าโล่งขึ้น
แต่อย่าระบายลงเฟซ หรือ สื่อที่ระบุได้ว่าเป็นเรายิ่งถ้าโพสถึงใครที่เราไม่พอใจอย่าทำ
ฉันกล้าลงเพราะคนที่ฉันไม่พอใจ ไม่มีทางรู้ว่าเป็นเขาที่ฉันพูดถึง

ความโกรธเป็นวิถีของคนไม่ฉลาด ยิ่งเราโกรธให้คนอื่นเห็น เราจะยิ่งดูแย่ในสายตาของคนอื่น
ดังนั้นนิ่งเงียบ ในเวลาที่เราโกรธเป็นวิธีแสดงออกที่ดีที่สุด

หนึ่งเราจะเป็นคนที่เดาทางยาก ศัตรูจะจับจุดอ่อนเราไม่ได้
สองเมื่อเขาอ่านเราไม่ได้ว่าเราคิดอะไรอยู่ เขาจะหยุดไม่ทำสิ่งนั้นๆต่อ เพราะเริ่มไม่แน่ใจว่าทำไปจะมีผลอย่างไรต่อเรา

ฉันเชื่อแบบนั้น และในเฟซบุค ไม่เคยดราม่าถึงผู้คนเลย ไม่ว่าจะเป็นลูกค้า หรือ พ่อค้าแม่ค้าด้วยกัน
และนี่เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ฉันมีลูกค้าประจำเข้ามาจำนวนมาก
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่