ถึงคุณน้ำมิตร ที่น่ารักค่ะ
ยินดีต้อนรับคุณน้ำมิตรสู่การเป็นเกษตรกรและเจริญรอยตามแนวพระราชดำริการใช้ชีวิตอย่างพอเพียง ดีใจกับคุณน้ำด้วยจริงๆนะคะที่จะมาผันตัวเองมาเป็นเกษตรกรในอนาคตอันใกล้นี้ และที่ดินแถวๆเพชรบูรณ์ก็ล้วนแล้วแต่เป็นที่ดินแปลงสวยๆ วิวดี อากาศดีทั้งนั้น นั่นทำให้นิดนั่งวาดวิมานในกระดานแก้ว มโนไปถึงวันที่พวกเราเหล่าเพื่อนๆจะได้รับเกียรติถูกเชิญจากคุณน้ำไปเที่ยวที่ไร่ “น้ำมิตร” ในช่วงหน้าหนาวที่เพชรบูรณ์แล้ว มันช่างตื่นเต้นเสียจริง ... ว๊าววว
และถ้าวันไหนคุณน้ำจะไปดูที่อีก อย่าลืมโทรมาชวนนิดด้วยนะคะ ถ้าจัดเวลาได้ตรงกัน นิดจะไปเป็นเพื่อนคุณน้ำ จะขับรถให้ฟรีด้วยเอ้า... นิดขับรถเก่งน้าและรู้เส้นทางเป็นอย่างดีด้วยล่ะ
หลายเดือนแล้วที่นิดไม่ได้ไปเพชรบูรณ์ แต่ที่ผ่านมานิดก็เห็นเค้าปลูกข้าวโพดตามเชิงเขา หรือปลูกหัวผักกาด หรือไม่ก็สับปะรด เป็นส่วนใหญ่
การทำเกษตรเป็นงานหนักและเป็นเรื่องยากมาก ถ้าเราทำเกษตรเชิงเดี่ยวแบบดั้งเดิมนิดแทบจะมองไม่เห็นอนาคตเอาซะเลยค่ะ ทุกวันนี้เกษตรกรรุ่นใหม่ จึงหันมาทำเกษตรเชิงผสมหรือเชิงลึกกัน
นิดมีผู้ใต้บังคับบัญชาคนหนึ่ง อายุ 62ปีแล้ว มาขอลาออกจะไปเป็นเกษตรกร แกมีที่เพียงแค่ 10 ไร่ที่กำแพงเพชร แต่ทำเกษตรตามแนวเศรษฐกิจพอเพียงและตอนนี้กำลังไปได้ดี แกเล่าให้ฟังอย่างภูมิใจว่าตอนนี้มีความสุขอยู่กับไร่นาสวนผสม แกปลูกนั่นนิดนี่หน่อย มีต้นผักหวาน กล้วย มะขามป้อม ชะอม มะม่วง พืชผักสวนครัว เลี้ยงปลาตะเพียน ปลาหมอนา ปลาดุก ตามร่องน้ำในแปลงเกษตร เลี้ยงหมู 5 ตัวเพื่อจะเอาขี้หมูไว้ทำปุ๋ยอินทรีย์ให้พืชผัก เลี้ยงมดแดงไว้กินไข่ เพาะเห็ดโคนไว้ตามโคนต้นมะม่วง เลี้ยงไก่ เลี้ยงเป็ด เลี้ยงห่านไว้เฝ้านา โอยสารพัดที่แกจะสาธยาย นิดก็ได้แต่ทำตาปริบๆนั่งฟังแกเล่า และมีข้อสงสัย
“ลุงคะ แล้วมันจะก่อให้เกิดรายได้พอยังชีพหรือคะ นิดไม่ได้ดูถูกนะคะแต่นิดสงสัยเพราะมองไม่เห็นว่าลุงจะมีอะไรขายได้เป็นชิ้นเป็นอัน?”
