“ถ้าจะทำต้องใช้วิญญาณครึ่งหนึ่งของเจ้า ลักซูเรีย” ท่านผู้นั้นพูดอย่างเคร่งขรึมเกินปกติ เซ็ทส์ผู้จะไม่เป็นอมตะอีกแล้วคิดว่ามันคงมากกว่านั้น “และเจ้าต้องเสียอะไรไปหลายอย่างเลยละ”
“อย่างเช่นอะไรหรือ” ลักซูเรียหรี่ตาอย่างใคร่ครวญ
“เจ้าต้องใช้พลังชีวิตครึ่งหนึ่งในฐานะมังกรครึ่งมนุษย์เพื่อทำให้หญิงคนนั้นหายใจได้อีกครั้ง”
เซ็ทส์คาดว่าจะได้เห็นลักซูเรียครุ่นคิดอย่างหนัก แต่เปล่าเลย นางยิ้ม ลักซูเรียหัวเราะน้อยๆแล้วตอบว่า
“แค่นี้ไม่เป็นปัญหาสำหรับฉันเลยค่ะ แต่ชีวิตของฉันจะเปลี่ยนไปไหมหากเลือกช่วยรวิกานต์”
“เปลี่ยนสิ ข้าทำสัญญากับพี่น้องของเจ้าครบทุกตนแล้วยกเว้นซูเปอร์เบีย”
ท่านผู้นั้นยังคงมีเรื่องปิดบังอยู่อีกเป็นสิบเป็นร้อย เซ็ทส์คิด
“หากช่วยนางเจ้าก็จะกลายเป็นมนุษย์ธรรมดา ไม่มีพลังเหมือนเดิม ไม่สามารถเปลี่ยนร่างเป็นมังกรได้อีก ข้าคิดว่านั่นเป็นทางเลือกที่ระทมพอดู” ท่านผู้นั้นตอบอย่างลังเล
“ตอนที่ฉันเสียใจกับรักครั้งแรก รุ่นพี่ในวงการบอกฉันเอาไว้ค่ะ” ลักซูเรียตอบอย่างไม่ทุกข์ร้อน “เขาบอกฉันว่ามันไม่ผิดที่ผู้หญิงจะตามหาความรัก ก็เหมือนผู้ชายที่ตามหาพลังอำนาจ ดังนั้นพลังของมังกรครึ่งมนุษย์ไม่มีความจำเป็นกับฉันสักนิด ฉันก็แค่อยากทำงานนักแสดง แล้วก็มีความรักเหมือนผู้หญิงธรรมดาคนอื่นๆ”
“ขอบคุณ ลักซูเรีย” เซ็ทส์ขอบคุณสั้นๆ
“ถ้ารวิกานต์ตื่นขึ้นอีกครั้งฉันจะมีความหวังบ้างไหม เซ็ทส์” ลักซูเรียถามด้วยรอยยิ้ม เซ็ทส์ไม่ตอบ แต่เขาเชื่อว่าคำตอบจะเป็นแบบใด รวิกานต์ของเขาก็ต้องฟื้นขึ้นมาแน่นอน
“ไม่มีอะไรยืนยันได้หรอก ขนาดความรักสองพันกว่าปีของข้ายังปั่นป่วนได้เพราะผู้หญิงคนเดียวเลย”
“แค่นั้นฉันก็พอใจแล้ว” ลักซูเรียนั่งข้างๆร่างของรวิกานต์ นางยิ้มอย่างแจ่มใสไม่ได้มีความกลัวเลยแม้แต่น้อย “แล้วฉันต้องทำอะไรบ้าง คุณผู้ช่วย เหมือนกับการถ่ายเทพลังไหม”
“โดยรวมแล้วเหมือนกัน ตั้งสมาธิ ถ่ายพลังของตัวเองไปที่ซากนั่น ข้าจะรอจังหวะใส่ดวงวิญญาณ ทีนี้นางก็จะคืนชีพอีกครั้ง” ท่านผู้นั้นเดินมาหยุดที่ร่างไร้วิญญาณของรวิกานต์
นางมังกรครึ่งมนุษย์ลักซูเรียวางมือข้างหนึ่งลงบนหน้าอกของรวิกานต์ มือนั้นเปล่งแสงสีน้ำเงินสดใส แล้วท่านผู้นั้นก็เอ่ยคำเพื่อคืนชีพผู้ตายอีกครั้ง...
