แบ่งปันประสบการณ์คนในครอบครัวเสียชีวิต เรื่องรักพัง งานพัง โปรเจ็คพัง พังทุกอย่างแต่ผ่านมาได้ไม่คิดสั้นใดๆทั้งงั้น

ยาวครับถ้ามีเวลาหรือผ่านมาลองอ่านไม่เสียหาย..

ช่วงเวลาการสูญเสียมันเป็นสิ่งที่ผมอยากจะร้องไห้ทุกเวลาแต่มันเสียใจมากจนร้องไห้ไม่ออก

คุณแม่ผมเสียตั้งแต่ 15 เมษายนปี 59 ตอนนี้กำลังจะครบสองปี ทุกอย่างโอเคขึ้นเยอะครับ

ย้อนไปตั้งแต่ราวๆปี 56 แม่เริ่มป่วยครับจริงๆพวกเรารู้อาการป่วยเขาดีแต่เขาไม่ค่อยชอบกินยา
แอบซ่อนยาไว้ตลอด ทำให้อาการป่วยมันเริ่มชัด ตอนนั้นแอบทำเลวกับผู้หญิงคนนึงครับ
อาการแม่ทำให้ผมรู้สึกแย่และกังวล ผมเลยหยุดความสัมพันธ์กับผู้หญิงคนนึงตอนนั้นหลังจากเดทครั้งที่ 2
ทุกวันนี้ก็เสียใจอยู่ครับที่ไม่ได้บอกเธอตรงๆว่าผมไม่คิดว่าจะดูแลเธอได้เพราะต้องแบ่งเวลากลับบ้านไวๆ

ตลอดเวลาครับช่วงที่อาการแม่ยังไม่ชัด ความเป็นห่วงเรื่องกินยามันก็มากขึ้นเพราะแม่ชอบไม่กินยา
อาการมันก็จะไม่ค่อยดี เหมือนโชคชะตาเล่นตลกมั้งครับ ลูกสาวเจ้านายเข้าบริษัทมาฝึกงานกับผม
ไปๆมาๆเขาก็ช่วยผมในบางวันที่ผมจะต้องรีบกลับบ้านตรงเวลา ทำให้เราเข้าใจกัน คุยไปคุยมาก็เลย
แอบคบกันลับๆ เขาก็ช่วยเหลือเกิ้อหนุนผมเยอะครับ ตอนหลังเหมือนพ่อแม่เขารุ้แต่เขาไม่รังเกียจผม
อาจจะเพราะผมทำงานกับเขามานานแล้ว เขากลับมาสนับสนุนผมมากขึ้นด้วยซ้ำ

เรื่องราวมันก็ยิ่งพังลงตรงที่แม่เริ่มอาการหนักครับ เป็นเพราะอะไรไม่รู้จากร่างกายสมบูรณ์กลายเป็นซูบผอมลง
หมอบอกว่าระบบอะไรสักอย่างพังไม่แน่ใจ แต่เขาก็มีแรงนะครับแต่ผอมลงแบบเร็วมาก ผมเลยรีบกลับบ้านไวทุกวัน
ไม่ทำโอ ไม่ทำอะไรทั้งงั้น เอางานกลับมาบ้านทำ ตอนนั้นแฟนเก่าเหมือนจะเข้าใจครับแต่เธอกลับไม่เข้าใจ
ถามผมทุกวันว่าแม่นอนแล้ววันนี้ว่างไปเดินเล่นกัน ผมก็ไปบ้างครับแต่ไม่ใช่บ่อยแบบเมื่อก่อน
เพราะตอนนั้นผมคิดว่าที่ทำงานเราก็ทำงานห้องเดียวกันคือผมไปเป็นผู้ช่วยเขาในห้องส่วนตัวของเขา
ก็น่าจะพอแล้วเพราะผมจะรีบกลับเหมือนไปเปลี่ยนเวรพ่ออะคับ ดูแลมาทั้งวัน  

อาการหนักจนเข้าโรงพยาบาลครับ แฟนเก่าผมก็เริ่มที่จะแปลกๆ ขอให้มานั้งเป็นเพื่อนสักแปปก็บอกติดงาน
ผมก็เลยคิดว่ามันไกลคงไม่อยากมา จนแม่ออกจากโรงพยาบาลรอบแรกก็ยังไม่มาครับ

