สวัสดีครับ ผมมีเรื่องเล่าให้ทุกท่านฟังเกี่ยวกับชีวิตอันบัดซบของผม
ผมชื่อโย อายุ 25 ปี ผมเป็นเกย์ ช่วงฝึกงานเมื่อ 4 ปีที่แล้วทำชีวิตผมพังทลายลง ช่วงนั้นผมไปฝึกงานที่พัทยา ก็กิน เที่ยวบ้างบางโอกาส ผมได้เจอเด็กคนนึงน่ารักมากเป็นคนแถบอีสานแต่เค้าพักอยู่ในจังหวัดระยอง คือไปๆมาๆระหว่างพัทยากับระยอง พอคุยกันได้ไม่ถึงอาทิตย์น้องเขามาขอนอนด้วย ผมก็ลังเลใจเพราะตอนนั้นผมมีแฟนอยู่แล้วแล้วก็กลัวใจตัวเองเหมือนกันว่าจะหักห้ามใจไม่ได้แต่ก็ให้น้องมาอาศัยด้วย พอช่วงเวลาที่กลับมาจากฝึกงานกำลังจะเข้าที่พักเจอแฟนมาดักรอเพื่อเข้าห้องตอนนั้นทำอะไรไม่ถูกเลย พอแฟนตามขึ้นไปบนห้องมันเจอและโกรธมาก ผมอธิบายอะไรไปก็ไม่เข้าหูแล้ว จากนั้นมันเดินออกไปผมก็นอนกันปกติหวังว่าให้ใจเย็นกว่านี้จะคุย พอช่วงประมาณตี2 แฟนผมพาเพื่อนมารุมทำร้ายผมและน้อง น้องตาเกือบบอด ส่วนผมกระดูกเปราะ จนต้องนำส่งโรงพยาบาล ซึ่งตอนนั้นเป็นจุดพลิกผันที่สุดในชีวิตโดยที่ผมไม่เคยรู้มาก่อนเลยครับว่าน้องมีเชื้อ hiv พอฝึกงานเสร็จผมมาทำงานในนนทบุรีโดยที่คิดว่าตัวเองไม่ติด พอทำงานได้สักพักนึงผมมีแพลนว่าจะลาบวช แล้วต้องใช้ใบรับรองแพทย์ตรวจโรค ซึ่งหนึ่งในนั้นคือเชื้อ hiv พอผลออกเท่านั้นล่ะผมล้มทั้งยืน ผมทำพ่อแม่และครอบครัวผิดหวังมากแพอบวชเสร็จผมมีสติเลยเรียกน้องคนนั้นมาอยู่ด้วยกัน แต่แล้วก็มีปัญหากันจนต้องเลิกลากันไป ในช่วง 2 ปีให้หลังมานี้ผมคบกับคนอีก 1 คน ซึ่งผมปิดเรื่อง hiv กับเขามาตลอด แต่ผมก็ระวังให้เขานะ ป้องกันโดยการใส่ถุงยาอนามัยทุกครั้ง จนเขาพาผมไปทำบัตรเครดิต ยื่นไปทั้งหมด 5 ธนาคาร ผ่านทุกธนาคาร พอได้รับบัตรมาเปิดบัตรแล้วเขาก็เอาไปถือหมดเลย วงเงิน 150,000 บาท 4 เดือนให้หลังเขาพยายามทำตัวมีปัญหากับผมเขาพยายามจะเลิกกับผมแต่ผมก็ตามตื้ออยู่นาน จนต้องปล่อยมือยอมรับในโชคชะตา และแล้วงานก็งอกเมื่อไปเช็ควงเงิน วงเงินในบัตรเต็มทุกใบ ช่วงนั้นผมเครียดมากไม่รู้จะทำอย่างไรก็ร้องไห้และบอกกับพ่อแม่ไปตรงๆ ผมมีเงินเก็บ70,000กว่า ที่เหลือแม่ก็นำเงินมาปิดบัตรให้ ผมเสียใจมากกับสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งเลิกกับแฟนและเดือดร้อนพ่อแม่ ผมอยู่คนเดียวซัก2อาทิตย์ ก็มีตัวละครเข้ามาในชีวิตผมอีก1ตัว เรานัดเจอกันในแอปเกย์ แต่พอเจอกันคุยกันไปจากที่เราหาเซ็กส์ความคิดผมเปลี่ยนเป็นอยากดูแล ผมนั่งคุยกัน3ชั่วโมงที่ปั๊มแห่งหนึ่งในนนทบุรีและแยกย้าย และมันเริ่มสงสัยว่านัดมันมามีเซ็กส์แต่ทำไมถึงเปลี่ยนใจ ผมจึงบอกความจริงว่าผมมีเชื้อนะ ถ้ารับไม่ได้ก็ออกไปจากชีวิตผมเถอะมันจะได้ไม่ถลำไปมากกว่านี้ แต่มันเลือกที่จะอยู่ข้างๆผม คบกันเป็นพี่น้อง ในใจผมคิดว่ามันห่วงผมจริงผมดูแลอย่างดี ซื้อ smart watch ให้ ให้ยืมโทรศัพท์อีก1เครื่อง พอผ่านไป1เดือน มันกล่อมผมว่า''เอ็งไม่อยากออกรถไว้ใช้หรอ''คิดในใจก็อยากมีนะแต่ขับไม่เป็น จนมันพาไปออกรถโดยทำเรื่องกับแนนซ์ ผ่านอีกด้วยความที่ว่าเสียดายเงินมัดจำ5,000บาทเลยไปออกรถ ผมทำตัวรีโมทใหม่ 8,900 บาทและมันขอผมเปลี่ยนล้อแแมกซ์ ติดม่านกันหมอก ติดตัวที่ดูความเร็วผมบอกไม่มีเงิน มันบอกว่าเดี๋ยวออกให้ก่อน ช่วงนั้นยังไปมาหาสู่กันดี และผมเจอแฟนใหม่ผมตัดสินใจคบเพราะเป็นแบบเดียวกัน แฟนคนนี้เป็นคนปัจจุบันที่ผมคบอยู่นะครับ จนผมเปลี่ยนงานใหม่ในกรุงเทพ คนที่เอารถผมไปใช้หายไปเลยไม่ติดต่อผมสักครั้งได้แต่ไลน์คุยกัน ผมบอกมันจะเอาโทรศัพท์มาใช้มันบอกไม่ให้จะเอาไว้ติดต่อผม พออีกวันผมบอกจะเอารถคืน มันตอบกลับมาว่าจะเอาเงินค่าแต่ง 30,000บาทงั้นไม่คืนรถ ผมคิดในใจว่าผ่อนเองแต่ไม่ได้ใช้รถ เห้อออออ!!! แฟนผมก็ถามเมื่อไหร่เอารถมาใช้โทรไปคุยกับเพื่อนยัง จนเวลาผ่านมาเกือบปีผมยังไม่ได้คุยและยังไม่ได้รถคืน ผมควรทำอย่างไรดีครับ ใครจะว่าผมก็ได้นะครับ เกิดจากความผิดพลาดของผมเองที่ทำอะไรไม่คิดหน้าคิดหลังให้ดี ขอบคุณครับ
ชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร
ผมชื่อโย อายุ 25 ปี ผมเป็นเกย์ ช่วงฝึกงานเมื่อ 4 ปีที่แล้วทำชีวิตผมพังทลายลง ช่วงนั้นผมไปฝึกงานที่พัทยา ก็กิน เที่ยวบ้างบางโอกาส ผมได้เจอเด็กคนนึงน่ารักมากเป็นคนแถบอีสานแต่เค้าพักอยู่ในจังหวัดระยอง คือไปๆมาๆระหว่างพัทยากับระยอง พอคุยกันได้ไม่ถึงอาทิตย์น้องเขามาขอนอนด้วย ผมก็ลังเลใจเพราะตอนนั้นผมมีแฟนอยู่แล้วแล้วก็กลัวใจตัวเองเหมือนกันว่าจะหักห้ามใจไม่ได้แต่ก็ให้น้องมาอาศัยด้วย พอช่วงเวลาที่กลับมาจากฝึกงานกำลังจะเข้าที่พักเจอแฟนมาดักรอเพื่อเข้าห้องตอนนั้นทำอะไรไม่ถูกเลย พอแฟนตามขึ้นไปบนห้องมันเจอและโกรธมาก ผมอธิบายอะไรไปก็ไม่เข้าหูแล้ว จากนั้นมันเดินออกไปผมก็นอนกันปกติหวังว่าให้ใจเย็นกว่านี้จะคุย พอช่วงประมาณตี2 แฟนผมพาเพื่อนมารุมทำร้ายผมและน้อง น้องตาเกือบบอด ส่วนผมกระดูกเปราะ จนต้องนำส่งโรงพยาบาล ซึ่งตอนนั้นเป็นจุดพลิกผันที่สุดในชีวิตโดยที่ผมไม่เคยรู้มาก่อนเลยครับว่าน้องมีเชื้อ hiv พอฝึกงานเสร็จผมมาทำงานในนนทบุรีโดยที่คิดว่าตัวเองไม่ติด พอทำงานได้สักพักนึงผมมีแพลนว่าจะลาบวช แล้วต้องใช้ใบรับรองแพทย์ตรวจโรค ซึ่งหนึ่งในนั้นคือเชื้อ hiv พอผลออกเท่านั้นล่ะผมล้มทั้งยืน ผมทำพ่อแม่และครอบครัวผิดหวังมากแพอบวชเสร็จผมมีสติเลยเรียกน้องคนนั้นมาอยู่ด้วยกัน แต่แล้วก็มีปัญหากันจนต้องเลิกลากันไป ในช่วง 2 ปีให้หลังมานี้ผมคบกับคนอีก 1 คน ซึ่งผมปิดเรื่อง hiv กับเขามาตลอด แต่ผมก็ระวังให้เขานะ ป้องกันโดยการใส่ถุงยาอนามัยทุกครั้ง จนเขาพาผมไปทำบัตรเครดิต ยื่นไปทั้งหมด 5 ธนาคาร ผ่านทุกธนาคาร พอได้รับบัตรมาเปิดบัตรแล้วเขาก็เอาไปถือหมดเลย วงเงิน 150,000 บาท 4 เดือนให้หลังเขาพยายามทำตัวมีปัญหากับผมเขาพยายามจะเลิกกับผมแต่ผมก็ตามตื้ออยู่นาน จนต้องปล่อยมือยอมรับในโชคชะตา และแล้วงานก็งอกเมื่อไปเช็ควงเงิน วงเงินในบัตรเต็มทุกใบ ช่วงนั้นผมเครียดมากไม่รู้จะทำอย่างไรก็ร้องไห้และบอกกับพ่อแม่ไปตรงๆ ผมมีเงินเก็บ70,000กว่า ที่เหลือแม่ก็นำเงินมาปิดบัตรให้ ผมเสียใจมากกับสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งเลิกกับแฟนและเดือดร้อนพ่อแม่ ผมอยู่คนเดียวซัก2อาทิตย์ ก็มีตัวละครเข้ามาในชีวิตผมอีก1ตัว เรานัดเจอกันในแอปเกย์ แต่พอเจอกันคุยกันไปจากที่เราหาเซ็กส์ความคิดผมเปลี่ยนเป็นอยากดูแล ผมนั่งคุยกัน3ชั่วโมงที่ปั๊มแห่งหนึ่งในนนทบุรีและแยกย้าย และมันเริ่มสงสัยว่านัดมันมามีเซ็กส์แต่ทำไมถึงเปลี่ยนใจ ผมจึงบอกความจริงว่าผมมีเชื้อนะ ถ้ารับไม่ได้ก็ออกไปจากชีวิตผมเถอะมันจะได้ไม่ถลำไปมากกว่านี้ แต่มันเลือกที่จะอยู่ข้างๆผม คบกันเป็นพี่น้อง ในใจผมคิดว่ามันห่วงผมจริงผมดูแลอย่างดี ซื้อ smart watch ให้ ให้ยืมโทรศัพท์อีก1เครื่อง พอผ่านไป1เดือน มันกล่อมผมว่า''เอ็งไม่อยากออกรถไว้ใช้หรอ''คิดในใจก็อยากมีนะแต่ขับไม่เป็น จนมันพาไปออกรถโดยทำเรื่องกับแนนซ์ ผ่านอีกด้วยความที่ว่าเสียดายเงินมัดจำ5,000บาทเลยไปออกรถ ผมทำตัวรีโมทใหม่ 8,900 บาทและมันขอผมเปลี่ยนล้อแแมกซ์ ติดม่านกันหมอก ติดตัวที่ดูความเร็วผมบอกไม่มีเงิน มันบอกว่าเดี๋ยวออกให้ก่อน ช่วงนั้นยังไปมาหาสู่กันดี และผมเจอแฟนใหม่ผมตัดสินใจคบเพราะเป็นแบบเดียวกัน แฟนคนนี้เป็นคนปัจจุบันที่ผมคบอยู่นะครับ จนผมเปลี่ยนงานใหม่ในกรุงเทพ คนที่เอารถผมไปใช้หายไปเลยไม่ติดต่อผมสักครั้งได้แต่ไลน์คุยกัน ผมบอกมันจะเอาโทรศัพท์มาใช้มันบอกไม่ให้จะเอาไว้ติดต่อผม พออีกวันผมบอกจะเอารถคืน มันตอบกลับมาว่าจะเอาเงินค่าแต่ง 30,000บาทงั้นไม่คืนรถ ผมคิดในใจว่าผ่อนเองแต่ไม่ได้ใช้รถ เห้อออออ!!! แฟนผมก็ถามเมื่อไหร่เอารถมาใช้โทรไปคุยกับเพื่อนยัง จนเวลาผ่านมาเกือบปีผมยังไม่ได้คุยและยังไม่ได้รถคืน ผมควรทำอย่างไรดีครับ ใครจะว่าผมก็ได้นะครับ เกิดจากความผิดพลาดของผมเองที่ทำอะไรไม่คิดหน้าคิดหลังให้ดี ขอบคุณครับ