เจ้าแม่จรเะเข้ ตอน2

ขออภัยที่ใช้เวลานานมากๆในการพิมพ์แต่ละครั้ง กลับมาคราวนี้จะพิมพ์ลงเร็วกว่าเดิมเป็นสามเท่า ใครยังไม่ได้อ่านตอนแรกรบกวนเชิญที่

https://pantip.com/topic/37472401/comment44  

ขอขอบคุณผู้อ่านทุกท่านที่เป็นกำลังใจให้นะครับ




นายสายนึกผวาในใจ เจ้าแม่อ่านเท่าทันได้แม้กระทั่งความคิด ทันใดนั้นก็มีเสียงสรวลอย่างชอบใจตามมา

“เป็นอภิญญาณอย่างหนึ่งดอก เรียกว่า เจโตขปริญาณ กำหนดรู้ถึงจิตใจผู้อื่น เอาเถอะ เวลานี้หาใช่เวลามาอธิบายความใดๆไม่ ที่บ้านเจ้าโน่นแน่ะ นางแพรนอนหลับตาไม่ลงคอยสามีคืนเรือนอยู่ บุตรเราก็พลอยเล่นออดอ้อนออเซาะมิยอมนอนไปเสียด้วย จงรีบกลับไปเสีย พญาคำ ปล่อยนายสายลงเถิด”

สิ้นสุดวาจา ร่างของนายสายก็ถูกหย่อนลงจากที่สูงพอเท้าใกล้พื้น ก้อนเนื้อเป็นหนั่นหนานั่นก็คลายตัว ทิ้งตัวนายแสงลงมายืนแตะกับพื้นดิน ส่วนลำตัวหมุนรอบเป็นเกลียวกลับไปบนต้นไม้หดซ่อนในพุ่มใบไม้ เหลือเพียงส่วนหัวยื่นยาวออกมาให้เห็นเพียงลางๆในความมืด

นายสายเป็นคนมีการศึกษาน้อย ถนัดการทำงานใช้แรง แต่หาใช่เป็นคนหัวทื่อ ความคิดหยาบกระด้างไม่ ปะติดปะต่อเรื่องราวสักครู่ก็พอจะรู้ได้ว่าสิ่งมีชีวิตที่ไม่มีขา ตัวยาวใหญ่ เกร็ดเลื่อมมันที่ถูกเรียกว่า “พญาคำ” นี้เพิ่งสกัดชีวิตตนจากการเอาร่างกายเลือดเนื้อพุ่งไปปะทะปลายแหลมของไม้เหลาที่ปักรอทะลวงร่างตนในน้ำ หาใช่ต้องการรัดกระดูกเราให้ปี้ป่นแล้วกลืนกินไปทั้งตัวดุจดั่งสัตว์เลือดเย็นในเผ่าพันธุ์เดียวกัน

สุ้มเสียงเหมือนสบอารมณ์แว่วมาเข้าโสตนายสาย
“ดี สำเหนียกได้เยี่ยงนั้นก็มิเสียแรงแล้ว จงระลึกไว้เถิดว่าพญาคำปกป้องชีวิตเจ้าไว้หนึ่งครั้ง อีกประการหนึ่ง จงรับรู้ไว้ว่า พญาคำตนนี้จะเข้ามาเป็นพี่เลี้ยงพิทักษ์ หยอกเล่นกับบุตรเราสืบต่อไปภายในเพลาอื่น จงอย่าได้นึกหวาดกลัวหรือตระหนกตกใจใดๆ”

นายสายก้มหน้าน้อม ไม่ต้องเอ่ยปากใดๆ เพียงคำตอบรับในใจอีกฝ่ายก็กำหนดรู้ได้

“สุดท้ายนี้นายสาย  จงอย่าได้ลืมเลือนเป็นอันขาด” สุรเสียงเริ่มถอยห่างออกไป “นางพลอย วิญญาณทุกขเวทนาดวงนั้น ปรากฎตัวขึ้นในราตรีนี้ด้วยความห่วงเจ้าจะประสบภัยพิบัติถึงฆาตจากไอ้ผีร้ายหัวขาด วิชชานางนั้นก็หาได้แกร่งกล้า อาศัยพลังญาณที่มีน้อยนิดนั่นต่างหาก จงได้เอ็นดูนางเถิด”

