เราเรียนอยู่ม.6 โรงเรียนนึง ได้สมัครไปร่วมค่ายของคณะหนึ่ง ในมหาวิทยาลัยเเห่งหนึ่งเเถวย่านรังสิต ซึ่งก่อนที่เราจะได้ไปร่วมค่าย ทางค่ายได้ทำการเเบ่งน้องเป็นกลุ่มๆ เเละดึงน้องๆเข้าไลน์กลุ่มต่างๆ ก่อน 1 เดือน เพื่อที่จะได้ให้น้องๆรู้จักกันก่อนไปค่าย ซึ่งเราได้เข้ากลุ่ม ซึ่งตอนนั้นเราเห็นว่าสมาชิกในกลุ่มทำไมน้อยจัง เราเลยไปถามพี่เลี้ยงไลน์ว่า "พี่ครับมีสมาชิกเเต่ละไลน์มีเเค่นี้หรอครับ" เเละพี่เค้าก็ตอบมาว่า "เดี่ยวมีอีกยังเข้าไม่ครบนะ" เเละวันนึงมีสมาชิกใหม่เข้ามา ซึ่งตอนนั้นมีสมาชิกในกลุ่มเเล้ว 10 คน มีคนที่11เข้ามา ด้วยความสงสัยของเรา เราจึงไปถามพี่เลี้ยงไลน์อีกว่า "ในค่ายมีพี่เนียนหรือป่าวครับ" พี่เค้าตอบมาว่า "ไม่มี สมาชิดน้อยขนาดนี้จะมีได้ไง" เเต่เราก็ยังสงสัยอยู่ดี เราเห็น Status Massage ในไลน์เป็นภาษาอังกฤษ 2 ตัว ของสมาชิกใหม่คนนั้น เเละเราก็คุ้นหน้าคนนี้มาก เหมือนติดตามไอจีอยู่ ด้วยความที่ว่าเค้าเคยลงเพจดังเพจนึงของมหาวิทยาลัยนั้น เราเลยลองหา เเละก็เจอจริงๆ เราเลยไปกดไลค์รูปในไอจีพี่เค้ารัวๆๆดู เเละลองเเอดเฟสเค้าไป เเละไม่กี่วิ พี่เค้าทักไลน์เรามาว่า "รู้เเล้วใช่มั้ยครับ ว่าเป็นใคร" จังหวะนั้นทำไรไม่ถูกเลยตอบพี่เนียนเค้าไปว่า "ช่ายยยยย" เเละพี่เค้าก็บอกว่าให้เราเก็บความลับไว้นะ เราก็โอเค จะเก็บไว้จนกว่าจะจบค่าย เเต่ระหว่างช่วงรอไป 1 เดือนนั้น เราคุยกับพี่เค้านั้นเเทบทุกวันเลย มอนิ่ง ฝันดี ทำไรอยู่ กินไรยัง เเละก็คุยเรื่องของกันเเละกัน จนถึงวันค่าย ด้วยความที่ว่าเราก็ไม่มีเพื่อน เเละพี่เค้าก็ไม่มีเพื่อนเพราะเค้าเป็นพี่เนียน เราเลยอยู่กับเค้า เหมือนติดกันเป็น B1 B2 เลย ค่ายมี 4 วัน เเต่ว่าในคืนที่2 เค้าเฉลยพี่เนียนกันเเล้ว ก็งงว่าทำไมถึงเฉลยกันเร็วจัง เพราะปกติเค้าจะเฉลยกันวันสุดท้าย เเต่ก็ไม่เป็นไร ดีจะได้ไม่ปิดความลับเเล้ว เเละพอวันที่3 พี่เนียนเค้าไม่ได้มานั่งรวมกลุ่มเหมือน2วันเเล้ว เราโครตรู้สึกเเปลกๆมาก เเละพอกลางคืนพี่เนียนเค้าหายไป เราก็ไม่รู้ว่าเค้าหายไปไหน เเต่ตอนนั้นโครตรู้สึกเเบบเป็นห่วง รู้สึกเเปลกๆ เลยไลน์ไปถามว่า พี่เค้าอยู่ไหน พี่เค้าบอกว่าไปดูคอนสิร์ต เเละเราเลยถามว่าพี่เค้าจะกลับมาค่ายหรือป่าว พี่เค้าบอกว่า อาจจะไม่ เพราะน่าจะเลิกดึก เราเลยโครตรู้สึกว่าทำไม โครตเเบบเฟลตัวเอง เสียใจ ทำไมไม่อยู่ถึงวันสุดท้าย เเละตอนเกือบตี 1 พี่เค้าไลน์มา บอกว่าคอนเสิร์ตเสร็จเเล้ว เราเริ่มมีความหวังว่าพี่เค้าจะกลับมาน้องค่าย เเต่เค้าบอกว่าคงไม่ได้ไปนอนค่ายเเล้ว ไม่มีรถกลับ คงไปนอนห้องเพื่อนเราเเบบ เสียใจหนักกว่าเดิมอีก เเต่ก็ไม่เป็นไร คิดในเเง่ดีว่าพี่เค้าอาจจะกลับมาตอนเช้า เเต่พอตอนเช้า มันเป็นเช้าวันสุดท้ายเเล้วของค่ายนี้มันเเปลกๆดี ไม่มีพี่เค้า ตื่นมาไม่ได้เเกล้งถ่ายสตอรี่ ตอนพี่เค้าหลับ มันเเปลกๆดี พี่เค้าทักไลน์มาตอนเที่ยง ซึ่งค่ายเลิกตอนเที่ยงครึ่ง ไม่มีทางที่พี่เค้าจะมาทัน เราเลยได้เเต่บอกพี่เค้าว่าไม่เป็นไร เเต่ตามจริงเป็น เป็นมากด้วย ซึ่งตอนนั้นเราเลยว่านั่งทบทวนความรู้สึกตัวเอง ว่าเราทำไมถึงเป็นเเบบนี้กับพี่เค้า เราเลยคิดว่า เราน่าจะชอบพี่เค้าไปเเล้ว
ซึ่งหลังจากจบค่าย เราก็คุยกับพี่เค้าทุกวันเหมือนเดิม เเต่ว่ามันเป็นข้อความที่มันมีความสัมพันธ์ที่มันมีกันมาขึ้น เเละจนเรามันชัดเจนกับตัวเองมาก ว่าเราชอบพี่เค้าเเล้วจริงๆ เราคุยจนวันนึง เรามีเซ้นท์อะไรบางอย่างบอกว่า พี่เค้ามีเเฟนเเล้ว ซึ่งก็จะมีเซ้นท์เเบบนี้เราคุยกับพี่เค้ามาเเล้ว 4-5 เดือนนับจากก่อนค่าย เเละมันเริ่มจะชัดเจนขึ้น เเละเเบบว่า เราควรจะบอกความรู้สึกตัวเองกับพี่เค้า ถึงเเม้ว่าพี่เค้าจะมีเเฟนเเล้ว เเต่ว่าเราก็ยังได้บอกไป ตอนเเรกจะนัดเจอพี่เค้าเเล้วบอก เเต่เวลามันไม่ได้ตรงกันที่จะเจอกันง่ายขนาดนั้น เลยบอกผ่านไลน์ไป พี่เค้าบอกประมาณว่า "ขอบคุณที่มีความรู้สึกดีๆให้กับพี่ โลกนี้มันมีหลายสี ซึ่งเราเป็นสีที่ทำให้พี่เค้าสบายใจ ถึงเเม้ไม่ใช่สีที่เปรียบเหสมือนเเฟนของพี่" เเละเค้าก็บอกให้เรายิ้ม เราเป็นพี่น้องกันได้ ซึ่งตอนนั้นเราคิดว่าเราตัดใจจากพี่เค้าดีมั้ย เเต่สุดท้ายเราก็ทักไปอยู่ดี เราก็คุยกับพี่เค้าเหมือนเดิม เหมือนไม่มีอะไรเกินขึ้น ไม่ได้รับรู้อะไรกับประโยคที่เค้าเหมือนจะบอกว่ามีเเฟนเเล้ว ที่เค้ายังคุยกับเราอาจจะเป็นเพราะว่า เค้าอาจจะมองเราเป็นน้อง เเต่เราไม่เคยมองเค้าเป็นพี่เลย เเละวันนึงพี่เค้าไปออกรายการนึง เรารู้อยู่เเล้วว่าไปออก เราเลยรอดู เเต่พอท้ายรายการเเฟนพี่เค้ามาออกรายการด้วยกัน ให้ดอกไม้กัน ตอนนั้นคือเราไม่ไหวเเล้ว น้ำตามันไหลออกมาเอง เราเลยรู้เลยว่าเรายังคิดกับเค้าเเค่พี่ชายไม่ได้จริงๆ
พอมาวันปัจฉิมของเรา เราลองเเกล้งชวนพี่เค้ามาโรงเรียนเรา ว่ามาปัจฉิมโรงเรียนน้องมั้ย ตอนเเรกเค้าจะไม่มา จนถึงวันปัจฉิมเราลองชวนเเละตื้อเค้าอีกครั้งพี่เค้าเลยยอมมา ตอนนั้นคือดีใจมาก เเละเเบบพอพี่เค้ามาถึงโรงเรียน พูดเลยโครตเขินเลย ทำไรไม่ถูก ถ่ายรูปคู่ก็เขิน เขินกว่าถ่ายกับดาราอีก ซึ่งเราก็ไม่สามารถตัดจากพี่เค้าได้จริง
สุดท้ายนี้เราควรทำไงดี จะอยู่เเบบนี้ คุย ทำทุกอย่างเหมือนปกติ เหมือนที่คุยกันทุกวัน หรือจะตัดใจ ตัดขาดจากเค้าทุกอย่าง ?