ผมก็บ่นๆไปว่าทำไมไม่เห็นมาหาบ้าง อยากยืมพาวเวอร์แบ้งเพราะที่โรงพยาบาลมันไม่มีที่ชาตให้ เขาก็บอกว่า
ก็เห็นบอกเพื่อนไปแล้วไง คือขอให้เพื่อนอีกคนเอามาให้ เพื่อนอีกคนซิ้อมา  5 ก้อน ชาตมาให้เต็ม บอกถ้าหมดแล้วบอก
เดี่ยวมาเอากลับไปชาตให้

จนแม่เข้าโรงพยาบาลรอบ 2 อาการหนักมากครับช้อคตัวแข็งจนล้มคาบ้าน ต้องเรียกรถพยาบาลครับ
ตอนนั้นดันเป็นช่วงที่ผมต้องออกไปต่างประเทศเพื่อไปเซ็นสัญญาเรื่องงานนึง
ที่ผมเสนอเขาไว้ ผมเลยขอยกเลิกไม่ไป ทำให้ผมเสียค่าตั๋วที่พักหลักแสน และเงินลงทุนที่ลงทุนหลายๆเรื่องอีก รวมๆเกือบ 3 แสนที่เสียไป
เพราะเลือกที่จะมาเฝ้าแม่ เงินลงทุนนี่ยืมเขามาครับ แล้วเงินที่ยืมนี่ก็ทำให้ผมต้องขึ้นศาลด้วย เล่าแค่นี้พอ

อยู่โรงพยาบาล  2 อาทิตย์เต็มๆ แฟนเก่าไม่มาสักครั้ง บอกติดงาน ตอนนั้นคิดในใจว่าคงโดนทิ้งแล้วเลยเลิกสนใจ
จริงๆก็คิดว่าเรื่องของเรามันไม่น่าเป็นไปได้ตั้งแต่แรก แล้วแม่ก็เสียชีวิตครับ  

แม่ก็เสียชีวิต วันที่รอเขาชันสูตรแฟนเก่าโทรมาครับ ขอเลิกบอกว่าเจอคนที่ดีกว่าแล้ว ผมก็บอกว่าครับขอให้โชคดี
ผมเชื่อว่าคุณเลือกดีแล้ว ผมก็ไม่ได้พูดอะไรครับเพราะเขาไม่ได้ถามเรื่องแม่เลย (ตอนหลังก็รู้ว่าเขามีคนอื่นตั้งแต่แม่เข้าโรงพยาบาลครั้งแรกครับ)
ผมก็รับศพแม่จากโรงพยาบาลรามา กลับบ้านครับ

ก็จัดงานศพไปครับ ตอนนั้นหมดแรงครับ พังทุกอย่างจริงๆ แต่รู้ใหมครับ พอเห็นหน้าพ่อแล้วที่ยิ้มกลบเกลือนแล้วยิ่งเจ็บกว่าครับ
แต่ตอนนั้นคิดในใจว่าจะทำตัวอ่อนแอไม่ได้ครับเพราะถ้าผมอ่อนแอ พ่อก็คงจะอ่อนแอตาม ผมไม่อยากให้พ่อเป็นอะไรอีกคน
อยากให้แก่ถึงจะตายก็อยากให้ตายกันแบบมีความสุขมากกว่าจะอมทุกข์  

พอเราจัดงานศพเสร็จ ก็กลับบ้านครับ

พ่อซึมเศร้าทุกวัน นั้งเหม่อลอย เย็นก็กินเหล้าจนแบบหลับคาโซฟา ผมกลัวเขาคิดสั้นมากครับ
อาการเขาดูเหมือนโรคซึมเศร้าเล็กๆดูแปลกๆ ชอบนั้งเหม่อมองภาพแม่เพราะว่าเราพึ่งช่วยกันซื้อบ้านเก่ามา
แล้วตกแต่งกันครับพึ่งเสร็จได้ไม่กี่วัน แม่เข้ามาอยู่แล้วก็มาล้มคาบ้านใหม่ที่เราทำด้วยกัน แล้วพ่อพึ่งเกษียนเขาก็วางแผนจะเทียวกัน
2คนแต่ก็ไม่ได้ เขาโทษตัวเองว่ายังไม่ทันได้สบายเลยพอเริ่มสบายก็จากไปก่อน เขาเลยโทษตัวเองครับ  ตอนที่เขาอยู่พ่อก็ไม่ค่อยพาเขาไปเที่ยว
ถ้าผมไม่ตั้งต้นไปเขาไม่ไปกันเลยเพราะพ่อเป็นคนไม่ชอบอากาศร้อนๆทำให้เขาไม่ค่อยชอบเดินทาง ผมก็พาไปแต่ห้างเพราะถ้าไปไกลๆพ่อไม่ไปแม่ก็ไม่อยากไปครับ เลยได้แต่กินข้าวกัน พาไปห้าง ดูหนังอะไรก็ว่าไป

