ผมต้องขอท้าวความก่อนว่า ก่อนหน้าที่จะเกิดปัญหา ที่บ้านของผมได้เปิดร้านขายซาลาเปาเมื่อเดือนพฤษภาคม ปี59 ที่ร้านก็จะมีพวกอุปกรณ์นวดแป้ง/ตู้แช่แข็ง และพวกของใช้ในบ้านเช่น ตู้เย็น/ไมโครเวฟและRouter wifi แต่ไม่นานแม่ก็ได้ย้ายไปเปิดร้านที่ตัวเมืองเมื่อเดือนพฤษภาคม ปี60 ที่บ้านก็จะเหลือของใช้ในบ้านแค่ไม่กี่อย่าง และผมก็อยู่บ้านแค่คนเดียว โดยส่วนใหญ่เวลาผมอยู่บ้านผมก็อยู่แต่ในห้องนอน ไม่ค่อยได้ใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าอื่นใดเลย....
จนกระทั้งผมมาสังเกตเห็นสิ่งผิดปกติ ตอนแรกผมคิดว่าคงเพราะพึ่งย้ายของออกค่าไฟมันก็เลยยังสูงอยู่ (ปกติจะอยู่ที่ราวๆ 900+ - 1,200บาท) แต่พอผ่านไป1เดือน ค่าไฟมันก็ยังคงสูงอยู่แต่ลดลงมาเหลือ 700กว่าบาท ผมจึงได้เข้าไปแจ้งที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค อ.แม่ฟ้าหลวง ในเดือนสิงหาคม 2560 แต่ทางเจ้าหน้าที่กลับบอกผมว่า เพราะตู้เย็นใส่ของเยอะรึเปล่าค่ะ/ที่บ้านมีแอร์ไหม/มีเครื่องทำน้ำอุ่นรึเปล่า/ ในใจผมตอนนั้นคือผมบอกไปแล้วว่าผมอยู่คนเดียวและที่บ้านไม่มีอะไรเลยนอกจากตู้เย็นที่ยังคงใช้งานอยู่ เวลานั้นพนักงานที่รับเรื่องทำสีหน้าไม่เชื่อและบอกให้ผมลองลดการใช้ไฟดู วันนั้นผมกลับมาถึงบ้านด้วยอารมณ์งุดหงิดมากครับ หลังจากนั้นก่อนออกจากบ้านผมจะถอดปลั๊กตู้เย็นและRouter wifiออกดูเผื่อค่าไฟจะได้ลดลง.....แล้วมันก็ลดจริงๆครับลดจาก700+เหลือ680บาท แม่เจ้า!!?ลดไปตั้ง20-50บาทแหนะ พอเห็นว่ามันลดลงผมเลยเปลี่ยนมาเป็นสับสวิทต์คัตเอ้าท์ลงเพื่อตัดไฟทั้งบ้าน ผมใช้วิธีนี้1เดือน...........ผลสรุปออกมาว่าค่าไฟนั้นไม่ได้ลดลงเลยแม้แต่บาทเดียว.......แถมขึ้นมาอีกตั้ง8บาท
พอมาถึงวันที่16เดือนกันยายน 2560 ผมได้กลับไปแจ้งกับการไฟฟ้าที่เดิมอีกครั้งและครั้งนี้มันทำให้ผมรู้สึกว่าพนักงานไม่ใส่ใจลูกค้าและยังมีมารยาทที่แย่เอามากๆ
ตอนผมแจ้งเรื่องที่เค้าเตอร์พนักก็บอกให้ผมไปนั่งรอที่โต๊ะรับเรื่อง(ผมจำชื่อพนักงานที่รับเรื่องไม่ได้) พอพนักงานมาก็ถามเบอร์โทรและถามผมว่ามาแจ่งเรื่องอะไร ผมจึงได้อธิบายเรื่องทั้งหมดให้ฟังแต่พนักงานคนนั้นกลับบอกผมด้วยประโยคเดิมๆ ผมจึงบอกเธอด้วยสีหน้าจริงจังว่าผมอยู่คนเดียวและก็มีแค่ตู้เย็นเท่านั้นที่ยังใช้งานอยู่ เธอจึงได้ให้เอกสารผมมา3-4แผ่นและอธิบายเรื่องหน่วยค่าไฟ เธอนั่งพูดอยู่นานจนผมบอกเธอไปอีกครั้งว่าผมไม่ได้ใช้ไฟเปลืองขนาดนั้นนะ เธอคงจะหมดความอดทนเลยตะโดนเรียกพนักงานคนอื่นให้มารุมบอกผมหน่อยว่า "ผมเนี่ยใช้ไฟเท่ากับบ้านเธอเลยเนี่ย ทำไมน้องเขาไม่เข้าใจช่วยบอกน้องเขาหน่อยสิ และยังบอกอีกว่าถ้าไฟมันรั่วมันคงไม่ใช่แค่6-7ร้อยแบบนี้" ผมขายหน้ามากเลยเดินออกมาพร้อมกับหยิบเอกสารติดมือมาด้วย
หลังจากนั้นผมก็ยังคงเอาคัตเอ้าลงเหมือนเดิมแต่ครั้งนี้ผมเดินไปดูที่หม้อนอกตัวบ้าน วินาทีแรกที่ผมเห็นคือหม้อมันยังคงวิ่งอยู่และตัวเลขก็ยังคงขยับไม่ได้หยุดนิ่ง และครั้งนี้ผมมั่นใจแล้วว่าไฟรั่วแน่นอนผมจึงรอให้เจ้าที่ที่มาออกบิลค่าไฟมาที่บ้าน พอเขามาถึงผมก็เรียกให้มาดูว่าหลังจากที่ผมเอาคัตเอ้าท์ลงนั้นหม้อมันก็ยังคงวิ่งอยู่ พี่เขาถึงได้เดินเรื่องให้........นี้ถ้าผมไม่รอเจอพี่เขาผมคงต้องจ่ายค่าไฟที่ไม่ได้ใช้ไปอีกนานเลย..........
การบริการของการไฟฟ้าสมัยนี้....
จนกระทั้งผมมาสังเกตเห็นสิ่งผิดปกติ ตอนแรกผมคิดว่าคงเพราะพึ่งย้ายของออกค่าไฟมันก็เลยยังสูงอยู่ (ปกติจะอยู่ที่ราวๆ 900+ - 1,200บาท) แต่พอผ่านไป1เดือน ค่าไฟมันก็ยังคงสูงอยู่แต่ลดลงมาเหลือ 700กว่าบาท ผมจึงได้เข้าไปแจ้งที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค อ.แม่ฟ้าหลวง ในเดือนสิงหาคม 2560 แต่ทางเจ้าหน้าที่กลับบอกผมว่า เพราะตู้เย็นใส่ของเยอะรึเปล่าค่ะ/ที่บ้านมีแอร์ไหม/มีเครื่องทำน้ำอุ่นรึเปล่า/ ในใจผมตอนนั้นคือผมบอกไปแล้วว่าผมอยู่คนเดียวและที่บ้านไม่มีอะไรเลยนอกจากตู้เย็นที่ยังคงใช้งานอยู่ เวลานั้นพนักงานที่รับเรื่องทำสีหน้าไม่เชื่อและบอกให้ผมลองลดการใช้ไฟดู วันนั้นผมกลับมาถึงบ้านด้วยอารมณ์งุดหงิดมากครับ หลังจากนั้นก่อนออกจากบ้านผมจะถอดปลั๊กตู้เย็นและRouter wifiออกดูเผื่อค่าไฟจะได้ลดลง.....แล้วมันก็ลดจริงๆครับลดจาก700+เหลือ680บาท แม่เจ้า!!?ลดไปตั้ง20-50บาทแหนะ พอเห็นว่ามันลดลงผมเลยเปลี่ยนมาเป็นสับสวิทต์คัตเอ้าท์ลงเพื่อตัดไฟทั้งบ้าน ผมใช้วิธีนี้1เดือน...........ผลสรุปออกมาว่าค่าไฟนั้นไม่ได้ลดลงเลยแม้แต่บาทเดียว.......แถมขึ้นมาอีกตั้ง8บาท
พอมาถึงวันที่16เดือนกันยายน 2560 ผมได้กลับไปแจ้งกับการไฟฟ้าที่เดิมอีกครั้งและครั้งนี้มันทำให้ผมรู้สึกว่าพนักงานไม่ใส่ใจลูกค้าและยังมีมารยาทที่แย่เอามากๆ
ตอนผมแจ้งเรื่องที่เค้าเตอร์พนักก็บอกให้ผมไปนั่งรอที่โต๊ะรับเรื่อง(ผมจำชื่อพนักงานที่รับเรื่องไม่ได้) พอพนักงานมาก็ถามเบอร์โทรและถามผมว่ามาแจ่งเรื่องอะไร ผมจึงได้อธิบายเรื่องทั้งหมดให้ฟังแต่พนักงานคนนั้นกลับบอกผมด้วยประโยคเดิมๆ ผมจึงบอกเธอด้วยสีหน้าจริงจังว่าผมอยู่คนเดียวและก็มีแค่ตู้เย็นเท่านั้นที่ยังใช้งานอยู่ เธอจึงได้ให้เอกสารผมมา3-4แผ่นและอธิบายเรื่องหน่วยค่าไฟ เธอนั่งพูดอยู่นานจนผมบอกเธอไปอีกครั้งว่าผมไม่ได้ใช้ไฟเปลืองขนาดนั้นนะ เธอคงจะหมดความอดทนเลยตะโดนเรียกพนักงานคนอื่นให้มารุมบอกผมหน่อยว่า "ผมเนี่ยใช้ไฟเท่ากับบ้านเธอเลยเนี่ย ทำไมน้องเขาไม่เข้าใจช่วยบอกน้องเขาหน่อยสิ และยังบอกอีกว่าถ้าไฟมันรั่วมันคงไม่ใช่แค่6-7ร้อยแบบนี้" ผมขายหน้ามากเลยเดินออกมาพร้อมกับหยิบเอกสารติดมือมาด้วย
หลังจากนั้นผมก็ยังคงเอาคัตเอ้าลงเหมือนเดิมแต่ครั้งนี้ผมเดินไปดูที่หม้อนอกตัวบ้าน วินาทีแรกที่ผมเห็นคือหม้อมันยังคงวิ่งอยู่และตัวเลขก็ยังคงขยับไม่ได้หยุดนิ่ง และครั้งนี้ผมมั่นใจแล้วว่าไฟรั่วแน่นอนผมจึงรอให้เจ้าที่ที่มาออกบิลค่าไฟมาที่บ้าน พอเขามาถึงผมก็เรียกให้มาดูว่าหลังจากที่ผมเอาคัตเอ้าท์ลงนั้นหม้อมันก็ยังคงวิ่งอยู่ พี่เขาถึงได้เดินเรื่องให้........นี้ถ้าผมไม่รอเจอพี่เขาผมคงต้องจ่ายค่าไฟที่ไม่ได้ใช้ไปอีกนานเลย..........