ถูกแม่แท้ๆแช่งให้ชีวิตเราล่มจม เพราะบอกให้พ่อตาสว่างว่าแม่มี "ชู้ 2 คน!!"

แม่เราเป็นได้คนขายลูกชิ้น อายุ 40 ไปปลายๆ พ่อแม่เป็นคนขยันมากๆทั้งคู่มาจากต่างจังหวัดเพื่อทำมาหากินและสร้างเนื้อสร้างตัวกันที่ กทม          จนมีบ้านด้วยกัน 3หลัง และเพราะแม่เราเป็นคนขยันร้านอาหารที่ขายข้างๆ เลยขอให้แม่มาเป็นลูกมือเค้าแทน เค้าจะจ่ายค่าแรงวันละ 500 บาทซึ่งแม่เราก็โอเคไม่ต้องลงทุนขายของแล้วมีรายได้ที่แน่นอน และเค้าจะจ่ายค่าแรงเพิ่มเป็นวันละ 1000 ถึง 1500 บาทถ้าวันไหนต้องไปทำอาหารที่กองถ่ายละครเพราะไปทำอาหารที่กองถ่ายละครแถวลาดพร้าวทำให้แม่เจอ"ชู้คที่ 1" เค้าเป็นช่องไฟในกองถ่ายที่ เรารู้เพราะแม่ใช้มือถือไม่ค่อยได้เค้าจะโทรได้รับสายได้เท่านั้น แหละเค้าก็จะให้เราตั้งนาฬิกาปลุกให้ทุกวัน บางวันเราก็จะเห็นเบอร์ที่ไม่ได้รับโชว์อยู่ซึ่งแม่เมมว่า"ไฟ" พอเราเห็นบ่อยๆเข้าเลยแอบดู
ประวัติการโทรมีแต่เบอร์ที่ชื่อ "ไฟ" โทรคุยกันทุกวัน เราเลยไปบอกพ่อ พ่อเลยถามแม่ว่าเรื่องมันเป็นยีงไงกันแน่ แม่เราบ่นๆบอกว่าไม่มีอะไรและมาโมโหใส่เราแล้วแม่ไม่ให้เราจับมือถือของเค้าอีกเลย แล้วแม่ก็เริ่มมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปคือ
1.  ปิดมือถือตลอดเวลาไม่ให้เราจับแล้วเข้าใกล้มือถือ
2.  ปกติทำอาหารที่กองละครจะไปเช้าเย็น-กลับ แต่ช่วงๆหลังนี่ค้าง1คืนบ้าง ซึ่งมันผิดปกติ!!
3.  แม่พยายามหางานเสริมจากการขายอาหาร คือเสิร์ฟน้ำที่กองถ่าย ซึ่งมันไม่เมคเซนต์มากๆทุกคน คือบ้านเราอยู่บางแคจะไปเสิร์ฟน้ำที่ลาดพร้าว  
     ค่าแรงให้วันละ 1000 และแม่นั่งแท็กซี่ไป-กลับ ซึ่งมันผิดปกติมากๆเพราะแม่เราประหยัดมากๆค่าไฟที่บ้านเรา 300 บาทอยู่กัน3คน ตอนที่แม่ไปกองถ่ายใหม่ๆแม่ยังบ่นเสมอว่า นั่งรถนาน ทำงานไกล ไม่คุ้มค่าเหนื่อยเลย แต่ตอนนี้แม่เค้าทำตรงข้ามกับเมื่อก่อนมากๆ
4.  แม่เราเริ่มแต่งตัวมากขึ้น ฉีดน้ำหอม ซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมมากขึ้น ซึ่งมันผิดปกติไปอีก!!
