จอผู้ชายที่สนใจปฏิบัติธรรม มากระดับนึง แต่ก็ยังมีความอยากในกาม แต่ความเห็นกลับแตกต่างกัน ( ซึ่งตามตำรา ถ้าไม่ใช่ระดับอนาคามีก็คงยังละกามไม่ได้)
1) คนนึง อยากปฏิบัติธรรมไปด้วย และแต่งงานมีคู่ครอง เพราะมองว่า อยากมีคู่ครองเพื่อเกื้อหนุนกัน
2) อีกคนนึง อยากปฏิบัติธรรม แต่ไม่อยากมีคู่ครอง เพราะ มองว่า แต่งงาน5ปี 10ปี ไปอาจจะเบื่อกัน สร้างเวรกรรมกันอีก ต้องมีทะเลาะตบตีกันผิดใจกันอีก และ ทำให้มีเวลาปฏิบัติธรรมน้อยลง ถ้ามีความอยากและทนไม่ได้จริงๆ ก็ไปซื้อกินดีกว่า สร้างกรรมน้อยกว่าการมีคู่ เพราะการซื้อกินไม่กี่ครั้ง ถ้าเบื่อก็เลิกง่ายกว่าการมีคู่
ในฐานะปุถุชนคนธรรมดา ที่ตัดกิเลสไม่ได้ กิเลสก็เหมือนของหวาน ของหวานมันไม่มีประโยชน์ มีแต่โทษ แต่ว่าของหวานมันอร่อย การที่คนจะอยากกินของหวานบ้างนิดๆหน่อยๆ เค้าก็คิดว่านิดหน่อยคงไม่เป็นไร เดี๋ยวไปลดความอ้วนทีหลังได้ กิเลสก็คงคล้ายๆกัน
เลยอยากถาม พี่ๆว่าอย่างไหนสร้างกรรมและสร้างกิเลสมากกว่ากัน ออกนอกเส้นทางมากกว่ากัน ถ้า2คนนี้สนใจทางธรรมมากพอๆกัน และไม่หวังจะนิพพานชาตินี้ ?
การแต่งงานมีคู่กับการซื้อกิน อันไหนออกนอกเส้นทางมากกว่ากัน
1) คนนึง อยากปฏิบัติธรรมไปด้วย และแต่งงานมีคู่ครอง เพราะมองว่า อยากมีคู่ครองเพื่อเกื้อหนุนกัน
2) อีกคนนึง อยากปฏิบัติธรรม แต่ไม่อยากมีคู่ครอง เพราะ มองว่า แต่งงาน5ปี 10ปี ไปอาจจะเบื่อกัน สร้างเวรกรรมกันอีก ต้องมีทะเลาะตบตีกันผิดใจกันอีก และ ทำให้มีเวลาปฏิบัติธรรมน้อยลง ถ้ามีความอยากและทนไม่ได้จริงๆ ก็ไปซื้อกินดีกว่า สร้างกรรมน้อยกว่าการมีคู่ เพราะการซื้อกินไม่กี่ครั้ง ถ้าเบื่อก็เลิกง่ายกว่าการมีคู่
ในฐานะปุถุชนคนธรรมดา ที่ตัดกิเลสไม่ได้ กิเลสก็เหมือนของหวาน ของหวานมันไม่มีประโยชน์ มีแต่โทษ แต่ว่าของหวานมันอร่อย การที่คนจะอยากกินของหวานบ้างนิดๆหน่อยๆ เค้าก็คิดว่านิดหน่อยคงไม่เป็นไร เดี๋ยวไปลดความอ้วนทีหลังได้ กิเลสก็คงคล้ายๆกัน
เลยอยากถาม พี่ๆว่าอย่างไหนสร้างกรรมและสร้างกิเลสมากกว่ากัน ออกนอกเส้นทางมากกว่ากัน ถ้า2คนนี้สนใจทางธรรมมากพอๆกัน และไม่หวังจะนิพพานชาตินี้ ?