ซื้อรถมา 2 ปี เครื่องเสียงรถตรงหน้าจอ Touch Screen มีปัญหากดไม่ได้ แต่ใช้งานผ่านปุ่มตรงพวงมาลัยรถได้
เลยส่งเครมกับทางศูนย์ (ทราบมาว่ารับประกันอุแปกรณ์ 3 ปี) วันส่งเครม พนักงานบอกว่า รอประมาณ 2 เดือน
เราถามว่ามีค่าใช้จ่ายไหม พนักงานตอบว่าไม่มีค่ะ แต่ ถ้าเสียหายจากตัวลูกค้าเองต้องมีค่าใช้จ่าย
เราก็ถามเพิ่มว่า แล้วแบบไหนถึงเสียค่าใช้จ่าย พนักงานแจ้งว่าเช่น ทำน้ำเข้าหน้าจอ ประมาณนี้ (เราก็โล่งใจคิดว่าเครมฟรีแน่นอน)
หลังจากนั้นประมาณ 3 อาทิตย์ มีพนักงานจากศูนย์รถโทรมาแจ้งว่า ต้องมีค่าใช้จ่ายในการซ่อมอยู่ที่ประมาณ 5100 เนื่องจากพบคราบน้ำ หรือน้ำมันที่หน้าจอด้านใน
เราก็ถามกลับว่า ตกลงน้ำหรือน้ำมัน เพราะรถเราใช้คนเดียว ไม่คิดว่าจะมีน้ำเข้าได้ เวลาล้างรถก็เข้าคาร์แคร์ดูดฝุ่น ไม่ได้ล้างเอง และถ้าน้ำมันก็ยิ่งแปลกเพราะไม่น่าจะมีน้ำมันเข้าได้ พนักงานเองก็ไม่แน่ใจ ตอบกลับมาว่า อาจจะเป็นน้ำมันจากห้องเครื่องโดน เราก็งงหนัก แล้วน้ำมันจากห้องเครื่องมาโดนได้ไง เพราะเราเอารถเข้าศูนย์เช็คตลอดไม่เคยเข้าอู่ซ่อมเอง ก็เลยแจ้งพนักงานไปว่าไม่ซ่อมนะคะ เพราะมันแพงมากเกิน
ด้วยความสงสัยในสาเหตุ จึงโทรหาคอลเซนเตอร์ของรถยนต์ยี่ห้อนี้ สอบถามสาเหตุที่แท้จริงว่าเกิดจากอะไร
พนักงานแจ้งว่าเค้าตอบไม่ได้ เพราะส่งซ่อมกับบริษัทของเครื่องเสียงโดยตรง แต่จะตามเรื่องให้ พนักงานเลยถามรายละเอียดทั้งหมดและแจ้งว่าจะติดต่อกลับมาแจ้ง
สักพักมีพนักงานอีกคนโทรมา แจ้งว่าจากคอลเซนเตอร์ของรถยนต์ยี่ห้อนี้ และแจ้งสาเหตุมาว่า หน้าจอ Touch Screen เสียหาย เพราะพบคราบน้ำหอมติดอยู่ เราถามซ้ำ น้ำหอมเหรอคะ พนักงานย้ำกลับมาหลายรอบว่าน้ำหอม ( เฮ้ออออ ถ้าบอกว่าเป็นคราบน้ำยาทำความสะอาดคอนโซนก็ยังจะเชื่อมากกว่า)
ก็เลยแจ้งพนักงานว่า ไม่น่าจะใช่น้าหอมนะคะ พนักงานย้ำกลับมาอีกว่า น้ำหอมแน่นอนครับ อาจจะเป็นน้ำหอมเวลาทีฉีดใส่ตัวแล้วฟุ้งในรถ (เฮ้ออรอบ 2 ยังกับมีกล้องวงจรปิดในรถเลย) เราก็แจ้งพนักงานว่า ที่บ้านเป็นภูมิแพ้ทั้งบ้านค่ะ ตัวเราเองแพ้น้ำหอม ไม่เคยใช้เลย เพราะเวลาได้กลิ่นจะปวดหัวมาก และรถคันนี้เราเป็นคนขับเพียงคนเดียว ไม่เคยมีใครเข้ามาฉีดน้ำหอมในรถหรอกเพราะเราแพ้ น้ำยาปรับอากาศในรถยังไม่ใช้เลย (คาร์แคร์ก็ก็บอกเค้าทุกครั้งว่าไม่ต้องฉีดน้ำยาปรับอากาศเพราะเราแพ้) แล้วจะเป็นน้ำหอมได้ยังไง พนักงานก็ตอบกลับมาว่า สาเหตุที่น้ำหอมเข้ามาได้ยังไงผมไม่ทราบนะครับลูกค้าต้องหาสาเหตุเอง (เออ นั่นซินะเค้าจะรู้ได้ไง นึกว่ามีวงจรปิดในรถซะอีก) เฮ้อออยาวไป
เราก็ถามว่าตกลงยังไงก็เครมไม่ได้ ถ้าจะซ่อมต้องเสียเงินใช่ไหมคะ พนักงานตอบว่าครับ (โอเคจบ แบบงงๆ)
ก็ยังงงตัวเองว่าแอบละเมือเอาน้ำหอมเข้ามาฉีดเล่นในรถหรือเปล่า แล้วเอาน้ำหอมจากไหน ในบ้านไม่มีสักขวด ทำอะไรไมไ่ด้ คงต้องเอากลับมาติดประดับรถ แต่ใช้งานไม่ได้ต่อไป
