บ้านนอกหลงกรุง (หลงรัก)..............................

ขอเป็นการแชร์ประสบการณ์แบบบ้านนอกๆ ก็แล้วกันนะคะ
.......บอกก่อนนะคะ จขกท.เป็นคนต่างจังหวัด(ชม)บ้านนอกสุด ๆ ........
.
สาเหตุของการหลงกรุงครั้งนี่คืออยากไปงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ (เขาบอกว่าฉันอินดี้ ฉันก็ว่าเช่นนั้น https://pantip.com/topic/31230711)
ปกติแล้ว จขกท.มักชอบเที่ยวคนเดียวบ่อยๆอยู่แล้วแต่การเดินทางคนเดียนต้องวางแผนให้ดีเพราะผู้หญิงตัวเล็กๆไปเที่ยวคนเดียวความปลอดภัยเป็นเรื่องสำคัญที่สุด อิอิอิ
.
นักวางแผนตัวจริงมาแล้ว 555 (แผนนี้เกิดขึ้นช่วงต้นเดือน มีนาคม)
.
งานสัปดาห์หนังสือมี ช่วงวันที่ 29 มี.ค.- 8 เม.ย. 61 นี้ ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดคือวันที่ 2-4 เม.ย. เป็นวันธรรมดาคนไม่น่าจะเยอะ
ต่อมางานจองตั๋วก็มา ขอเป็นขึ้นเครื่องก็แล้วกัน เป็นของ Air Asia เชียงใหม่-ลงดอนเมือง ไปวันที่ 2 เม.ย. 8.30-9.40 คิดว่าไปถึงจะได้เหลือเวลาเพื่อจะได้ไปเที่ยวที่อื่นด้วย
ขากลับไม่แน่ใจจะกลับวันไหนจึงไม่ได้จองไว้.....................
ที่พักก็เลือที่อยู่ไกล้ศูนย์ประชุมสิริกิติ์ที่จัดงานมากที่สุด คือVarinda Hostal ซอยแยกไผ่สิงโต ราคาไม่แพง ห้องStandard คืนละ 600 พัก 2 คืน ถือว่าถูกเมื่อเทียบกับการอยู่ใจกลางเมืองใกล้สถานที่สำคัญ (เพราะห้องที่เหลือเป็นห้องรวมซึ่งไม่เหมาะกับผู้หญิงคนเดียว)
พอได้ห้องพักจึงมาคิดถึงขากลับ คราวนี้จองได้ของ Thai Vietjet Air ขึ้นสุวรรณภูมิ-เชียงใหม่....(ว้าววววว...รู้สึกใจสั่น..กลัวหลงทาง ....มันใหญ่ขนาดนั้นฉันจะไปถูกไหมเนี๊ยะ)...........
การวางแผนที่ดีมีความสำคัญมากสำหรับสาวๆ ที่ชอบการเดินทางคนเดียว
.
วันแรก วันแห่งการเดินทางมาแล้ว เก็บกระเป๋า เดินทาง
เช้าวัน 2 เม.ย.สนามบินเชียงใหม่ไม่ใหญ่จึงไม่หนักใจ...สำหรับ จขกท.5555
ถึง กทม.ช่วง 9.40 น. จขกท.เป็นคนโชคดีอย่างหนึ่งคือ แฟนและครอบของน้อง(ผู้หญิง เพื่อนร่วมงานในที่งานที่น่ารัก)เขาดีมาก พ่อเขาเอารถมารับ จขกท.ที่ดอนเมือง พาไปกินข้าว ไปหาซื้อรองเท้าโดยเฉพาะ น้องผู้ชายบอกว่าผมรู้ว่าพี่ชอบวิ่งก็เลยพาไปหารองเท้าวิ่ง (ความเกรงใจก็มาเลยค่ะ บอกตรงๆ)....น้องผญ.ไปหาแฟนที่ กทม.ก่อนแล้ว เรานัดเจอกันแค่ช่วงเวลาสั้นๆ....
วันนี้ทั้งวันหมดกับการนั่งรถส่วนตัวไปเที่ยวโน้น นี่ นั่น +กับความเกรงใจ 55555+++++++++++
ดับร้อนด้วยไอศกรีมเย็นๆ.......