ควรตัดขาดหรืออยู่เเบบนี้ต่อไป ความรักระหว่างน้องค่ายกับพี่เนียนค่าย
ซึ่งหลังจากจบค่าย เราก็คุยกับพี่เค้าทุกวันเหมือนเดิม เเต่ว่ามันเป็นข้อความที่มันมีความสัมพันธ์ที่มันมีกันมาขึ้น เเละจนเรามันชัดเจนกับตัวเองมาก ว่าเราชอบพี่เค้าเเล้วจริงๆ เราคุยจนวันนึง เรามีเซ้นท์อะไรบางอย่างบอกว่า พี่เค้ามีเเฟนเเล้ว ซึ่งก็จะมีเซ้นท์เเบบนี้เราคุยกับพี่เค้ามาเเล้ว 4-5 เดือนนับจากก่อนค่าย เเละมันเริ่มจะชัดเจนขึ้น เเละเเบบว่า เราควรจะบอกความรู้สึกตัวเองกับพี่เค้า ถึงเเม้ว่าพี่เค้าจะมีเเฟนเเล้ว เเต่ว่าเราก็ยังได้บอกไป ตอนเเรกจะนัดเจอพี่เค้าเเล้วบอก เเต่เวลามันไม่ได้ตรงกันที่จะเจอกันง่ายขนาดนั้น เลยบอกผ่านไลน์ไป พี่เค้าบอกประมาณว่า "ขอบคุณที่มีความรู้สึกดีๆให้กับพี่ โลกนี้มันมีหลายสี ซึ่งเราเป็นสีที่ทำให้พี่เค้าสบายใจ ถึงเเม้ไม่ใช่สีที่เปรียบเหสมือนเเฟนของพี่" เเละเค้าก็บอกให้เรายิ้ม เราเป็นพี่น้องกันได้ ซึ่งตอนนั้นเราคิดว่าเราตัดใจจากพี่เค้าดีมั้ย เเต่สุดท้ายเราก็ทักไปอยู่ดี เราก็คุยกับพี่เค้าเหมือนเดิม เหมือนไม่มีอะไรเกินขึ้น ไม่ได้รับรู้อะไรกับประโยคที่เค้าเหมือนจะบอกว่ามีเเฟนเเล้ว ที่เค้ายังคุยกับเราอาจจะเป็นเพราะว่า เค้าอาจจะมองเราเป็นน้อง เเต่เราไม่เคยมองเค้าเป็นพี่เลย เเละวันนึงพี่เค้าไปออกรายการนึง เรารู้อยู่เเล้วว่าไปออก เราเลยรอดู เเต่พอท้ายรายการเเฟนพี่เค้ามาออกรายการด้วยกัน ให้ดอกไม้กัน ตอนนั้นคือเราไม่ไหวเเล้ว น้ำตามันไหลออกมาเอง เราเลยรู้เลยว่าเรายังคิดกับเค้าเเค่พี่ชายไม่ได้จริงๆ
พอมาวันปัจฉิมของเรา เราลองเเกล้งชวนพี่เค้ามาโรงเรียนเรา ว่ามาปัจฉิมโรงเรียนน้องมั้ย ตอนเเรกเค้าจะไม่มา จนถึงวันปัจฉิมเราลองชวนเเละตื้อเค้าอีกครั้งพี่เค้าเลยยอมมา ตอนนั้นคือดีใจมาก เเละเเบบพอพี่เค้ามาถึงโรงเรียน พูดเลยโครตเขินเลย ทำไรไม่ถูก ถ่ายรูปคู่ก็เขิน เขินกว่าถ่ายกับดาราอีก ซึ่งเราก็ไม่สามารถตัดจากพี่เค้าได้จริง
สุดท้ายนี้เราควรทำไงดี จะอยู่เเบบนี้ คุย ทำทุกอย่างเหมือนปกติ เหมือนที่คุยกันทุกวัน หรือจะตัดใจ ตัดขาดจากเค้าทุกอย่าง ?