เราเป็นคนตรง ออกซื่อจนโง่เหมือนจะตามคนไม่ทัน แต่ก็พอจะรู้เรื่อง อะไรผิด อะไรถูก เราว่าไปตามทำนองครองธรรม ใครโกหก

เราก็พอจะดู เราเป็นคนไม่ค่อยมีเพื่อนที่สนิท ที่คุยอะไรได้มากนัก เพราะส่วนใหญ่เพื่อนที่รู้จักจะค่อนข้างวุ่นวาย
เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อช่วงปลายปี 60 น้องที่ทำงานเก่ามาเล่าให้ฟังถึงเรื่องเพื่อนร่วมงานและหัวหน้างานในที่ทำงานเก่าของเราให้ฟังว่ามีปัญหากัน แล้วก็ลามมาถึงเรา เราไม่สามารถทำอะไรได้ ถ้าปะทะกัน เราสู้ไม่ได้แน่ เพราะสมองกับปากมันไม่สัมพันธ์กันเวลาจะด่ารึเถียงอะไรก็ตามแต่ รึเรียกง่ายๆว่าเถียงไม่สู้คน เราจะมีที่ระบายอีกที่คือ เฟส เราโพสเฟสระบายต่างๆนาๆแบบคนอารมเสียโพส แต่ไม่ได้ระบุชื่อ เหมือนโพสลอยๆออกไป แต่ด้วยประการใดไม่รู้ อีเมียเพื่อนของแฟนเราดันมาร้อนตัวกะโพสของเรา (ขออนุญาตใช้คำหยาบนะคะ เหลืออดจริงๆ) ดันมาโพสด่าเราในหน้าเฟสมัน คำที่ใช้โพสก็เป็นคำของเราที่โพสไปก่อนนั้นด้วยซ้ำ แต่คิดในแง่ดีไว้ไงว่าคงไม่ใช่เราหรอก เพราะเราไม่ได้ไปมีปัญหาอะไรกะอีนั่นเลย ก็เลยเฉย ผ่านไปอีกวันสองวันยังเห็นโพสนั้นเด้งขึ้นหน้ากระดานของเราอยู่ เลยลองกดเข้าไปดูคอมเม้นต์ จากที่นับถือ ก็เริ่มไม่อยากจะคบหารู้จักซะแล้ว ในคอมเม้นต์มีเพื่อนแฟนยุสองสามคนเข้ามาคอมเม้นต์ว่าให้เราแบบไม่เอ่ยชื่อเรา อีโรคจิตบ้างละ ชั่วบ้างละ ไหนจะมาตบเราถึงที่บ้างละ บลาๆๆ เยอะกว่านี้นะ ไอ้เราอ่านดูแล้วตกใจ อะไรกันวะเนี๊ย จู่ๆมาด่ากูเฉยเลย เลยลองปรึกษาแฟน แฟนก็ว่าไม่มีอะไรหรอก คิดมาก แล้วรู้ได้ไงว่าเขาหมายถึงเรา เอ๋า ! ไอ้นี่ ในวงเหล้ามีผู้หญิงแค่สองคนนะที่ยุในวงตลอด จะให้หมายถึงใครถ้ามันไม่ได้หมายถึงกู จริงไหมคะ สักพักก็เถียงกันกะแฟนเพราะเรื่องคนอื่นอีกตามเคย จากนั้นเราก็เฉย จนมาเมื่อวันก่อนแฟนเราออกไปดื่มกะเพื่อนๆ แต่เราไม่ได้ไป พอเราคอลหาก็พูดไม่ค่อยดีกะเรา แต่คุยกะเพื่อนหัวเราะชอบใจสนุกนานมาก ต่างจากเราเยอะที่ไม่เคยได้ยินเสียงหัวเราะและรอยยิ้มของแฟนมาปีกว่าแล้ว เราน้อยใจโพสต่อว่าแฟนในเฟส แต่ตั้งสถานะเพื่อนไว้ (เรากับแฟนไม่ได้เป็นเพื่อนในเฟสกัน) แน่ที่แฟนจะไม่เห็นเราโพส แต่ก็ยังมีมือดีแคปหน้าจอเอาไปให้แฟนเราดู มีปัญหากันหนักเลยคราวนี้ เราโพสต่อถึงคนที่แคป แต่ไม่ได้ระบุชื่อใคร และในเฟสเรามีเพื่อนแฟนทั้งที่ทำงานและสมัยเรียน แน่ที่เพื่อนที่ทำงานเวลาเราด่าเขาไม่เคยไม่พอใจเรา แต่กลับเกรงใจและพยายามทำให้เราโอเคกับกลุ่มพวกเขา