     ที่เราพูดมาทั้งหมดทุกคนคงสงสัยว่าทำไมพ่อไม่รู้ถึงการเปลี่ยนแปลงเลยหรอ เราตอบเลยว่า"ไม่' พ่อเราไม่รู้อะไรเลย เพราะไว้ใจแม่มากและพ่อก็ขยันทำงานมากๆ พ่อเราทำโอทีทุกวันจะกลับบ้านประมาณ2ทุ่มทุกวัน ส่วนวันอาทิตย์ก็ทำโอทีอีก บางคนอาจจะบอกว่าสาเหตุอาจเป็นเพราะเพราะทำงานเยอะเกินไปไม่มีเวลาให้แม่ ซึ่งเราว่าไม่จริงเพราะแม่เองนั่นแหละเป็นคนชมพ่อและโม้ คุยโอ้อวดให้คนอื่นฟังว่าได้ผัวดีขยันทำงาน สร้างเนื้อสร้างตัวกันได้ก็เพราะผัว!! เราเคยบอกพ่อหลายครั้งแล้วแต่เค้าไม่เชื่อเราเลย คิดว่าแม่แค่เล่นๆหลอกขายของเท่านั้น เพราะแม่เคยพูดเล่นๆติดตลกว่ามีกิ๊ก แต่แค่จะหลอกให้เค้าซื้อของให้เท่านั้นเองไม่มีอะไรในกอไผ่แน่นอน

     แล้วเวลาก็ผ่านไป 2 ปี แม่ทะเลาะกับเจ้านาย เลยออกมาขายลูกชิ้นเหมือนเดิม แต่เพราะแม่เราเป็นแม่ค้าก็ต้องพูดจาหวาน พูดอ้อนเพื่อขายของมีการจับแขนบ้าง ซึ่งเราว่ามันเป็นวิธีที่ไม่ถูกต้อง เพราะการที่ผู้หญิงจับมือถือแขนกับผู้ชายก็เหมือนกับการอ่อยอ่ะ!! เราพูดตรงๆนะ ผู้ชายเค้าคงต้องมีคิด  บ้างแหละ  แม่เค้าก็ใช้วิธีนี้ขายของไปเรื่อยๆจน "มีชู้คนที่ 2" พวกเขาพัฒนาความสัมพันธ์จนมีเบอร์โทรพูดคุยติดต่อกันในที่สุด  แรกๆอีตาริท(ขอเขียนว่าตา เพราะอยากเรียกเฉยๆ) จะเป็นคนโทรหาแม่อาทิตย์ละครั้ง จนช่วงหลังๆโทรคุยกันทุกวัน ถ้าอีตาริทไม่โทรมา แม่ก็จะโทรไปซึ่งเรารู้รายละเอียดขนาดนี้เพราะแม่เรามีเพื่อนสนิทซึ่งเป็นเพื่อนข้างบ้านกัน แม่จะเล่าทุกอย่างให้ป้าA ฟังว่าวันนี้ไปไหนกับใคร มีนัดที่ไหนแล้วแม่จะมาแอบคุยโทรศัพท์กับ"ชู้คนที่1"และ"ชู้คนที่2" ที่บ้านป้าAเป็นประจำ จนป้Aรู้สึกว่ายิ้มเริ่มเยอะขึ้นทุกวันไม่ใช่แค่กิ๊กหละ แบบเป็นชู้กันแล้ว  ป้าAเลยมาขอเบอร์กับ LINE เราเพื่อพูดคุยกัน ซึ่งป้าAก็เล่าให้เราฟังทุกอย่างที่ป้ารู้และเป็นคอยรายงานเราตลอดว่าวันนี้แม่ไปไหน อาทิตย์หน้านัดเจอกับใคร

     จนวันที่ 2 พฤษภาคม 2560 แม่หลอกให้อีตาริท(ชู้คนที่2) ซื้อทองให้เป็นสร้อยคอ กำไล แล้วก็แหวนครบชุด พอเรากลับจากมหาลัยเราเห็นเลยถามว่าไปซื้อทองมาหรอไม่เห็นบอกหนูเลยว่าจะไปซื้อ เขาก็ตอบว่าไม่อยากบอก เรื่องของกู เราก็เริ่มคิดว่ามันแปลกๆเพราะปกติเวลาจะไปไหนซื้ออะไรเค้าจะชวนเราตลอด เราเลย LINE ไปถามป้าAว่าหนูรู้สึกแบบนี้ ป้ารู้มั้ยว่าแม่ซื้อทองเองหรือเปล่า? ป้าAก็บอกว่าอีตาริท(ชู้คนที่2) ซื้อให้อย่างละ 1 บาท      