เวลาผ่านไปครึ่งปีสิ่งต่างๆดูแปลกใหม่สำหรับเซ็ทส์ผู้ไม่ได้เป็นอมตะอีกแล้ว ตอนนี้เขาใช้ทองเก่าเก็บเพื่อซื้อบ้านหลังเล็กๆชานเมือง ส่วนท่านผู้นั้นใช้ร่างแยกทำหน้าที่ควบคุมประธานาธิบดีจึงสามารถหางานลูกจ้างร้านขายของโบราณให้เซ็ทส์ทำได้ ใช่แล้ว ท่านผู้นั้นแม้จะกลับไปแดนเทพแล้วก็ยังใช้ร่างแยกเพื่อควบคุมประธานาธิบดีที่มีแต่เปลือกนอก คอยดูแลอิเดนไปจนกว่าเซ็ทส์จะตายตามอายุขัยจริงๆ
“มันเป็นสัญญาคำมั่นของข้าเซ็ทส์ ข้าต้องทำให้แน่ใจว่าสิ่งที่ข้าจัดเตรียมไว้ทำให้เจ้ามีความสุขตลอดชีวิตจริงหรือเปล่า มีแต่คนโง่ที่คิดทำผิดสัญญาแม้มันจะผ่านมาเป็นพันปี และข้าไม่โง่ขนาดนั้น”
ท่านผู้นั้นริบพิณเทพพิรุณของเขาไปเพราะหากมนุษย์ธรรมดาใช้จะถูกดูดพลังจนตาย เซ็ทส์ผู้คิดถึงวิหคพิณที่ทำงานร่วมกันมาเป็นพันปี เขาจึงทำงานหนัก แล้วจ้างช่างแกะสลักหินสร้างรูปจำลองขนาดเล็กของนกในพิณทั้งห้าตัว จากนั้นก็นำรูปสลักทั้งห้าไปประดับสวนเล็กๆที่ตนมี
เซ็ทส์ไม่รู้ว่าเป็นเหตุบังเอิญหรือไม่ เจ้าของร้านที่เขาทำงานอยู่เป็นแฟนละครของลักซูเรีย ครั้งแรกที่รู้ว่าเซ็ทส์รู้จักกับนางก็เอาแต่ถามเรื่องของนางไม่หยุดหย่อนและยอมให้เขาพักดูละครที่นางแสดงได้ทุกสุดสัปดาห์ พอลักซูเรียมาเยี่ยมเซ็ทส์ที่ร้านขายของเก่าก็ได้รับการดูแลอย่างดีจากเจ้าของร้าน เรียกว่าไม่เป็นอันทำงานกันทุกทีที่นางมาเยี่ยมเขา
“ฉันหางานที่ดีกว่านี้ให้คุณได้นะเซ็ทส์” ลักซูเรียพูดในค่ำวันหนึ่งที่นางมาเยี่ยมเซ็ทส์ที่บ้าน “ความสามารถในด้านดนตรีและประวัติศาสตร์ของคุณถ้าใช้อย่างถูกทางจะสร้างรายได้มากมาย”
“ข้าเหนื่อยมาสองพันกว่าปีจะไม่ให้ข้าพักบ้างหรือ สองพันปีที่หม่นหมองของข้ามองเห็นทุกอย่างของมนุษย์มาแล้ว ทั้งสิ่งที่สวยงามและน่าขยะแขยง ข้าเลือกเป็นลูกจ้างร้านขายของเก่าก็เพราะมันง่ายและเป็นฝ่ายงอนลูกค้า อย่างมากก็มีลูกค้าประจำไม่กี่คน”
ลักซูเรียพยักหน้าอย่างเข้าอกเข้าใจ
“แล้วเรื่องคุณกับรวิกานต์ไปได้ด้วยดีไหม ได้ข่าวว่าเธอไปเรียนต่อที่วิทยาลัยนี่”
เซ็ทส์พยักหน้า ตอนนี้หญิงสาวได้ไปเรียนต่อวิทยาลัยเพื่อให้ได้เป็นนักเขียนตามความฝัน เพราะพ่อกับแม่ของเธอกลับมาประจำสำนักงานที่รัฐนี้จึงย้ายมาอยู่ที่นี่พร้อมคนรับใช้อีกคนหนึ่ง ทำให้หญิงสาวมีเวลามากพอลงชื่อเรียนด้านอักษรศาสตร์ต่อไป