แล้วสัญญาณบางอย่างก็ได้บอกกับนายสายว่า เจ้าแม่ได้ไปจากอาณาบริเวณแห่งนั้นแล้วหลังจากเอ่ยวจีสุดท้าย

เหมือนอำนาจใดดลใจให้นายสายหันกลับไปมองในสวน หญิงสาวในชุดชาวบ้านนั้นยังคงปรากฎกายอยู่ที่เดิม แต่ท่าทีเสื่อมแรงลง ร่ายกายกระเพื่อมเหมือนโทรทัศน์ภาพขาดหายเพราะสัญญาณอ่อน

“ไปเถิด พี่แสง ข้ามคันคูน้ำตรงไปทางนี้เรื่อยก็จะถึงเรือนในไม่ช้า อำนาจจิตข้าใกล้หมดลงแล้วในคืนนี้ ไว้ครั้งหน้าเราคงได้พบกันอีก หวังว่าพี่สายคงไม่รังเกียจข้า”

ไหนๆก็ไหนๆแล้วแล้วนายสายใคร่ถามถึงความเกี่ยวข้องใดๆก็ตามที่เคยมีต่อกันให้รู้เสียตรงนี้เลย แต่หญิงสาวผู้นั้นกลับเร่งรัด

“ข้าจวนเจียนจะหมดพลังที่จะปรากฎตัวต่อหน้าพี่แล้ว จงเร่งรีบไปเดี๋ยวนี้ ไอ้ศพคอขาดนั้นโดนเจ้าแม่สะกดจนหมดฤทธิ์ก็จริง แต่ไอ้เจ้าของสวนคงรู้ด้วยญาณวิถีมันในไม่ช้าเพราะมันแก่กล้าวิชานัก จิตใจมันก็โหดทมิฬ มันกำลังโกธรเกรี้ยวอย่างมากและกำลังจะมาดูในที่นี้ พี่บ่าวหาควรพบปะกับมันไม่ในคืนนี้ รีบไปโดยเร็วก่อนที่มันจะมา”

ร่างกายของหญิงสาวเบื้องหน้าสลายวับไปกับตา แต่ยังเปล่งคำพูดสุดท้ายออกมา

“ไป”

นายสายขนลุกซู่ขึ้นมาอย่างประหลาด ตอนนี้หาได้นึกกลัวภูตผีใดๆไม่แล้วแต่กลับหวั่นเกรงมนุษย์เจ้าของสวนสนคนคลองนี้ ที่สองแม่นางต่างภพ ต่างชั้นบารมีกล่าวถึงขึ้นมากลายๆ หากว่ามีจิตใจเหี้ยมเกรียมถึงกับหั่นคอศพทำพิธีเป็นบริวารรับใช้ รวมถึงปักหลาวทำกับดักรอคนโดดน้ำเห็นที่จะเป็นคนใจคออำมหิตที่ไม่น่ารู้จักมักจี่ด้วย

มีเสียงกิ่งไม้เกรียวกราวใบไม้ร่วงพรู นายสายเงยหน้าขึ้นมอง พญาคำเลี้อยลงมาจากคบไม้มากองตัวขนดบนพื้นให้เห็นร่างอันใหญ่โตมโหฬารราวลำซุงอย่างชัดเจน นายสายตัวชาไปชั่วขณะแล่นแต่แล้วก็กลับมาเป็นปกติ

หัวรูปหลิ่มของพญาคำชูขึ้นส่ายไปมา ดวงตาดำที่มีเพียงสองจุดกลางตาขาวจ้องมองมายังตน มีเสียงฟ่อพ่นออกมาทางจมูกพร้อมกับลิ้นยาวสองแฉกเแผล่บออกมาราวกับจะสื่อสารอะไรบางอย่าง

นายสายงงเล็กน้อยแต่ก็เข้าใจในทันที

“พญาคำพยายามพูดกับเรา”
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่