สวัสดีเพื่อน ๆ ทุกคน เราเป็นสมาชิกใหม่ของพันทิป วันนี้เรามีเรื่องราวดี ๆ มาแบ่งปันให้ทุกคนได้อ่าน ซึ่งเรื่องนี้เกิดขึ้นกับตัวเราเอง เราว่าเรื่องนี้ถือเป็นประสบการณ์ที่ดีอย่างหนึ่งสำหรับชีวิตเราเลยหละ มาเริ่มเรื่องกันเลยเนาะ
Ep1. เรื่องมีอยู่ว่าเราเรียนจบตอนปลายปี 2555 ซึ่งเมื่อเรียนจบแล้วก็ต้องหางานทำใช่มั้ยหละ เราก็เลยไปสมัครสอบที่หน่วยงานราชการแห่งหนึ่ง สมัครตำแหน่งพนักงานราชการ ผลปรากฎว่าเราสอบได้ลำดับที่ 4 แต่เขาเอาลำดับที่ 1 เราก็เลยต้องรอเขาเรียกบัญชีต่อไป ช่วงที่ระหว่างรอเรียกบัญชีก็ทำงานอื่น ๆ ไปพลาง ๆ ก่อน ซึ่งเราโชคดีมากเลยบัญชีนี้เรียกถึงเราพอดี จำได้ว่าปลาย ๆ เดือนกรกฎาคม 2556 กำลังไถนาช่วยพ่ออยู่กลางทุ่งนา เสียงโทรศัพท์มือถือดังเราก็เลยทิ้งรถไถให้พ่อไถต่อแล้วรีบวิ่งมารับโทรศัพท์ พอกดรับสาย ต้นทางบอกว่า อาจารย์ (ชื่อเรา) ใช่มั้ยครับ ทางสำนักงาน ......ขอให้อาจารย์........มารายงานตัวในวันที่ 1 สิงหาคม 2556 นะครับ ตอนนี้บัญชีเรียกถึงอาจารย์........ แล้วครับ เราตอบไปว่า ได้ครับผม ขอบคุณครับ หลังจากวางสายนะ ตะโกนลั่นทุ่งนาเลย ได้ทำงานราชการแล้วโว้ย 5555 พ่อเราได้ยินก็ดีใจมาก วันนั้นไม่ได้ไถนาเลย พ่อบอกให้เราไปเตรียมเอกสารให้เรียบร้อย 555 พอถึงวันที่ 1 สิงหาคม 2556 เราก็ไปรายงานตัว สำนักงานนี้มีพี่ ๆ ที่ทำงานหลากหลายอายุมาก อายุรุ่นราวคราวเดียวกันกับเราก็มี อายุมากพอจะเป็นพ่อเป็นแม่เราได้ก็มี แรก ๆ ก็ยังไม่ค่อยคุ้นกับใคร คนที่เราคุยด้วยบ่อยก็คือเพื่อนเราที่ทำงานอยู่ที่นั่นแหละ ทำงานได้สักสองสามอาทิตย์ก็จะมีพี่คนหนึ่งที่อายุแกพอจะเป็นพ่อเราได้เลยแหละที่คอยดูแลเราดีมาก จะถามเราตลอดเลยว่าทำงานได้มั้ย ขาดเหลืออะไรมั้ย พี่เขาเป็นคนอัธยาศัยดีมาก ดูแลน้องใหม่อย่างเราดีมาก ๆ เรียกเขาว่า “พี่เอละกัน” ด้วยความที่พี่เออัธยาศัยดีกับเรามาก ๆ เลยทำให้เรากับพี่เอสนิทกันไปโดยอัตโนมัติเลย เราก็จะปรึกษาพี่เอ ในหลาย ๆ เรื่องทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว ซึ่งพี่เอเป็นที่ปรึกษาให้เราได้ดีมาก เรื่องงานถ้าเราไม่เข้าใจก็จะปรึกษาพี่เขาตลอด อยากได้เบอร์สาว หรือสนใจคุยกะสาวคนไหนก็จะให้พี่เขาติดต่อให้ 5555 พออยู่นาน ๆ สนิทกันมากจนคนในสำนักงานชอบแซวว่าลูกเขยกับพ่อตา