“นู๋นิดเอ๊ย ถ้าเรามุ่งทำเกษตรเพื่อหวังจะรวย ต่อให้ทำอีก 10 ปีก็ไม่รวยหรอก แต่ถามว่าพอยังชีพไหม พอนะแถมขายนั่นขายนี่ขายเล่นไปเล่นมาวันหนึ่งๆได้เงินเข้าบ้านสี่ห้าร้อยบาทเลยนะเป็นรายได้สุทธิที่ไม่ต้องหักอะไรเลย”
“ฮ้า ...แบบนี้ก็รวยน่ะสิ แล้วลุงขายอะไรล่ะคะถึงได้เงินวันละมากขนาดนั้น”
แกยิ้มอย่างมีความสุขแล้วบอกว่า
“รวยรึป่าวไม่รู้ ความรวยความจนมันอยู่ที่ใจเราพอหรือไม่ก็เท่านั้นแหละนู๋นิด แต่ถ้าถามว่าเหนื่อยไหม เหนื่อยแน่ๆล่ะ ไม่มีงานอะไรที่ทำแล้วไม่เหนื่อย แต่ความสุขที่ได้นี่สิ โครตจะมีความสุขเลย”
“คุณลุงคะ ช่วยตอบให้ตรงคำถามนู๋หน่อยค่ะ”
“อ๋อ ก็ขายพริก ขายข่าตะใครใบมะกรูด พืชผักสวนครัวบ้าง ขายผักหวานบ้าง ขายปลาบ้าง ขายไข่ห่านบ้าง วันหนึ่งๆ มีคนมาถามซื้อหาของอะไร เราก็มีให้เค้าหมด ทีนี้พอคนรู้เยอะเข้าว่าเรามีของให้เค้าได้ครบ เราไม่ต้องเก็บไปขายที่ตลาดให้เหนื่อยหรอก เค้ามาถามซื้อถึงบ้าน รวมๆแล้วก็อย่างว่าแหละครับ ไม่ต่ำกว่า สี่ห้าร้อยบาทหรอก”
อันนี้ก็เป็นกรณีตัวอย่างที่นิดยกมาให้คุณน้ำพิจารณาอีกเคสนะคะ หากมีอะไรพอที่จะช่วยเหลือกันได้ นิดยินดีเต็มที่ค่ะ ให้กำลังใจคุณน้ำและขอต้อนรับเกษตรกรคนใหม่ด้วยค่ะ
รักค่ะนู๋น้ำ
จากนู๋นิด
+ + + จดหมายเปิดผนึกถึง คุณน้ำมิตรค่ะ + + +
ยินดีต้อนรับคุณน้ำมิตรสู่การเป็นเกษตรกรและเจริญรอยตามแนวพระราชดำริการใช้ชีวิตอย่างพอเพียง ดีใจกับคุณน้ำด้วยจริงๆนะคะที่จะมาผันตัวเองมาเป็นเกษตรกรในอนาคตอันใกล้นี้ และที่ดินแถวๆเพชรบูรณ์ก็ล้วนแล้วแต่เป็นที่ดินแปลงสวยๆ วิวดี อากาศดีทั้งนั้น นั่นทำให้นิดนั่งวาดวิมานในกระดานแก้ว มโนไปถึงวันที่พวกเราเหล่าเพื่อนๆจะได้รับเกียรติถูกเชิญจากคุณน้ำไปเที่ยวที่ไร่ “น้ำมิตร” ในช่วงหน้าหนาวที่เพชรบูรณ์แล้ว มันช่างตื่นเต้นเสียจริง ... ว๊าววว
และถ้าวันไหนคุณน้ำจะไปดูที่อีก อย่าลืมโทรมาชวนนิดด้วยนะคะ ถ้าจัดเวลาได้ตรงกัน นิดจะไปเป็นเพื่อนคุณน้ำ จะขับรถให้ฟรีด้วยเอ้า... นิดขับรถเก่งน้าและรู้เส้นทางเป็นอย่างดีด้วยล่ะ
หลายเดือนแล้วที่นิดไม่ได้ไปเพชรบูรณ์ แต่ที่ผ่านมานิดก็เห็นเค้าปลูกข้าวโพดตามเชิงเขา หรือปลูกหัวผักกาด หรือไม่ก็สับปะรด เป็นส่วนใหญ่