“ท่านผู้นั้นบอกเองเลย ว่าถ้าข้าทำให้นางเป็นคนรักจริงๆภายในหนึ่งปีไม่ได้ ท่านจะไปล่อลวงมาให้เอง จะได้แต่งงานกันเสียที...รู้จักท่านผู้นั้นมาสองพันกว่าปี เพิ่งเห็นด้านที่เป็นงานเป็นการนี่ละ ไม่รู้เพราะเบื่อหรืออย่างไร”
“ข้าไม่ได้จะว่านางบื้อนะเซ็ทส์ นางก็แค่...โลกส่วนตัวสูง” ลักซูเรียหัวเราะเบาๆเมื่อพูดถึงนิสัยของรวิกานต์ที่ไม่สนเรื่องอื่นนอกจากเรื่องตรงหน้า และไม่ค่อยเข้าหาผู้คนถ้าไม่มีเหตุผลพอ
“นั่นล่ะข้อดีของนาง”
“เดี๋ยวฉันต้องกลับก่อน เลยเวลานัดถ่ายแบบหนังสือ” ลักซูเรียขอตัวกลับเมื่อเห็นว่าเลยเวลางานมาเกือบสิบนาที “มีปัญหาอะไรบอกฉันได้เลยนะ”
“ขอบคุณ ลักซูเรีย” เซ็ทส์ขอบคุณอย่างเป็นพิธีการ
“เลิกเรียกชื่อนั้นสักทีได้ไหม ตอนนี้ฉันเป็นมนุษย์ธรรมดาแล้ว ตานี่” ลักซูเรียถอนหายใจพรวด
“ก็ได้ ขอบคุณ โลเธีย” เซ็ทส์ขอบคุณอีกครั้ง
แขกยามบ่ายของวันหยุดกลับไปอย่างรวดเร็วเหมือนทุกครั้ง เซ็ทส์ยิ้มให้ประตูบ้านแล้วลงมือทำความสะอาดบ้านต่อ อย่างที่ท่านผู้นั้นพูดอยู่เรื่อยๆ พอตัวตนของเขาเล็กลงปัญหาของเขาก็เล็กลงด้วย จากการกำจัดมังกรร้ายนามว่าซูเปอร์เบียเปลี่ยนเป็นการใช้ชีวิตแบบคนปกติแทนเสียอย่างนั้น...
จบ (ซะที)
จอมเวทอมตะ ตอนจบ
“อย่างเช่นอะไรหรือ” ลักซูเรียหรี่ตาอย่างใคร่ครวญ
“เจ้าต้องใช้พลังชีวิตครึ่งหนึ่งในฐานะมังกรครึ่งมนุษย์เพื่อทำให้หญิงคนนั้นหายใจได้อีกครั้ง”
เซ็ทส์คาดว่าจะได้เห็นลักซูเรียครุ่นคิดอย่างหนัก แต่เปล่าเลย นางยิ้ม ลักซูเรียหัวเราะน้อยๆแล้วตอบว่า
“แค่นี้ไม่เป็นปัญหาสำหรับฉันเลยค่ะ แต่ชีวิตของฉันจะเปลี่ยนไปไหมหากเลือกช่วยรวิกานต์”
“เปลี่ยนสิ ข้าทำสัญญากับพี่น้องของเจ้าครบทุกตนแล้วยกเว้นซูเปอร์เบีย”
ท่านผู้นั้นยังคงมีเรื่องปิดบังอยู่อีกเป็นสิบเป็นร้อย เซ็ทส์คิด
“หากช่วยนางเจ้าก็จะกลายเป็นมนุษย์ธรรมดา ไม่มีพลังเหมือนเดิม ไม่สามารถเปลี่ยนร่างเป็นมังกรได้อีก ข้าคิดว่านั่นเป็นทางเลือกที่ระทมพอดู” ท่านผู้นั้นตอบอย่างลังเล
“ตอนที่ฉันเสียใจกับรักครั้งแรก รุ่นพี่ในวงการบอกฉันเอาไว้ค่ะ” ลักซูเรียตอบอย่างไม่ทุกข์ร้อน “เขาบอกฉันว่ามันไม่ผิดที่ผู้หญิงจะตามหาความรัก ก็เหมือนผู้ชายที่ตามหาพลังอำนาจ ดังนั้นพลังของมังกรครึ่งมนุษย์ไม่มีความจำเป็นกับฉันสักนิด ฉันก็แค่อยากทำงานนักแสดง แล้วก็มีความรักเหมือนผู้หญิงธรรมดาคนอื่นๆ”
