ราวๆต้นเดือน11 ผมเข้าไปดักเล่นรีบาวน์หุ้นตัวนึง ที่มีข่าวเกียวกับตู้เติมเงิน รอบแรกได้กำไรงามออกมา รับคืนอีกรอบ แต่มันไม่ไป ต้องคัททิ้ง เลยไปส่องหาเหตุผลของมัน จึงได้ทราบว่าผู้บริหารตัดขาดทุนขายธุรกิจ ตู้เติมเงิน ทิ้งให้กลุ่มเสี่ยท่านนึง จึงมองหาเหตุผล ว่าเขาทิ้งธุรกิจที่ปั้นมากับมือทำไม
คำตอบที่ได้คือธุรกิจตู้เติมเงิน กำลังจะเจอคู่แข่ง ทีใช้เทคโนโลยี่+การจัดการทีดีจากจีน คนไทยยังไม่รู้ตัวกันหรอก แต่ผู้บริหารท่านนี้ ก็คนจีน สนิทกับคนจีนที่นั้น ตู้เติมเงิน ผมก็เชื่อว่านำเข้าความคิดมาจากจีน แต่มันเกิดสิ่งใหม่ และแสดงผลสุดท้ายให้เห็นแล้วในจีน เขาจึงเลือกขายทิ้งธุรกิจนี้ ให้เสี่ยกับพวกที่ยังมองไม่ออกรับไป
ตอนนั้น ตู้เติมเงินค่ายหลัก ของไทย กำลังรุ่งทำนิวไฮ อยู่ที่แถว 20 บาท มองเห็นแล้วว่า หุ้นตัวนี้ต้องลงแน่ๆ และตอนมันลง ก็คันปากอยากจะโพสเตือนหลายรอบ แต่สุดท้าย ก็เก็บปากเก็บคำไม่พูด คนในตลาดหุ้นเก่งๆทั้งนั้น เขาคิดเองได้ พูดมากเดียวก็จะเจอเกรียนให้รำคาณใจ
หลังจากนั้น มองทีไร ราคาก็ไหลลงมาเรื่อยๆ ตอนนี้เหลือ10บาทแล้ว บริษัทยิงข่าว จะซื้อหุ้นคืน มองจากกราฟแล้ว พวกเก่งๆ หรืออวดเก่ง คงคัทหุ้นขาดทุนทิ้งไปหมดแล้ว
ตอนนี้ และต่อไป คนที่จะรับหุ้น มีแต่พวกเม่ามือใหม่ ไม่มีประสพการณ์ เท่านั้น เห็นของถูกเข้าไปรับถ้วมากขึ้น จะพาลขาดทุนหนักเอาได้
ของถูกไม่ใช่ของดี ของดีมันต้องไม่ถูก
(ด้วยข่าวการซื้อหุ้นคืน ซึ่งจะซื้อคืนจริง คงทำให้ราคา มีการสู้ มีการทำราคารีบาวน์สวยๆได้ สักระยะใหญ่ๆ ) แต่แนวโน้มใหญ่มันคือลง ที่ว่าลงมาแล้ว ถูกแล้ว ในไม่ช้ามันจะซึมลงไปอีก
ไม่ต้องเขื่อสิ่งที่ผมพูด แต่ฟังแล้ว ลองเอาไปคิดดู และไปลองเสริทดูว่า พวกอาลีบาบา ฯลฯ พัฒนาธุรกรรมทางการเงินบนมือถือไปขนาดไหนแล้ว
ถ้าต้องไปกดเติมเงินที่ตู้กับ กดจากมือถือของตัวเอง คนจะเลือก กดจากทางไหน
การเปลียนแปลงนี้ ส่งผลกระทบกว้างมากๆ มีธุรกิจ ที่ตอบรับกระแสใหม่ จะเติบโตไปได้มาก
และมีธุรกิจเดิม ที่สู้กระแสใหม่ไม่ได้ จะใกล้อัสดงลงไป (ถ้าเขาไม่สามารถปรับตัวฉีกแนวไป ทำธุรกิจด้านอื่น แทนการเงินได้)
แอ๊กชั่นจากกลุ่มธนาคาร มีให้เห็นแล้ว พวกเขาตัดรายได้ค่าธรรมเนียม ซึ่งเป็นรายได้หลักของตัวเอง ก็มีเหตุผล
พวกธุรกิจออนไลน์ ทั้ง lasada shopee kaidee ตลาดสารพัด ตลาด งัดกลยุทธมาสู้กัน แข่งกันขาดทุนแบบสุดฤทธิ์ ก็เพื่อแย่งเป็นเจ้าตลาดให้ได้ ก็มีเหตุผล
