ระบบ และ ระบอบ

ระบบ และ ระบอบ

เสนอโดย นายวันชัย  พรหมภา


    คำว่า “ระบบ” กับ “ระบอบ” ในทางการเมืองไม่เหมือนกัน “ระบบ” (System)

หมายถึง “รูปของการปกครอง” (Form of Government) “ระบอบ” (Regime) หมายถึง

“หลักการปกครอง” (Principle of Government)



    ระบบ และระบอบ ประกอบกันเป็น “การปกครอง” (Government) ระบอบเป็น

หลักการปกครอง ระบบเป็นรูปการปกครอง เรียกเป็นคำธรรมดาว่า ระบอบเป็น “เนื้อหา”

(Content) ระบบเป็น “รูปแบบ” (Form) การปกครองแบบประชาธิปไตย (Democratic

Government) จึงประกอบด้วย “เนื้อหา” และ “รูปแบบ”

    ไม่ว่าในสิ่งหรือปรากฏการณ์ใดๆ เนื้อหากับรูปแบบย่อมเป็น “เอกภพ” กัน แยกออก

จากกัน มิได้ ถ้าเนื้อหากับรูปแบบแยกออกจากกัน ก็จะไม่มีสิ่งหรือปรากฏการณ์นั้นๆ

    ถ้าหลักการปกครองแบบประชาธิปไตย กับรูปการปกครองแยกออกจากกัน ก็จะไม่มี

การปกครองแบบประชาธิปไตย

    หลักการปกครองมี 2 ระบอบคือ

ระบอบประชาธิปไตย (Democratic Regime)

ระบอบเผด็จการ (Dictatorial Regime)

    รูปการปกครองมี 3 รูป คือ

ระบบรัฐสภา (Parliamentary System)

ระบบประธานาธิบดี(Presidential System)

ระบบผสมกึ่งรัฐสภา กึ่งประธานาธิบดี (Semi-Presidential System)

    คำว่า “ระบอบ” ตรงกับคำอังกฤษว่า “REGIME” แปลว่า มรรควิธีการปกครอง
(METHOD OF GOVERNMENT) ฉะนั้น ที่เราเรียกว่า ระบอบประชาธิปไตย
(DEMOCRATIC REGIME) จึงหมายความถึงการปกครองหรือรัฐบาลที่ใช้ “มรรควิธีประชาธิปไตย” เช่นเดียวกับที่เราเรียกว่า ระบอบเผด็จการ หรือระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ด้วยเหตุนี้ คำว่า “ระบอบอะไร” จึงหมายถึง อำนาจเป็นของใคร ระบอบจะเป็นตัวบอกความเป็นเจ้าของอำนาจ และระบอบเป็นศัพท์ที่ใช้ในการเมืองโดยจำเพาะ เช่นเดียวกับ ระบบประชาธิปไตย สังคมประชาธิปไตย และลัทธิประชาธิปไตย ส่วนประชาธิปไตยที่ใช้ในชีวิตประจำวันมีแต่ วิธีการประชาธิปไตย (DEMOCRATIC MEAN) เท่านั้น

    วิธีการประชาธิปไตย (DEMOCRATE MEANS) หมายถึงวิธีการอย่างหนึ่งของการอยู่ร่วมกันระหว่างมนุษย์ ทั้งในชีวิตประจำวัน และในทางการเมือง ใช้ในชีวิตประจำวัน  เช่น

    - ถือประโยชน์ส่วนรวมเป็นใหญ่

    - ฟังความคิดเห็นของกันและกัน

    - สามารถทำงานร่วมกับผู้อื่น

    - อดทนต่อความเห็นที่ขัดแย้งกับตน

    - พิจารณาตามเหตุผล ไม่พิจารณาตามใจตัว

    - ถือหลักการและหลักวิชาเป็นใหญ่ ไม่ถือบุคคลเป็นใหญ่

    - นิยมการประนีประนอม และชอบการแก้ปัญหาด้วยสันติวิธี

    - ยึดความเป็นธรรมตามหลักนิติธรรม เป็นกฎหมายสูงสุด

    - มีเสรีภาพ และความเสมอภาค

    - ใช้อำนาจอย่างถูกต้อง แต่เฉพาะที่จำเป็นเท่านั้น

    - ยอมรับเสียงข้างมาก คำนึงถึงฝ่ายข้างน้อย

    - แสดงความรับผิดชอบ เมื่อกระทำผิด

    - มีคุณธรรมและจริยธรรมเป็นพื้นฐาน

    ประชาชนโดยทั่วไปที่อยู่ร่วมกันด้วย “วิธีการประชาธิปไตย” ในชีวิตประจำวัน เช่นนี้ จึงมักจะเข้าใจผิดว่า “วิธีการประชาธิปไตย” กับ “ระบอบประชาธิปไตย” เป็นเรื่องเดียวกัน โดยถือว่ามีการเลือกตั้งคือประชาธิปไตย ไม่มีการเลือกตั้งคือเผด็จการ เป็นต้น



    คำว่า “ระบบ” ตรงกับคำอังกฤษว่า SYSTEM หมายความถึงส่วนทั้งหมดของ

ระบบสังคม เช่นคำว่า “ระบบประชาธิปไตย” (DEMOCRATIC SYSTEM) หมาย

ถึงส่วนทั้งหมดของระบบสังคม แห่งลัทธิประชาธิปไตย ซึ่งแต่ละส่วนมีความ

สัมพันธ์กันอย่างสลับซับซ้อน

    ส่วนทั้งหมดระบบสังคม ของแต่ละลัทธิการเมืองนั้นประกอบด้วยส่วนใหญ่ๆ 3

ส่วนคือ 1.การเมือง 2.เศรษฐกิจ 3.วัฒนธรรม ดังนั้น  ไม่ว่าระบบสังคมของลัทธิ

การเมืองใด ประกอบด้วยส่วนใหญ่ๆ 3 ส่วน นี้ทั้งสิ้น

    คำว่า “ระบบอะไร” จึงหมายถึงใครเป็น “ผู้ถือดุล” เช่นระบบสุริยะจักรวาล คือระบบที่มีดวงอาทิตย์เป็นผู้ถือดุลเป็นต้น ถ้าดวงอาทิตย์ถือดุลไม่ได้ ระบบสุริยะจักรวาลก็แตกสลายทันที      ประเทศเราใช้ระบบรัฐสภาเป็นรูปการปกครอง ก็หมายความว่า “สภาผู้แทนราษฎรเป็นผู้ถือดุล” ถ้าสภาแทนราษฎรถือดุลไม่ได้ก็ไม่มีระบบรัฐสภา ผู้ถือดุลต้องมีอำนาจมากกว่าส่วนอื่นๆ ในระบบ การทำให้มีอำนาจมากกว่า ผู้แทนราษฎรจึงต้องมาจากการเลือกตั้งสถาบันอื่น เช่น สภาสูงไม่จำเป็นต้องมาจากการเลือกตั้ง เป็นต้น
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่