     แล้ววันที่ 10 พฤษภาคม 2560 ป้าAโทรมาบอกว่าวันนี้แม่เราจะไปเพิ่มทองจาก 1 บาท เป็นอย่างละ 2 บาทกับอีตาริท(ชู้คนที่2) พอแม่กลับมาเราเลยถามว่าทำไมทองใหญ่ขึ้น แม่ตอบแบบเดิมคือ ไม่บอกหรอก ไม่ต้องยุ่ง พ่อเราก็สงสัยเหมือนกันนะก็เลยถามเหมือนกันแต่คำตอบก็ได้แบบเดิม  แม่เรากับอีตาริท(ชูคนที่2)จะไปเที่ยวกันทุกๆวันอาทิตย์จนทำให้ป้าAทนไม่ไหว คือเรื่องมันใหญ่ขึ้นเรื่อยๆแล้วเหมือนแม่จะเริ่มจะให้ใจเค้าไปแล้ว  แล้วป้าAเคยเตือนแม่หลายครั้งแล้วว่าให้เลิกเถอะมันไม่ใช่เรื่องดีเลยอย่าหาเรื่องใส่ตัว ครอบครัวก็ดีอยู่แล้ว แม่เราตอบว่าไม่เลิกคุยหรอกเค้าแค่เล่นๆเฉยๆพ่อเราทำอะไรแม่ไม่ได้หรอก พ่อตามแม่เราไม่ทันหรอก เค้าเอาทุกอย่างอยู่ แม่ฉลาดกว่าทุกคนในบ้าน               ซึ่งป้าAก็เคยไปเตือนพ่อว่าช่วงนี้ไม่ต้องทำโอทีหรอก แค่ทำงานปกติก็พอให้ เอาเวลาทำโอทีไปช่วยแม่ขายของ พ่อเราก็น่าจะคิดได้นะว่ามีผู้ใหญ่มาบอกแบบนี้น่าจะหมายความว่ายังไง พ่อกลับมีท่าทีไม่ค่อยพอใจ ไม่รับฟัง ไม่ทำตามที่ป้าAเตือน
     จนกระทั่งวันที่ 15 มกราคม 2561 เมียอีตาริท(ชู้คนที่2) มาด่าแม่ถึงบ้าน ว่าแม่เราเป็นชู้กับผัวเขา นัดเจอกัน นัดกินข้าวกัน และเที่ยวกันทุกอาทิตย์เลยแม่เราก็ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาว่ามันไม่ใช่เรื่องจริง มีหลักฐานไหมซึ่งเมีย(ชู้คนที่2) แกไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนเป็นรูปหรือเป็นคลิป แกได้ยินที่คนอื่นแถวหมู่บ้านเค้าเล่าลือกันมาว่า 2 คนนั้นเค้ากิ๊กกันมานานแล้วเธอเพิ่งรู้หรอ แกเลยโมโหแล้วมาด่าถึงบ้าน พ่อก็ยังเชื่อแม่100%เลย เพราะเค้าไว้ใจมาก พ่อแค่ถามว่าทำเค้ามาด่า เพราะอะไร แม่ก็แถไปว่าเค้าคงอิจฉาเราแหละ เพราะทั้งคู้เรียนไม่จบ ป6 แต่มีบ้านถึง3หลัง ให้คนเช่าได้ค่าเช่าเดือนหละหลายหมื่น!!
พ่อก็คลอยตามอีกตามเคยยยยยยยย!!
     เวลาผ่านไม่ถึง 10วัน วันที่ 24 มกราคม 2561 เมียอีตาริท(ชู้คนที่2)มาด่าอีกครั้ง เพราะเค้าสงสัยว่า ผัวเค้ากับแม่เรานัดเจอกัน ผัวเค้าออกจากบ้านตอนตี5 แล้วเค้าติดต่อผัวไม่ได้อีกเลย ซึ่งมันเป็นเวลาและวันเดียวกันที่แม่บอกพ่อว่าไปเที่ยวกับเพื่อน พ่อเราใจแตกสลายมาก เหมือนโลกหยุดหมุนเลย แต่เค้าก็ยังมีหวังนะ เค้ายังเชื่อใจอยู่70% พ่อเลยโทรถามแม่ว่าได้ไปกับอีตาริท(ชู้คนที่2)หรือเปล่า? หรือไปกับเพื่อนแน่ แม่ยังหรือยังคำเดิมว่าแม่ไปกับเพื่อน พ่อเลยขอคุยกับเพื่อนแม่หน่อยว่าไปด้วยจริงหรือป่าว? แม่ไม่ให้คุยกับเพื่อน ซึ่งมันมีพิรุธมากๆ แล้วแม่ก็ตัดสายแล้วปิดเครื่องไป  พอแม่กลับมาบ้านประมาณ 2 ทุ่ม พ่อกับแม่เริ่มทะเลาะกัน แต่พ่อไม่ได้ลงมือทำร้ายแม่นะ พ่อถามว่าด้วยเหตุผลว่าไปกับอีตาริท(ชู้คนที่2) จริงๆหรือเปล่าแม่บอกว่าไปกับเพื่อนจริงๆไม่มีอะไร แล้วพ่อก็บอกแม่ว่าพ่อนัดกับเมียเขา(ชู้คนที่2) แล้วว่าพรุ่งนี้จะคุยกัน4คน 2คู่ 4ผัวเมีย ว่าทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นทั้งคู่ปฏิเสธว่าไม่มีอะไรเกิดเลย ไม่เคยนัดเที่ย วไม่เคยนัดเจอกัน ไม่เคยนัดกินอาหารกันและไม่เคยนัดกันทุกวันอาทิตย์ตามที่ถูกกล่าวอ้างและผู้ชายก็ให้คำมั่นว่าจะเลิกกับเมีย เพราะเมียเค้าทำให้ครอบครัวเราแตกแยกกัน ทะเลาะกัน(มันผิดประเด็นมากเลยลุง เหตุมันไม่ได้เกิดเพราะเมีนลุงเลยยยยยย!) แต่ไม่ยอมให้สัญญาว่าจะไม่คุยกับแม่อีก แล้วพวกเขาทั้งสองก็จดทะเบียนหย่าร้างกัน ยิ่งทำให้สถานการณ์เลวร้ายไปอีก เพราะตั้งแต่เกิดเรื่องพ่อกับแม่เค้าทะเลาะกันทุกวัน แล้วแม่ก็ไม่ยอมรับอีกตามเคยทั้งๆที่ทุกคนในหมู่บ้านพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเห็นแม่นะอีตาริท(ชู้คนที่2)เดินจับมือถือแขนกันไปตลาด  ไปกินข้าว นัดเจอกันตลอด รวมถึงหัวหน้าของพ่อก็บอกพ่อเช่นกันว่าเค้าก็เห็น พ่อกินไม่ได้นอนไม่หลับทำอะไรแม่ไม่ได้เพราะรักแม่มากแม่ขู่พ่อว่าจะเลิก กับพ่อ พ่อเลยถามว่าพ่อทำอะไรผิดมีอะไรไม่ดีหรือเปล่าให้พ่อแก้ไขตรงไหนแม่บอกว่าไม่มี แต่แม่อยากไปจากครอบครัวนี้ อยากเลิกกลับพ่อ พ่อไม่ยอมเลิก เราเลยบอกพ่อว่าพ่อเลิกเลยเพราะเรารู้มาโดยตลอดว่าแม่ไม่ได้มีชู้แค่คนเดียว เค้ามีชู้อีกหนึ่งคนเป็นช่างไฟอยู่ที่กองถ่ายช่วงที่แม่ไปทำอาหารที่กองถ่ายแล้วไปเสิร์ฟน้ำอยู่บ่อยๆและวันที่นอนค้างคืนหนูไม่รู้ว่าเค้านอนกับใครบ้าง แล้วเราก็บอกอีกว่าเรื่องทองเรารู้ว่าแม่ไม่ได้ซื้อทองเอง(ชู้คนที่2)เป็นคนซื้อให้ แล้วแม่ก็ชี้หน้าด่าเราสาปแช่งเราว่าเราปากดี ขอให้ชีวิตเรายิ้ม ขอใช้ชีวิตเราล่มจมและนับตั้งแต่นั้นมาแม่ไม่คุยกับเราอีกเลย ไม่ให้เงินเราไปมหาลัย ไม่จ่ายรับผิดชอบอะที่เกี่ยวกับครอบครัวเราอีกเลยจนถึงปัจจุบัน แล้วเราก็ไม่ได้คุยกับแม่เพราะเรารู้สึกว่าเราไม่ได้ทำอะไรผิด แต่เป็นแม่ต่างหากที่ทำผิดแล้วไม่ยอมรับมัวแต่โทษคนอื่น โทษเราว่าเราบอกพ่อให้พ่อรู้ตัวให้พ่อตาสว่าง เหมือนเราเป็นคนผิด พ่อเราเครียดมากเวลาผ่านไปแค่หนึ่งเดือนพ่อเราลดน้ำหนักาลดไป 10 โล แล้วพ่อก็มาจะอารมณ์ร้อน โมโหง่ายมากขึ้น เพราะทำอะไรแม่ไม่ได้ เพราะว่าแม่ขู่บอกว่าจะเลิก จะหนีไปอยู่ที่อื่น          