...ตื่นเต้นสุดๆ ก็ต่อจากไปแหละค่ะทุกคน (สำหรับคนบ้านนอก) 555555++++++++++++++
...เราคุยกันเรื่องการเดินทางของ จขกท. เพราะไม่เคยใช้ชีวิต ไม่เคยเดินทางใน กทม.เลย ปัญหาใหญ่เลยแหละ (เคยมา กทม.บ้างแต่มาเป็นคณะ มารถตู้เขาไปส่งที่เดียว จบ แค่นี้)....ทุกคนลงความเห็นว่า ให้ จขกท.นั่งรถไฟฟ้าดีที่สุด ประหยัดเงิน ปลอดภัย พ่อน้องผู้ชายไม่ยอมให้นั่งแท็กซี่แกว่าอันตราย...
....โอเค อย่างั้น.....เริ่มต้นด้วยรถไฟฟ้ามาหานะเธอ(มหานคร555) สายสีม่วง
.....แฟนกับน้องผู้หญิงเดินทางไปทะเลใต้ เหลือแต่ จขกท.คนเดียว
.....พ่อน้องผู้ชายมาส่ง จขกท.ที่สถานีกระทรวงสาธารณสุข เพื่อไปศูนย์ประชุมสิริกิติ์ พ่อเขาน่ารักมาก เราสัมผัสได้ถึงความเมตตาที่เขามีต่อเรา เขาสอน ลูกทำไม่เป็นก็ไปบอกยามเขาทำให้ ลูกขึ้นจากสถานีนี้ ผ่านสถานี้ แล้วลงสถานนี้ บอกทุกอย่างเลย (ครอบครัวแฟนน้องอยู่นนทบุรี)
...
ภาพแรกของการขึ้นรถไฟฟ้ามานะเธอ......ตื่นเต้นกลัวทำไม่ถูกทำไม่เป็น...เขาซื้อเหรียญกันอย่างไง....เขาเอาเหรียญไปทำอย่างไรประตูถึงจะเปิด555
ความจริง เขาก็มีอธิบายหมดแต่ด้วยความตื่นเต้นก็อ่านไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่ .....บอกเลยบ้านนอกสุดๆ จึงถ่ายได้รูปเดียว ตลกตัวเอง 555

รูปที่2
หลังผ่านด่านมาหมดละ มานั่งรอรถ (รถไฟฟ้ามาหานะเธอ) มา 555 วันนี้เป็นวันธรรมดา+ช่วงบ่ายคนอาจยังไม่เลิกงาน จึงไม่ค่อยมีคน (ชอบนายแบบมาก )แอบถ่ายเขา555
....ออ เขาเรียกว่ารถไฟฟ้าสายสีม่วง (MRT) วิ่งอยู่บนฟ้า....ด้วยความซื่อและน่ารักถามพนักงานเขาหมด...รถไฟฟ้ามีสองฝั่งขึ้นให้ถูกฝั่งที่เราจะไปด้วยนะ ไม่งั้นจะกลายจากหลงรักเป็นหลงทาง
รูปที่3
รูปนี้ก็ชอบมาก ภายในรถ (รถไฟฟ้ามาหานะเธอ) คนไม่เยอะ นั่งสบายๆ
รูปที่4
ระหว่างการเดินทาง ทางรถสายสีม่วง บน(รถไฟฟ้ามาหานะเธอ) วิว กทม.สวยงามมาก
บางทีก็นึกคนที่เห็นบ่อยๆ จนชิน อาจกลายเป็นเรื่องธรรมดาแล้ว แต่สำหรับ จขกท.มันคือสิ่งที่สวยงามมากไม่สมารถอธิบายด้วยคำพูด จนทำให้หลงรักเลย
ทางรถ (รถไฟฟ้ามาหานะเธอ) สายสีม่วงนี้ เริ่มจากสถานีคลองบางใผ่สิ้นสุดสถานีเตาปูน
จขกท.จะต้องลงสถานีเตาปูน  แล้วเปลี่ยนขบวนรถเป็นสายสีน้ำเงินเพื่อไปต่อศูนย์ประชุมสิริกิติ์....(รถไฟฟ้ามาหานะเธอ)สายสีน้ำเงินเป็นขบวนรถใต้ดิน
ตรงนี้ จขกท ไม่ต้องซื้อเหรียญแล้วเพราะซื้อตั้งแต่ขึ้นสถานนีแรก
ว้าววววว........ตื่นเต้นอีกแล้ว....เหินขึ้นฟ้า มุดลงดิน (บ้านนอกอีกแล้วเรา555)
รูปที่5 มุดลงดินแล้ว ว้าวววววววว.................
