******เตือนสติชาวเม่า ปรับฐานเป็นสิ่งจำเป็นทั้งขาขึ้น ขาลง (อย่าได้แคร์ ?) ******

ภาคหลักการ :

ไม่ว่าจะขาเชียร์ขึ้น หรือ ขาแช่งลง ย่อมมีเหตุผลในตัวเอง
set index เช่นกันย่อมมีเหตุผลในตัวเอง

ว่ากันตามจริงที่ทุกคนรู้อยู่แล้ว (หรือเปล่า)

set เคลื่อนไหวด้วยความโลภซื้อเพื่อเอากำไร และ ก็ขายด้วยความกลัว
กลัวว่า หุ้นที่ตนมีอยู่ไม่ขายจะไม่ได้กำไร หรือจะยิ่งขาดทุนหากถือไว้
จึง ขาย ไม่ว่าจะขาย เท่า ทุน หรือ ขาย ขาด ทุน ก็แล้วแต่ท่านๆ

โดยมีแรงซื้อขายส่วนมาก ที่มาจากมวลชน(Mass) หรือไม่ก็รายใหญ่ ที่ขับเคลื่อนด้วย ความโลภ และความกลัว
และก็มีแรงส่วนน้อย ที่ซื้อขายด้วยเหตุผล จึงเกิดผลลัพท์ต่อตลาดโดยรวม

จึงทำให้ เซต ขึ้นลงไม่เป็นเส้นตรง ซิกแซก ยึกยือไปตามแต่ละช่วงเวลา ผันแปรตามข่าวบ้าง ตลาดอื่นบ้าง บลา ฯลฯ

หากผลว่า set ตอนนี้ ลงไป 50 จุด ก็แน่นอนย่อมเกิดจากขาใหญ๋/มวลชนหมู่มาก ตัดสินใจทำอย่างใดอย่างหนึ่งไปทางเดียวกัน
จึงทำให้ลงหนักกว่าปกติ

แต่ทุกๆการขึ้นลง ก็เป็นธรรมดาอยู่แล้ว ที่จะต้องเจอการปรับฐานใหญ่ กลาง เล็ก
ตีกันแบบเลขกลมๆ ก็ ใหญ่ -100 จุด กลาง -50 จุด เล็กๆ ก็หลัก -10จุด  

แน่นอน เมื่อ set ลงหนัก หุ้นในตลาดที่มีก็เป็นธรรมดาที่จะ ลงหนัก ตามไปด้วย ไม่ใช่หุ้นมันดีหรือไม่ดีนะ
แต่ มันลงเพราะ ขาใหญ่/มวลชน ต่างหาก โอเคอาจจะมีหุ้นบางตัวที่นิ่งสนิท ไม่หวั่นแม้วันมามาก
แต่อย่างน้อยมันก็แสดง ความกลัว ผ่านทาง offer กันบ้าง หรือ อาจเพราะ หุ้นตัวนั้น ไม่มีมวลชนหรือขาใหญ่มาตัดสินใจขายต่างหาก

และก็แน่นอน คำพูดที่ว่า  " ซื้อหุ้นไม่ได้ซื้อ set " นั้นถูกต้อง
แต่อยากจะบอกว่า "ถูกแค่ครึ่งเดียว"
เพราะ ราคาหุ้น มันขึ้นลงไปตาม set ไง
และอย่าลืมว่า ตอนพี่ขาย พี่ต้องเอาราคาตลาดมาขายนะ

หากวันนี้ ตลาดแดง พี่จะขายทำไม ในเมื่อก็รู้อยู่ราคามันจะลดมากกว่าปกติอยู่แล้ว
เว้นแต่ คุณ ทนความกลัวในจิตใจตัวเองไม่ไหว จึง ขาย

ยามที่ตลาดบวก ควรจะเป็นเวลาที่ ขาย มากกว่า
แต่ แปลกแต่จริง ยิ่งลงยิ่งขายกัน


ภาคข้อเท็จจริง :

ทุกๆการขึ้นลง ย่อมมีร่องรอยประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา ให้เรียนรู้และจดจำ แต่บางคนอาจจะไม่นะ
มาดูการขึ้นลง ในรอบ 3 ปีที่ผ่านมากัน จะได้รู้ว่า จะเกิดอะไรหลังจากนั้น

ข้อสรุปในภาพใหญ่

    1. การปรับฐานย่อยๆ เป็นสิ่งจำเป็นของการขึ้นรอบใหญ่ ที่ผ่านมา จะห้ามไม่ให้มันปรับฐานไม่ได้
      * ปรับฐานในระดับสัปดาห์มีขนาด 30 จุด เมื่อลงสุดแล้วผ่านไป 2 สัปดาห์จะกลับมาเท่าเดิมทุกครั้ง
      ไม่เชื่อลองไล่ดูแต่ละแท่งเทียนกันได้