     สรุปสุดท้ายเหมือนพ่อจะทำใจได้พ่อบอกกับแม่ว่าเดี๋ยวเราจะไปจดทะเบียนหย่ากัน(มีอีหลายเหตุการที่ไม่ได้เล่า มันดูทุเรศเกินไป)                      แต่ต้องยกมรดกทั้งหมดให้ลูก คือบ้าน3หลังต้องเป็นชื่อของเรา ส่วนเงินในบัญชี2แสนกว่าๆพ่อให้แม่เราไว้ติดตัวแม่ เราไม่ยอมบอกว่าเรื่องอะไรจะต้องยกบ้านให้ลูก เค้าหามาเค้าก็ต้องได้ เค้าจะเอาบ้านหนึ่งหลัง พ่อเราไม่ยอมพ่อเราบอกว่าต้องให้ลูกคนเดียวเท่านั้น แม่เราก็ไม่ยอมเช่นกัน ทำให้ไม่ได้เลิกกันและยืดยื้อมากกกกกก
     แต่เหมือนว่าข้อสรุปเรื่องนี้จะจบแล้วแม่เราหาบ้านเช่าจะไปจากชีวิตพวกเรา แต่สุดท้ายพ่อทำไม่ได้ พ่อง้อแม่ ขอให้แม่อยู่บ้านเหมือนเดิม ทำตัวปกติเหมือนครอบครัวแบบเดิม ซึ่งมันไม่ได้อ่ะทุดคน!! คือใจแม่เค้าไปแล้วอ่ะที่เค้ายังทำตามที่พ่อบอกเพราะว่าเค้าอยากได้บ้าน อยากได้ใบหย่า ซึ่งเราก็โดนพ่อเค้าบังคับว่าเราต้องพูดกับแม่ ซึ่งเราบอกพ่อว่าไม่มีอะไรจะคุยจริงๆ พ่อด่าเรา โมโหใส่เรา โกรธเรา ขึ้นเสียงใส่เราว่าจะต้องคุยกับแม่ให้ได้ยอมแม่ทุกอย่าง เรารู้สึกว่าไม่แฟ ร์แต่เราก็ยอมทำโดยดีเพื่อไม่ให้พ่อปวดหัวไปมากกว่านี้ นับตั้งแต่เกิดเรื่องแม่ยังไปเที่ยวทุกอาทิตย์กับอีตาริท แต่พ่อทำอะไรแม่ไม่ได้ พ่อก็จะมาลงที่เรา มาด่าเรา โมโหใส่เรา เราเป็นที่ระบายของพ่อไปแล้ว ตอนนี้ซึ่งก็ขอแม่ขอพ่อเลิกทุกวันอะ แต่พ่อบอกว่าเพื่อลูก ลูกยังเรียนหนังสืออยู่ เดี๋ยวลูกเรียนไม่รู้เรื่อง ซึ่งเราก็บอกไปแล้วคุยกัน3คนพ่อแม่ลูกแล้วว่าเราโอเคเลิกไปเลย จะได้สมบัติหรือไม่เราไม่เอา  ขอให้เลิกอย่างเดียวเป็นพอ แล้วพ่อก็ไม่เลิก ตอนนี้เราโดนทั้งพ่อและแม่ด่าโมโห ใส่อารมณ์ทุกวัน        
  เราเหนื่อยมากจริงๆ เราลืมบอกไปเราเป็นลูกคนเดียวญาติพี่น้องมีเยอะแต่ทุกคนไม่รักกัน ทุกคนเอาแต่ครอบครัวตัวเอง เราก็เครียดเช่นกันไม่รู้จะปรึกษาใครจริงๆ ตอนนี้เราปวดหัวทั้งพ่อและแม่ทุกคนเหมือนเห็นแก่ตัวไปหมดพ่อที่เหมือนจะดีแต่สุดท้ายเขาก็เอาเรามาอ้างว่าลูกยังเรียนอยู่ทั้งๆที่เราก็โตพอ และเสียความรู้สึกกับแม่ไปแล้ว แม่ไม่รักเราเลยเค้าเคยบอกกว่าถ้าหย่ากันจริง เค้าไม่เอาเรานะ ให้พ่อเลี้ยวเรา สมบัติเค้าก็จะเอาไป ซึ่งงเพราะอะไร!!ทำไมพ่อยังยื้อทุกอย่าง ให้มันวุ่นวายไปหมด เหมือนพ่อตบข้างเดียวคนเดียว มันไม่ช่วยอะไรเลย บังคับทุกคนว่าจะต้องคุยกัน ทำตัวปกติ มันไม่ใช่อ่ะ ที่ด้วยกันทุกวันนี้เหมือนอยู่เฉยๆ แบบเฉยๆเลยอ่ะ              
ส่วนแม่เราว่าอาการหนักมากคิดเล็กคิดสุดๆถึงขนาดเค้าจดทุกอย่างที่เสียเงินที่เกี่ยวกับเรา เช่น วันซื้อกับข้าวเย็น 40บาท ค่าน้ำ2บาท        
รวมเป้น42บาทแล้วมาเก็บกับพ่อเราทุกบาททุกสตางค์ สุดท้ายพ่อแม่เค้ารักเราหรือป่าว??
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่