“ขอบคุณ ลักซูเรีย” เซ็ทส์ขอบคุณสั้นๆ
“ถ้ารวิกานต์ตื่นขึ้นอีกครั้งฉันจะมีความหวังบ้างไหม เซ็ทส์” ลักซูเรียถามด้วยรอยยิ้ม เซ็ทส์ไม่ตอบ แต่เขาเชื่อว่าคำตอบจะเป็นแบบใด รวิกานต์ของเขาก็ต้องฟื้นขึ้นมาแน่นอน
“ไม่มีอะไรยืนยันได้หรอก ขนาดความรักสองพันกว่าปีของข้ายังปั่นป่วนได้เพราะผู้หญิงคนเดียวเลย”
“แค่นั้นฉันก็พอใจแล้ว” ลักซูเรียนั่งข้างๆร่างของรวิกานต์ นางยิ้มอย่างแจ่มใสไม่ได้มีความกลัวเลยแม้แต่น้อย “แล้วฉันต้องทำอะไรบ้าง คุณผู้ช่วย เหมือนกับการถ่ายเทพลังไหม”
“โดยรวมแล้วเหมือนกัน ตั้งสมาธิ ถ่ายพลังของตัวเองไปที่ซากนั่น ข้าจะรอจังหวะใส่ดวงวิญญาณ ทีนี้นางก็จะคืนชีพอีกครั้ง” ท่านผู้นั้นเดินมาหยุดที่ร่างไร้วิญญาณของรวิกานต์
นางมังกรครึ่งมนุษย์ลักซูเรียวางมือข้างหนึ่งลงบนหน้าอกของรวิกานต์ มือนั้นเปล่งแสงสีน้ำเงินสดใส แล้วท่านผู้นั้นก็เอ่ยคำเพื่อคืนชีพผู้ตายอีกครั้ง...
เวลาผ่านไปครึ่งปีสิ่งต่างๆดูแปลกใหม่สำหรับเซ็ทส์ผู้ไม่ได้เป็นอมตะอีกแล้ว ตอนนี้เขาใช้ทองเก่าเก็บเพื่อซื้อบ้านหลังเล็กๆชานเมือง ส่วนท่านผู้นั้นใช้ร่างแยกทำหน้าที่ควบคุมประธานาธิบดีจึงสามารถหางานลูกจ้างร้านขายของโบราณให้เซ็ทส์ทำได้ ใช่แล้ว ท่านผู้นั้นแม้จะกลับไปแดนเทพแล้วก็ยังใช้ร่างแยกเพื่อควบคุมประธานาธิบดีที่มีแต่เปลือกนอก คอยดูแลอิเดนไปจนกว่าเซ็ทส์จะตายตามอายุขัยจริงๆ
“มันเป็นสัญญาคำมั่นของข้าเซ็ทส์ ข้าต้องทำให้แน่ใจว่าสิ่งที่ข้าจัดเตรียมไว้ทำให้เจ้ามีความสุขตลอดชีวิตจริงหรือเปล่า มีแต่คนโง่ที่คิดทำผิดสัญญาแม้มันจะผ่านมาเป็นพันปี และข้าไม่โง่ขนาดนั้น”
ท่านผู้นั้นริบพิณเทพพิรุณของเขาไปเพราะหากมนุษย์ธรรมดาใช้จะถูกดูดพลังจนตาย เซ็ทส์ผู้คิดถึงวิหคพิณที่ทำงานร่วมกันมาเป็นพันปี เขาจึงทำงานหนัก แล้วจ้างช่างแกะสลักหินสร้างรูปจำลองขนาดเล็กของนกในพิณทั้งห้าตัว จากนั้นก็นำรูปสลักทั้งห้าไปประดับสวนเล็กๆที่ตนมี
เซ็ทส์ไม่รู้ว่าเป็นเหตุบังเอิญหรือไม่ เจ้าของร้านที่เขาทำงานอยู่เป็นแฟนละครของลักซูเรีย ครั้งแรกที่รู้ว่าเซ็ทส์รู้จักกับนางก็เอาแต่ถามเรื่องของนางไม่หยุดหย่อนและยอมให้เขาพักดูละครที่นางแสดงได้ทุกสุดสัปดาห์ พอลักซูเรียมาเยี่ยมเซ็ทส์ที่ร้านขายของเก่าก็ได้รับการดูแลอย่างดีจากเจ้าของร้าน เรียกว่าไม่เป็นอันทำงานกันทุกทีที่นางมาเยี่ยมเขา