    2. ปรับฐานระดับกลาง ของกราฟ week มีขนาด 60 จุด ใช้เวลาลง 2 สัปดาห์ และอีก 2สัปดาห์จะเด้ง
       rebound แล้วออกข้างไป 3-4 เดือน
       ** ฉะนั้นไม่มีความจำเป็นจะต้องรีบขายภายใน 2 สัปดาห์ หากเกิดการปรับฐานระดับกลาง

    3. set จะวนเวียนทุกๆ 150 จุด ทั้งการขึ้นและพักฐาน แล้วขึ้นต่อ  ไล่มาตั้งแต่ 1,230 จุด มาตั้งนานแล้ว
        ***หากจะมีการปรับฐานจากจุดสูงสุด 1830  ฉะนั้นการปรับฐานเล็ก จะวนๆแถวๆ 1800 และ หากปรับฐานกลาง ก็จะลงมา 1,770

    4.ขณะที่เขียนวันนี้ ลงหนักมาที่ 1,725 หากในสัปดาห์ กลับไปยืนแถวๆ 1,770 ไม่ได้ ให้สันนิษฐานว่า
        "อาจจะ" เกิดการปรับฐานใหญ่ ในระดับสัปดาห์ -100 จุดก็ได้ โดยจะลงไปแตะเส้น 39 week
          หรือหากแปลงเป็นวันก็จะได้ประมาณที่ 200 day ที่ใช้วัดแนวโน้มใหญ่
      ****หากลงไป 200 วันแล้ว เอาไม่อยู่ (TF ในระดับสัปดาห์) มีความเป็นไปได้ว่า
           อาจมีวิกฤต ศก.ที่เราไม่รู้ได้ นั้นคือ หมดรอบขาขึ้นที่ผ่านมา 2 ปีกว่านี้นั้นเอง

ภาคพิจารณา :

    1. มองภาพใหญ่ให้ออกก่อน อย่าเพิ่งผลีพลามทำอะไรลงไป

    2. เมื่อได้ภาพคร่าวๆในใจแล้ว มองภาพเล็กลงมาให้ภาพชัดขึ้นด้วย
       ปัญญาของคุณ ทั้งทางพื้นฐานและเทคนิคอล ใช้มันตอนนี้ อย่าใช้แค่ตอนขาขึ้นอย่างเดียว

    3.จำไว้อย่าลืมว่าในระยะสั้น จงสนใจหุ้นให้มากกว่า set เพราะ set ขึ้นอยู่กับอารมณ์ตลาดจะให้ค่า
       มองเป็นแค่พายุที่พัดผ่าน ให้มันผ่านไป ถ้าหุ้นคุณแข็งแรงพอ จะกลัวอะไร แต่หากไม่แล้ว ให้จำกัดความเสียหายบ้าง อย่าปล่อยให้เสียหายหนักกว่าเดิม

    4. เมื่อเห็นภาพเล็กที่ชัดเจนจนแน่ใจแล้ว คิดให้ถ้วนถี่อีกที ว่าจะซื้อ จะขาย หรือถือ
       ไม่จำเป็นต้องขายวันนี้ พรุ่งนี้ยังมี สัปดาห์หน้ายังมี เดือนหน้ายังมี เงินคุณ หุ้นคุณ คิดให้ดี

/////////////////////////////ด้วยความเป็นห่วง ขอพลังจนสถิตอยู่กับท่าน //////////////////////////////

ปล.ตัวอย่างการมองภาพกลาง และมุมมองของคนในตลาด อ่านได้กระทู้นี้
https://pantip.com/topic/37455498
********Set ณ 12/3/2561 ติดเพดาน 1,800 จุด ควรลดพอร์ทหรือไม่*********
แก้ไขข้อความเมื่อ

คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 23
ดูภาพใหญ่ระดับ week


และ 2 ปีรายวัน ประกอบการพิจารณา

กราฟที่ลงมา ใช้เป็นข้อมูลพิจารณาประกอบการลงทุน/เก็งกำไรนะครับ ไม่ใช่จะฟันธง จะขึ้นจะลง

การที่ใครคนใดคนหนึ่งฟันธง set จะไปตรงนั้น ตรงนี้ นั้น
ผมถือว่า  คนสนใจแต่เปลือก แต่ที่ควรใส่ใจคือ แก่น
การอยู่ในตลาดได้ทุกภาวะตลาด นี่คือแก่น  ไม่ว่า set มันจะขึ้นจะลง

โปรดพิจารณา ครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่