จนมีครั้งนึงผมต้องหลอกว่ามีงานที่ชะอ ไปเที่ยวกันใหม พอดีได้เบี้ยเลี้ยงมาเยอะก็กล่อมเขาจน เขาเลยยอมไปกันเพราะผมไปด้วย ก็หลายเป็นว่า
หัวหินครั้งนั้นเป็นครั้งสุดท้ายที่เราไปเที่ยวกัน

ช่วงนั้นแอบเห็นว่าพ่อเอารุปแม่ที่ถ่ายด้วยกันที่หัวหินมาดูแล้วแอบร้องไห้ครับ ผมก็อยากจะร้องไห้ตามแต่ก็พยายามครับ พอช่วงนั้นผมไม่มีแฟน
ผมก็เลยกลับบ้าน นั้งเล่นคอม เกือบๆ ปีที่พ่อกินเหล้าแบบไม่สนใจใคร พอพูดก็ไม่สนใจ เวลาเขาเมาเขาก็จะเพ้อเรื่องแม่ตลอดคร้บ
ผมต้องนั้งเล่นคอมไปเรื่อยๆและปลุกเขาเวลา เขาเมาจนหลับคาโซฟาทุกวัน ทั้งๆที่ผมไม่ได้สนุกอะไรกับการเล่นคอมเลย และเกือบๆ 1 ปีเต็มที่ผมไม่ไปใหนเลย ทำงานเสร็จกลับบ้าน มีวันหยุด ก็ไม่ไปใหน ทำงานก็กังวลตลอดเวลา ต้องรีบกลับบ้านไปคุย ไม่ให้เขาเหงามากครับ

อาจจะเพราะฟังมาเยอะครับ คนนึงตาย คนนึงจะตรอมใจตายตาม เพื่อนคนนึงพ่อเสีย แม่ก็เสียตามในอีกไม่นานครับ ก็ทำให้รู้สึกไม่ดี
ผมไม่เถียงว่าใครๆก็ตายแต่ถ้าจะตายผมก็อยากให้พ่อตายด้วยความสุขไม่ใช่อมทุกตายครับ

ผมพยายามเกือบ 1 ปีเต็มที่พยายามจะมองโลกในแง่ดีครับ

แฟนเก่าเลิก ? ช่างมันถ้าหน้าตาผมแย่แล้วมันจะไม่มีแฟนอีกก็ช่างมันละกัน
งานพังเสีย 3 แสนกว่า ก็คิดว่าเงินหาย เดียวก็หาใหม่ ปัจจุบันทำงานใช้หนี้ที่ยืมมาหมดละครับ เงินเก็บล่าสุดเหลือ 2 หมื่นกว่าบาท
ดีที่บ้านมีเสร็จแล้วเลยหมดภาระไปเยอะครับ เลยไม่กังวล
แม่ตาย ก็เรื่องธรรมชาติ ตอนอยู่ผมก็ดูแลเขาดีนะ ผมเลยไม่เสียใจมากนักเพราะผมพยายามละ
เมื่อก่อนเงินเดือนออกนี่ต้องแหนมเหนืองเลย ไม่งั้นก็เสื้อผ้า1ชุด แม่ชอบมาก