“ฉันหางานที่ดีกว่านี้ให้คุณได้นะเซ็ทส์” ลักซูเรียพูดในค่ำวันหนึ่งที่นางมาเยี่ยมเซ็ทส์ที่บ้าน “ความสามารถในด้านดนตรีและประวัติศาสตร์ของคุณถ้าใช้อย่างถูกทางจะสร้างรายได้มากมาย”
“ข้าเหนื่อยมาสองพันกว่าปีจะไม่ให้ข้าพักบ้างหรือ สองพันปีที่หม่นหมองของข้ามองเห็นทุกอย่างของมนุษย์มาแล้ว ทั้งสิ่งที่สวยงามและน่าขยะแขยง ข้าเลือกเป็นลูกจ้างร้านขายของเก่าก็เพราะมันง่ายและเป็นฝ่ายงอนลูกค้า อย่างมากก็มีลูกค้าประจำไม่กี่คน”
ลักซูเรียพยักหน้าอย่างเข้าอกเข้าใจ
“แล้วเรื่องคุณกับรวิกานต์ไปได้ด้วยดีไหม ได้ข่าวว่าเธอไปเรียนต่อที่วิทยาลัยนี่”
เซ็ทส์พยักหน้า ตอนนี้หญิงสาวได้ไปเรียนต่อวิทยาลัยเพื่อให้ได้เป็นนักเขียนตามความฝัน เพราะพ่อกับแม่ของเธอกลับมาประจำสำนักงานที่รัฐนี้จึงย้ายมาอยู่ที่นี่พร้อมคนรับใช้อีกคนหนึ่ง ทำให้หญิงสาวมีเวลามากพอลงชื่อเรียนด้านอักษรศาสตร์ต่อไป
“ท่านผู้นั้นบอกเองเลย ว่าถ้าข้าทำให้นางเป็นคนรักจริงๆภายในหนึ่งปีไม่ได้ ท่านจะไปล่อลวงมาให้เอง จะได้แต่งงานกันเสียที...รู้จักท่านผู้นั้นมาสองพันกว่าปี เพิ่งเห็นด้านที่เป็นงานเป็นการนี่ละ ไม่รู้เพราะเบื่อหรืออย่างไร”
“ข้าไม่ได้จะว่านางบื้อนะเซ็ทส์ นางก็แค่...โลกส่วนตัวสูง” ลักซูเรียหัวเราะเบาๆเมื่อพูดถึงนิสัยของรวิกานต์ที่ไม่สนเรื่องอื่นนอกจากเรื่องตรงหน้า และไม่ค่อยเข้าหาผู้คนถ้าไม่มีเหตุผลพอ
“นั่นล่ะข้อดีของนาง”
“เดี๋ยวฉันต้องกลับก่อน เลยเวลานัดถ่ายแบบหนังสือ” ลักซูเรียขอตัวกลับเมื่อเห็นว่าเลยเวลางานมาเกือบสิบนาที “มีปัญหาอะไรบอกฉันได้เลยนะ”
“ขอบคุณ ลักซูเรีย” เซ็ทส์ขอบคุณอย่างเป็นพิธีการ
“เลิกเรียกชื่อนั้นสักทีได้ไหม ตอนนี้ฉันเป็นมนุษย์ธรรมดาแล้ว ตานี่” ลักซูเรียถอนหายใจพรวด
“ก็ได้ ขอบคุณ โลเธีย” เซ็ทส์ขอบคุณอีกครั้ง
แขกยามบ่ายของวันหยุดกลับไปอย่างรวดเร็วเหมือนทุกครั้ง เซ็ทส์ยิ้มให้ประตูบ้านแล้วลงมือทำความสะอาดบ้านต่อ อย่างที่ท่านผู้นั้นพูดอยู่เรื่อยๆ พอตัวตนของเขาเล็กลงปัญหาของเขาก็เล็กลงด้วย จากการกำจัดมังกรร้ายนามว่าซูเปอร์เบียเปลี่ยนเป็นการใช้ชีวิตแบบคนปกติแทนเสียอย่างนั้น...
จบ (ซะที)