คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 12
ท่องไว้ครับ.....
เข้มแข็ง
เรียนรู้
ยอมรับผิด
ปรับปรุง
พอเราแข็งแกร่ง คุณจะย้อนกลับไปมองเองว่าเราผ่านมาได้
พอผ่านได้ คุณจะไปทำงานที่ไหนก้อได้ครับ เพราะนี่คือสังคมทำงาน แทบจะเป็นแบบนี้ทุกที่ บางที่องค์กรไม่ดี บางที่นายไม่ดี บางที่ลูกค้าไม่ดี บางที่เพื่อนร่วมงานไม่ดี มันอยู่ที่เราควบคุมได้ไหม
เข้มแข็ง
เรียนรู้
ยอมรับผิด
ปรับปรุง
พอเราแข็งแกร่ง คุณจะย้อนกลับไปมองเองว่าเราผ่านมาได้
พอผ่านได้ คุณจะไปทำงานที่ไหนก้อได้ครับ เพราะนี่คือสังคมทำงาน แทบจะเป็นแบบนี้ทุกที่ บางที่องค์กรไม่ดี บางที่นายไม่ดี บางที่ลูกค้าไม่ดี บางที่เพื่อนร่วมงานไม่ดี มันอยู่ที่เราควบคุมได้ไหม
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 6
เรื่องงาน สำหรับเด็กใหม่นะคะ
ให้คุณทำใจว่า ทุกคนเริ่มงานจากความไม่รู้เท่ากัน
แต่คุณต้องสร้าง กำลังใจ ที่ “พร้อมจะเรียนรู้”
ฉะนั้นเมื่อมีผู้ใหญ่ดุ คุณต้องรีบศึกษาข้อบกพร่องนั้น แล้วตั้งใจอย่างแน่วแน่ว่า
คุณจะไม่ยอมถูกดุในเรื่องเดียวกันนี้ ซ้ำสองเป็นอันขาด
จิตแบบนี้จะเป็นจิตที่มีพลังค่ะ แม้จะยังมีความเศร้า หรือผิดหวังในตัวเองอยู่ หรือจะมีน้ำตาไหลบ้าง
คุณก็จะไม่จมลงไปกับความเศร้าสร้อยนานเกินควรค่ะ
คุณจะเห็นภาพตัวเองปาดน้ำตา มีสีหน้ามุ่งมั่นที่จะพัฒนาตนอย่างต่อเนื่องค่ะ
แต่ทั้งนี้ ใช่ว่าต้องฝืน ต้องกลั้นนะคะ
แค่หยุดคร่ำครวญ เพราะยิ่งคร่ำครวญจิตยิ่งอ่อนแอ
ถ้าน้ำตาไหล ปล่อยมันไหล และดูสภาพจิตใจ ที่อ่อนยวบยาบ พึ่งพิงอะไรไม่ได้
แล้วยอมรับอย่างตรงไปตรงมา ว่าคุณไม่ชอบอาการแบบนี้
เมื่อไม่ปรุงแต่ง ไม่ฟุ้งซ่านเกี่ยวกับอาการเศร้าซึม
จิตใจจะค่อยๆกลับมาเป็นปกติค่ะ
ยิ่งฝึกบ่อยๆ คุณจะแคร์คำพูดคนน้อยลง หันมาใส่ใจความเกิดดับทางจิตมากขึ้น
พอเริ่มชำนาญ คุณจะพบความจริงที่ว่า
จิตใจนี้แหละมันไม่เที่ยง มันถูกปรุงแต่งไปได้เรื่อย เปล่าประโยชน์ที่จะไปให้ค่ามัน
ความเศร้า และ ความสุข ต่างก็ผ่านเข้ามาในจิตใจ เพียงเพื่อจะผ่านไป

ให้คุณทำใจว่า ทุกคนเริ่มงานจากความไม่รู้เท่ากัน
แต่คุณต้องสร้าง กำลังใจ ที่ “พร้อมจะเรียนรู้”
ฉะนั้นเมื่อมีผู้ใหญ่ดุ คุณต้องรีบศึกษาข้อบกพร่องนั้น แล้วตั้งใจอย่างแน่วแน่ว่า
คุณจะไม่ยอมถูกดุในเรื่องเดียวกันนี้ ซ้ำสองเป็นอันขาด
จิตแบบนี้จะเป็นจิตที่มีพลังค่ะ แม้จะยังมีความเศร้า หรือผิดหวังในตัวเองอยู่ หรือจะมีน้ำตาไหลบ้าง
คุณก็จะไม่จมลงไปกับความเศร้าสร้อยนานเกินควรค่ะ
คุณจะเห็นภาพตัวเองปาดน้ำตา มีสีหน้ามุ่งมั่นที่จะพัฒนาตนอย่างต่อเนื่องค่ะ
แต่ทั้งนี้ ใช่ว่าต้องฝืน ต้องกลั้นนะคะ
แค่หยุดคร่ำครวญ เพราะยิ่งคร่ำครวญจิตยิ่งอ่อนแอ
ถ้าน้ำตาไหล ปล่อยมันไหล และดูสภาพจิตใจ ที่อ่อนยวบยาบ พึ่งพิงอะไรไม่ได้
แล้วยอมรับอย่างตรงไปตรงมา ว่าคุณไม่ชอบอาการแบบนี้
เมื่อไม่ปรุงแต่ง ไม่ฟุ้งซ่านเกี่ยวกับอาการเศร้าซึม
จิตใจจะค่อยๆกลับมาเป็นปกติค่ะ
ยิ่งฝึกบ่อยๆ คุณจะแคร์คำพูดคนน้อยลง หันมาใส่ใจความเกิดดับทางจิตมากขึ้น
พอเริ่มชำนาญ คุณจะพบความจริงที่ว่า
จิตใจนี้แหละมันไม่เที่ยง มันถูกปรุงแต่งไปได้เรื่อย เปล่าประโยชน์ที่จะไปให้ค่ามัน
ความเศร้า และ ความสุข ต่างก็ผ่านเข้ามาในจิตใจ เพียงเพื่อจะผ่านไป

แสดงความคิดเห็น
มีวิธีแก้ไม่ให้อ่อนไหวกับคำพูดคนไหมคะ?