พี่เอจะต้องไปราชการกับ ผอ.บ่อย ๆ ซึ่งทุกครั้งที่ไปพี่เอก็จะโพสต์รูปใน facebook เราก็จะคอยไปกด Like และไป comment แซวพี่เอบ่อย ๆ หลาย ๆ ครั้งที่ไปราชการด้วยกันพี่เอก็จะคอยดูแลเราตลอดเลย และก็คอยสอนด้วยว่าไปกับ ผอ. หรือไปราชการกับผู้ใหญ่ต้องทำตัวยังไงบ้าง พอสนิทกันมากก็จะรู้ไส้รู้พุงกันมาก 555 วันหนึ่งเราเปิดไปดูเฟสของพี่เอ เห็นพี่เขาลงรูปไปต่างจังหวัด เราก็เข้าไปคอมเม้นท์ตามปกติ แต่เราสังเกตเห็นทุกครั้งที่พี่เอโฟสต์รูปจะมีคนมากดไลค์และเม้นท์ นามสกุลเดียวกันกับพี่เอเลย ด้วยความสงสัยเลยกดเข้าไปดูว่าคน ๆ นั้นเป็นใคร ดูความสัมพันธ์ ผลปรากฎว่าเป็นลูกสาวพี่เอ ก็เลยแอดเป็นเพื่อนไป ไม่ได้คิดอะไร หลังจากนั้น 1 อาทิตย์ น้องเขาก็รับแอดเรา เลยลองส่งสติ๊กเกอร์ไปทักทาย น้องเขาก็ส่งสติ๊กเกอร์ทักทายเรามาแล้วก็เริ่มคุยกัน แต่ในการคุยกันน้องใช้ภาษาอย่างเป็นทางการมากเลย ดูเรียบร้อยมาก ๆ ซึ่งเราก็มารู้ภายหลังว่า ที่น้องเขาคุยกับเราอย่างนั้นเพราะคิดว่าเราเป็นเจ้านายพ่อเขา (คิดว่าเราเป็นผอ.) เพราะน้องเขาไปดูรูปเราในเฟส แล้วเห็นเราใส่ชุดผ้าไหมเลยคิดว่าเป็นเจ้านายพ่อ 5555 เราก็เลยบอกว่าพี่ไม่ใช่เจ้านายพ่อน้อง พี่เป็นเพื่อนร่วมงาน เป็นน้องชายของพ่อ อิอิ เรากับลูกสาวพี่เอก็คุยกันมาเรื่อย ๆ จากตอนแรกคุยกันในแชทก็กลายเป็นคุยกันด้วยมือถือ บางวันคุยกันตั้งแต่หัวค่ำถึงตีหนึ่งตีสองเลยก็มี แต่ว่าความรู้สึกก็ยังเป็นพี่ชายกับน้องสาวอยู่ เพราะน้องเขาจะชอบปรึกษาเราเรื่องเรียน เรื่องการสอบทำงาน เรื่องสารทุกสุขดิบของพ่อเขาบ้าง ส่วนเรากับพี่เอก็ยังเป็นพี่น้องกันเหมือนเดิมเพราะพี่เอยังไม่รู้ว่าเราคุยกับลูกสาวเค้าอยู่ หรือต่อให้รู้ก็ไม่เป็นไรอยู่แล้วเพราะพี่เอใจดี และเราก็ไม่ได้คิดอะไรกับลูกสาวพี่เอ เราคิดเหมือนพี่ชายกับน้องสาว แต่ว่าพี่ ๆ ในสำนักงานหลายคนก็รู้นะว่าเราคุยกับลูกสาวพี่เอ แต่มีพี่เอคนเดียวที่ไม่รู้ว่าเราคุยกันอยู่ จากความรู้สึกแบบพี่ชายกับน้องสาว พอคุยกันนานเข้าทำให้เรารู้สึกดีเพราะว่าเราคุยกับน้องได้ทุกเรื่อง น้องก็รู้จักตัวตนเราดีที่สุด และเมื่อคุยกันก็รู้สึกว่าน้องเขาเป็นผู้หญิงที่มีความพิเศษไม่เหมือนคนอื่น เราก็เลยสารภาพกับน้องไปตรง ๆ ว่าเราชอบเขา น้องก็บอกว่าขอบเราเหมือนกัน ท้ายที่สุดก็ตกลงคบกัน