การทำเกษตรเป็นงานหนักและเป็นเรื่องยากมาก ถ้าเราทำเกษตรเชิงเดี่ยวแบบดั้งเดิมนิดแทบจะมองไม่เห็นอนาคตเอาซะเลยค่ะ ทุกวันนี้เกษตรกรรุ่นใหม่ จึงหันมาทำเกษตรเชิงผสมหรือเชิงลึกกัน
นิดมีผู้ใต้บังคับบัญชาคนหนึ่ง อายุ 62ปีแล้ว มาขอลาออกจะไปเป็นเกษตรกร แกมีที่เพียงแค่ 10 ไร่ที่กำแพงเพชร แต่ทำเกษตรตามแนวเศรษฐกิจพอเพียงและตอนนี้กำลังไปได้ดี แกเล่าให้ฟังอย่างภูมิใจว่าตอนนี้มีความสุขอยู่กับไร่นาสวนผสม แกปลูกนั่นนิดนี่หน่อย มีต้นผักหวาน กล้วย มะขามป้อม ชะอม มะม่วง พืชผักสวนครัว เลี้ยงปลาตะเพียน ปลาหมอนา ปลาดุก ตามร่องน้ำในแปลงเกษตร เลี้ยงหมู 5 ตัวเพื่อจะเอาขี้หมูไว้ทำปุ๋ยอินทรีย์ให้พืชผัก เลี้ยงมดแดงไว้กินไข่ เพาะเห็ดโคนไว้ตามโคนต้นมะม่วง เลี้ยงไก่ เลี้ยงเป็ด เลี้ยงห่านไว้เฝ้านา โอยสารพัดที่แกจะสาธยาย นิดก็ได้แต่ทำตาปริบๆนั่งฟังแกเล่า และมีข้อสงสัย
“ลุงคะ แล้วมันจะก่อให้เกิดรายได้พอยังชีพหรือคะ นิดไม่ได้ดูถูกนะคะแต่นิดสงสัยเพราะมองไม่เห็นว่าลุงจะมีอะไรขายได้เป็นชิ้นเป็นอัน?”
“นู๋นิดเอ๊ย ถ้าเรามุ่งทำเกษตรเพื่อหวังจะรวย ต่อให้ทำอีก 10 ปีก็ไม่รวยหรอก แต่ถามว่าพอยังชีพไหม พอนะแถมขายนั่นขายนี่ขายเล่นไปเล่นมาวันหนึ่งๆได้เงินเข้าบ้านสี่ห้าร้อยบาทเลยนะเป็นรายได้สุทธิที่ไม่ต้องหักอะไรเลย”
“ฮ้า ...แบบนี้ก็รวยน่ะสิ แล้วลุงขายอะไรล่ะคะถึงได้เงินวันละมากขนาดนั้น”
แกยิ้มอย่างมีความสุขแล้วบอกว่า
“รวยรึป่าวไม่รู้ ความรวยความจนมันอยู่ที่ใจเราพอหรือไม่ก็เท่านั้นแหละนู๋นิด แต่ถ้าถามว่าเหนื่อยไหม เหนื่อยแน่ๆล่ะ ไม่มีงานอะไรที่ทำแล้วไม่เหนื่อย แต่ความสุขที่ได้นี่สิ โครตจะมีความสุขเลย”
“คุณลุงคะ ช่วยตอบให้ตรงคำถามนู๋หน่อยค่ะ”
“อ๋อ ก็ขายพริก ขายข่าตะใครใบมะกรูด พืชผักสวนครัวบ้าง ขายผักหวานบ้าง ขายปลาบ้าง ขายไข่ห่านบ้าง วันหนึ่งๆ มีคนมาถามซื้อหาของอะไร เราก็มีให้เค้าหมด ทีนี้พอคนรู้เยอะเข้าว่าเรามีของให้เค้าได้ครบ เราไม่ต้องเก็บไปขายที่ตลาดให้เหนื่อยหรอก เค้ามาถามซื้อถึงบ้าน รวมๆแล้วก็อย่างว่าแหละครับ ไม่ต่ำกว่า สี่ห้าร้อยบาทหรอก”
อันนี้ก็เป็นกรณีตัวอย่างที่นิดยกมาให้คุณน้ำพิจารณาอีกเคสนะคะ หากมีอะไรพอที่จะช่วยเหลือกันได้ นิดยินดีเต็มที่ค่ะ ให้กำลังใจคุณน้ำและขอต้อนรับเกษตรกรคนใหม่ด้วยค่ะ
รักค่ะนู๋น้ำ
จากนู๋นิด