มองไปรอบๆตัว แบบเปิดกว้าง จะเห็นภาพได้เองว่าอะไร จะเกิดขึ้น อย่าปิดตัวเอง อย่ามองแค่แคบๆโลกไม่ใช่แค่ประเทศไทย แต่มันเชื่อมต่อกันไปหมด ทั้งโลก
แนวโน้มธุรกิจตู้เติมเงิน
คำตอบที่ได้คือธุรกิจตู้เติมเงิน กำลังจะเจอคู่แข่ง ทีใช้เทคโนโลยี่+การจัดการทีดีจากจีน คนไทยยังไม่รู้ตัวกันหรอก แต่ผู้บริหารท่านนี้ ก็คนจีน สนิทกับคนจีนที่นั้น ตู้เติมเงิน ผมก็เชื่อว่านำเข้าความคิดมาจากจีน แต่มันเกิดสิ่งใหม่ และแสดงผลสุดท้ายให้เห็นแล้วในจีน เขาจึงเลือกขายทิ้งธุรกิจนี้ ให้เสี่ยกับพวกที่ยังมองไม่ออกรับไป
ตอนนั้น ตู้เติมเงินค่ายหลัก ของไทย กำลังรุ่งทำนิวไฮ อยู่ที่แถว 20 บาท มองเห็นแล้วว่า หุ้นตัวนี้ต้องลงแน่ๆ และตอนมันลง ก็คันปากอยากจะโพสเตือนหลายรอบ แต่สุดท้าย ก็เก็บปากเก็บคำไม่พูด คนในตลาดหุ้นเก่งๆทั้งนั้น เขาคิดเองได้ พูดมากเดียวก็จะเจอเกรียนให้รำคาณใจ
หลังจากนั้น มองทีไร ราคาก็ไหลลงมาเรื่อยๆ ตอนนี้เหลือ10บาทแล้ว บริษัทยิงข่าว จะซื้อหุ้นคืน มองจากกราฟแล้ว พวกเก่งๆ หรืออวดเก่ง คงคัทหุ้นขาดทุนทิ้งไปหมดแล้ว
ตอนนี้ และต่อไป คนที่จะรับหุ้น มีแต่พวกเม่ามือใหม่ ไม่มีประสพการณ์ เท่านั้น เห็นของถูกเข้าไปรับถ้วมากขึ้น จะพาลขาดทุนหนักเอาได้
ของถูกไม่ใช่ของดี ของดีมันต้องไม่ถูก
(ด้วยข่าวการซื้อหุ้นคืน ซึ่งจะซื้อคืนจริง คงทำให้ราคา มีการสู้ มีการทำราคารีบาวน์สวยๆได้ สักระยะใหญ่ๆ ) แต่แนวโน้มใหญ่มันคือลง ที่ว่าลงมาแล้ว ถูกแล้ว ในไม่ช้ามันจะซึมลงไปอีก
ไม่ต้องเขื่อสิ่งที่ผมพูด แต่ฟังแล้ว ลองเอาไปคิดดู และไปลองเสริทดูว่า พวกอาลีบาบา ฯลฯ พัฒนาธุรกรรมทางการเงินบนมือถือไปขนาดไหนแล้ว
ถ้าต้องไปกดเติมเงินที่ตู้กับ กดจากมือถือของตัวเอง คนจะเลือก กดจากทางไหน
การเปลียนแปลงนี้ ส่งผลกระทบกว้างมากๆ มีธุรกิจ ที่ตอบรับกระแสใหม่ จะเติบโตไปได้มาก
และมีธุรกิจเดิม ที่สู้กระแสใหม่ไม่ได้ จะใกล้อัสดงลงไป (ถ้าเขาไม่สามารถปรับตัวฉีกแนวไป ทำธุรกิจด้านอื่น แทนการเงินได้)
แอ๊กชั่นจากกลุ่มธนาคาร มีให้เห็นแล้ว พวกเขาตัดรายได้ค่าธรรมเนียม ซึ่งเป็นรายได้หลักของตัวเอง ก็มีเหตุผล
พวกธุรกิจออนไลน์ ทั้ง lasada shopee kaidee ตลาดสารพัด ตลาด งัดกลยุทธมาสู้กัน แข่งกันขาดทุนแบบสุดฤทธิ์ ก็เพื่อแย่งเป็นเจ้าตลาดให้ได้ ก็มีเหตุผล
มองไปรอบๆตัว แบบเปิดกว้าง จะเห็นภาพได้เองว่าอะไร จะเกิดขึ้น อย่าปิดตัวเอง อย่ามองแค่แคบๆโลกไม่ใช่แค่ประเทศไทย แต่มันเชื่อมต่อกันไปหมด ทั้งโลก