แต่เพื่อนสมัยเรียนนี่สิกะอีเมียมัน คือที่เราโพสร้อนตัวเร็วตลอด เอาคำพูดของเราที่โพสถึงเรื่องอะไรบ้างเอามาโพสด่าเราทุกอย่างแต่ก็ไม่ได้เอ่ยชื่อเราแต่อย่างไร เราร้อนตัวนะ เพราะทุกคำคือคำพูดของเราถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เราคุยกับแฟนถึงเรื่องนี้ แฟนบอกว่านี่แร่ะผลของการโพสอะไรไปไม่คิด โอเคอันนี้ยอมรับ แต่เพราะนั่นคือที่ระบายที่ดีที่สุดอ่ะ
แฟนพูดถึงเรื่องที่เราไม่มีเพื่อน ว่าเราต่างหากที่หนีเพื่อน ถอยออกจากเพื่อนเอง คนอื่นมีแต่เพื่อนไม่ แต่นี่อะไรไม่คบเพื่อน บอกให้เราเปลี่ยนนิสัยใหม่ซะ ให้

โกหก สวมหน้ากากใส่กัน แล้วจะมีเพื่อน ไม่มีใครหรอกจะมานิสัยเหมือนเรา ถ้าอยากมีเพื่อนก็เปลี่ยนซะนิสัย เอ๋า ! เลยตอบแฟนว่า เรามีความสุขดีที่เป็นแบบนี้ เพื่อนมีมากใช่ว่าจะดี วุ่นวาย มีเพื่อนน้อยแต่ซื่อสัตย์ จริงใจต่อกัน นี่สิดีสบายใจกว่าตั้งเยอะ หลังจากคุยกันจนดึกเลยขอตัวนอน แล้ววันถัดมาเราโทรหาแฟนปกติเวลาเลิกงาน คุยไปได้สักพักก็บอกว่าเพื่อนโทรมา เลยให้เราถือสายรอ เราก็รอจนเกือบยี่สิบนาทีจึงตัดสายแฟนทิ้งไป คิดว่าเสร็จคงโทรกลับมาเองเหมือนทุกครั้ง แต่ไม่เลย เงียบหายไปเลย นี่ก็วันที่สี่แล้ว เราคิดอยากจะถอยออกจากเขาแบบไม่บอก ถอยออกมาจะดีกว่าไหม เพราะนี่เขาสั่งให้เราเปลี่ยนนิสัยเราที่เราไม่ชอบเลยกับการต้องคอย

สวมหน้ากากเข้าหากัน ที่สำคัญคือต้องการให้เปลี่ยนเพื่อจะให้เข้ากับกลุ่มเพื่อนเขาที่บุคคลภายนอกไม่ยอมรับสังคมกลุ่มนี้ สังคมใครสังคมมันเราไม่ว่าไม่ก้าวก่ายกันยุแล้ว แต่ทำไมต้องคอยมาวุ่นวายกับเราไม่เว้นแต่ละวัน เราก็ไม่ใช่คนดีอะไร แต่ก็รู้สิ่งไหนควรไม่ควรถูกผิดว่ากันไป ตอนนี้เราจบทุกอย่างแล้ว เรายอมเสียหน้า ทนให้เพื่อนแฟนด่าเราหยาบคาย เราเฉยนิ่งไม่ตอบโต้ แต่แฟนหาปกป้องรึพูดปลอบใจอะไรเราไม่มีเลย หายเงียบไปเลย หลังจากที่ออกคำสั่งกับเรา เราควรถอยใช่ไหม อยู่ต่อไปคงถูกดึงลงนรกแน่นอน เราสันโดดยุแล้วไม่มีเพื่อนมากเหมือนคนอื่นเขาใช่ว่าเราจะอยู่ไม่ได้นิ ใช่ไหมคะ คนเราต่างพ่อต่างแม่ ต่างความอบรม
คุณคิดว่า เราควรเลิกหรือถอยออกมาดีไหม
เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อช่วงปลายปี 60 น้องที่ทำงานเก่ามาเล่าให้ฟังถึงเรื่องเพื่อนร่วมงานและหัวหน้างานในที่ทำงานเก่าของเราให้ฟังว่ามีปัญหากัน แล้วก็ลามมาถึงเรา เราไม่สามารถทำอะไรได้ ถ้าปะทะกัน เราสู้ไม่ได้แน่ เพราะสมองกับปากมันไม่สัมพันธ์กันเวลาจะด่ารึเถียงอะไรก็ตามแต่ รึเรียกง่ายๆว่าเถียงไม่สู้คน เราจะมีที่ระบายอีกที่คือ เฟส เราโพสเฟสระบายต่างๆนาๆแบบคนอารมเสียโพส แต่ไม่ได้ระบุชื่อ เหมือนโพสลอยๆออกไป แต่ด้วยประการใดไม่รู้ อีเมียเพื่อนของแฟนเราดันมาร้อนตัวกะโพสของเรา (ขออนุญาตใช้คำหยาบนะคะ เหลืออดจริงๆ) ดันมาโพสด่าเราในหน้าเฟสมัน คำที่ใช้โพสก็เป็นคำของเราที่โพสไปก่อนนั้นด้วยซ้ำ แต่คิดในแง่ดีไว้ไงว่าคงไม่ใช่เราหรอก เพราะเราไม่ได้ไปมีปัญหาอะไรกะอีนั่นเลย ก็เลยเฉย ผ่านไปอีกวันสองวันยังเห็นโพสนั้นเด้งขึ้นหน้ากระดานของเราอยู่ เลยลองกดเข้าไปดูคอมเม้นต์ จากที่นับถือ ก็เริ่มไม่อยากจะคบหารู้จักซะแล้ว ในคอมเม้นต์มีเพื่อนแฟนยุสองสามคนเข้ามาคอมเม้นต์ว่าให้เราแบบไม่เอ่ยชื่อเรา อีโรคจิตบ้างละ ชั่วบ้างละ ไหนจะมาตบเราถึงที่บ้างละ บลาๆๆ เยอะกว่านี้นะ ไอ้เราอ่านดูแล้วตกใจ อะไรกันวะเนี๊ย จู่ๆมาด่ากูเฉยเลย เลยลองปรึกษาแฟน แฟนก็ว่าไม่มีอะไรหรอก คิดมาก แล้วรู้ได้ไงว่าเขาหมายถึงเรา เอ๋า ! ไอ้นี่ ในวงเหล้ามีผู้หญิงแค่สองคนนะที่ยุในวงตลอด จะให้หมายถึงใครถ้ามันไม่ได้หมายถึงกู จริงไหมคะ สักพักก็เถียงกันกะแฟนเพราะเรื่องคนอื่นอีกตามเคย จากนั้นเราก็เฉย จนมาเมื่อวันก่อนแฟนเราออกไปดื่มกะเพื่อนๆ แต่เราไม่ได้ไป พอเราคอลหาก็พูดไม่ค่อยดีกะเรา แต่คุยกะเพื่อนหัวเราะชอบใจสนุกนานมาก ต่างจากเราเยอะที่ไม่เคยได้ยินเสียงหัวเราะและรอยยิ้มของแฟนมาปีกว่าแล้ว เราน้อยใจโพสต่อว่าแฟนในเฟส แต่ตั้งสถานะเพื่อนไว้ (เรากับแฟนไม่ได้เป็นเพื่อนในเฟสกัน) แน่ที่แฟนจะไม่เห็นเราโพส แต่ก็ยังมีมือดีแคปหน้าจอเอาไปให้แฟนเราดู มีปัญหากันหนักเลยคราวนี้ เราโพสต่อถึงคนที่แคป แต่ไม่ได้ระบุชื่อใคร และในเฟสเรามีเพื่อนแฟนทั้งที่ทำงานและสมัยเรียน แน่ที่เพื่อนที่ทำงานเวลาเราด่าเขาไม่เคยไม่พอใจเรา แต่กลับเกรงใจและพยายามทำให้เราโอเคกับกลุ่มพวกเขา แต่เพื่อนสมัยเรียนนี่สิกะอีเมียมัน คือที่เราโพสร้อนตัวเร็วตลอด เอาคำพูดของเราที่โพสถึงเรื่องอะไรบ้างเอามาโพสด่าเราทุกอย่างแต่ก็ไม่ได้เอ่ยชื่อเราแต่อย่างไร เราร้อนตัวนะ เพราะทุกคำคือคำพูดของเราถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เราคุยกับแฟนถึงเรื่องนี้ แฟนบอกว่านี่แร่ะผลของการโพสอะไรไปไม่คิด โอเคอันนี้ยอมรับ แต่เพราะนั่นคือที่ระบายที่ดีที่สุดอ่ะ
แฟนพูดถึงเรื่องที่เราไม่มีเพื่อน ว่าเราต่างหากที่หนีเพื่อน ถอยออกจากเพื่อนเอง คนอื่นมีแต่เพื่อนไม่ แต่นี่อะไรไม่คบเพื่อน บอกให้เราเปลี่ยนนิสัยใหม่ซะ ให้