ซึ่งเราคบกันทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้เจอหน้ากันเลยนะ ความรู้สึกดี ๆ มันเกิดขึ้นจากการแชทคุยกันและโทรคุยกัน ซึ่งเรื่องที่เราคบกันพี่ ๆในสำนักงานหลายคนก็รู้ แต่พี่เอก็ยังไม่รู้ ซึ่งพักหลัง ๆ จะโดนแซวหนักมากว่าเรากับพี่เอเป็นลูกเขยกับพ่อตากัน พี่เอก็ยิ้มและหัวเราะเพราะแกคิดว่าทุกคนพูดเล่น บางครั้งแกก็แอบพูดแซว ๆ เราเหมือนกันว่าเป็นไงบ้างลูกเขย เราก็แอบแซวแกเหมือนกันว่า เป็นไงบ้างครั้งพ่อตา บางครั้งก็สวัสดีครับพ่อตา แกก็ยิ้มและหัวเราะ เราก็เก็บมานั่งคิดนะว่าถ้าวันหนึ่งเราต้องแต่งงานกับลูกสาวแก ไอ้คำที่เรากับแกพูดแซวกันเล่น ๆ ว่าพ่อตากับลูกเขยก็จะกลายเป็น คำที่เรากับแกต้องใช้จริง ๆ แต่ก็แอบดีใจนะ พ่อตาใจดีขนาดนี่ต่อให้แกรู้ว่าเราคบกับลูกสาวแก พี่เอก็คงไม่โกรธหรอกคงจะดีใจที่ได้ลูกเขยแบบเราเพราะรู้ไส้รู้พุงกัน แกก็คงรักและเอ็นดูเราเหมือน ณ ตอนนี้แหละ ความลับไม่มีในโลกฉันใด วันที่พี่เอต้องรู้ความจริงก็มาถึงฉันนั้น และแล้วพี่เอก็รู้ว่าเราคบกับลูกสาวแก ซึ่งนับจากวินาทีที่พี่เอรู้เรื่อง นั่นละคือวินาทีแห่งหลากหลายความรู้สึกเลยสำหรับเรา เรื่องราวมันเริ่มขึ้น ณ ตรงวินาทีนั้นหละ ... เดี่ยวมาต่อนะครับ
จากสถานะเพื่อนร่วมงานเปลี่ยนมาเป็นพ่อตากับลูกเขย
Ep1. เรื่องมีอยู่ว่าเราเรียนจบตอนปลายปี 2555 ซึ่งเมื่อเรียนจบแล้วก็ต้องหางานทำใช่มั้ยหละ เราก็เลยไปสมัครสอบที่หน่วยงานราชการแห่งหนึ่ง สมัครตำแหน่งพนักงานราชการ ผลปรากฎว่าเราสอบได้ลำดับที่ 4 แต่เขาเอาลำดับที่ 1 เราก็เลยต้องรอเขาเรียกบัญชีต่อไป ช่วงที่ระหว่างรอเรียกบัญชีก็ทำงานอื่น ๆ ไปพลาง ๆ ก่อน ซึ่งเราโชคดีมากเลยบัญชีนี้เรียกถึงเราพอดี จำได้ว่าปลาย ๆ เดือนกรกฎาคม 2556 กำลังไถนาช่วยพ่ออยู่กลางทุ่งนา เสียงโทรศัพท์มือถือดังเราก็เลยทิ้งรถไถให้พ่อไถต่อแล้วรีบวิ่งมารับโทรศัพท์ พอกดรับสาย ต้นทางบอกว่า อาจารย์ (ชื่อเรา) ใช่มั้ยครับ ทางสำนักงาน ......ขอให้อาจารย์........มารายงานตัวในวันที่ 1 สิงหาคม 2556 นะครับ ตอนนี้บัญชีเรียกถึงอาจารย์........ แล้วครับ เราตอบไปว่า ได้ครับผม ขอบคุณครับ หลังจากวางสายนะ ตะโกนลั่นทุ่งนาเลย ได้ทำงานราชการแล้วโว้ย 5555 พ่อเราได้ยินก็ดีใจมาก วันนั้นไม่ได้ไถนาเลย พ่อบอกให้เราไปเตรียมเอกสารให้เรียบร้อย 555 พอถึงวันที่ 1 สิงหาคม 2556 เราก็ไปรายงานตัว สำนักงานนี้มีพี่ ๆ ที่ทำงานหลากหลายอายุมาก อายุรุ่นราวคราวเดียวกันกับเราก็มี อายุมากพอจะเป็นพ่อเป็นแม่เราได้ก็มี แรก ๆ ก็ยังไม่ค่อยคุ้นกับใคร คนที่เราคุยด้วยบ่อยก็คือเพื่อนเราที่ทำงานอยู่ที่นั่นแหละ ทำงานได้สักสองสามอาทิตย์ก็จะมีพี่คนหนึ่งที่อายุแกพอจะเป็นพ่อเราได้เลยแหละที่คอยดูแลเราดีมาก จะถามเราตลอดเลยว่าทำงานได้มั้ย ขาดเหลืออะไรมั้ย พี่เขาเป็นคนอัธยาศัยดีมาก ดูแลน้องใหม่อย่างเราดีมาก ๆ เรียกเขาว่า “พี่เอละกัน” ด้วยความที่พี่เออัธยาศัยดีกับเรามาก ๆ เลยทำให้เรากับพี่เอสนิทกันไปโดยอัตโนมัติเลย เราก็จะปรึกษาพี่เอ ในหลาย ๆ เรื่องทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว ซึ่งพี่เอเป็นที่ปรึกษาให้เราได้ดีมาก เรื่องงานถ้าเราไม่เข้าใจก็จะปรึกษาพี่เขาตลอด อยากได้เบอร์สาว หรือสนใจคุยกะสาวคนไหนก็จะให้พี่เขาติดต่อให้ 5555 พออยู่นาน ๆ สนิทกันมากจนคนในสำนักงานชอบแซวว่าลูกเขยกับพ่อตา
พี่เอจะต้องไปราชการกับ ผอ.บ่อย ๆ ซึ่งทุกครั้งที่ไปพี่เอก็จะโพสต์รูปใน facebook เราก็จะคอยไปกด Like และไป comment แซวพี่เอบ่อย ๆ หลาย ๆ ครั้งที่ไปราชการด้วยกันพี่เอก็จะคอยดูแลเราตลอดเลย และก็คอยสอนด้วยว่าไปกับ ผอ. หรือไปราชการกับผู้ใหญ่ต้องทำตัวยังไงบ้าง พอสนิทกันมากก็จะรู้ไส้รู้พุงกันมาก 555 วันหนึ่งเราเปิดไปดูเฟสของพี่เอ เห็นพี่เขาลงรูปไปต่างจังหวัด เราก็เข้าไปคอมเม้นท์ตามปกติ แต่เราสังเกตเห็นทุกครั้งที่พี่เอโฟสต์รูปจะมีคนมากดไลค์และเม้นท์ นามสกุลเดียวกันกับพี่เอเลย ด้วยความสงสัยเลยกดเข้าไปดูว่าคน ๆ นั้นเป็นใคร ดูความสัมพันธ์ ผลปรากฎว่าเป็นลูกสาวพี่เอ ก็เลยแอดเป็นเพื่อนไป ไม่ได้คิดอะไร หลังจากนั้น 1 อาทิตย์ น้องเขาก็รับแอดเรา เลยลองส่งสติ๊กเกอร์ไปทักทาย น้องเขาก็ส่งสติ๊กเกอร์ทักทายเรามาแล้วก็เริ่มคุยกัน แต่ในการคุยกันน้องใช้ภาษาอย่างเป็นทางการมากเลย ดูเรียบร้อยมาก ๆ ซึ่งเราก็มารู้ภายหลังว่า ที่น้องเขาคุยกับเราอย่างนั้นเพราะคิดว่าเราเป็นเจ้านายพ่อเขา (คิดว่าเราเป็นผอ.) เพราะน้องเขาไปดูรูปเราในเฟส แล้วเห็นเราใส่ชุดผ้าไหมเลยคิดว่าเป็นเจ้านายพ่อ 5555 เราก็เลยบอกว่าพี่ไม่ใช่เจ้านายพ่อน้อง พี่เป็นเพื่อนร่วมงาน เป็นน้องชายของพ่อ อิอิ เรากับลูกสาวพี่เอก็คุยกันมาเรื่อย ๆ จากตอนแรกคุยกันในแชทก็กลายเป็นคุยกันด้วยมือถือ บางวันคุยกันตั้งแต่หัวค่ำถึงตีหนึ่งตีสองเลยก็มี แต่ว่าความรู้สึกก็ยังเป็นพี่ชายกับน้องสาวอยู่ เพราะน้องเขาจะชอบปรึกษาเราเรื่องเรียน เรื่องการสอบทำงาน เรื่องสารทุกสุขดิบของพ่อเขาบ้าง ส่วนเรากับพี่เอก็ยังเป็นพี่น้องกันเหมือนเดิมเพราะพี่เอยังไม่รู้ว่าเราคุยกับลูกสาวเค้าอยู่ หรือต่อให้รู้ก็ไม่เป็นไรอยู่แล้วเพราะพี่เอใจดี และเราก็ไม่ได้คิดอะไรกับลูกสาวพี่เอ เราคิดเหมือนพี่ชายกับน้องสาว แต่ว่าพี่ ๆ ในสำนักงานหลายคนก็รู้นะว่าเราคุยกับลูกสาวพี่เอ แต่มีพี่เอคนเดียวที่ไม่รู้ว่าเราคุยกันอยู่ จากความรู้สึกแบบพี่ชายกับน้องสาว พอคุยกันนานเข้าทำให้เรารู้สึกดีเพราะว่าเราคุยกับน้องได้ทุกเรื่อง น้องก็รู้จักตัวตนเราดีที่สุด และเมื่อคุยกันก็รู้สึกว่าน้องเขาเป็นผู้หญิงที่มีความพิเศษไม่เหมือนคนอื่น เราก็เลยสารภาพกับน้องไปตรง ๆ ว่าเราชอบเขา น้องก็บอกว่าขอบเราเหมือนกัน ท้ายที่สุดก็ตกลงคบกัน ซึ่งเราคบกันทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้เจอหน้ากันเลยนะ ความรู้สึกดี ๆ มันเกิดขึ้นจากการแชทคุยกันและโทรคุยกัน ซึ่งเรื่องที่เราคบกันพี่ ๆในสำนักงานหลายคนก็รู้ แต่พี่เอก็ยังไม่รู้ ซึ่งพักหลัง ๆ จะโดนแซวหนักมากว่าเรากับพี่เอเป็นลูกเขยกับพ่อตากัน พี่เอก็ยิ้มและหัวเราะเพราะแกคิดว่าทุกคนพูดเล่น บางครั้งแกก็แอบพูดแซว ๆ เราเหมือนกันว่าเป็นไงบ้างลูกเขย เราก็แอบแซวแกเหมือนกันว่า เป็นไงบ้างครั้งพ่อตา บางครั้งก็สวัสดีครับพ่อตา แกก็ยิ้มและหัวเราะ เราก็เก็บมานั่งคิดนะว่าถ้าวันหนึ่งเราต้องแต่งงานกับลูกสาวแก ไอ้คำที่เรากับแกพูดแซวกันเล่น ๆ ว่าพ่อตากับลูกเขยก็จะกลายเป็น คำที่เรากับแกต้องใช้จริง ๆ แต่ก็แอบดีใจนะ พ่อตาใจดีขนาดนี่ต่อให้แกรู้ว่าเราคบกับลูกสาวแก พี่เอก็คงไม่โกรธหรอกคงจะดีใจที่ได้ลูกเขยแบบเราเพราะรู้ไส้รู้พุงกัน แกก็คงรักและเอ็นดูเราเหมือน ณ ตอนนี้แหละ ความลับไม่มีในโลกฉันใด วันที่พี่เอต้องรู้ความจริงก็มาถึงฉันนั้น และแล้วพี่เอก็รู้ว่าเราคบกับลูกสาวแก ซึ่งนับจากวินาทีที่พี่เอรู้เรื่อง นั่นละคือวินาทีแห่งหลากหลายความรู้สึกเลยสำหรับเรา เรื่องราวมันเริ่มขึ้น ณ ตรงวินาทีนั้นหละ ... เดี่ยวมาต่อนะครับ