Pacific Rim: Uprising (Steven S. DeKnight, 2018) คะแนน C


By Form Corleone

"ดูเอามันส์ก็สนุกดีเหมือนกัน" Pacific Rim: Uprising เหมือนจะมีพัฒนาการที่หลุดกรอบออกไปจากภาคแรกอยู่พอสมควร แต่จนแล้วจนรอดก็หนีไม่พ้นรูปแบบเดิมๆ ถ้าเอาความสนุกสนานหนังก็พอบรรเทาและพาเราไปร่วมสนุกกับฉากแอคชั่นหุ่นยนตร์ที่ดีและได้มาตรฐานยิ่งใหญ่พอตัว เอฟเฟคตื่นตาตื่นใจ สำหรับภาคนี้ตัวละครมีเบื้องหลังค่อนข้างน่าสนใจในช่วงเกริ่นนำ ดูมีความขบถต่อธรรมเนียมปฏิบัติ และให้มุมมองต่อการเริ่มฟื้นฟูอารยะธรรมจากสิ่งผุพังครั้งอดีต แนวโน้มช่วงครึ่งแรกของงานนี้จึงน่าสนใจสำหรับเรามากกว่าช่วงครึ่งหลังที่จัดเต็มระดมฉากแอคชั่นแบบไม่ต้องหยุดหายใจกันเลยทีเดียว เรียกว่ามากันเป็นชุดใหญ่จัดกันเมามันส์โดยไม่สนใจบทภาพยนตร์อีกต่อไป แต่ก็แน่นอนอยู่แล้วว่าภาพยนตร์แนวนี้คงไม่ได้อิงกับบทภาพยนตร์มากนัก ที่น่าสนใจคือหนังให้น้ำหนักบทบาทให้กับดาราฝั่งจีนอย่างเปิดเผยและตรงไปตรงมาจนน่ารำคาญ ชนิดที่ไม่ต้องอธิบายอะไรมาก ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้เจาะฐานกลุ่มแฟนประเทศจีน และจะกอบโกยเงินจากประเทศนี้ออกไปแน่นอน


อย่างไรเสีย มาตรฐานงานกราฟิกหรือฉากแอคชั่นก็ยังคงสามารถตอบสนองความต้องการของคนที่คลั่งไคล้หุ่นยนตร์ ที่ไม่ได้ทำออกมาชนิดดูถูกคนดูจนเกินไป เหมือนกับภาพยนตร์หุ่นยนตร์ที่มีภาคต่อเยอะจนมั่วไปหมด 'Pacific Rim: Uprising' ยังมีเนื้อเรื่องและประเด็นของเหล่าเยเกอร์ที่น่าสนใจและมีมิติของตัวละครอยู่บ้างเล็กๆน้อยๆ แม้ว่าท้ายสุดมิติเหล่านั้นจะจางหายไปจนหมดและกลับสู่ภาวการณ์ปกติ เข้าสู่สูตรสำเร็จตามแบบฉบับทั่วๆไป ใครที่ชอบภาพยนตร์แนวนี้ก็น่าจะสนุกสนานได้ไม่ยาก แต่ถ้าใครไม่ชื่นชอบนิยมงานสไตล์แบบนี้ บางทีเสียงระเบิดมากมายอาจจะกลายเป็นยากล่อมประสาทให้ได้หลับใหลและสะดุ้งตื่นได้ง่ายๆเหมือนกัน ท้ายสุด สิ่งหนึ่งที่ขาดไปไม่ได้และรู้สึกชอบเป็นพิเศษคือ สาวน้อย 'Cailee Spaeny' ที่บอกเลยว่าทำให้ช่วงเวลาของการรับชมภาพยนตร์เรื่องนี้สบายตาขึ้นมาเยอะเลย...


ขอให้มีความสุขกับการรับชมภาพยนตร์ครับ

ตัวอย่างหนัง

ติดตามรีวิวภาพยนตร์ได้ที่
Page: https://www.facebook.com/MoviesDelightClub/
Blog: http://moviesdelightclub.blogspot.com/