[CR] เอาเครื่องเสียงรถยนต์ยี่ห้อหนึ่งไปเครม แต่ต้องจ่ายเพิ่ม 5100 กับเหตุผลที่หาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้
เลยส่งเครมกับทางศูนย์ (ทราบมาว่ารับประกันอุแปกรณ์ 3 ปี) วันส่งเครม พนักงานบอกว่า รอประมาณ 2 เดือน
เราถามว่ามีค่าใช้จ่ายไหม พนักงานตอบว่าไม่มีค่ะ แต่ ถ้าเสียหายจากตัวลูกค้าเองต้องมีค่าใช้จ่าย
เราก็ถามเพิ่มว่า แล้วแบบไหนถึงเสียค่าใช้จ่าย พนักงานแจ้งว่าเช่น ทำน้ำเข้าหน้าจอ ประมาณนี้ (เราก็โล่งใจคิดว่าเครมฟรีแน่นอน)
หลังจากนั้นประมาณ 3 อาทิตย์ มีพนักงานจากศูนย์รถโทรมาแจ้งว่า ต้องมีค่าใช้จ่ายในการซ่อมอยู่ที่ประมาณ 5100 เนื่องจากพบคราบน้ำ หรือน้ำมันที่หน้าจอด้านใน
เราก็ถามกลับว่า ตกลงน้ำหรือน้ำมัน เพราะรถเราใช้คนเดียว ไม่คิดว่าจะมีน้ำเข้าได้ เวลาล้างรถก็เข้าคาร์แคร์ดูดฝุ่น ไม่ได้ล้างเอง และถ้าน้ำมันก็ยิ่งแปลกเพราะไม่น่าจะมีน้ำมันเข้าได้ พนักงานเองก็ไม่แน่ใจ ตอบกลับมาว่า อาจจะเป็นน้ำมันจากห้องเครื่องโดน เราก็งงหนัก แล้วน้ำมันจากห้องเครื่องมาโดนได้ไง เพราะเราเอารถเข้าศูนย์เช็คตลอดไม่เคยเข้าอู่ซ่อมเอง ก็เลยแจ้งพนักงานไปว่าไม่ซ่อมนะคะ เพราะมันแพงมากเกิน
ด้วยความสงสัยในสาเหตุ จึงโทรหาคอลเซนเตอร์ของรถยนต์ยี่ห้อนี้ สอบถามสาเหตุที่แท้จริงว่าเกิดจากอะไร
พนักงานแจ้งว่าเค้าตอบไม่ได้ เพราะส่งซ่อมกับบริษัทของเครื่องเสียงโดยตรง แต่จะตามเรื่องให้ พนักงานเลยถามรายละเอียดทั้งหมดและแจ้งว่าจะติดต่อกลับมาแจ้ง
สักพักมีพนักงานอีกคนโทรมา แจ้งว่าจากคอลเซนเตอร์ของรถยนต์ยี่ห้อนี้ และแจ้งสาเหตุมาว่า หน้าจอ Touch Screen เสียหาย เพราะพบคราบน้ำหอมติดอยู่ เราถามซ้ำ น้ำหอมเหรอคะ พนักงานย้ำกลับมาหลายรอบว่าน้ำหอม ( เฮ้ออออ ถ้าบอกว่าเป็นคราบน้ำยาทำความสะอาดคอนโซนก็ยังจะเชื่อมากกว่า)
ก็เลยแจ้งพนักงานว่า ไม่น่าจะใช่น้าหอมนะคะ พนักงานย้ำกลับมาอีกว่า น้ำหอมแน่นอนครับ อาจจะเป็นน้ำหอมเวลาทีฉีดใส่ตัวแล้วฟุ้งในรถ (เฮ้ออรอบ 2 ยังกับมีกล้องวงจรปิดในรถเลย) เราก็แจ้งพนักงานว่า ที่บ้านเป็นภูมิแพ้ทั้งบ้านค่ะ ตัวเราเองแพ้น้ำหอม ไม่เคยใช้เลย เพราะเวลาได้กลิ่นจะปวดหัวมาก และรถคันนี้เราเป็นคนขับเพียงคนเดียว ไม่เคยมีใครเข้ามาฉีดน้ำหอมในรถหรอกเพราะเราแพ้ น้ำยาปรับอากาศในรถยังไม่ใช้เลย (คาร์แคร์ก็ก็บอกเค้าทุกครั้งว่าไม่ต้องฉีดน้ำยาปรับอากาศเพราะเราแพ้) แล้วจะเป็นน้ำหอมได้ยังไง พนักงานก็ตอบกลับมาว่า สาเหตุที่น้ำหอมเข้ามาได้ยังไงผมไม่ทราบนะครับลูกค้าต้องหาสาเหตุเอง (เออ นั่นซินะเค้าจะรู้ได้ไง นึกว่ามีวงจรปิดในรถซะอีก) เฮ้อออยาวไป
เราก็ถามว่าตกลงยังไงก็เครมไม่ได้ ถ้าจะซ่อมต้องเสียเงินใช่ไหมคะ พนักงานตอบว่าครับ (โอเคจบ แบบงงๆ)
ก็ยังงงตัวเองว่าแอบละเมือเอาน้ำหอมเข้ามาฉีดเล่นในรถหรือเปล่า แล้วเอาน้ำหอมจากไหน ในบ้านไม่มีสักขวด ทำอะไรไมไ่ด้ คงต้องเอากลับมาติดประดับรถ แต่ใช้งานไม่ได้ต่อไป