ใต้ดินก็มืดๆ ประมาณนี้ 555 คนก็ยังไม่ค่อยมี แต่พอผ่านไป 2-3 สถานนีคนแน่นเลย หายใจไม่ค่อยออก
สายนี้เริ่มต้นสถานนีบางซื่อหรือใกล้ๆ สถานีเตาปูนนั้นแหละ....ผ่านไป 11 สถานี สะหวัดดีเจ้าาาาาา...สถานีศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ถึงแล้ว
เป็นสายใต้ดินก็เลยต้องขึ้นมาบนดิน จะมีแยกไป ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์และไปซอยไผ่สิงโต ตอนนี้เย็นมากแล้วก็ขอเข้าที่พักก่อนละกันหนังสือค่อยว่ากันใหม่พรุ่งนี้
จากสถานีรถ (รถไฟฟ้ามาหานะเธอ) เข้ามาที่พักไม่ไกลเลย ประมาณ 5-6 ร้อยเมตร
รูที่6 ว้าววววว............
วันแรกจบได้สวย55555
.
วันที่ 2 สะหวัดดีเจ้า
ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ
มีเรื่องน่าขำ ความจริงจะข้ามถนนจากฝั่งซอยไผ่สิงโต ไปฝั่งศูนย์ประชุมแค่ลงไปใต้ดินที่เมื่อวันนั่งรถไฟมาลง แล้วขึ้นไปอีกฝั่งหน่อยเดียวก็ข้ามได้แล้วแต่ด้วยความเป็นบ้านนอกไม่รู้5555
ก็เลยเดินอ้อมไปไกลเลยเพื่อจะข้ามสะพานลอย นึกทีไรอดขำตัวเองไม่ได้ทุกที (เราเป็นนักวิ่งมินิมาราธอนแค่นี้สบายมาก คิดเข้าข้างตัวเอง)
.
เข้าไปในงาน
ในความรู้สึกใหญ่มาก ไม่รู้จะไปไหน งงไปหมดไม่รู้ต้องเริ่มต้นตรงไหน
เดินเรื่อยๆ เป็นวันธรรมดาแต่ทำไมคนเยอะจัง หรืออาจเยอะสำหรับเราคนต่างจังหวัดหรือเปล่า
.
คนอะไรจะหนอหนังสืออะไรปานนั้น วันนี้ทั้งวันหมดไปกับการเลือกดูหนังสือ
บอกเลยว่า จขกท.มางานนี้ครั้งแรก อะไรก็ตื่นเต้นไปหมด สนุกกับการเลือกดูหนังสือ พอรู้ตัวอีกทีหนังสือเต็มมือหมดแล้ว หิ้วกลับไม่ไหวแน่ แถมด้วยขึ้นเครื่องกลับคงลำบากแน่....งานนี้เลยต้องพึ่งคุณพี่ไปรษณีย์ไทย(เขามาบริการในงานเลย) ห่อใส่ลังหมดเลย ส่งกลับเชียงใหม่....สายเที่ยวก็แบบนี้แหละ555
....ออ....ลืมไปเรื่องข้าว มีศูนย์อาหารใหญ่พอสมควร 3 มื้อฝากท้องในนี้หมดเลย...(สายชิว ไม่เรื่องมาก สบายๆ ดีต่อสุขภาพก็พอ)
เน้นผัก

เรื่อง ความเปิ่นอย่าบอกใคร(บ้านนอกอีกละ) พอกินข้าวเย็นข้างในศูนย์เสร็จออกมานอกศูนย์กะว่าจะซื้อน้ำขวดสองขวดกลับที่พัก พอได้น้ำก็ยื่นเงินให้เขาเลย พ่อค้ายิ้มๆ แล้วบอกว่าน้องต้องไปซื้อ Cars ตรงโต๊ะโน้นก่อนครับ เราก็ได้แต่ยิ้มเขิน ปล่อยมุขให้พ่อค้าขายน้ำอีกแล้วเรา555
.....................สิ้นสุดวันที่นี้ด้วยความเพรีย........................
.
วันที่3 ว้าววววว............ต้องกลับแล้วเหรอ............(ยังไม่อยากกลับ555)
แผนวันนี้คือ...เช็คเอาท์ ตอน 10.00 น ไปเดินดูหนังสืออีกรอบ กินข้าวเที่ยงในศูนย์ 13.30 น.เดินทางไป สุวรรณภูมิ กลับเชียงใหม่ รอบ 16.20-17.40 น.