ผมก็เริ่มปรับความคิด แม่ตายก็ยังเหลือพ่อ ก็ดูแลพ่อครับ  ค่อยๆปรับตัวเขา ผมไม่อยู่เขาก็ไม่ซึมแบบเมื่อก่อน
คนเราความแกร่งของจิตใจมันต่างกันครับเราก็ต้องค่อยๆช่วยกันปรับ ผมเลิกงานผมรีบกลับบ้านไปทำกับข้าวให้พ่อกิน
ผมก็ให้เวลากับพ่อเยอะครับ จนพ่อทำใจได้ เขาก็ดีขึ้น เขามีความสุขมากขึ้น พอมาทำบุญครบรอบ 1 ปี รู้สึกได้เลยว่าพ่อ
ทำใจได้แล้ว แรกๆมันยากมากครับสำหรับผมนะ พยายามจะไม่ร้องไห้ตาม เพราะผมเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น
เพราะครอบครัวลำบากมาเยอะครับ พึ่งสบายไม่นาน พวกเขาสองคนลำบากกันมามากแต่พอจะสบายแม่ดันจากไปใครๆก็เสียใจละกัน

ทุกวันนี้จะครบรอบสองปี พ่อก็ยังคิดถึงอยู่นั้นละครับแต่การที่ผมให้เวลากับเขาเยอะก็ทำให้เขาปรับตัวได้ครับ ผมก็ยังมีเพื่อนนะครับ
แต่ผมก็ค่อยๆออกไปให้เขาชินกับการอยู่คนเดียวจนตอนนี้เขาอยู่คนเดียวได้ ดูหนังฟังเพลงตามเรื่องไปแต่เรื่องเหล้าก็ดื่มอยู่ครับ
แต่ไม่กินขนาดน้อคคาโซฟาสมัยที่แม่ตายใหม่ๆครับ

ทุกวันนี้ทุกอย่างก็เหมือนจะโอเคละครับ พ่อก็ทำตัวปกติ ชินกับการอยู่คนเดียวแต่ถ้ามีผมอยู่ก็มีคนคุยด้วย
ตอนนี้พึ่งเลิกกับแฟนใหม่เพราะบางอย่างมันไม่ตรงกันก็คงต้องดูแลกันต่อไปครับแต่เอาจริงๆแอบเห็น
พ่อเอารุปแม่มานั้งดูอยู่ดี บางครั้งก็คงบ่นๆคิดถึงบ้างแต่ก็ไม่ได้ดูแววตาเศร้าขนาดนั้น ทำให้ผมได้ทำงานตามปกติได้
ออกไปเที่ยวกับเพื่อนบ้างได้ กว่าจะผ่านมาถึงวันนี้ได้ก็ลำบากมากครับ

คือสุดท้ายนี้นะครับ ก็แค่อยากบอกว่า อย่าแค่คิดว่าจะทำอะไรให้คนที่คุณรักเพราะคุณเองก็ไม่รู้หรอกว่าพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้น
ทำได้ทำไปเลยครับ กลับบ้านดูแลพ่อแม่บ้าง ไม่งั้นนะครับพอถึงวันที่พวกเขาจากไปแล้วคุณจะคิดได้ว่า ถ้าวันนั้นทำ วันนี้ทำ
หรือถ้าตอนเขาอยู่ทำแบบนั้นแบบนี้คงจะดี ซึ่งมันก็ไม่มีประโยชน์เลยครับ ถ้ามีเวลาพาเขาไปเที่ยวครับถึงไม่มีเงิน
แค่ซื้อของไปนั้งกินหรือพาไปเที่ยวห้าง ผมว่าบางคนถ้าได้ไปกับลูกมันก็มีความสุขมากกว่าไปคนเดียวละครับ

และท้ายนี้ขอโทษคุณคนนั้นด้วยนะครับที่เราเดทกัน 2 ครั้งแล้วผมหยุดความสัมพันธ์ไป
ผมไม่อยากให้คุณเกี่ยวข้องกับเรื่องพวกนี้เพราะคุณเองก็ผ่านเรื่องแย่ๆมาพอแล้ว
เพราะคิดว่าพึ่งเริ่มถ้าเบรคแค่นี้น่าจะดีกับคุณมากกว่า ผมอายที่ทำไปครับ

ยังไงถ้าอ่านจบก็ขอบคุณครับ
และถ้ามีประสบการณ์ มีการรับมือยังไงกับครอบครัวตัวเองเล่าให้ฟังบ้างนะครับ
เผื่อคนอื่นจะได้อ่านเป็นประสบการณ์บ้าง
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่