วันอังคาร วันธรรมดาแต่น่าจะเป็นช่วงปิดเทอมคนก็เลยเยอะ
ด้วยความขี้เกียจหลังฝากกระเป๋าเป้ใบใหญ่เสร็จแล้ว มานั่งตรงเวทีกลาง มีนักเขียนหลายท่านมาแนะนำหนังสือก็นั่งฟังเพลินๆ ไป
มีนักเขียนท่านหนึ่งแนะนำหนังสือเกี่ยวกับการตั้งเป้าหมายในชีวิต เขาพูดประโยคหนึ่งว่า...มนุษย์เราจะรู้สึก ว้าว กับบางสิ่งแค่ครั้งสองครั้งหลังจากนั้นจะรู้สึกเฉย... มันก็จริงอย่างที่เขาพูด เพราะอย่างตัวเอง ณ ตอนนี้ทำไมถึงต้องมาอยู่ ณ สถานที่แห่งนี้ เพราะความรู้สึกเฉยๆ มิใช่หรือ ความเบื่อหน่ายกับชีวิตมิใช่หรือ ถึงเดินทางมาไกลเช่นนี่ (รู้สึกมีสาระจังเลยนะ555)
.
เวลา13.30 น. ออกเดินทางได้แล้ว
ขาไปนั่งรถ (รถไฟฟ้ามาหานะเธอ)สายที่นั่งมาเลย หน้าศูนย์นี้เลยค่ะ ก็จะไม่ค่อยตื่นเต้นแล้ว แต่ก็สนุกดี
ไปลงสถานีเพชรบุรีใต้ดิน แล้วเปลี่ยนนั่ง Airport Rail Link ที่สถานีมักกะสัน ขึ้นไปบนฟ้าอีกแล้ว ตรงนี้แหละความตื่นเต้นไม่เคยหมด
Let go  สุวรรณภูมิ
.
โอ้โห...................เมืองกรุงเป็นเช่นนี้นะหรือ........
ชอบมากภาพนี้
ภาพที่มีความสวยงาม ในมุมที่เรามองเหมือนทุกอย่างค่อยๆ เดินไปข้างหน้าอย่างช้าๆ แต่ไม่เคยที่จะหยุดเดิน ซึ่งภาพบางภาพเราต้องเห็นด้วยตา สัมผัสด้วยความรู้สึก ถึงจะเข้าใจความหมายนั้น เพราะทุกสิ่งล้วนมีชีวิตในแบบของตัวมันเอง(บ้านนอก หลงรักเมืองกรุง)
.
อีกภาพที่สวยงามเช่นกัน
.
กลับบ้านได้แล้ว หมดเวลาสนุกแล้วจริงๆ
ภาพสุดท้าย แค่อยากจะบอกว่าชุดแอร์เขาน่ารักมาก รวมถึงการบริการของพนักงานส่วนอื่นก็น่ารัก รวมๆ แล้วประทับใจ
.
สัญญากับตัวเองจะกลับไปอีกครั้ง
....บ้านนอกหลงกรุง (หลงรัก) ....
.
...........................................
.
สิ่งสุดท้าย ท้ายสุดที่ได้
1.วันที่เหนื่อยหล้าหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้ จงออกไปท่องโลกกว้างแม้สุดท้ายคำตอบจะเป็นเช่นไรคุณจะได้ไม่เสียใจ
2.บางสิ่งบางอย่างไม่เคยน่ากลัวเลยเพียงแค่ยอมก้าวออกจากที่ปลอดภัยของคุณ
3.โลกนี้กว้างใหญ่ผู้คนมากมาย เดินทาง เรียนรู้ เพื่อเข้าใจตนเอง เข้าใจผู้อื่น
4.ฉันเชื่อเสมอว่าเราต่างมีคุณค่าในตัวเอง อยู่ที่เราจะมองเห็นหรือเปล่าเท่านั้นเอง
.
จุดประสงค์อีกข้อหลักๆที่ไม่เคยบอกที่บ้านกับเพื่อนคือ จขกท.รู้สึกเบื่อตัวเอง เบื่องาน เบื่อที่ทำงาน เบื่อเพื่อนร่วมงาน ฯลฯ หรือปัญหาหลายๆอย่างทั้งที่ทำงานและที่บ้านจึงอยากจะหนีจากสิ่งที่เป็นอยู่ไปในที่ที่ไม่มีใครรู้จัก หนีการเป็นตัวของตัวเอง สักพัก
........
เป็นการแชร์ประสบการณ์ที่ยาวที่สุด
ขอบคุณทุกคนที่อ่าน...........
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่